จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 354 ตกลงเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ
“ผลกำไรห้าสิบเปอร์เซ็นต์! ” ฉินหลันตกใจ: “ท่านประธานกรรมการ นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ! ”
หวางซูเฟินยิ้มเล็กน้อย: “ไม่มากเลย สูตรยานี้คุ้มค่ากับราคานี้! ”
“คุณหลิน นายเห็นด้วยไหม? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ: “ฉันไม่เห็นด้วย”
หวางซูเฟินกับฉินหลันขมวดคิ้ว หลินหยุนคงคิดที่จะต้องการราคาที่มากกว่านี้แน่เลย!
แต่ว่าตอนนี้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต โดยที่หลินหยุนมีสูตรยาอัศจรรย์ที่สามารถทำให้กิจการร้านอาหารภายใต้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปกลับมารุ่งโรจน์ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการเสนอราคาที่สูงก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ฉินหลันจ้องมองไปที่หลินหยุน: “ไอ้หนุ่มน้อย ท่านประธานกรรมการแบ่งผลกำไรให้นายครึ่งหนึ่ง นายยังไม่พอใจอีกเหรอ! นายรู้ไหมว่ากิจการร้านอาหารมีต้นทุนสูงมากแค่ไหน? ”
“ฉินหลัน! ” หวางซูเฟินจ้องมองไปที่ฉินหลัน ฉินหลันก็ไม่กล้าที่จะพูดขึ้นอีก
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย แล้วก็มองไปที่ฉินหลันอย่างแปลกประหลาด: “พี่ฉินหลัน คุณอย่าเพิ่ง รีบร้อน รอฟังที่ฉันจะพูดให้จบก่อนสิ! ”
หลินหยุนเก็บรอยยิ้ม และพูดอย่างจริงจัง: “ฉันไม่ต้องการผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น ของสิ่งนี้ฉันมอบให้ฟรี แต่ฉันต้องการที่จะให้ประธานกรรมการตกลงกับฉันเรื่องหนึ่ง วางใจได้ว่า เรื่องนี้ไม่ผิดกฎหมายของประเทศจีน และก็จะไม่ทำให้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปสูญเสียผลกำไรแน่นอน”
หวางซูเฟินขมวดคิ้ว คิดไม่ออกว่าหลินหยุนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่
“คุณหลิน คุณคิดจะให้ฉันตกลงอะไรกับคุณล่ะ? ตอนนี้สามารถพูดออกมาได้เลย ถ้าหากว่าฉันสามารถทำได้ ฉันจะตกลงอย่างแน่นอน” หวางซูเฟินพูด
หลินหยุนส่ายศีรษะ: “ขอโทษด้วย เรื่องนี้แม้แต่ตัวฉันเองก็ยังคิดไม่ออก แต่ฉันสามารถรับรองได้ว่า ท่านประธานกรรมการจะสามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย”
หวางซูเฟินครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน เธอคิดว่าหลินหยุนไม่มีทางที่จะให้ร้ายเธอ ซึ่งหากว่าไม่ใช่หลินหยุน ในการประชุมสุดยอดจงโจวนั้น บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปก็คงจะถูกกำจัดสิ้นซากไปแล้ว
“ตกลง ฉันสัญญากับคุณ เพียงแค่เรื่องนี้ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายของประเทศจีน ฉันจะต้องทำมันได้อย่างแน่นอน”
“ตกลงตามนี้! ” หลินหยุนดีใจจนยิ้มออกมา
ฉินหลันไม่วางใจอยู่บ้าง โดยที่ปฏิเสธผลกำไรห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่กลับต้องการคำมั่นสัญญาจากประธานกรรมการ
ไอ้หนุ่มนี้มันคิดจะทำอะไร?
หลินหยุนดีใจอย่างมาก ที่ได้รับคำมั่นสัญญาจากคุณแม่ ต่อไปเขาทำอะไรก็สามารถที่จะทำได้อย่างเต็มที่แล้ว หากว่าทำให้คุณแม่ไม่พอใจ ก็หยิบยกคำมั่นสัญญานี้ออกมาได้
ที่จริงแล้วตอนนี้หลินหยุนก็คิดออกแล้วว่าจะให้หวางซูเฟินตกลงเรื่องอะไรกับเขา ก็คือหากวันใดวันหนึ่งที่ทราบถึงสถานะของหลินหยุนแล้ว หวางซูเฟินห้ามที่จะโกรธเคือง
แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ ไม่อย่างนั้นหวางซูเฟินคงจะเกิดความสงสัยเป็นแน่
เงินทอง อำนาจบารมีสำหรับหลินหยุนแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
แต่หนึ่งคำมั่นสัญญาของคุณแม่ สำหรับหลินหยุนก็เหมือนกับแผ่นทองอภัยโทษเลยทีเดียว!
