จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 340 ทุกคนทำตามคำสั่ง
หลินหยุนค่อยๆเดินไปถึงตรงหน้าอีหลิง ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ตกใจเใช่ไหม?”
อีหลิงยิ้มหวาน และคอที่คล้ายหงส์ก็ส่ายเบาๆ “ไม่นี่ ฉันรู้ว่าถ้านายอยู่ ก็ต้องช่วยฉันอย่างแน่นอน”
ประโยคสั้นๆ เผยให้เห็นถึงความไว้วางใจอันน่าทึ่งของอีหลิงที่มีต่อหลินหยุน
หัวใจของหลินหยุนอบอุ่นขึ้น และรู้สึกเสียใจที่เมื่อกี้มัวเเต่ลงโทษอีหยุ่น ไม่ได้รีบจัดการอีเฉินเย่า ก็เลยทำให้อีหลิงหวาดกลัว
“ในเมื่อเธอเชื่อใจฉัน ถ้างั้นฉันขอรับรอง ขอเพียงมีฉัน ตั้งเเต่บัดนี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครกล้ารังแกเธออีก”
อีหลิงพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว “ฉันเชื่อ”
กู้ซิวหรั่นฉวยโอกาสตอนที่หลินหยุนไม่สังเกตเห็น ค่อยๆเดินเงียบๆไปถึงด้านหลังของฝูงชน เเล้วเดินไปทางประตู คิดจะหลบหนีไป
เเต่ดูเหมือนว่าหลินหยุนจะมีตาอยู่ข้างหลัง ขณะที่กู้ซิวหรั่นกำลังจะเดินไปถึงประตู ก็มีเสียงเบาๆดังขึ้น “ฉันให้นายไปแล้วเหรอ?”
ทุกคนตกใจ และต่างจ้องมองหน้ากัน ท้ายที่สุด สายตาของทุกคนก็เพ่งไปที่กู้ซิวหรั่นที่ยืนอยู่ที่ประตู
ทันใดนั้นกู้ซิวหรั่นก็รู้สึกได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนเพ็งเล็งมาที่เขา ในขณะนั้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นสาวสวยที่ไม่ใส่เสื้อผ้า และถูกมองดูโดยผู้ชายที่โสดมาหลายสิบปี
กู้ซิวหรั่นอยากวิ่งออกไปอย่างนี้ โดยไม่หันหลังกลับ
เเต่ว่าอย่างไรก็ตาม สติบอกเขาว่า เขาหนีไม่พ้นหรอก
ขนาดอีเฉินเย่าแข็งแกร่งขนาดนี้ โดยอยู่ห่างจากหลินหยุนสิบกว่าเมตร แต่ยังกระโดดออกจากหน้าต่างไม่ผ่านด้วยซ้ำ
และเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ถ้าเทียบกับอีเฉินเย่าห่างกันเป็นแสนไมล์ แม้ว่าประตูจะอยู่ห่างจากเขาเพียงหนึ่งเมตร แต่ในใจเขารู้ดีว่า แค่เมตรเดียว ก็แตกต่างราวฟ้ากับดิน
ทันใดนั้นกู้ซิวหรั่นก็เด็ดเดี่ยวอีกครั้ง หันกลับมา อดทนกับความกลัวในใจ และมองหลินหยุนอย่างเย็นชา “นายต้องการอะไร?”
หลินหยุนมองดูเขา สายตาเรียบเฉย และไร้ความรู้สึก “เมื่อกี้หลายต่อหลายครั้งที่นายยั่วยุให้ทุกคนโจมตีฉัน และถึงขั้นจะให้ฉันตาย ตอนนี้จากไปเช่นนี้ ฉันก็เสียหน้าสิ?”
กู้ซิวหรั่นกลืนน้ำลายอย่างรวดเร็ว ใจสั่น และขาของเขาทั้งสองข้างก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ถ้าหลินหยุนโกรธ และตะโกนใส่เขา หรือเข้ามาทุบตีเขา บางทีเขาอาจจะไม่กลัวขนาดนี้
เเต่ว่า ท่าทางของหลินหยุนยิ่งนิ่งเฉย ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าหลินหยุนไม่แยแสเขา
ก็เหมือนคนๆหนึ่ง เผชิญกับมดตัวหนึ่ง ความตายของมดนั้น จะไปห่วงใยทำไม?
ความเด็ดเดี่ยวของกู้ซิวหรั่นยืนหยัดเพียงไม่กี่วินาที และยอมแพ้ทันที “หลินหยุน ฉันยอมรับว่าเรื่องก่อนหน้านี้ฉันผิดเอง ฉันขอโทษนาย และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้นาย นายแจ้งราคามาเลย?”
