จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 370 ไม่ผ่าน
“หยุดมองได้แล้ว ทุกคนทำต่อ!” กรรมการตะโกนว่า
หันหลังกลับไปและเดินกลับไปที่ที่นั่งของเขา หลับตาเพื่อนั่งสมาธิ
โจวชิงเหอดูตื่นเต้น “ฉันบอกแล้วว่าหมอเทพหลินจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง! คนที่คิดค้นเมลาโนคอร์ตินอยู่ในวงการแพทย์นานาชาตินั้นมีชื่อเสียงมาก ถ้าหมอเทพหลินสามารถสกัดเมลาโนคอร์วันตินซึ่งมีค่ามากกว่าเมลาโนคอร์ติน ถ้างั้นรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมคนต่อไปจะเป็นของเขาแน่นอน!”
โม่หัวถิงดูตกใจและพูดว่า “เภสัชตำรับจีนได้รับการแก้ไขให้สมบูรณ์แบบโดยคนหลายรุ่น และสอดคล้องกับเภสัชตำรับยาสมัยใหม่ในโลกนี้ คิดไม่ถึงว่าหมอเทพหลินจะสามารถหาจุดผิดพลาดในตำรับยาได้! ถ้าประธานหลิวสามารถสกัดเมลาโนคอร์วันตินได้ ถ้างั้นประวัติศาสตร์ของวงการแพทย์จีน ต่อจากนี้ไปอาจจะถูกเขียนใหม่ก็เป็นไปได้!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ดูภูมิใจ “หลินหยุนคนนี้ หาเรื่องได้จริงๆ ฮ่าฮ่า……”
เดิมทีเขายังกังวลว่า หลินหยุนจะส่งกระดาษข้อสอบเปล่า เพราะว่าทักษะทางการแพทย์ของหลินหยุนอยู่ในระดับสูง แต่ว่าอยู่ในการแพทย์จีนก็ไม่เคยศึกษาอย่างเป็นทางการ
บางทีอาจารย์ของเขาอาจเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ แต่ไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเภสัชตำรับยาจีนในวงการแพทย์ และไม่ค่อยคุ้นเคย
อย่าลืมว่าหลินหยุนเป็นเพียงนักศึกษาในสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์
โจวเฟินพูดอย่างไม่พอใจ “พึ่งรู้ว่าเสี่ยวหยุนดีเเหรอมันสายไปแล้ว!ก่อนหน้านี้ไปอยู่ไหนมา? ตอนนี้มาเสียใจมันก็สายเกินไปแล้ว!”
ชั่วขณะเซี่ยเจี้ยนโก๋พูดไม่ออก เดิมทีมีความสุข ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ฉู่หมิงเฉิงมองหลินหยุนที่กำลังนั่งสมาธิ สีหน้ามีความตกใจ “ไม่คาดคิดจริงๆว่าแม้แต่ข้อผิดพลาดในเภสัชตำรับจีนนายยังค้นพบได้!”
“แต่ว่านี่เป็นเพียงด่านแรกเท่านั้น หากนายไม่มีความรู้พื้นฐานที่มั่นคง แม้ว่านายจะสามารถผ่านด่านแรกได้ ด่านที่สองนายก็คงไม่สามารถผ่านได้แน่ๆ”
ฉู่หมิงเฉิงแอบไปค้นหาประวัติของหลินหยุนมาแล้ว หลินหยุนเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าไปอยู่ในตระกูลเซี่ย และหลินหยุนเรียนอยู่ในสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ เรื่องนี้เขาก็รู้ชัดเจน
นอกจากนี้ ฉู่หมิงเฉิงก็เดาได้ว่า ความรู้ทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานของหลินหยุนนั้นอ่อนมาก
เพียงแต่ว่า คนที่อาวุโสกว่าย่อมมีประสบการณ์ที่ดีกว่า
เขาไม่รู้ชัดเจนเท่าฉู่หมิงเฉิงที่เป็นพ่อของเขา
“ไอ้หนุ่มคนนี้ แม้แต่เภสัชตำรับยาจีนก็สามารถหาจุดผิดพลาดออกมาได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ!” ฉู่หยุนหวาไม่สนใจว่าหลินหยุนจะเคยศึกษาวิชาการแพทย์ในมหาลัยหรือไม่ เมื่อมาถึงแพทย์ระดับเดียวกับเขา ก็จะรู้ว่าโลกนี้ยังมีตระกูลแพทย์แผนจีนอยู่
นั่นคือหมอเทพที่สามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้จริงๆ!
