จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 35 เธอมันไม่คู่ควร
บทที่ 35 เธอมันไม่คู่ควร
จินหยวนเป่าพูดด้วยความโมโห “หลี่เหยน เมื่อกี๊คนตั้งเยอะแยะได้ยินสิ่งที่แกพูด แกจะโกงหรือไงฮะ”
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างก็มองเขาด้วยสายตาดูถูก ในเมื่อกล้าแข่งก็ต้องกล้าแพ้ การแพ้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่การที่แพ้แล้วกลับไม่ยอมรับ เช่นนั้นคนผู้นี้ก็ไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ทุกคนคงไม่อยากเข้าใกล้เป็นอันแน่
“มันก็แค่คนขี้ขลาดตาขาว วันนี้ถือว่ามันโชคดี อยากจะให้ฉันก้มหัวขอร้องงั้นเหรอ ไม่มีทาง” ชัดเจนว่าหลี่เหยนยอมปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นไร้ความน่าเชื่อถือ
สายตาหลินหยุนแสดงออกถึงความเย็นชา หลี่เหยนทำเขาโมโหจนได้
จินหยวนเป่าอารมณ์เย็นลง เขาเคร่งขรึมขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “หลี่เหยน คิดให้ดีๆ นะ แม้แต่พื้นฐานความน่าเชื่อถือที่ควรมีนายยังไม่มี ถ้างั้นตระกูลจินของฉันคงต้องตัดขาดความร่วมมือที่มีกับตระกูลนายแล้วล่ะ!”
“ฉันจะให้บริษัทชิรงกรุ๊ปหยุดความร่วมมือทุกอย่างกับนาย!”
หลี่เหยนจะบ้าตายแล้ว เขาชี้หน้าจินหยวนเป่าด้วยความไม่สนอะไรทั้งนั้น พร้อมตะโกนไปว่า “จินหยวนเป่า นี่คือเรื่องระหว่างฉันกับหลินหยุน นายทำไมต้องช่วยมัน มันก็แค่ไอ้คนไม่ได้เรื่องคนนึง นายต้องการอะไรกันแน่!”
“คนไม่ได้เรื่องกันเหรอ?” จินหยวนเป่าหัวเราะด้วยความเย็นชา “ฉันว่าพวกนายต่างหากที่ไม่ได้เรื่อง ฉันจะบอกความจริงให้ หลินหยุนคือคนที่มีบุญคุณกับฉัน! นายคิดว่าพ่อฉันจะเอาบัตร Supreme Gold สีม่วงให้กับคนไม่ได้เรื่องงั้นเหรอ”
ประโยคเดียว ทำให้หลี่เหยนถึงกับพูดไม่ออก
ถ้าหากว่าบริษัทชิรงกรุ๊ปไม่ได้เรื่อง ถ้าเช่นนั้นทั้งเมืองหลินโจว หรือกระทั่งทั้งประเทศนี้ คนเกือบทั้งหมดก็คงไม่ได้เรื่องสินะ
แล้วยังคำพูดที่บอกว่าเป็นคนมีบุญคุณ มันคืออะไรกันแน่? พวกเขารู้มาว่าจินหยวนเป่าป่วย หรือหลินหยุนรักษาได้แม้กระทั่งโรคได้งั้นเหรอ?
“เลว!” นักธุรกิจที่ประมูลหยกก้อนที่สองไปคนนั้น มองหลี่เหยนด้วยสายตาเย็นชา แล้วลุกเดินจากไป
“ไร้ยางอาย!” จากนั้นก็มีคนมากมายที่ลุกออกไป ก่อนไปยังไม่ลืมที่จะฝากคำด่าไว้ให้หลี่เหยนด้วย
หลายคนต่างก็พากันตำหนิ ไม่นาน หลี่เหยนก็โดนคนจำนวนมากประณามการกระทำของเขา
จ้าวกางโน้มน้าวเขาด้วยเสียงต่ำว่า “หลี่เหยน กล้าแข่งก็ต้องกล้าแพ้ ยอมรับเถอะ”
“กางจื่อ ทำไมนายก็พูดเหมือนกับพวกมัน” หลี่เหยนมองจ้าวกางด้วยความผิดหวัง
หลี่เหยนใช้สายตาขอความช่วยเหลือไปยังเว่ยเทียนหมิง เหมือนจะบอกเขาว่า “คุณชายเว่ย นายรีบช่วยฉันคิดหาทางได้ไหม”
เว่ยเทียนหมิงมองไปที่เซี่ยหยู่เวย เซี่ยหยู่เวยเข้าความหมายทันที เธอยืนขึ้นมา หันไปหาหลินหยุนแล้วพูดกับเขาว่า “หลินหยุน ใหอภัยเถอะอย่าต้องให้ถึงขึ้นมองหน้ากันไม่ติดเลย ไหนๆ ก็เพื่อนกันทั้งนั้น ทำไมต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ด้วยล่ะ”
“เรื่องพนันก็ช่างมันเถอะ!”
