จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 363 อะไรคือความถูกต้อง
เจิ้งหยางยิ้มเยาะเย้ย “โอ้ ท่านนี่จะเอาฐานะประธานสมาคมการแพทย์จีนแห่งประเทศมากดขี่ฉันเหรอ?”
ท่านหลิวพูดด้วยความชอบธรรม “แม้ว่าฉันจะเป็นพลเมืองธรรมดาคนหนึ่งในประเทศจีน ก็ยังมีสิทธิ์ถามคุณ”
เจิ้งหยางพูดเสียงเบา “ใช่ ถูกต้อง คุณมีสิทธิ์ถาม แต่ฉันก็ไม่รู้ ผลการตรวจสอบไม่ใช่วันหรือสองวัน ต้องใช้เวลา!”
ท่านหลิวจ้องมองเจิ้งหยาง และถามต่อไปว่า “ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
“เมื่อกี้ฉันเพิ่งบอกว่าไม่รู้ คุณหูหนวกหรือเปล่า?” เจิ้งหยางตวาดอย่างน่าเบื่อ
ท่านหลิวไม่โกรธ และพูดต่อ “ในเมื่อคุณไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด ถ้างั้นฉันจะให้สถาบันวิจัยชิงหวาจากเมืองหลวงส่งผลตรวจสอบมา เช่นนี้คุณคงจะไปรื้อแผ่นปิดกิจการออกได้แล้วใช่ไหม?”
สถาบันวิจัยชิงหวา!
นี่เป็นสถาบันวิจัยที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศจีน เพื่อตรวจสอบวัตถุดิบบางส่วน เอาคนที่มีพรสวรรค์มาทำงานอย่างนี้มันน่าเสียดาย เป็นการใช้คนไม่ถูกกับหน้าที่
เจิ้งหยางหน้าถอดสี
ในฐานะประธานสมาคมการแพทย์แห่งประเทศจีน แน่นอนย่อมมีคุณสมบัติที่จะใช้สถาบันวิจัยชิงหวา
หากไอ้เฒ่าคนนี้ได้นำผลการตรวจสอบมาแสดงต่อหน้าเขาจริงๆ มันก็จะถูกเขาครอบงำทันที
เจิ้งหยางยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถปลอมแปลงได้ หากต้องการปลอมแปลงผลการตรวจสอบ มันง่ายเกินไป เกี่ยวกับผลการตรวจสอบของสถาบันวิจัยชิงหวา ฉันยอมรับอยู่แล้ว เว้นแต่ให้คนจากสถาบันวิจัยชิงหวา มาตรวจสอบต่อหน้าฉัน มิเช่นนั้น ฉันไม่เชื่อแน่นอน”
หลิวจื่อหานพูดอย่างโกรธเคือง “คุณรู้อยู่แล้วว่าสถาบันวิจัยชิงหวาอยู่เมืองหลวง จะมาตรวจสอบต่อหน้าได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าคุณจงใจหาเรื่อง!”
เจิ้งหยางยิ้มอย่างมีชัย “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้างั้นพวกคุณก็รอ หรือไม่ก็เชิญกลับไป!”
“ไอ้เวร!”
ในที่สุดท่านหลิวก็สุดที่จะทน
เสียงตวาดนั้น ราวกับมังกรที่โกรธจัด ผู้มีอำนาจร้องไห้เสียใจสุดๆ
คุณดูตัวหนังสือสี่ตัวที่อยู่ข้างหลังคุณ แล้วถามตัวเองว่า ละอายใจกับตัวหนังสี่ตัวที่อยู่ข้างหลังคุณหรือไม่?” ท่านหลิวชี้ไปที่ผนังด้านหลังโต๊ะของเจิ้งหยาง และตวาดใส่
บนผนังสีขาว พื้นขาวตัวหนังสือสีดำ มีเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่สี่ตัว เข้มงวดกับตัวเองทำงานเพื่อประชาชน
ทุกตัวหนังสือ มีขนาดใหญ่เท่าลูกบาสเกตบอล ซึ่งสะดุดตามาก
ใบหน้าที่อ้วนใหญ่ของเจิ้งหยาง อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ตัวหนังสือทั้งสี่ตัวนั้นก็เหมือนแผ่นเหล็กสี่แผ่นที่โดนเผาจนเป็นสีแดง และเผาจนใบหน้าของเจิ้งหยางร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำสี่คำนี้ ถูกท่านหลิวชายชราผู้มีคุณธรรมและน่าเกรงขาม คนที่มีความซื่อตรงชี้ให้ดู
สิ่งนี้เท่ากับทำให้เจิ้งหยางเหมือนถูกคนจูงจมูกแล้วด่า!
