จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 387 แค่ขยะพวกแกยังเอามาเป็นของล้ำค่า
หลินหยุนมองไปยังเตาทรงกลมเล็กๆที่เซี่ยหมิงเห้าเอาออกมา โดยความสนใจเล็กน้อย
เซี่ยหมิงเห้ายิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ “เป็นไง? ไม่เคยเห็นใช่ไหม? รู้ไหมว่านี่คืออะไร? อยากจะรู้ไหมว่ามันใช้ยังไง?”
หลินหยุนยังคงไม่พูดอะไร แต่ว่าในแววตากลับเผยความขี้เล่นออกมา
คนรอบๆพอเห็นหลินหยุนโดนเซี่ยหมิงเห้าดูถูก ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป เอาแต่ถอนหายใจอยู่เงียบๆ “จบแล้ว ตอนนี้กลายเป็นการทำร้ายตัวเองแท้ๆ! เมื่อกี้หมอเทพหลินไม่น่าพูดจาใหญ่โตแบบนั้นเลย จะใช้วิธีเดียวกันกับเจ้าเด็กนั้นในการรักษาอาการป่วยของคนไข้”
“ไม่งั้น ตอนนี้ยังสามารถใช้วิชาการฝังเข็มในการรักษาได้!”
“ดูจากท่าทางของหมอเทพหลิน ดูเหมือนจะไม่เคยเห็นวิชาการกลั่นยามาก่อน คราวนี้ได้ขายขี้หน้าแน่!”
คนส่วนใหญ่ก็เอาแต่ก้มหน้า ไม่อยากไปมองหน้าที่กำลังได้ใจของเซี่ยหมิงเห้า
เซี่ยเจี้ยนโก๋เองก็ถอนหายใจ “เฮ้อ เสี่ยวหยุนยังคงเด็กเกินไป!ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ตอนนี้เรียกได้ว่าทำตัวเองแท้ๆ!”
หลินหยุนกวาดสายตากลับมา มองไปยังหน้าของเซี่ยหมิงเห้าที่กำลังได้ใจ แล้วพูดอย่างสงบนิ่งว่า “ข้าแค่อยากจะรู้ว่า วิชาการกลั่นยาของเจ้า เมื่อเทียบกับวิชาการกลั่นยาของหุบเขาเทพยา มันจะเป็นยังไง?”
สีหน้าของเซี่ยหมิงเห้าเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก มองหลินหยุนด้วยความตกใจ “เจ้ารู้จักหุบเขาเทพยาด้วยเหรอ?”
จากนั้นเซี่ยหมิงเห้าก็แอบสงสัยในใจ “หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิชาการกลั่นยาด้วย?”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้! ต่อให้เขาจะเป็นนักบู๊ ก็ไม่แน่สักหน่อยว่าลักษณะร่างกายของเขาจะสามารถเป็นนักกลั่นยาได้ ถ้าอยากจะใช้ชี่แท้ในการปล่อยไฟออกมา จำเป็นต้องมีลักษณะร่างกายที่มีแค่หนึ่งในหมื่น แถมยังต้องได้รับการสั่งสอนจากผู้อาวุโสของโลกนักกลั่นยา ไม่งั้นไม่มีทางที่จะเป็นนักกลั่นยาได้!”
เซี่ยหมิงเห้าค่อยๆสงบลง เขารู้สึกว่าบางทีหลินหยุนอาจจะเคยได้ยินชื่อของหุบเขาเทพยาจากที่ไหนสักที่ก็ได้
“เจ้าหนุ่ม ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็เป็นคนที่รู้เรื่องของโลกมิใช่น้อย กลับเคยได้ยินชื่อของหุบเขาเทพยาสักด้วย!”
“หุบเขาเทพยาอยู่ในจุดสูงสุดของโลกนักกลั่นยา วิชาการกลั่นยาของข้าเมื่อเทียบกับพวกเขา แน่นอนว่ายังห่างชั้นอยู่มาก!”
“แต่ว่าเจ้าถามเรื่องนี้ทำไมกัน? หรือว่าเจ้ายังเคยเอาชนะยอดฝีมือในการกลั่นยาของหุบเขาเทพยาด้วยรึไง? ฮ่าๆๆๆ!”