ท้ายที่สุดแล้ว ประเทศจีนได้ถ่ายทอดทักษะการแพทย์มาแล้วหลายพันปี แล้วตอนนี้จะกลายเป็นไม่มีคุณค่าเลยสักนิดได้อย่างไร
สำหรับหลินหยุน มีแนวโน้มว่าจะมาจากตระกูลแพทย์แผนจีน
ซ่างกวงชิงฉันมีมุมมองเดียวกันกับซ่างกวงเย่าสือ มีความคิดเหมือนฉู่หยุนหวา ต่างก็ตกใจกับการแสดงออกของหลินหยุน
จากมุมมองนี้ ซ่างกวงชิงฉันเมื่อเทียบกับฉู่หมิงเฉิง จะมีระดับที่สูงกว่า
ผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้น รวมถึงแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลกที่มาชม สีหน้าของแต่ละคน ต่างแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ
พวกเขาคิดไม่ถึงว่า หลินหยุนสามารถหาเจอปัญหาข้อผิดพลาดในตำรับยาจีนได้ ต้องรู้ว่านั่นเป็นตำราที่พวกเขายกย่องมาก แล้วจะผิดได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับที่หลินหยุนถามกรรมการ ถ้าเภสัชตำรับยาจีนผิด แล้วแพทย์ทุกคนที่เคยศึกษาเภสัชนั้น ก็จะผิดทั้งหมดใช่ไหม?
สีหน้ากู่เซิงยู่เคร่งขรึม “ฉันคิดว่าไอ้หนุ่มนี่ส่งกระดาษเปล่า ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีหนทางอื่นอีก
“ฮึ่ม หลินหยุน ฉันไม่เชื่อ นายจะสามารถสกัดเมลาโนคอร์วันตินออกมาได้ และแม้จะสกัดออกมาได้ มันก็เป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง จะเทียบกับเมลาโนคอร์ติน ได้อย่างไร!”
กลุ่มผู้เข้าแข่งขันยังคงตอบคำถามอยู่ ที่หลินหยุนส่งกระดาษเปล่า เพราะว่าเขาสามารถค้นหาข้อผิดพลาดในตำรับยาจีน
อย่างไรก็ตาม มีหลินหยุนเพียงคนเดียวในโลกนี้ และคนอื่นๆไม่มีความสามารถขนาดนั้น ที่จะไปค้นพบข้อผิดพลาดของเภสัชตำรับยาจีน
ดังนั้น ก่อนที่เรื่องจริงจะถูกเปิดเผย พวกเขายังคงตอบคำถามตามเนื้อหาดั้งเดิมของเภสัชตำรับยา
เวลาตอบมีเพียงหนึ่งชั่วโมง
สำหรับคำถามร้อยข้อนี้ ไม่มีทางที่จะทำหมด เว้นแต่จะเป็นอัจฉริยะ เพราะเภสัชตำรับยาจีนมีตัวหนังสือเป็นล้านและต้องท่องจำได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ หัวข้อที่นำเสนอในครั้งนี้ค่อนข้างยุ่งยาก โดยพื้นฐานแล้วคนที่สามารถผ่านด่านนี้ มีไม่ถึงครึ่ง
กรรมการที่รับผิดชอบคุมการสอบ เดินมาข้างหน้า พูดโดยสีหน้าไร้ความรู้สึก “หมดเวลาแล้ว!”
“รีบวางปากกาของพวกคุณลง มิเช่นนั้นจะลงโทษให้ศูนย์คะแนน”
ผู้แข่งขันทุกคนก็รู้ตัว หัวข้อที่ทำได้ก็ทำจนหมดแล้ว หัวข้อที่เหลือก็ทำไม่เป็น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปเสียดายเวลาขนาดนั้น
เมื่อกรรมการตะโกน ทุกคนก็วางปากกาลง และรอเก็บข้อสอบ
หลังจากที่ท่านหลิวเดินจากไป ยังเหลือกรรมการสิบคน และเอกสารสอบหนึ่งร้อยเจ็ดฉบับ โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละคนมีสิบเอ็ดใบ ซึ่งใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้น คำตอบก็ออกมาแล้ว
คราวนี้ กรรมการทั้งสิบท่านก้าวไปข้างหน้า และเดินออกมาพร้อมกับเอกสารการสอบที่พวกเขาตรวจสอบ
“ตอนนี้เราจะประกาศผลของด่านแรก ผู้ตัดสินแต่ละคน มีหน้าที่อ่านข้อสอบที่แก้ไขแล้ว คะแนนเต็มเป็นหนึ่ง
จากซ้ายไปขวา ผู้ตัดสินคนแรกเริ่มอ่าน
“จางแงจุน 23 แต้ม! ไม่ผ่าน”
“ฮ่าๆ……”
ข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังขึ้น
“โอ้ นี่ใช่หมอจางที่มีชื่อเสียงมากไม่ใช่เเหรอแล้วทำไมได้แค่23 คะแนน! ยังไม่จบการศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลมั้ง?”