เข้มงวดกับตัวเองทำงานเพื่อประชาชน! แขวนอยู่ข้างหลังคนแบบนี้ หึหึ ช่างเหมือนการแดกดัน!
แม้แต่เยนเป่ยเฟยและส้งหัวอัน สายตาที่มองไปที่เจิ้งหยาง มีความดูถูกเล็กน้อย
เจิ้งหยางรีบโต้แย้ง “เป็นเพราะคำสี่คำนี้ ฉันจึงต้องปิดกิจการร้านอาหารภายใต้บริษัทตงหวางกรุ๊ป!”
“พวกเขาโฆษณาชวนเชื่อ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่มีใบอนุญาต เพื่อผลประโยชน์ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตประชาชน ฉันต่อต้านการคุกคามของพวกเธอ และต้องรอจนกว่าผลการตรวจสอบจะออกมา”
“มิเช่นนั้น ในอนาคตนักธุรกิจทุกคนจะเป็นเหมือนพวกเธอ เดินบนเส้นทางที่ผิด และในที่สุดคนที่ถูกทำร้าย ก็คือประชาชน!”
หวางซูเฟินกับฉินหลันและหลิวจื่อหาน โกรธจนตัวสั่น
ไร้ยางอาย ไร้ยางอายจริงๆ!
พวกเธอไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!
ถึงกลับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และยังพูดว่าทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน!
ท่านหลิวยืนตัวตรง เงยหน้าขึ้นสูง ผมหงอก และใบหน้าเคร่งขรึม
“ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามีการโฆษณาชวนเชื่อหรือเปล่า และไม่สนใจว่าพวกเธอจะเดินเส้นทางที่ผิด ฉันรู้แค่ว่า ซุปยาจีนเพื่อสุขภาพรักษาคนนับไม่ถ้วน แม้แต่ฉันก็ยังได้ประโยชน์อย่างลึกซึ้ง!”
“สิ่งของเช่นนี้ เป็นการโฆษณาชวนเชื่อได้อย่างไร?”
“สิ่งของที่ทำให้ประชาชนมีความสุขเช่นนี้ และมีผลประโยชน์ต่อประชาชนก็คือเส้นทางที่ถูกต้อง!”
น้ำเสียงของท่านหลิวเต็มไปด้วยความโกรธ เสียงดังและมีแรงกระตุ้น ราวกับเสียงกริ่งเตือน จนทำให้คนที่หูหนวกยังได้ยิน!
“สิ่งที่ทำให้ประชาชนมีความสุข และมีผลประโยชน์ต่อประชาชน คือเส้นทางที่ถูกต้อง!”
ประโยคนี้ ดังก้องอยู่ในหูของคนหลายคนไม่รู้จบ
อะไรคือความไม่ถูกต้อง? อะไรคือความถูกต้อง?
ขอเพียงทำให้ประชาชนมีความสุข มีผลประโยชน์ต่อประชาชน นั่นคือความถูกต้อง!
ความรอบรู้นี้ วาทศิลป์นี้ มีเพียงท่านหลิวผู้กล้าหาญที่รักและหวังดีประเทศชาติและประชาชนเท่านั้นถึงสามารถพูดได้!
คำพูดนี้เพียงท่านหลิวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ จึงจะทำให้ผู้คนตกใจเป็นพิเศษ!
หวางซูเฟินยืนขึ้นด้วยความนับถือ และโค้งคำนับให้ท่านหลิว “ท่านหลิวเป็นคนมีคุณธรรม รุ่นน้องอย่างหวางซูเฟินขอรับการสั่งสอน!”
จ้าวเป่าหัวตื่นเต้นจนน้ำตาอาบแก้ม นี่คือประธานสมาคมการแพทย์แห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำแวดวงการแพทย์ของพวกเขา
จ้าวเป่าหัวชื่นชมสุดๆ
แม้แต่หลินหยุน ก็ยังชื่นชม
คนที่ยอดเยี่ยมอย่างท่านหลิวที่รักและห่วงประเทศชาติและประชาชน ไม่แบ่งแยกพรมแดน ไม่แบ่งแยกพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นเทพจริงๆ ก็ต้องได้รับการเคารพ!
