จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 381 ผู้เฝ้าประตูของตระกูลเซี่ย
ท่านหลิวมองไปยังหลินหยุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลิน ในฐานะที่เป็นราชาแพทย์ คุณมีอะไรจะพูดไหม?”
“แน่นอนว่า ด้วยสิทธิพิเศษสำหรับราชาการแพทย์ คุณสามารถเลือกตำราแพทย์จากห้องเก็บตำราของสมาคมการแพทย์แห่งประเทศจีนได้หนึ่งเล่ม
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป เสียงหายใจของคนรอบข้างจู่ๆก็แปลงเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นในทันที
ในห้องเก็บตำราของสมาคมการแพทย์แห่งประเทศจีน มีตำรามากมายที่เป็นของล้ำค่า ที่ไม่เปิดเผยให้คนภายนอกรู้
เซี่ยเจี้ยนโก๋เองก็ตื่นเต้นมาก เขากลัวจริงๆว่าหลินหยุนจะหลงระเริงกับชัยชนะของตัวเอง จนลืมเรื่องของเขา
หลินหยุนมองไปยังประธานหลิว แล้วพูดว่า “ฉันต้องการจะท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน”
อะไรนะ!
สีหน้าของท่านหลิวเปลี่ยนไปในทันที มองหลินหยุนด้วยแววตาที่ไม่อยากเชื่อ และตะลึงไปพักหนึ่ง
คนรอบๆยิ่งเกิดความโกลาหลเข้าไปใหญ่!
“ไม่จริงใช่ไหม ท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน!”
“เขาบ้าไปแล้วรึไง?”
“เจ้าเด็กนี่คงไม่ใช่ว่ากำลังหลงระเริงกับชัยชนะเมื่อกี้ใช่ไหม! ตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เขาเป็นแค่ราชาการแพทย์ของโลกมนุษย์ ทักษะการแพทย์ของศิษย์ทั่วไปของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ก็สามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆแล้ว!”
คุณหมอเหล่านี้ที่เมื่อกี้ยังนับถือหลินหยุนอยู่ พอหลังจากที่ได้ยินเรื่องของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน จู่ๆพวกเขาต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน
พอเห็นแบบนี้ก็คงจะรู้แล้วว่า ตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนที่อยู่ในใจของคนพวกนี้ ก็ราวกับเป็นตัวตนระดับเดียวกันพระเจ้า!
ราวกับว่าไม่มีทางเอาชนะตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนได้!
แม้แต่สีหน้าของประธานหลิวก็ดูลำบากใจเล็กน้อย จ้องมองไปยังหลินหยุนแล้วพูดว่า “คุณหลิน ในฐานะที่เป็นราชาการแพทย์ จริงอยู่ที่มีโอกาสหนึ่งครั้งที่จะสามารถท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนได้ แต่ว่า ตั้งแต่มีการแข่งขันราชาการแพทย์มานับสิบปี ยังไม่เคยมีใครกล้าท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนมาก่อน!”
จู่ๆประธานหลินก็เปลี่ยนคำพูด “ไม่สิ มีอยู่คนหนึ่ง ที่เคยท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน! แต่ว่า สุดท้ายคนคนนั้น……”
หลินหยุนพูดว่า “คนคนนั้นลงเอยยังไง?”
ท่านหลินพูดว่า “โหดร้ายมาก! โดนเหยียบหยามจนตายในสนาม! คุณแน่ใจนะว่าต้องการท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน?”
สีหน้าของหลินหยุนยังคงเรียบสงบ “ผมมาที่นี่ก็เพราะสิ่งนี้”
ท่านหลินถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าเมื่อคุณตัดสินใจจะทำเรื่องอะไร ก็คงไม่ยอมเปลี่ยนแปลงง่ายๆ งั้นก็ได้ ฉันจะไปรายงานกับคนรับผิดชอบของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน!”
พอเห็นท่านหลินออกไป คนรอบๆก็เริ่มมีเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง
ความอึดอัดที่อยู่ในใจของเซี่ยเจี้ยนโก๋ ในที่สุดก็สบายได้สักที หลินหยุนยังคงมีเยื่อใยอยู่จริงๆด้วย ยังไม่ลืมความหวังที่ใหญ่ที่สุดของเขา
ถึงแม้การแข่งขันระหว่างหลินหยุนกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน เขาไม่ได้คาดหวังไว้สักเท่าไร แต่นี่เป็นความหวังเดียวของเขา ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลองดูสักครั้ง!
หญิงงามรูปร่างสูงยาวที่สวมกระโปรงสีขาว เดินไปหาหลินหยุนด้วยตัวคนเดียว ถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าจะท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนจริงๆเหรอ?”
ซ่างกวงชิงฉัน เป็นดาวมหาวิทยาลัยการแพทย์กรุงปักกิ่ง เป็นหญิงสาวที่เป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย
หลินหยุนมองเธอแค่แวบเดียว จากนั้นก็หันสายตาไปที่อื่น พูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ไม่ได้รึไง?”