บริษัท หัวอัน กรุ๊ป ที่ห้องทำงานของส้งหัวอัน
ส้งอันหมิงยังคงนั่งอยู่บนรถเข็น รายงานความเคลื่อนไหวของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในช่วงที่ผ่านมา
“คุณพ่อ พูดไปก็น่าแปลก บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปอยู่ดี ๆ ก็หยุดการขายทิ้งโรงแรมและร้านอาหารเหล่านั้นภายใต้บริษัทลง หวางซูเฟินคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
ส้งหัวอันยิ้มเล็กน้อย: “หากว่าเธอไม่ขายทิ้ง ก็ดีเป็นอย่างมาก แบบนี้จะทำให้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปล้มละลายลง แล้วพวกเราก็จะได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย”
“ข้าเพียงแต่กังวลว่า ไอ้หนุ่มหลินหยุนนั่นจะทำอะไรขึ้นมาอีก”
ส้งอันหมิงพูดว่า: “เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ไอ้หนุ่มนั่นมีพลังบู๊ที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ว่าเขาคงจะไม่สามารถที่จะกลั่นยาได้หรอก? ”
ส้งหัวอันพยักหน้า: “นี่ก็จริงอยู่ ได้ยินเยนเป่ยเฟยพูดว่า หากต้องการที่จะเป็นนักกลั่นยา เงื่อนไขและคุณสมบัติค่อนข้างจะเข้มงวดมาก ไม่ใช่ว่ามีพลังบู๊ที่แกร่งกล้าแล้วก็จะสามารถทำได้”
“นายไปจัดเตรียมการให้พร้อม เมื่อกิจการร้านอาหารของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปถูกพวกเราโจมตีจนล้มไม่เป็นท่าแล้ว ก็จะได้เปิดสงครามกับบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปอย่างเด็ดขาดในทันที! ”
ส้งอันหมิงดีอกดีใจ: “ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้! ”
หอจื่อหยุน ร้านอาหารสาขาหลักของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
ภายในห้องครัว หวางซูเฟินกับฉินหลันและหลินหยุน รอกันอยู่อย่างเงียบสงบ
เชฟอ้วนที่สวมชุดพ่อครัวสีขาว และสวมหมวกพ่อครัวสีขาว กำลังใช้ช้อนคนในถังน้ำที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าท่าทางที่เหยียดหยาม
ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนทำอาหารให้กับบุคคลสูงศักดิ์ท่านหนึ่งในเมืองหลวง จากนั้นเป็นเพราะลูกจะเข้าโรงเรียน จึงต้องย้ายกลับมาที่บ้านเกิดมณฑลจงโจว และถูกหวางซูเฟินเชิญชวนมาทำงานด้วยค่าตอบแทนที่สูง เพื่อรับตำแหน่งหน้าที่เชฟใหญ่แห่งหอจื่อหยุน
เชฟใหญ่คนนี้มีสถานะที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงมีนิสัยและอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีบ้าง แม้ว่าในช่วงนี้กิจการร้านอาหารของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป จนกระทั่งกิจการร้านอาหารทั่วทั้งมณฑลจงโจว ได้ถูกตระกูลส้งช่วงชิงลูกค้าไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เชฟใหญ่คนนี้ก็ยังคงมองว่าซุปอเนกประสงค์ที่ทางบริษัท หัวอัน กรุ๊ปได้ประชาสัมพันธ์จำหน่ายออกมานั้น มันไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร
การเป็นพ่อครัวที่มีอุดมคติผู้หนึ่ง เขาอดทนยอมรับไม่ได้ต่อการโฆษณาที่ปลอมแปลงเหล่านั้น ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่หลอกลวงผู้บริโภค
ต่อให้ตอนนี้หอจื่อหยุนจะมีกิจการที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่า การเป็นพ่อครัวที่มีอุดมคติผู้หนึ่งก็ยังคงต้องยึดมั่นในจิตใจดั้งเดิม ไม่ไปทำในเรื่องที่ผิดต่อศีลธรรมเป็นอันขาด
แต่ว่า ตอนนี้ประธานกรรมการกับผู้ช่วยฉินได้พาเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งมา เพื่อต้องการที่จะทำ ซุปบำรุงร่างกายอะไรกันอีก
หากอดทนยอมรับกับเรื่องนี้ได้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่อดทนยอมรับไม่ได้อีกแล้ว!