สีหน้าเจิ้งหยางแสดงความหวาดกลัว อยู่ต่อหน้าชายผู้กล้าหาญอย่างท่านหลิว คนชั้นต่ำที่จิตใจไม่ซื่อ ก็ต้องกลัวแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เจิ้งหยางไม่ลืมเรื่องวิชาบู๊ ที่เยนเป่ยเฟยสัญญากับเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงต้องทำต่อไปมา และโค่นล้มบริษัทตงหวางกรุ๊ป
“ท่านหลิว ฉันขอชื่นชมหัวใจของท่าน! เพียงแต่ว่า หากท่านต้องการรื้อแผ่นปิดกิจการของซุปยาจีนเพื่อสุขภาพนั้น ต้องรอให้ผลการตรวจสอบผ่านก่อน หรือผู้นำระดับสูงเห็นด้วย นอกจากนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้!” เจิ้งหยางแสร้งทำเป็นทุกข์ใจ
ใช้ไม้แข็งไม่ได้ เจิ้งหยางเลยต้องใช้ไม้อ่อน
ท่านหลิวสีหน้าไร้ความรู้สึก และถามว่า “ถ้าผู้นำระดับสูงอนุมัติคุณก็สามารถรื้อแผ่นปิดกิจการออกได้ใช่ไหม?”
เจิ้งหยางรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่”
ล้อเล่นนะ ถ้าเขาสามารถทำให้ผู้นำระดับสูงอนุมัติแล้ว เขากล้าดียังไงไม่ไปรื้อ!
ท่านหลิวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรทันที
“ตาเฒ่าผู้นี้ คงไม่ใช่จะรู้จักผู้นำระดับสูงจริงๆมั้ง?” เจิ้งหยางรู้สึกกังวลใจ
โทรศัพท์เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว และเสียงที่โกรธเคืองของท่านหลิว หลิวชิงซาน สิ่งที่ฉันเคยสั่งแกลืมหมดแล้วใช่ไหม? แกยังไปปิดกิจการ ที่ทำให้ประชาชนมีความสุข แกได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงเกินไปเหรอ จึงเริ่มแยกตัวออกจากมวลชน!”
“คุณพ่อ ท่านอย่าพึ่งโกรธ เกิดเรื่องอะไรขึ้น? บอกผมก่อน ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ!” เสียงที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆดังมาจากปลายสายโทรศัพท์
หลิวชิงซาน? เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเราที่อยู่ในเมืองหลวงไม่ใช่หรือ?
โอ้พระเจ้าช่วย! ผู้บัญชาการหลิว เป็นลูกชายของตาเฒ่าคนนี้เหรอ!
เจิ้งหยางเข่าอ่อน และเกือบจะคุกเข่า
“ท่านหลิว รอเดี๋ยวท่านหลิว ให้ฉันรับสายได้ไหม?” เจิ้งหยางเดินโซเซไปหาท่านหลิว ด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ
เขาต้องการยืนยันว่าหลิวชิงซานที่อยู่ในสายโทรศัพท์ เป็นผู้บัญชาการที่ใหญ่ที่สุดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่
“คุณคือผู้บัญชาการหลิวใช่ไหมครับ?” เจิ้งหยางถามอย่างระมัดระวัง
“ครับ ได้ครับ ใช่ ผมเข้าใจแล้ว……” เจิ้งหยางใช้สองมือถือโทรศัพท์ไว้ สีหน้าของเขาราวกับว่าหลานชายเห็นปู่ของเขา
สักพัก เจิ้งหยางก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ท่านหลิว ท้องกลมโตของเขาสั่น “ท่านหลิว ทำไมท่านไม่บอกแต่แรก ผู้บัญชาการหลิวเป็นลูกชายของท่าน?”
“ผู้บัญชาการของเราได้พูดแล้ว ให้รื้อป้ายปิดกิจการออก ก็แค่คำพูดประโยคเดียวของท่านเอง?” เจิ้งหยางเริ่มประจบ และที่หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
ท่านหลิวพูดอย่างกังวล “ถ้าวันนี้ฉันไม่โทรไป คุณก็ไม่คิดที่ระรื้อป้ายปิดกิจการออกใช่ไหม? ถ้าวันนี้คนที่ยืนอยู่ที่นี่ไม่ใช่ฉัน เป็นแค่พลเมืองธรรมดาคนหนึ่งล่ะ?”
เจิ้งหยางยืนอยู่ข้างๆ ก้มหัวลง เชื่อฟังจนเหมือนเป็นหลานชาย
ท่านหลิวส่ายหัว และถอนหายใจ
“ท่านประธานหวาง พวกเราไปคุยเรื่องสูตรซุปยาจีนเพื่อสุขภาพได้หรือยัง!” ท่านหลิวมองไปที่หวางซูเฟิน และยิ้มเล็กน้อย
หวางซูเฟินไม่คิดว่าชายชราธรรมดาที่อยู่ข้างหน้าท่านนี้ มีพลังอำนาจมหาศาลเช่นนี้ แลยังอยู่ในสถานการณ์ตกตะลึง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็เก็บอาการประหลาดใจไว้ และพูดด้วยความเคารพ “แน่นอนได้อยู่แล้ว!”
“ท่านหลิวเชิญ!”