จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 317 เรียกผู้ช่วย
แม้ว่าป๋ายรุ่ยเหวินไม่มีการแสดงออก แต่พลังไร้รูปร่างที่ระเบิดออกมาอีกครั้งบนร่าง ทำให้ในใจของบรรดาเศรษฐีหนุ่มเกิดความตะลึงอีกครั้ง
ในนั้นมีบางคนที่ล้วนมีความคิดต่ออีหลิงแล้ว แต่ตอนนี้เห็นป๋ายรุ่ยเหวินแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำได้เพียงล่าถอยไปพร้อมกันทั้งหมด
มุมปากของคุณชายโจวปรากฏรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา ชำเลืองมองป๋ายรุ่ยเหวินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความผยองและกล่าว: “คุณชายป๋าย คุณอาจจะยังไม่รู้สินะ คุณหนูอีหลิงมีคนที่หมายปองแล้ว!”
สีหน้าป๋ายรุ่ยเหวินเปลี่ยนทันที ทั้งร่างยับยั้งรวบรวมพลังภายใน เหมือนดั่งความสงบก่อนหน้าพายุฝนจะมาถึง
ต่อจากนั้น คุณชายโจวเอาข่าวสารที่กู้ซิวหรั่นบอกเขา บอกให้ป๋ายรุ่ยเหวินฟังรอบหนึ่งคร่าวๆ สุดท้ายให้กู้ซิวหรั่นมาพูดด้วยตัวเอง
ยังมีเพื่อนนักเรียนผู้หญิงไม่กี่คนนั้นของอีหลิงเป็นพยาน ป๋ายรุ่ยเหวินเชื่อสนิทใจไร้ข้อกังขา
“ดีหลินหยุนคนหนึ่ง แม้แต่ว่าที่ภรรยาของฉันก็กล้าแตะ ฉันว่าเขาเบื่อที่จะมีชีวิตต่อแล้ว!” ใบหน้าที่ยังนับได้ว่าหล่อเหลาของป๋ายรุ่ยเหวิน ขมึงทึงเหมือนดั่งเมฆดำทับอยู่ด้านบน
คุณชายโจวหัวเราะแหะแหะแล้วกล่าว: “คุณชายป๋าย วันนี้เจ้าหมอนั่นก็มาแล้ว”
บนใบหน้าของกู้ซิวหรั่นปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายที่แผนการร้ายสำเร็จออกมา วิธีการยืมมือคนอื่นฆ่าคนของคุณชายโจวนี้ ยังปราดเปรื่องเหนือชั้นกว่าเขาอีก
ในพวกเศรษฐีหนุ่ม มีคนพูดขึ้นเองว่า: “คุณชายป๋าย เจ้าหมอนั่นอยู่ทางนั้นน่ะ!”
พูดจบ สายตาของเหล่าบรรดาเศรษฐีหนุ่มมองที่หลินหยุน เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจที่เห็นคนอื่นมีทุกข์
ป๋ายรุ่ยเหวินร่ำเรียนสำเร็จกลับมา เป็นช่วงที่ต้องการอวดฝีมือพอดี หลินหยุนตายแน่แล้ว
สายตาของป๋ายรุ่ยเหวินมองตามทิศทางมือที่ชี้ไปของเศรษฐีหนุ่มผู้นั้น เห็นหลินหยุนที่นั่งปิดตาพักจิตใจอยู่บนที่นั่งทันที
จากนั้น แววตาของป๋ายรุ่ยเหวินตกใจทันใด: “เป็นเขา!”
ด้านข้าง ปฏิกิริยาการตอบสนองของป๋ายรุ่ยซินรุนแรงกว่า ส่งเสียงร้องอย่างตกใจโดยตรง: “คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไอ้สารเลวนี่! พี่ชาย พี่ต้องช่วยล้างแค้นให้ฉัน!”
ป๋ายรุ่ยเหวินสีหน้าเคร่งขรึม: “น้องวางใจ กำลังหงุดหงิดที่หาหมอนี่ไม่เจอพอดี คิดไม่ถึงว่าเขาจะส่งมาถึงที่เอง ครั้งนี้ฉันจะต้องทำให้เขาได้ชดใช้แน่นอน!”
