จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 384 การฝังเข็มไท่อี
ผู้ป่วยไม่ได้โต้เถียง ทำแค่ยิ้มอย่างเจ็บปวด ไม่มีใครเห็นความโศกเศร้าที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเขา
ทุกคนต่างก็จ้องมองเซี่ยหมิงเห้าด้วยความโกรธและโห่ร้องใส่เขา ในฐานะหมดคนหนึ่ง การใช้คำพูดแบบนี้ในการบั่นทอนกำลังใจผู้ป่วย มันจะเกินไปแล้ว!
ท่านหลิวพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจว่า “ไม่ได้ขอให้พวกคุณรักษาอาการของคนไข้ แต่ว่าขอแค่ลดอาการเจ็บปวดของคนไข้ และยืดชีวิตของคนไข้ มันเป็นหน้าที่ในฐานะหมอคนหนึ่ง”
เซี่ยหมิงเห้าถึงได้พูดด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลายว่า “โอ้ ที่แท้ของแบบนี้นี่เอง เจ้าก็พูดตั้งแต่สิ!”
“งั้นข้าขอก่อน!”
เซี่ยหมิงเห้ามองไปยังหลินหยุน เหมือนกำลังขอความคิดเห็นจากเขา
หลินหยุนไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เซี่ยหมิงเห้าจึงพูดไปว่า “เจ้าไม่พูดอะไรถือว่าเจ้ายอมรับแล้วนะ”
พอพูดจบ ก็เดินไปอยู่ตรงหน้าเตียงคนไข้
เซี่ยหมิงเห้าหยิบกล่องใส่เข็มเงินออกมาจากอกเสื้อ ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ จากนั้นก็มองไปยังคนรอบๆ แล้วเผยใบหน้าที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ดูให้ดีล่ะ!”
เซี่ยหมิงเห้าร้องออกมาด้วยความมั่นใจ ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของมือขวาในการจับเข็มเงินยาว แล้วแทงเข้าไปยังตับที่อยู่กลางอก
“โรคที่เขาเป็นคือมะเร็งตับ ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในการใช้ล้างพิษในร่างกาย เมื่อเกิดความเสียหายกับตับ มีพิษมากมายที่ไม่สามารถขับออกไปได้ ทำให้บวมไปทั้งตัว”
“ข้าฝังเข็มไปยังชีพจรบนตับของเขา เพื่อกระตุ้นการทำงานของตับ ถึงแม้จะไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้จนหมดสิ้น แต่ก็เพียงพอให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองเดือน”
เซี่ยหมิงเห้าขยับปากพูด แต่ตรงมือกลับไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย
เข็มเงินที่เขาใช้เป็นเข็มพิเศษ ยาวยิ่งกว่าเข็มเงินทั่วไป
เทคนิคที่เขาใช้ก็แปลกมาก แต่ละครั้งที่ขยับ กลับขยับอย่างเชื่องช้ามาก ราวกับว่าตรงหน้ามีกำแพงที่ไร้รูปร่างอยู่ ที่ค่อยห้ามเข็มเงินของเขา
หมอที่อยู่ในสนามต่างก็มีสีหน้าที่มึนงง ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย เทคนิคการฝังเข็มแบบนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่ว่า ดูเหมือนว่าท่านหลิวกับฉู่หยุนหวาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง
“นี่มัน การฝังเข็มไท่อีที่หายสาบสูญไปนาน!”
“ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย รวดเร็วไม่ธรรมดา นี่เป็นอัคนิรุทรที่เป็นหนึ่งในการฝังเข็มไท่อี!”
หลังจากนั้น เซี่ยหมิงเห้าก็เร่งความเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่ว่าพอแทงไปหนึ่งเข็ม ก็ใช้เวลาไปกว่าสิบนาทีถึงค่อยดึงออกมา ระหว่างที่กำลังฝังเข็มอยู่ก็ยิ่งทำให้คนไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่
ฉู่หยุนหวาพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า “การฝังเข็มไท่อี ช่างเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยม!”
“นึกไม่ถึงว่า แม้ว่าคนของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนจะหยิ่งยโส แต่ว่ากลับมีฝีมือจริงๆ!”
“แค่เทคนิคการฝังเข็มไท่อี คนที่อยู่ในสนาม ก็ไม่มีใครที่จะสามารถเทียบได้!”
พอพูดจบ ฉู่หยุนหวาก็หันไปมองหลินหยุนด้วยความเป็นห่วง
สีหน้าของหลินหยุนยังคงเป็นใบหน้าที่นิ่งสงบ ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความสงบนิ่ง ดูเหมือนจะไม่อยากไปมองเซี่ยหมิงเห้าแม้แต่น้อย
ใบหน้าของชายชราอย่างเซี่ยเจี้ยนโก๋กำลังสั่นไหว มือทั้งสองก็กุมเข้าด้วยกันอย่างหนาแน่น “การฝังเข็มไท่อี! เป็นการฝังเข็มไท่อีงั้นเหรอ! คราวนี้หลินหยุนเจอปัญหาแล้ว?”