“ฮ่าๆ นี่ยังมีหน้ามาพูดว่าตัวเองเป็นหมอเทพ ขายขี้หน้าที่สุด!”
“ใช่สิ หมอจางคนนี้น่าจะเป็นคนที่มาจากมณฑลซีไห่หรือเปล่า! ระดับแค่นี้ยังกล้ามาแข่งขันราชาการแพทย์? ถ้าที่เมืองฉางหยางของเรามีคนแบบนี้ ฉันจะเป็นคนแรกที่ขึ้นไปทุบตีเขา!”
กรรมการตะโกนด้วยเสียงเคร่งขรึม “เงียบๆหน่อย เจิ้งลี่หวา สิบสองคะแนน!”
“ฮ่าๆ สิบสองแต้ม! นี่มันช่างตลกจริงๆ!”
ฝูงชนพากันหัวเราะเยาะอีกครั้ง
“เฮ้ยเจิ้งลี่หวา ดูเหมือนจะเป็นคนเมืองฉางหยางของพวกคุณที่เข้ามาแข่งขัน พี่ขึ้นไปทุบตีเขาเลยสิ!”
เมื่อสักครู่ชายวัยกลางคนที่หัวเราะเยาะจางแงจุน ตอนนี้หน้าแดงด้วยความอับอาย ก้มหัวและถอยออกจากฝูงชน
“แม่งเอ้ย ขายขี้หน้าจริงๆ!”
“แต่ว่าเป็นไปได้ไง? เจิ้งลี่หวา หมอเทพเจิ้ง ในวงการแพทย์จีน ยังไงก็อยู่ในระดับ30 ขึ้นไป ได้แค่12คะแนนเอง!”
“หัวข้อนี้จะยากขนาดไหน!”
คะแนนของ11คนที่อยู่ในมือกรรมการท่านนี้ ในเวลาอันรวดเร็วก็อ่านหมดแล้ว
คนที่ดีที่สุดก็ได้แค่หกสิบห้าคะแนน
มีคนผ่านไปทั้งหมดสามคน และสองคนในนั้นบังเอิญมีคะแนนผ่านนิดเดียว
ส่วนที่เหลือไม่ผ่าน
ฝูงชนตกใจอีกครั้ง
“สิบเอ็ดคน ไม่ผ่านแปดคน! โอ้พระเจ้า! โอกาสนี้น้อยเกินไปแล้วมั้ง?”
“หรือต่อไปนี้อาจจะเยอะกว่านี้อีก มิฉะนั้น ด่านแรกตกรอบไปมากกว่าครึ่งแล้ว!”
ทุกคนตั้งตารอรายชื่อในมือของกรรมการทั้งเก้าคนจะมีคนผ่านได้มากกว่านั้น แต่รายชื่อในมือกรรมการทั้งเก้าคนมีคนที่ผ่านน้อยมาก
โดยเฉลี่ย กรรมการหนึ่งคนจะมีคนผ่านแค่สองคน
ในท้ายที่สุดคนที่ผ่านเข้าไปด่านสอง มีเพียงยี่สิบสามคนเท่านั้น ถ้ารวมทั้งหลินหยุนมียี่สิบสี่คน
ฝูงชนมีความโกลาหล
“ในการแข่งขันราชาการแพทย์ปีนี้ เข้มงวดเกินไปแล้ว!”
“ในอดีต ด่านแรกส่วนมากจะตกรอบประมาณ20%ก็สุดๆแล้ว ในครั้งนี้ตกรอบไป80%!”
“การแข่งขันครั้งนี้ คงไม่ใช่ว่ายังไม่ได้ราชาการแพทย์ ก็ตกรอบกันไปหมด?”
“หรือบางทีผู้เข้าแข่งขันครั้งนี้ อาจไม่สามารถผ่านไปถึงด่านที่สามเลย!”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องตลกมาก ถ้าไม่มีใครสามารถผ่านด่านสามได้ ถ้าอย่างนั้นการแข่งขันราชาการแพทย์ครั้งนี้ จะกลายเป็นเรื่องตลกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันราชาการแพทย์!”
ในเวลานี้ ท่านหลิวได้กลับมาแล้ว
ทุกคนตั้งตารอท่านหลิวจะกลับมาประกาศผล เมื่อเห็นท่านหลิวเดินผ่านประตูหลังเข้ามา ชั่วขณะก็กลั้นหายใจทันที
ทั่วทั้งห้องโถงเงียบสงัด