เหล่าเศรษฐีหนุ่มของเจียงหนานเหล่านั้นที่ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไม รีบสนับสนุนด้วยความตื่นเต้นทันที: “ถูก คุณชายป๋าย เจ้าหมอนี่แม้แต่ว่าที่ภรรยาของคุณยังกล้าแตะต้อง จะปล่อยเขาไปง่ายๆไม่ได้แน่นอน!”
กู้ซิวหรั่นและคุณชายโจวทั้งสอง สีหน้ากลับมีความสงสัยต่างกัน ได้ยินน้ำเสียงป๋ายรุ่ยเหวินพี่น้อง เห็นได้ชัดว่าเคยพบหลินหยุน
อีกทั้ง เหมือนว่าพวกเขาจะเสียเปรียบในน้ำมือของหลินหยุนแล้ว
“รอฉันอยู่ตรงนี้!” ป๋ายรุ่ยเหวินบอกด้วยเสียงหนักแน่น หมุนตัวแล้วจากไป
“เอ๊ะ คุณชายป๋ายนี่จะไปทำอะไร? ทั้งที่หมอนั่นนั่งอยู่ทางนั้น ทำไมเขาไปทางที่กลับกันแล้ว!” เหล่าบรรดาเศรษฐีหนุ่มของเจียงหนานไม่เข้าใจเล็กน้อย
แต่ในใจของกู้ซิวหรั่นและคุณชายโจวกลับมั่นใจที่ตัวเองคาดเดาแล้ว ป๋ายรุ่ยเหวินจะต้องเคยพูดคุยกับหลินหยุนแล้วแน่ อีกทั้งยังเสียเปรียบอีก ไม่อย่างนั้น จากนิสัยของป๋ายรุ่ยเหวิน ต้องพุ่งเข้าไปคิดบัญชีกับหลินหยุนโดยตรงแล้วแน่นอน
ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าป๋ายรุ่ยเหวินก็คือไปเคลื่อนย้ายคนมาช่วยยามคับขันแล้ว
ในสายตาที่มองไปทางหลินหยุนของคุณชายโจวและกู้ซิวหรั่น โดยมากเป็นความตะลึง จากพลังที่ป๋ายรุ่ยเหวินได้เผยออกมาเมื่อครู่ ในสายตาของพวกเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแล้ว แต่ว่า แม้จะเป็นเช่นนี้ ป๋ายรุ่ยเหวินก็ยังเสียเปรียบในน้ำมือของหลินหยุนอีก
แบบนั้น ศักยภาพที่แท้จริงของหลินหยุน แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันแน่!
บนโต๊ะด้านข้างตัวนั้น เจิ้งเทียนหมิงมองดูเซี่ยหยู่เวยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: “ดูท่าป๋ายรุ่ยเหวินน่าจะไปหาคนมาช่วยแล้ว”
เซี่ยหยู่เวยมองหลินหยุน เปล่งเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชา: “คิดไม่ถึง เขาไม่เพียงผิดใจกับตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน แม้แต่ตระกูลป๋ายก็ทำให้ไม่พอใจ!”
“ถ้าหากตระกูลป๋ายและตระกูลเย่แห่งเจียงหนานร่วมมือกัน แม้ว่าตระกูลอีต้องการอยากจะปกป้องเขา ก็ต้องชั่งน้ำหนัก”
หลี่เหยนหัวเราะและกล่าวอย่างมีความสุขที่เห็นคนอื่นมีความทุกข์: “แบบนี้ก็ดีไม่ใช่หรือ? ในหลินโจวไม่มีใครสามารถควบคุมเขาได้ แต่นี่อยู่ที่เจียงหนาน เจ้าหมอนั่นจะต้องชดใช้ให้กับความหยิ่งผยองของเขา!”