ซ่างกวงชิงฉันมีความมั่นใจกับหน้าตาของตัวเองมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกไม่มั่นใจ
“ตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่มาก พ่อของฉันเคยเจอกับสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ตอนนั้นพ่อฉันตกใจจนคิดว่าเขาเป็นคนของสวรรค์ แต่ต่อมาถึงได้รู้ว่า ตำแหน่งที่เขาอยู่ในตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ก็แค่คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร”
“บางทีคุณคงจะรู้สึกว่าวิชาการฝังเข็มปราณไท่ชิงเป็นวิชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน อาจจะไม่มีค่าอะไรด้วยซ้ำ”
หลินหยุนมองเธอด้วยแววตาที่ประหลาดใจ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “แล้วมันยังไง?”
ซ่างกวงชิงฉันจ้องมองหลินหยุนด้วยความจริงจังอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป พร้อมกับมีกลิ่นหอมตามมาทางสายลม
เธอรู้ดี ชายหนุ่มตรงหน้าที่มีอายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปี เป็นคนที่ดื้อรั้นจนน่ากลัว!
“เฮิง เจ้าหมอนี้ ไม่เข้าใจความหวังดีของคนอื่นซะจริงๆ! ฉันคงจะบ้าไปแล้ว ทำไมฉันต้องไปเตือนเขาด้วยน่ะ?” ซ่างกวงชิงฉันบ่นกับตัวเอง
พอซ่างกวงชิงฉันจากไป จู่ๆฉู่หยุนหวาก็มีการเคลื่อนไหว
ฉู่หมิงเฉิงขมวดคิ้ว พูดออกไปด้วยความสงสัยว่า “ท่านพ่อ นี่ท่าน……”
ฉู่หยุนหวามองเขาแวบหนึ่ง แล้วถอนหายใจออกมา “ลูกพ่อ พอรอจนถึงเวลาที่ แกสามารถมองการณ์ไกลได้ ไม่มองเพียงแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า บางทีแกถึงจะสามารถเรียนวิชาการฝังเข็มปลิดชีพได้!”
พอพูดจบ ใบหน้าของฉู่หยุนหวาก็เผยความผิดหวังออกมาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปหาหลินหยุน
สายตาของทุกคน ต่างก็จ้องมองไปยังตัวของฉู่หยุนหวาด้วยทันที
“ราชาการแพทย์รุ่นก่อน เขากำลังจะทำอะไรน่ะ? หรือว่าจะไปเตือนหลินหยุนเหมือนกัน?”
“ไม่มั้ง หลินหยุนแย่งตำแหน่งราชาการแพทย์ของเขาไป เขาควรจะแค้นหลินหยุนถึงจะถูกไม่ใช่เหรอ?”
“เฮิง พวกแกมันก็แค่พวกที่มองแค่ผิวเผิน การที่ฉู่หยุนหวาสามารถนั่งอยู่ในเก้าอี้ของราชาการแพทย์ได้ สายตาจะไปสั่นเหมือนกับพวกแกได้ยังไงกัน!”
“หลินหยุนเป็นถึงราชาการแพทย์ ถ้าเกิดเขาแพ้อย่างย่อยยับจนเกินไป งั้นโลกการแพทย์ประเทศจีนทั้งหมดของพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“พี่หวางพูดถูกแล้ว บนตัวของหมอเทพหลิน ได้แบกรับศักดิ์ศรีและเกียรติยศโลกการแพทย์ประเทศจีนทั้งหมดของพวกเราเอาไว้ ต่อให้แพ้ ก็จะแพ้อย่างย่อยยับไม่ได้”
มีคนมากมายต่างก็หวังว่าหลินหยุนอย่าแพ้แบบย่อยยับจนเกินไป ไม่มีสักคนที่จะพูดว่าหลินหยุนอาจจะสามารถชนะได้
เห็นได้ชัดว่า แทบจะไม่มีใครเชื่อว่าหลินหยุนจะสามารถชนะการแข่งขันกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนได้
ฉู่หยุนหวาเดินมาอยู่ตรงหน้าของหลินหยุน จ้องมองหลินหยุนด้วยใบหน้าที่จริงจัง เขาไม่ได้จะมาเตือนให้หลินหยุนยอมแพ้ แต่กลับพูดว่า “ฉันรู้ข่าวมานิดหน่อย บางทีอาจจะช่วยคุณได้”
เดิมทีหลินหยุนก็ไม่อยากฟัง ในสายตาของเขา ต่อให้ตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนจะมีความสามารถขนาดไหน แต่ด้วยทักษะการแพทย์ของเขาที่อยู่ในแถวหน้าของวงการแพทย์มานับร้อยๆปี คงจะสามารถเอาชนะได้ไม่ยาก
แต่ว่า เขาไม่อยากปฏิเสธความหวังดีของฉู่หยุนหวา
พอเห็นหลินหยุนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ท่าทางเหมือนกำลังตั้งใจฟังอยู่ ฉู่หยุนหวาจึงพูดเบาๆไปว่า “ทักษะการแพทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน บางทีคงจะไม่ใช้ทักษะการแพทย์ หรือวิชาการฝังเข็ม แต่เป็นวิชาการกลั่นยา!”