ในฐานะที่เป็นเกิดในตระกูลเซี่ย ถึงแม้จะไม่ได้เรียนทักษะการแพทย์ของตระกูลเซี่ย แต่เขาก็เข้าใจดีว่าวิชาการฝังเข็มไท่อีอยู่ระดับไหนของตระกูลเซี่ย
นั่นเป็นวิชาการฝังเข็มที่อยู่ในระดับสูงสุด
นึกไม่ถึงว่าเซี่ยหมิงเห้าที่ยังเยาว์วัย จะสามารถเรียนวิชาการฝังเข็มไท่อีได้แล้ว!
ไม่แปลกใจ ที่ตระกูลเซี่ยวางใจให้เซี่ยหมิงเห้าเป็นคนเฝ้าประตู
พอรอไปสักพัก เซี่ยหมิงเห้าก็เก็บเข็มกลับมา จากนั้น ก็ถอนหายใจยาว
“ได้ล่ะ พอผ่านการรักษาจากการฝังเข็มไท่อีของข้า อย่างน้อยๆเจ้าก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองเดือน!”
คนป่วยคนนั้นดูตื่นเต้นมาก แถมท่าทางก็ไม่ได้เจ็บปวดเหมือนเมื่อกี้นี้แล้ว ถึงแม้พฤติกรรมของเซี่ยหมิงเห้าจะไม่ดี แต่ทักษะการแพทย์ของเขาก็อยู่ในระดับสูงจริงๆ
อาการป่วยของเขาได้ผ่านหมอผู้เชี่ยวชาญมามากมาย ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอย่างมากก็สามารถมีชีวิตได้อีกสิบวัน ตอนนี้พอโดนชายหนุ่มไร้มารยาทคนนี้ฝังเข็มได้สักพัก ก็กลับสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสองเดือน แถมยังสามารถลดความเจ็บปวดของโรคได้อีก
“ขอบคุณมาก หมอเทพ!” ผู้ป่วยคนนี้มองไปยังเซี่ยหมิงเห้าด้วยใบหน้าที่ซาบซึ้ง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าขยับไม่สะดวก เกรงว่าเขาคงคุกเข่าก้มหัวให้กับเซี่ยหมิงเห้าแล้ว
เซี่ยหมิงเห้าพูดด้วยใบหน้าที่ดูถูกว่า “เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะมีคนที่ไม่รักชีวิตต้องการจะท้าแข่งกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ข้าก็คงไม่ยอมลงมือช่วยชีวิตคนที่ใกล้จะลงโรงแล้วหรอก!”
ใบหน้าของผู้ป่วยเต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่รู้ควรจะพูดอะไรต่อดี
ท่านหลิวและคนอื่นๆต่างก็แสดงสีหน้าที่แย่ พูดตรงๆ พฤติกรรมของเซี่ยหมิงเห้า คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็มีอายุที่สามารถเป็นพ่อของเขาได้ทั้งนั้น จึงอยากจะดุด่าเขาสักประโยค
แต่ว่า ทักษะการแพทย์ของเซี่ยหมิงเห้ากลับแสดงออกอยู่ตรงนั้น พวกเขาจึงทำได้แค่โกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร!
ตอนนี้ หวังจริงๆว่าจะมีคนกล้ายืนออกมา แล้วสั่งสอนเจ้าเด็กหยิ่งผยองคนนั้นด้วยทักษะการแพทย์ที่เหนือชั้นยิ่งกว่า ให้เขารู้ว่าเหนือยอดฝีมืออย่างมียอดฝีมือยิ่งกว่า เหนือฟ้าอย่างมีฟ้า!
แต่ว่า ความคิดพวกนี้ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น แม้แต่การฝังเข็มไท่อีที่หายสาบสูญอย่างออกมาแล้ว ยังมีวิชาการฝังเข็มอะไรที่สามารถเหนือกว่านี้ได้อีก?
ส่วนหลินหยุน คนรอบๆต่างก็ไม่เคยคาดหวังกับเขาอยู่แล้ว!
เซี่ยหมิงเห้ามองหลินหยุนด้วยความดูถูก พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ราชาการแพทย์ ถึงตาเจ้าแล้ว!”