ไม่ช้า ป๋ายรุ่ยเหวินกลับมา ข้างกายยังมีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่บนหน้าพันผ้าโปร่งไว้ ซึ่งก็คือเย่เทียนเหา
ด้านหลังทั้งสองคน ยังมีผู้เฒ่าชุดดำสองคนติดตามอีก ทั้งสองสีหน้าเย่อหยิ่ง ท่าทางอวดดีไม่มีใครสามารถเทียบได้
“คุณชายเย่!” คุณชายโจวและคนอื่นๆเห็นเย่เทียนเหา อุทานอย่างตกใจ
เย่เทียนเหาพยักหน้าด้วยหน้าตาเคร่งขรึม กล่าวถาม: “หลินหยุนไอ้เศษเดนนั่นอยู่ที่ไหน?”
คุณชายโจวดีใจทันที ดูเหมือนว่าคุณชายเย่ก็มีความแค้นกับเจ้านั่นนะ!
“คุณชายเย่ เขาอยู่นั่น!” คุณชายโจวชี้มุมที่ห่างไกลออกไปตรงที่หลินหยุนอยู่แล้วกล่าว
“เจ้านี่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้ามาเจียงหนาน! ครั้งนี้ฉันจะต้องตีจนเขาพิการ! พี่ป๋าย ไป!” เย่เทียนเหาพูดเสียงต่ำ เดินสาวเท้าก้าวใหญ่เข้าไปทางหลินหยุนด้วยสีหน้าดุดัน
คุณชายโจวกับกู้ซิวหรั่นและคนอื่นๆรีบตามเข้าไป หอบสีหน้าท่าทางจะดูการแสดงสนุกๆทั้งหมด
เจิ้งเทียนหมิงมองเซี่ยหยู่เวย ถามด้วยเสียงหนักแน่น: “พวกเราจะตามไปดูด้วยหรือไม่?”
เซี่ยหยู่เวยกล่าว: “หมอนี่หยิ่งยโสขนาดนี้ ในที่สุดครั้งนี้ก็เตะโดนแท่งเหล็กแล้ว ละครสนุกแบบนี้จะขาดพวกเราได้ยังไง”
“ถูก พวกเราก็เข้าไปดูๆความสนุกกัน!” หวางเสี่ยวซีสีหน้าตื่นเต้น
มุมทางตะวันออกเฉียงใต้พวกเด็กวัยรุ่น รวมตัวกันกะทันหันเดินไปทางในมุมที่หลินหยุนอยู่ ความเคลื่อนไหวนี้ดึดดูดให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจ
แต่ว่า คนส่วนใหญ่ล้วนคิดว่าพวกวัยรุ่นเหล่านี้กำลังเล่นเกมอะไรอีกแล้ว และไม่ได้ใส่ใจ
บรรดาผู้คนล้อมรอบหลินหยุนขึ้นมา ด้านหน้าสุดคือพี่น้องตระกูลป๋ายและเย่เทียนเหา คุณชายโจวทั้งยังมีกู้ซิวหรั่นอีก
หลินหยุนลืมตาสองข้างขึ้น ศีรษะหนุนแขนสองข้างไว้ กวาดมองบรรดาผู้คนด้วยสายตาจัดการง่ายๆสบายๆ ในตาเต็มไปด้วยความเฉยชา
ป๋ายรุ่ยซินสีหน้าโกรธเคือง ชี้หลินหยุนกล่าวเยาะเย้ย: “เจ้าหนุ่ม พวกเรายังเป็นศัตรูที่โลกกลมจริงๆนะ! ครั้งนี้ฉันจะดูว่าแกจะหนีไปทางไหน?”
หลินหยุนยิ้มบางๆ: “ฉันเคยหนีซะเมื่อไหร่?”