“ค่าเสียหาย?” หลินหยุนยกมุมปากยิ้มเยาะเย้ย “ “ไม่ใช่ทุกคนมีสิทธิ์ชดใช้ค่าเสียหายให้ฉันได้”
“ไปตายซะ!”
เสียงขอหลินหยุนเรียบเฉย เรียบเฉยจนน่ากลัว
นั่นคือหนึ่งชีวิต!
เขาพูดด้วยเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจ!
กู้ซิวหรั่นตกใจ จนคุกเข่าลง “อย่าฆ่าฉัน ฉันสำนึกผิดเเล้ว นายให้ฉันทำอะไรก็ได้ ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย!”
คำตอบสำหรับเขาคือพลังทิพย์ และเจาะตรงกึ่งกลางระหว่างคิ้วของเขา
“อ๊ะ!”
ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจ
เมื่อกี้แม้ว่าอีเฉินเย่าจะดุร้าย แต่เขายังไม่มีเวลาฆ่าคน แต่หลินหยุนต่อหน้าทุกคน ฆ่าคนสองคนติดต่อกัน
คนส่วนใหญ่ในสถานที่นี้เป็นคนธรรมดา แม้ว่ามือของพวกเขาจะปนเปื้อนด้วยชีวิตคน แต่ทั้งหมดทำเพื่อผลประโยชน์และสั่งลูกน้องไปทำ
ฆาตกรรมในที่สาธารณะแบบนี้ พวกเขาไม่เคยได้พบ
ชายชราชุดดำที่อีเฉินเย่าพามา พร้อมกับชายหนุ่มสองคนที่แบกโลงศพ ก็คุกเข่าให้หลินหยุนทันที
“รุ่นพี่ โปรดไว้ชีวิตผมด้วย พวกเรายินดีรับใช้รุ่นพี่ในฐานะเจ้านาย!”
หลินหยุนเหลือบมองพวกเขา และพูดเบาๆว่า “ตลอดชีวิตนี้ห้ามมาเหยียบประเทศจีนทำได้หรือเปล่า?”
ชายชราชุดดำผงะไปครู่หนึ่ง และรีบก้มกราบอย่างเคารพ “ทำได้ ฉันขอสัญญาตลอดชีวิตนี้จะไม่มาเหยียบประเทศจีน!”
“ไสหัวไปซะ!” หลินหยุนพูดเบาๆ เหมือนไล่แมลงวันสองสามตัว
คุณปู่เจ็ดและลุงฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าพูด
ชายชราชุดดำมีความสามารถระดับพรสวรรค์สูงสุด และขั้นตอนต่อไปคือปรมาจารย์ขั้นสูงสุด เศรษฐีที่ร่ำรวยและมีอำนาจทุ่มเงินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหามาได้ เเต่ดูเหมือนหลินหยุนจะไม่สนใจเลยสักนิด เหมือนไล่แมลงวัน
คิดว่าทั่วประเทศจีนทั้งหมด มีเพียงหลินหยุนเท่านั้นที่มีความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้
สายตาของหลินหยุน มองไปที่ป๋ายรุ่ยเหวินกับน้องสาว
ป๋ายรุ่ยซินตกใจจนเข่าอ่อน และก็ทรุดตัวลงกับพื้น
ป๋ายรุ่ยเหวินก็ก้มหัวลง และพูดด้วยท่าทางสยดสยอง “รุ่นพี่ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะรุ่นน้องอย่างผมมีตาแต่หามีแววไม่ ทำให้รุ่นพี่ขุ่นเคือง และหวังว่ารุ่นพี่จะไว้ชีวิตผม!”
หลินหยุนเอามือไขว้หลัง และเดินช้าๆ เส้นทางที่เดินผ่าน บรรดาเศรษฐีและบุคคลมีชื่อเสียงเหล่านั้นต่างก้มหัวลง ไม่กล้าแสดงตัว
ร่างกายป๋ายรุ่ยเหวินเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ คุกเข่าลงกับพื้น ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
ป๋ายรุ่ยซินตั้งสติได้ ไม่รู้ว่าเอาความกล้าหาญมาจากไหน ทันใดนั้นเธอก็พุ่งเข้ามา คุกเข่าลงต่อหน้าหลินหยุน และอ้อนวอนว่า “อย่าฆ่าพี่ชายของฉัน มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันขอโทษ อย่าฆ่าพี่ชายฉันเลย!”
หลินหยุนเหลือบมองเธอ เจ้าหญิงจอมยุ่งคนนี้คิดว่าทุกคนเป็นเหมือนพ่อแม่ของเธอ พอทำผิดเเล้วขอโทษก็จบ
“สายไปแล้ว”หลินหยุนพูดเบาๆ
ป๋ายรุ่ยซินดูตกใจ “ไม่ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ถ้าจะฆ่านายฆ่าฉัน อย่าฆ่าพี่ชายของฉัน!”