เชฟอ้วนคนน้ำในถังไปพลาง และก็พูดไปพลางว่า: “ท่านประธานกรรมการ การที่เป็นลูกน้องของท่าน ข้าก็ควรที่จะเชื่อฟังคำสั่งของท่าน ดังนั้นจากนี้ไม่ว่าท่านจะสั่งให้ข้าทำงานอะไร ข้าก็จะทำตามทุกอย่างที่ท่านต้องการ! ”
“แต่ว่า การที่เป็นพ่อครัว ข้าควรที่จะพูดอะไรสักเล็กน้อย พฤติกรรมที่หลอกลวงผู้บริโภคแบบนี้ในท้ายที่สุดก็จะต้องได้รับผลกรรมตามที่ได้ทำเอาไว้ ข้าจึงไม่แนะนำให้ท่านกระทำสิ่งนี้จริง ๆ! ”
พูดจบ ก็จ้องมองไปที่หลินหยุนอย่างโหดเหี้ยม เขารู้ว่าความคิดดังกล่าวนี้มาจากหลินหยุน
หลินหยุนแสดงท่าทางแบบที่ตนเองไม่มีความผิด เขาเพียงนำน้ำธรรมดาทั่วไปมา แล้วก็ใส่ น้ำชี่ทิพย์ลงไป หลังจากที่คนดื่มน้ำนี้เข้าไปแล้ว สามารถที่จะรักษาอาการป่วยได้ทุกโรค นอกเสียจากว่าโรคมะเร็งที่เซลล์ตายไปแล้ว ซึ่งพูดได้เลยว่าสามารถรักษาได้ทุกโรคก็คงไม่ผิดนัก
จะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคที่ไหนกันล่ะ?
ฉินหลันเอามือปิดปากแอบยิ้มอยู่ด้านข้าง เธอทราบดีถึงนิสัยของเชฟฟ่าง จึงได้คาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาคงจะไม่พอใจหลินหยุนเป็นแน่
หวางซูเฟินยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า: “เชฟฟ่างวางใจได้ พวกเราไม่มีทางที่จะหลอกลวงผู้บริโภคอย่างแน่นอน รออีกสักครู่คุณก็จะได้รับทราบแล้ว”
“อย่างนั้นก็ดี เดี๋ยวข้าจะลองชิมด้วยตนเอง” พูดจบ เชฟอ้วนก็จ้องมองไปที่หลินหยุนอย่างโหดเหี้ยม เหมือนกับกำลังพูดว่าหากไม่ได้ผลอย่างที่พูดเอาไว้ ดูสิว่าข้าจะจัดการนายอย่างไรดี
หลินหยุนเอาสองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แสดงสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแส
หลังจากสิบกว่านาทีผ่านไป ซุปที่ทำจากน้ำชี่ทิพย์ในปริมาณที่เจือจางถ้วยหนึ่งก็ปรุงแต่งเสร็จเรียบร้อย และยกเสริฟเข้ามา
เชฟอ้วนถือช้อนขึ้น: “ประธานกรรมการ ข้าก็ลองชิมดูก่อน! ”
“ตามสบายเลย! ” หวางซูเฟินยิ้มและพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ
เชฟอ้วนยิ้มอย่างเย็นชาให้กับหลินหยุน ตักซุปขึ้นมา แล้วก็ค่อย ๆ ดื่มเข้าไป
เพิ่งดื่มเพียงคำแรก เขาก็ถึงกับตะลึงขึ้นเล็กน้อย
“น่าแปลกเสียจริง วันนี้รสชาติของซุปถ้วยนี้อร่อยกว่าเมื่อก่อนเป็นสิบเท่า! ดื่มลื่นชุ่มคอ แถมยังมีรสชาติเฉพาะที่เป็นกลิ่นจากธรรมชาติที่สดชื่น ซึ่งก็เหมือนกับได้ออกจากเมืองที่มีมลพิษ ไปยัง ป่าเขาในช่วงหลังฝนตกแล้วหายใจสูดรับอากาศที่เป็นธรรมชาติ”
จากนั้น เขาก็ดื่มอีกหนึ่งคำใหญ่
ตอนนี้ แขนขวาของเขาที่ถือมีดหั่นผักเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยนั้น นึกไม่ถึงว่าเพียงชั่วครู่ก็ไม่มีอาการเจ็บปวดแล้ว
“นี่มัน……” เชฟอ้วนมองไปที่หลินหยุนด้วยความตกตะลึง
หลินหยุนยังคงเอามือสองข้างล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง สีหน้าท่าทางเฉยเมย
ฉินหลันยิ้มและพูดติดตลกว่า: “เชฟฟ่าง เป็นอย่างไรบ้าง? ”
“ภาพลวงตา คงเป็นภาพลวงตาอย่างแน่นอน! ”
เชฟอ้วนแอบหยิกเนื้อตนเองหนึ่งครั้ง จนปวดจนต้องแสยะปาก แต่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่าทุกอย่างไม่ใช่ภาพลวงตา
ครั้งนี้ ในที่สุดเชฟอ้วนก็เชื่อแล้ว
“ประธานกรรมการ ผู้ช่วยฉิน และชายหนุ่มคนนี้ สามารถบอกข้าได้ไหมว่าในน้ำนี้ ได้เพิ่มใส่อะไรเข้าไปบ้าง? นี่มันช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง! ” เชฟอ้วนมีสีหน้าท่าทางที่น้อมรับในคำแนะนำ
หวางซูเฟินกับฉินหลันไม่ได้รีบที่จะตอบเชฟอ้วนกลับไป แต่เดินเข้าไปข้างหน้าพร้อมกัน หยิบช้อนสองคันขึ้นมา ตักดื่มกันคนละคำ
ทันใดนั้น ทั้งสองคนหลับตาและแสดงท่าทางที่สุขสบายใจ