เซี่ยหมิงเห้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความได้ใจ คำพูดสุดท้ายเป็นการพูดเยาะเย้ยหลินหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินหยุนหัวเราะออกมาอย่างช้าๆ “นึกไม่ถึงว่าหุบเขาเทพยากลับเป็นจุดสูงสุดในโลกนักกลั่นยาของพวกแก”
ในน้ำเสียงของหลินหยุน เต็มไปด้วยความดูถูก
“ทักษะแค่นั้นของหุบเขาเทพยา ในสายตาของข้ามันก็เป็นแค่ขยะ นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเอามาเป็นของล้ำค่า”
“ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าอะไรคือวิชาการกลั่นยาที่แท้จริง”
พูดจบ หลินหยุนก็เริ่มขยับ จากนั้นจู่ๆก็มีส่วนผสมของยาลอยออกมาจากแหวนเก็บของ ลอยอยู่กลางอากาศราวๆสามฟุตของหลินหยุน
หมอธรรมดาพวกนั้นต่างก็ตื่นตกใจ ภาพตรงหน้าของพวกเขาเหมือนกับเวทมนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่า นักบู๊อย่างกู่เชียนซานและพวกเซี่ยหมิงเห้า สีหน้ากลับเปลี่ยนไปอย่างมาก
พวกเขาเคยได้ยินว่ามีความสามารถหนึ่งที่ชื่อ คาถาแขนเสื้อเอกภพ
นั่นเป็นวิชาที่มีเพียงแค่ยอดปรมาจารย์ที่สามารถใช้ได้
หลินหยุนอายุน้อยขนาดนี้ จะไปมีความสามารถเทพขนาดนั้นได้ยังไงกัน!
“วิชาการกลั่นยาที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้เตากลั่นยา”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ กางแขนทั้งสองข้างออกมาในระดับเดียวกัน จากนั้นก็เอามือประสานกัน
จากนั้น ก็มีเปลวไฟออกมาจากอากาศ และเริ่มกลั่นส่วนผสมของยาพวกนั้น
ครั้งแรกที่หลินหยุนกลั่นยาปฐมภูมิ ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ตอนนั้นความแข็งแกร่งของเขาเพิ่งอยู่ในแดนปฐมภูมิ
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของหลินหยุนอยู่ในแดนแด่เทพเจ้าแล้ว แค่สิบนาที ก็สามารถกลั่นยาปฐมภูมิได้สำเร็จ
มีกลิ่นหอมละมุนลอยเข้ามาจมูก มีโอสถที่โปร่งใสกำลังลอยอยู่กลางอากาศ และกำลังเปล่งประกายออกมาราวกับหยก
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!
แม้แต่ใบหน้าของเซี่ยหมิงเห้าเองก็เต็มไปด้วยความตกใจ
นี่ นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!
“เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
“บนโลกนี้ยังมีทักษะการแพทย์ที่อัศจรรย์ขนาดนี้อยู่ด้วยเหรอ?”
“ที่แท้นี่ต่างหากถึงจะเป็นการกลั่นยาที่แท้จริง!”
“ยาเม็ดนั้นจะต้องเป็นโอสถเซียนในตำนานอย่างแน่นอน!”
“ใช่แล้ว น่าจะเป็นโอสถเซียน โลกปรกติจะมีโอสถที่อัศจรรย์แบบนี้ได้ยังไงกัน?”
“โอสถนี้ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ภายนอก หรือกลิ่น ล้วนเหนือชั้นกว่ายาที่เด็กจากตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนกลั่นออกมาเป็นร้อยเท่า!”
“ถูกแล้ว เจ้าเด็กนั้นเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว กว่าจะสามารถกลั่นเม็ดยาสีดำที่ไม่น่ามองนั้นออกมาได้ แถมยังเป็นโอสถที่เหม็นมาก แต่กลับทำท่าดีใจยกใหญ่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสักจริง!”
“แกดูเจ้าเด็กนั้นสิ ตอนนี้มองตาค้างไปเลย!เมื่ออยู่ต่อหน้าปรมาจารย์ที่แท้จริง ความสามารถของเขาก็เป็นแค่ขยะ!”
หมอที่อยู่รอบๆพอได้โอกาส ก็เริ่มพูดจาโจมตีเซี่ยหมิงเห้าไม่หยุด ราวกับว่าอยากจะคืนความอับอายที่ได้รับเมื่อกี้กลับไปให้หมด
เซี่ยหมิงเห้าไม่ได้ฟังคำดูถูกของคนรอบๆแม้แต่น้อย กำลังจ้องมองเม็ดยาที่ลอยอยู่ข้างๆหลินหยุนด้วยใบหน้าที่ตกใจ
“ขั้นสูง เป็นโอสถขั้นสูง! นี่จะต้องเป็นโอสถขั้นสูงอย่างแน่นอน!”
“โอ้พระเจ้า เขากลับสามารถกลั่นโอสถขั้นสูงออกมาได้ในครั้งเดียว!แถมยังทำได้ในทันที นี่มันเป็นไปได้ยังไง?”
“ต่อให้เป็นโม่จือมิ่งที่เป็นนักกลั่นยาอันดับหนึ่งของหุบเขาเทพยา ก็ทำไม่ได้!ไม่สิ ต่อให้รวมโม่จือมิ่งสิบคน ก็เทียบกับนิ้วเขาแค่นิ้วเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ไม่แปลกที่เมื่อกี้เขาบอกว่าเอาวิชาการกลั่นยาของหุบเขาเทพยาเป็นของล้ำค่า ในสายตาของเขามันก็แค่ขยะ ที่แท้เขาต่างหากที่เป็นปรมาจารย์กลั่นยาที่แท้จริง บนโลกนี้ไม่มีใครที่สามารถเทียบเขาได้แล้ว!”