จินหยวนเป่ามองเซี่ยหยู่เวยด้วยสายตาเฉยเมย สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ “ฉันว่านะเซี่ยหยู่เวย เธอเป็นภรรยาใครกันแน่? อย่าเห็นแก่ตัวนักเลย”
หลินหยุนมองไปทางเซี่ยหยู่เวย เขาผิดหวังในตัวเธอเป็นอย่างมาก
จินหยวนเป่าพูดขึ้นว่า “หลี่เหยน วันนี้ฉันจะพูดเลยนะ ถ้านายไม่ทำตามที่พนันเอาไว้ ต่อให้หลินหยุนยกโทษให้นาย ฉันก็จะหยุดความร่วมมือทุกอย่างกับนายอยู่ดี!”
“ถ้านายแพ้ไม่เป็น ก็อย่าเล่น ขี้ขลาด!”
หลี่เหยนอยากที่จะสู้กับจินหยวนเป่าซักตั้ง ทำไมเขาต้องยุ่งเรื่องชาวบ้านได้ขนาดนี้
แต่ว่า หากจินหยวนเป่าหยุดความร่วมมือกับตระกูลเขาทุกอย่าง ถ้าเกิดพ่อของเขารู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร พ่อจะต้องเอาเขาตายแน่นอน
เพราะว่าพ่อของหลี่เหยนไม่เหมือนจินซื่อหรง ที่มีจินหยวนเป่าเป็นลูกชายคนเดียว แค่พี่น้องที่เขารู้จักก็สิบกว่าคนแล้ว
เพราะฉะนั้น หากตระกูลจินหยุดความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลหลี่เพราะเขา หลี่เหยนจะต้องโดนดีแน่นอน
หลังจากที่คำนึงถึงเรื่องนี้ สุดท้ายก็ต้องยอมถอย
“ได้เ ฉันจะก้มหัวให้!” สีหน้าหลี่เหยนเต็มไปด้วยความรู้สึกอัปยศพร้อมตะโกนออกมา เดินไปที่หน้าหลินหยุน คุกเข่าลง พร้อมก้มหัวลงด้วยความอาฆาตแค้น
“ฉันผิดไปแล้ว แกยกเลิกให้ฉันเถอะ!”
หลี่เหยนตะโกนด้วยเสียงที่ดังมาก ในขณะเดียวกัน เขาก็คำรามอยู่ในใจว่า “หลินหยุน ความอัปยศในวันนี้ ฉันจะต้องหาทางเอาคืนให้สาสมเป็นหลายเท่าแน่!”
จินหยวนเป่าหัวเราะเหอะ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “ต้องแบบนี้สิ”
“หลินหยุน เราไปกันเถอะ อย่าอยู่กับพวกนี้เลย ไม่งั้นพวกเราก็จะหาเรื่องให้นายเดือดร้อนอีก” จินหยวนเป่าพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้าเว่ยเทียนหมิงและพวกแม้แต่น้อย
“นายไปเถอะ” หลินหยุนตอบ เขารับปากโจวเฟิน ว่าจะดูแลความปลอดภัยของเวี่ยหยู่เวย ในเมื่อพูดออกไปแล้ว ก็ต้องทำให้ได้
“โอเค งั้นนายก็ระวังตัวด้วย ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาฉัน” จินหยวนเป่าเอาเบอร์มือถือไว้ให้หลินหยุน แล้วเดินโอบหญิงสวยจากไป
ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะเตือนหลี่เหยนและพวก “ถ้าใครรังแกคนที่มีบุญคุณกับฉัน คนนั้นมันก็คือศัตรูของฉัน”
ตอนที่พูดประโยคนี้ เขาจ้องไปที่เว่ยเทียนหมิงไม่ห่างสายตา ชัดเจนว่ารวมเว่ยเทียนหมิงอยู่ในนั้นด้วย
เว่ยเทียนหมิงสีหน้าดำก่ำ ไม่ตอบอะไร สำหรับเขาแล้ว จินหยวนเป่าก็แค่คนโง่ๆ คนนึง ปกติไม่มีใครอยากจะเอาเรื่องกับคนแบบนี้
หลี่เหยนกับจ้างกางยิ่งแล้วใหญ่ ต่อหน้าจินหยวนเป่า พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อกรตรงๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่จินหยวนเป่าไม่อยู่ พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว
หลี่เหยนลุกขึ้น มองจินหยวนเป่าที่เดินจากไปด้วยสีหน้าดำก่ำ สายตาหันไปทางหลินหยุน ชัดเจนว่าเขาไม่ได้คิดจะหยุดแค่นี้
เวลานั้น เซี่ยหยู่เวยเดินเข้ามาหาหลินหยุน พูดเบาๆ กับเขาว่า “นายมานี่หน่อย”
หลินหยุนมองไปที่เธอ ไม่เข้าใจว่าเวลานี้เธอเรียกเขาไปคุยตามลำพังแบบนี้หมายความว่าอย่างไร เธอไม่กลัวว่าเว่ยเทียนหมิงจะเข้าใจผิดเอาหรือ
หลินหยุนเดินตามเซี่ยหยู่เวยมาในที่ๆ ลับตาคน สองคนยืนประชันหน้ากัน
เซี่ยหยู่เวยมองไปที่หลินหยุน สีหน้าดูอ่อนโยนลงมาก น้ำเสียงก็ไม่ได้ดูรำคาญเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“หลินหยุน ฉันจะเตือนนายด้วยความหวังดีอีกครั้งนะ นายไม่ต้องฝืนแล้ว นายสู้พวกเขาไม่ได้หรอก”
“แล้วก็เอาหยกสีแดงพม่านั่นมา ฉันจะดูแลแทนนายเอง”
“ทำไม” หลินหยุนมองเธอด้วยสายตาที่เฉยเมย สายตาที่จ้องมองมาราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุไปในจิตใจและความลับของเธอได้
เซี่ยหยู่เวยหลบสายตาเขาไป อยู่ดีๆ เธอก็ไม่กล้าสบตาเขาแล้ว
ก่อนหน้านี้ เธอไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน
แต่หยกสีแดงพม่าชิ้นนั้น เซี่ยหยู่เวยไปยอมให้หลินหยุนเอาไปทำอะไรแน่นอน
“ฉันเป็นภรรยาในนามของนาย เหตุผลนี้พอไหม”
หลินหยุนยิ้มมุมปากเล็กน้อย สายตาแสดงออกถึงความไม่แยแส
“ภรรยา? ตอนนี้เธอคิดได้แล้วเหรอว่าเธอเป็นภรรยาของฉัน”
สายตาของหลินหยุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและดุดัน พร้อมถามเธอไปว่า “ตอนที่อยู่ลานจอดรถที่บ้าน ตอนที่เธอนั่งอยู่บนรถผู้ชายคนอื่นแล้วไล่ฉันไป เธอเคยคิดบ้างไหมว่าเธอคือภรรยาของฉัน”
“ตอนที่อยู่ในห้างพวกนั้นสบประมาทเหยียดหยามฉัน เธอกลับช่วยพวกมันพูด ตอนนั้นเธอคิดว่าเธอเป็น ภรรยาฉันบ้างไหม”
“เมื่อกี๊หลี่เหยนแพ้ แต่กลับอยากกลับกลอก เธอกลับช่วยมันพูด ตอนนั้นเธอเคยคิดไหม ว่าเฮ เป็นภรรยาของฉัน”
ถึงจะเป็นการถามปัญหาเหล่านี้ แต่น้ำเสียงหลินหยุนกลับเต็มไปด้วยความเฉยเมย แต่ว่าเสียงนั้น กลับเสมือนว่ามีพลังบางอย่าง ทุกประโยคราวกับดาบที่เจาะทะลุเข้าไปในหัวใจของเซี่ยหยู่เวย
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกอับอาย เธอรีบปฏิเสธไปทันที “ฉันแค่ไม่อยากให้นายกับหลี่เหยนมีเรื่องกันใหญ่ขนาดนั้น ฉันทำเพื่อนายนะ”
หลินหยุนหัวเราะอย่างเย็นชา พร้อมถามกลับว่า “ทำเพื่อฉัน? งั้นเซี่ยหยู่เวยฉันถามเธอหน่อย ถ้าเกิดคนที่แพ้คือฉัน ตอนที่หลี่เหยนบอกให้ฉันก้มหัวขอโทษมัน เธอจะห้ามมันไหม”
“ฉัน…” เซี่ยหยู่เวยอยากที่จะพูดคำที่ไม่ตรงกับใจตัวเอง แต่สำหรับหลินหยุนคนที่เธอที่เธอมองว่าไม่ได้เรื่องเช่นนี้ เธอไม่อยากใช้คำพูดดีๆ เพื่อเอาใจเขาเลย
“เธอไม่ทำ!” หลินหยุนตอบคำถามนั้นแทนเธอแล้ว
“ที่เธอบอกว่าทำเพื่อฉัน เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอเอามาหลอกตัวเองเท่านั้น เธอไม่เคยมองว่าฉันเป็นสามีเธอเลย เพราะงั้นไม่ต้องพูดว่าเธอเป็นภรรยาฉันอีก!”
“เพราะว่าเธอมันไม่คู่ควร!”