“มีอยู่ครั้งหนึ่งผมโชคดีที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างสองปรมาจารย์ของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน พวกเขาบอกว่าทักษะการแพทย์ทำได้แค่ลดอาการเจ็บปวดของโรค วิชาการฝังเข็มทำได้แค่รักษาต้นตอของโรค แต่มีเพียงแค่วิชาการกลั่นยา ที่สามารถชุบชีวิตคนตายได้”
แววตาของหลินหยุนสั่นไหวเล็กน้อย “วิชาการกลั่นยาเหรอ? ถ้าเกิดเป็นวิชาการกลั่นยาล่ะก็ ก็สามารถกลั่นยาทิพย์ล้ำเลิศออกมาได้ จริงอยู่ที่มันสามารถชุบชีวิตคนตายขึ้นมาได้ แต่ว่าด้วยฝีมือของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน คงจะยังไปไม่ถึงขั้นนั้น!”
ถ้าเกิดเป็นหมอคนอื่น บางทีคงจะไม่สามารถทำอะไรกับวิชาการกลั่นยาได้จริงๆ แต่ว่าหลินหยุนเป็นถึงมหากษัตริย์ชางฉองที่ปราบปรามโลกมาแล้วนับหมื่นๆใบ วิชาการกลั่นยาแม้จะไม่ใช่วิชาถนัดของเขา แต่ว่าในหมู่ผู้บำเพ็ญเซียนนับหมื่น ก็มีแค่ไม่กี่คนที่อยู่เหนือกว่าเขา
วิชาการกลั่นยาของโลก ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำ
พอเห็นหลินหยุนกำลังใช้ความคิดอยู่ ฉู่หยุนหวาจึงเอามือประสานกันแล้วพูดว่า “หวังว่าจะสามารถช่วยเหลือคุณได้!”
พอพูดจบ ก็หันหลังกลับไปยังที่นั่ง
“ขอบคุณ” พอฉู่หยุนหวาเดินไปได้ครึ่งทาง หลินหยุนถึงได้พูดออกมาเบาๆ
เท้าของฉู่หยุนหวาหยุดไปพักหนึ่ง ไม่ได้หันกลับมา เร่งฝีเท้ากลับไปเร็วกว่าเดิม
“ให้ผมดูหน่อยสิ ใครกันที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ถึงได้กล้าท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนของพวกเรา?” คนยังมาไม่ถึง แต่ก็มีเสียงที่เหยียบหยามของชายหนุ่มดังขึ้นมา ดังจากข้างนอกมาอย่างข้างใน
ตามมาด้วย ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดขาว เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง
พอเห็นชายหนุ่มคนนี้ คิ้วของเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ค่อยๆขมวดขึ้นมา พูดกับตัวเองด้วยไม่รู้ตัวว่า “นั่นมันเซี่ยหมิงเห้านี่ ไม่เห็นนานขนาดนี้ ตอนนี้โตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”
เซี่ยหมิงเห้า เป็นลูกชายของพี่คนรองเซี่ยเจี้ยนโก๋ นับตามความอาวุโส ก็ควรจะเรียกเขาว่าลุงสาม!
“ดูเหมือนฉันจะคำนวณไว้ไม่ผิด คนเฝ้าประตูของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนในครั้งนี้ มาถึงตระกูลเซี่ยจริงๆด้วย”
ข้างหลังเซี่ยหมิงเห้ามีชายวัยรุ่นสองคนที่อายุราวๆสิบห้าสิบหกตามมาด้วย ล้วนเป็นคนของตระกูลเซี่ย แต่ว่าเซี่ยเจี้ยนโก๋ไม่รู้จัก ยังไงซะ เขาก็ออกจากตระกูลเซี่ยมานานขนาดนี้แล้ว
ท่านหลินตามหลังคนพวกนี้มา ดูจากท่าทางของคนพวกนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้เห็นท่านหลิวที่เป็นถึงประธานของสมาคมการแพทย์แห่งประเทศจีนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
หลังจากที่เซี่ยหมิงเห้าเดินเข้ามา ก็เดินไปยังที่นั่งของท่านหลิวอย่างหน้าด้านๆ จากนั้นก็นั่งลงไป
“ใครกันที่อยากจะท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนของพวกเรา? ก้าวเท้าออกมา ให้ผมดูหน่อยว่าคู่ควรหรือเปล่า!