“ฉันว่าเธอจะชอบกลิ่นของถังขยะ อยากจะลงไปอีกครั้ง”
“แก……” ป๋ายรุ่ยซินหน้าซีดฉับพลัน อดที่จะถอยไปก้าวหนึ่งไปไม่ได้ มองหลินหยุนด้วยความหวาดกลัว
ป๋ายรุ่ยซินรู้สึกว่า เหมือนมีกลิ่นที่ไม่น่าดมนั่นของถังขยะลอยผ่านจมูกอีกครั้ง ท้องไส้ปั่นป่วนอย่างคิดไม่ถึงช่วงหนึ่ง มีความรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากอาเจียน
สาวน้อยดื้อดึงและเอาแต่ใจที่น่าสงสารผู้นี้ คาดว่าทั้งชีวิตหลังจากนี้ในใจคงมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อถังขยะแล้ว
เหล่าบรรดาเศรษฐีหนุ่มหน้าตาสงสัย
“หมายความว่าอะไร? หรือว่าคุณหนูป๋ายถูกเจ้าหมอนั่นทิ้งลงถังขยะงั้นหรือ?”
“ผมก็ว่าทำไมบนตัวของคุณหนูป๋ายถึงได้มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหม็นเน่าอยู่ ที่แท้ก็ถูกคนทิ้งลงถังขยะเหรอ!”
ได้ยินคนเหล่านี้วิพากษ์วิจารณ์ ใบหน้าสะสวยงดงามของป๋ายรุ่ยซินเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง อับอายโกรธเคืองสิ้นหวัง
“แกไอ้บ้า ฉันจะฆ่าแก!” ป๋ายรุ่ยซินก็เหมือนกับแม่เสือน้อยที่โมโหตัวหนึ่ง ง้างกรงเล็บไปทางหลินหยุน แต่ก็ไม่กล้าพุ่งเข้าไป
ป๋ายรุ่ยเหวินสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวอย่างเย็นชา: “เจ้าหนุ่ม ความตายจะมาถึงตัวแกแล้วยังจะปากแข็ง แกดูซินี่คือใคร!”
ป๋ายรุ่ยเหวินชี้เย่เทียนเหา เหลือบมองหลินหยุนด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ
เย่เทียนเหากล่าวอย่างยิ้มเยาะด้วยใบหน้าดุดัน: “หลินหยุน คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้พบหน้ากันที่นี่สินะ!”
หลินหยุนใบหน้าไร้อารมณ์ กล่าวอย่างราบเรียบ: “ก็คิดไม่ถึง เห็นท่าทางที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแบบนี้ของคุณ ปัญหาไตอ่อนแอของคุณรักษาหายได้เร็วขนาดนี้เลย?”
เย่เทียนเหากำหมัดสองข้างแน่นในพริบตา เค้นเสียงออกมาจากช่องว่างของฟันสองสามคำ: “แกหาที่ตาย!”
“คุณเหลียน เชิญคุณลงมือจัดการเก็บไอ้หนุ่มที่หยิ่งยโสผู้นี้ครับ!” เย่เทียนเหาโค้งคำนับพูดกับผู้เฒ่าที่มีไฝสีดำขึ้นอยู่บนคาง
ป๋ายรุ่ยเหวินก็ปฏิบัติต่อผู้เฒ่าด้านหลังที่มีรอยแผลเป็นของมีดอยู่บนคิ้วผู้นั้น โค้งคำนับแล้วกล่าว: “คุณเหยียน เชิญท่านลงมือด้วย เจ้าหมอนั่นน่าจะเป็นผู้มีฝีมือสูงส่งที่มีทักษะด้านนั้นๆติดตัวมาแต่เกิดโดยไม่ต้องฝึกฝน คุณเหลียนคนเดียว ผมกลัวว่าจะจัดการเขาไม่อยู่!”
คุณเหลียนและคุณเหยียนชำเลืองมองหลินหยุนเบาๆแวบหนึ่ง สบตากันยิ้มเยาะแล้วกล่าว: “ก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งแค่นี้ ก็ทำให้พวกคุณตกใจกลัวจนเป็นแบบนี้?”
“สองนิ้วของข้าก็สามารถบี้เขาได้ตายได้!”
ป๋ายรุ่ยเหวินกล่าวด้วยความเคารพ: “ทั้งสองท่านอย่างได้ชะล่าใจเด็ดขาด เจ้าหมอนี่ไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้นเหมือนโฉมภายนอกที่เห็นเป็นแน่ ผมเคยเสียเปรียบเขาอย่างหนัก!”