วัยรุ่นสองคนที่อยู่ข้างหลังเซี่ยหมิงเห้า ยิ้มอย่างมั่นใจและเย็นชา “ราชาการแพทย์? แบบนี้เนี่ยเหรอ ให้เป็นคนขัดรองเท้าพี่เห้ายังไม่คู่ควรด้วยซ้ำ ราชาการแพทย์อะไร!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจพวกเขา เดินไปอยู่ตรงหน้าของผู้ป่วยอย่างช้าๆ
มองผู้ป่วยไปแวบหนึ่ง จากนั้นหลินหยุนก็พูดอย่างสงบนิ่งว่า “เขาพูดถูกแล้ว มะเร็งได้แพร่เชื้อไปยังตับของคุณจนระยะสุดท้ายแล้ว เมื่อผ่านการรักษาจากเขา สามารถยืดชีวิตของคุณได้อีกสองเดือน”
พอได้ยินหลินหยุนยอมรับผลการรักษาด้วยตัวเอง เซี่ยหมิงเห้าก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่
“แต่ว่า เพื่อที่จะสามารถยืดชีวิตออกไปได้อีกสองเดือน คุณจะต้องแบกรับความทรมานจากความเจ็บปวด เพราะว่ายาระงับความเจ็บปวดปรกติไม่มีผลกับคุณแล้ว”
สีหน้าของเซี่ยหมิงเห้าเปลี่ยนไปทันที แววตาได้เผยความตกใจออกมาแวบหนึ่ง ไม่ได้โต้เถียงแต่อย่างใด
ดูเหมือนว่า สิ่งที่หลินหยุนพูดออกมาจะเป็นเรื่องจริง
คนป่วยหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองเดือน ก็โชคดีมากแล้ว แน่นอนว่าต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย”
คนป่วยคนนี้มองโลกในแง่ดีมาก
หลินหยุนพูดว่า “โรคของคุณ ผมไม่สามารถรักษาได้”
“แต่ ผมสามารถให้ทางเลือกกับคุณได้หนึ่งอย่าง”
“ผมสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อดึงพลังชีวิตที่เหลือทั้งหมดของคุณออกมา เพื่อยืดชีวิตคนไปอีกสองปี แถมยังสามารถปิดประสาทรับความเจ็บปวดของคุณ เพื่อลดอาการเจ็บปวดของคุณ”
“แต่ สิ่งที่ต้องจ่าย หลังจากที่ผมใช้วิชาการฝังเข็ม เซลล์ที่อยู่ในร่างกายคุณทั้งหมด จะดึงพลังชีวิตของคุณออกมาล่วงหน้า จากนั้นต่อให้เป็นเทพองค์ไหน ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคุณได้”
ผู้ป่วยมีสีหน้าที่ตื่นเต้น “จริงเหรอ? ถ้าเกิดมีวิธีแบบนั้นจริงๆ งั้นผมก็ยิ่งดีเป็นอย่างยิ่ง!”
หลินหยุนพูด “คุณคิดให้ดีๆ เมื่อเริ่มวิชาการฝังเข็ม หลังจากนั้นต่อให้จะมีวิธีรักษาโรคของคุณ ก็ไม่ทันแล้ว!”
ผู้ป่วยพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่นว่า “ฮ่าๆ คุณหมอ คุณแค่ใช้วิชาการฝังเข็มก็พอแล้ว ผมมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่สองเดือน ภายในสองเดือนนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็คงไม่มีวิธีที่จะรักษาโรคมะเร็งได้หรอก เพราะงั้นหลังจากนั้นสองเดือนผมต้องตายอย่างแน่นอน ถ้าเกิดสามารถมีชีวิตต่อได้อีกสองปี แถมยังไม่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการป่วยของโรค คุณก็เป็นผู้มีพระคุณของผม!”
“หมอเทพ คุณลงมือได้อย่างสบายใจได้เลย! ผลลัพธ์ทั้งหมด ผมขอรับเอาไว้เอง!”
หลินหยุนพูด “ดี!”
หลินหยุนหยิบกล่องเข็มเงินออกมา ถือเข็มเต็มมือ จากนั้นก็เริ่มลงมือทำทีละหลายๆอย่าง
เทคนิคของหลินหยุนรวดเร็วจนทำให้สายตาของคนเกิดภาพติดตา แถมแต่ละขั้นตอนก็ใส่ใจอย่างเต็มที่ ราวกับแม่น้ำที่ไหลริมอย่างอิสระ ดูแล้วน่านับถือเป็นอย่างมาก
“เขาสามารถลดความรุนแรงของโรคมะเร็งกับความเจ็บปวดของโรคได้จริงๆเหรอ? แถมยังสามารถยืดชีวิตได้อีกสองปี?” หมอคนหนึ่งที่ผมและหนวดขาวไปทั้งหน้า ถามออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
“โม้หรือเปล่า! นั่นเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเลยนะ! จะสามารถยึดชีวิตอีกสองปีได้ยังไง?”
“แต่ว่าผมว่าเทคนิควิชาการฝังเข็มของเขา ดูเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก แถมวิชาการฝังเข็มแบบนี้ไม่เคยปรากฏออกมาก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นวิชาระดับสูงที่หายสาบสูญไปนานก็ได้ บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดก็ได้?”
“เป็นไปไม่ได้!” เซี่ยหมิงเห้ายิ้มอย่างเย็นชา “แม้แต่การฝังเข็มไท่อีของตระกูลเซี่ยของข้ายังทำได้แค่ยืดชีวิตของเขาได้อีกสองเดือน บนโลกนี้ยังมีวิชาการฝังเข็มแบบนั้นที่สามารถเทียบกับการฝังเข็มไท่อีของตระกูลเซี่ยของพวกเราได้อีก?”