เซี่ยหมิงเห้าตกอยู่ในอาการช็อกอย่างจริงจัง เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่า ในโลกนี้ยังมีวิธีการกลั่นยาที่อัศจรรย์ขนาดนี้อยู่ด้วย
ก็เหมือนกับผู้เล่นระดับบรอนซ์คนหนึ่ง ที่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แถมยังรู้สึกว่าทักษะของตัวเองสามารถเอาชนะนักกีฬาอีสปอร์ตได้อย่างสบาย
แต่หลังจากที่เจอยอดฝีมือที่แท้จริง ถึงได้รู้สึกตัวว่า ที่แท้โลกนี้ยังมีการเคลื่อนไหวที่อัศจรรย์ขนาดนี้อยู่ด้วย อีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ!
ตอนนี้เซี่ยหมิงเห้าก็มีอารมณ์แบบนั้น ไม่ ยังต้องเพิ่มไปอีกสิบเท่า ร้อยเท่า!
หลินหยุนไม่ได้สนใจเซี่ยหมิงเห้าที่กำลังอึ้งอยู่ เดินไปข้างหน้า แล้วเอาโอสถให้กับผู้หญิงคนนั้น “กินมันซะ!”
“แม้ว่ามันไม่สามารถรักษาโรคของคุณได้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังสามารถช่วยให้คุณมีชีวิตอยู่ได้อีกห้าปี”
ยาปฐมภูมิที่แท้จริงของโลกเซียน คนธรรมดาเมื่อกินเข้าไปเหมือนได้เกิดใหม่ แต่ว่าด้วยข้อจำกัดด้านส่วนผสมยาปฐมภูมิที่หลินหยุนกลั่นออกมา แน่นอนว่าผลของยาก็ต้องหายไปเยอะ
“ห้า……ปี!” ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองหลินหยุนเหมือนไม่อยากจะเชื่อ กุมโอสถด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
“ขอบคุณมากหมอเทพ!”
ผู้หญิงน้ำตาไหลริม แล้วกินโอสถของหลินหยุน ส่วนโอสถสีดำไม่น่ามองที่เซี่ยหมิงเห้าเป็นคนกลั่นออกมา ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ได้กลืนมันลงไป แถมแน่นอนว่าตอนนี้ก็คงไม่กินมันอีกแล้ว
พอเห็นว่าผู้หญิงคนนี้กินโอสถลงไป สายตาของทุกคน ต่างก็จ้องมองไปที่ตัวของเธอ
โอสถแค่มีรูปลักษณ์ดีมันยังไม่พอ ต้องใช้การได้ด้วย
หลังจากนั้นหนึ่งนาที อาการป่วยของโรคบนใบหน้าของผู้หญิงเริ่มเบาลงอย่างเห็นได้ชัด
ท่านหลิวมองไปยังเซี่ยหมิงเห้า แล้วถามด้วยเสียงจริงจังว่า “ตอนนี้คุณส่งคนมากับฉันเพื่อไปตรวจสอบผลของโอสถเถอะ!”
ใบหน้าของเซี่ยหมิงเห้าดูหมองมาก ยิ้มอย่างขมขื่น “ยังต้องตรวจสอบอะไรอีก!ข้าแพ้แล้ว ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”
วิชาการกลั่นยาอันน่าอัศจรรย์ที่หลินหยุนแสดงออกมา ทำให้เซี่ยหมิงเห้ายอมรับจากใจจริง ทำให้เขาไม่สามารถหาอะไรมาโต้แย้งได้อีก
เซี่ยหมิงเห้ายอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าโอสถของหลินหยุนเหนือชั้นกว่า
แม้แต่คนที่หยิ่งยโสอย่างเซี่ยหมิงเห้า ยังยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีใครที่คิดจะสงสัยผลโอสถของหลินหยุนอีก
ท่านหลิวเองก็ดูสบายมาก ประกาศผลในทันที “ถ้าเกิดรอบนี้คุณยอมรับความพ่ายแพ้ งั้นก็เท่ากับว่าคุณแพ้ไปสองรอบแล้ว การแข่งนี้หลินหยุนก็จะกลายเป็นผู้ชนะ”
เซี่ยหมิงเห้าจึงเพิ่งได้สติ มองไปยังหลินหยุน แววตาได้เผยความยกย่องออกมา “ข้าแพ้แล้ว ตามกฎที่ระบุเอาไว้ เจ้าสามารถขออะไรกับตระกูลเซี่ยก็ได้หนึ่งข้อ”
“ไม่ว่าเจ้าจะขอวิชาการฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลเซี่ย หรือจะเป็นวิชาการกลั่นยา พวกเราก็จะไม่ปฏิเสธ”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “ข้ามีแค่คำขอเดียว”
จากนั้น หลินหยุนก็มองไปยังเซี่ยเจี้ยนโก๋ “คุณมาพูดด้วยตัวเองดีกว่า!