เมื่อมองไปที่ความตื่นตระหนกของป๋ายรุ่ยซิน หลินหยุนก็เห็นเงาที่ใส่ชุดกี่เพ้าสีขาวๆ เมื่อตอนที่เขาล้มเหลวในชีวิต สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็น คือใบหน้าที่สวยงามของเย่เยว่ที่ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก
เเล้วในหัวใจของหลินหยุนก็เจ็บขึ้นมาทันที และความอาฆาตในดวงตาก็จางหายไปมาก
ป๋ายรุ่ยเหวินเงยหน้าขึ้น มองป๋ายรุ่ยซินด้วยความเสียใจ “น้อง เธอรีบหนีไป ไม่ต้องสนใจฉัน!”
หลินหยุนเหลือบมองทั้งสองคน และพูดอย่างเฉยเมย “โทษตายละเว้นได้ แต่โทษเป็นหนีไม่พ้น วันนี้ฉันจะทำลายการบำเพ็ญของนาย พอใจไหม?”
ดูเหมือนว่าป๋ายรุ่ยเหวินจะพึ่งเดินผ่านประตูผีมา และมีชีวิตรอดกลับมา การบำเพ็ญไม่มีก็ไม่เป็นไร เพียงแค่มีชีวิตรอดก็พอเเล้ว
“ขอบคุณรุ่นพี่ที่ใจกว้าง ผมพอใจมาก!”
ป๋ายรุ่ยซินก็ก้มกราบด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณนายมาก ขอบคุณ!”
หลินหยุนดีดนิ้ว พลังทิพย์ก็พุ่งเข้าใส่ช่องท้องของป๋ายรุ่ยเหวิน พุด (จุดรวมพลังใต้สะดือ)ป๋ายรุ่ยเหวินถูกทำลาย ทั้งชีวิตไม่สามารถฝึกฝนการเป็นนักบู๊ได้อีกต่อไป
สายตาของหลินหยุน หันไปหาพ่อและลูกชายของตระกูลเย่ที่อยู่ในฝูงชน
“เมื่อกี้พวกแกอยากจะฆ่าฉันเหรอ?”
เย่จี้ซื่อใจสั่น ไม่กล้าสบตาหลินหยุน
เย่เทียนเหายิ่งตกใจจนทรุดตัวลงกับพื้น “อย่าฆ่าฉัน อย่าฆ่าฉัน!”
“ฉันแค่อยากจะสั่งสอนนายสักหน่อย ไม่เคยคิดที่จะฆ่านาย!” เสียงของเย่จี้ซื่อสั่นและพูดแก้ตัว
หลินหยุนพูดเบาๆ “เจตนาฆ่าในสายตาของนายไม่สามารถหลอกลวงฉันได้ และฉันหลินชางฉองไม่เคยนับถือศาสนาใดๆ”
โดยไม่ให้เย่จี้ซื่ออธิบาย หลินหยุนใช้นิ้วดีดไป
เย่จี้ซื่อ ตาย
“พ่อ!” เย่เทียนเหา ตะโกนเสียงดังอย่างน่าสมเพช
อีหยุ่นต้องการจะออกไปขัดขวางเขา แต่ถูกลุงฉินขวางไว้ “ปรมาจารย์ไม่ควรถูกดูหมิ่น! ยิ่งกว่านั้นอายุเพียงยี่สิบกว่าปี และเป็นปรมาจารย์ที่ไร้ขีดจำกัด สองพ่อลูกตระกูลเย่ แม้ตายก็ชดเชยความผิดไม่ได้!”
อีหยุ่นพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันกลัวว่าถ้าเขาฆ่าสองพ่อลูกตระกูลเย่ในที่สาธารณะ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่จีนไม่พอใจ!”
คุณปู่เจ็ดส่ายหัวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่หรอก แค่สองพ่อลูกตระกูลเย่ คงไม่ทำให้เจ้าหน้าที่จีนต้องไปรุกรานปรมาจารย์ท่านหนึ่ง นอกจากนี้ สองพ่อลูกตระกูลเย่มีความผิดก่อน เจ้าหน้าที่จีนจะไม่ดำเนินการใดๆแน่”
หลินหยุนมองไปที่เย่เทียนเหา ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้ฆ่า การดำรงชีวิตเหมือนมดเช่นนี้ ฆ่าหรือไม่ฆ่า ไม่มีความแตกต่างกัน
แค่ฆ่าสองคนเพื่อเบ่งอำนาจ เพียงพอแล้ว