จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 403 ฉินหลันก็มาด้วย
ทำไมต้องอธิบายให้แกฟังด้วย……ทำไมต้องอธิบายให้แกฟังด้วย……”
เถียนชุ่ยชุ่ยตะลึงงันอยู่กับที่ในทันที!
หู สมอง ดังก้องไปด้วยคำพูดนี้ ราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังสนั่น อึกทึกกึกก้อง!
จางเหมิงและเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ตื่นตระหนกตกใจ พวกเขาไม่เคยเห็นหลินหยุนในท่าทางที่แข็งแกร่งดุดันแบบนี้มาก่อน!
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็ตะลึงงันอยู่กับที่!
ด้านข้าง เว่ยเทียนหมิงก็ยิ่งกำหมัดแน่นขึ้น
ร่างกายของหลินหยุนเปล่งพลังอันแข็งแกร่งน่าเกรงขามออกมา ทำให้เงามืดในจิตใจของเขายิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
เซี่ยหยู่เวยแสดงท่าทางที่สงสารและได้มองไปยังเถียนชุ่ยชุ่ย รู้สึกว่าเถียนชุ่ยชุ่ยกับเธอนั้นได้ประสบพบเจอกับเรื่องที่เลวร้ายในแบบเดียวกัน ถึงขนาดรู้สึกว่าเป็นหัวอกเดียวกัน
ในตอนนั้น หลินหยุนก็ปฏิบัติกับเธอแบบนี้เช่นกัน
หลังจากได้พบเห็นพลังความสามารถที่แท้จริงของหลินหยุนขณะอยู่ที่บ้านตระกูลอีแล้ว เซี่ยหยู่เวยรู้สึกเสียใจอย่างมาก แต่ว่า เธอมักจะบ่นตำหนิมากกว่า
โดยคนที่เธอบ่นตำหนินั้นก็คือหลินหยุนนั่นเอง
“หลินหยุนอ่ะหลินหยุน นายทำไมถึงยังกำเริบเสิบสาน เย่อหยิ่ง ไม่มีใครในสายตาแบบนี้ นายทำตัวเป็นเทพเจ้าที่สูงส่ง มองข้ามดูถูกพวกเราเหล่านี้ ถึงขนาดที่นายยังไม่อยากที่จะพูดอธิบายอะไรกับทุกคนบ้างเลย”
“ถ้าหากนายพูดอธิบายให้กับทุกคนฟัง พูดถึงความแกร่งกล้าสามารถของตนออกมา พวกคนเหล่านี้ยังจะมารังแกทำให้นายลำบากใจอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ? ”
“นายคิดว่านายเป็นใครทำไมมักชอบพูดว่าตนเองสูงส่งกว่าคนอื่น? ต่อให้นายแกร่งกล้าสามารถมากแค่ไหน แต่ต้องรู้เอาไว้นะว่าเหนือคนยังมียอดคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า หรือว่าความสามารถของนายจะแกร่งกล้าเกินกว่าปรมาจารย์หลินอย่างนั้นเหรอ? ”
ในที่สุดเถียนชุ่ยชุ่ยก็ตั้งสติกลับคืนมา สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความอับอายและโกรธแค้นในทันที โดยที่เป็นคำพูดแบบเดิมนี้อีก อารมณ์น้ำเสียงที่เหมือนกัน สีหน้าท่าทางที่เหมือนกัน เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ราวกับว่าตนเองเป็นเพียงแค่พวกมดพวกแมลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา!
เถียนชุ่ยชุ่ยกัดฟันแน่น ระงับไฟความโกรธแค้นในจิตใจ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “หลินหยุน นายไม่ต้องมาใช้การพูดอธิบายอย่างเหยียดหยามเพื่อทำแบบว่าขอไปที ตอนนั้นฉันเคยหลงกลมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางที่จะหลงกลอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน! ”
“นายบอกว่านายไม่ใช่พนักงานของที่นี่ ถ้าอย่างนั้นนายพูดมาสิว่าใครเป็นคนเชิญนายมาร่วมงาน? ”
“แม้ว่าจะไม่ใช่ปรมาจารย์หลิน ก็คงต้องมีสักคนไม่ใช่เหรอ? พูดมาสิ ทำไมไม่พูดล่ะ? ”
เถียนชุ่ยชุ่ยตั้งใจอย่างมากที่จะต้องเปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของหลินหยุนต่อหน้าทุกคนให้ได้ เพื่อให้หลินหยุนอับอายขายหน้า
หลินหยุนมองไปที่เถียนชุ่ยชุ่ยอย่างสงบนิ่ง แม้ว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้อย่างมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกคนก็เป็นเพื่อนนักเรียนด้วยกัน หลินหยุนไม่มีทางที่จะลงมือฆ่าเธออย่างแน่นอน
แต่ว่า เถียนชุ่ยชุ่ยรนหาความตายโดยตลอด หากว่าไม่ลงโทษเธอบ้าง เกรงว่าเธอจะยังคงพูดพร่อยไม่หยุด
เถียนชุ่ยชุ่ยมองไปที่หลินหยุนที่ไม่พูดไม่จาอะไร ยังคิดอีกว่าหลินหยุนคงจะพูดอะไรไม่ออก ซึ่งแอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจเป็นอย่างมาก
“น่าขันเสียจริง คิดไม่ถึงว่าเมื่อครู่ฉันตกใจในตัวเขามาก ช่างน่าโมโหจริง ๆ ครั้งนี้ฉันจะต้อง เปิดโปงคำโกหกหลอกลวงของนายให้ได้อย่างแน่นอน ทำให้นายอับอายขายหน้าอย่างที่สุด! ”
หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า: “นี่คือสิ่งที่คุณหาเรื่องขึ้นเอง”
หลินหยุนตัดสินใจแล้วว่า จะสั่งสอนเถียนชุ่ยชุ่ยให้รู้เสียบ้าง
แต่ว่า ทันใดนั้นก็มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้น: “ฉันเองที่เป็นคนเชิญเขามา พวกคุณมีปัญหาอะไรไหม? ”
ฉินหลันในชุดกระโปรงยาวผ้าฝ้ายสีเมล็ดข้าวสาร รวบผมยาวมัดขึ้นเป็นมวย รูปร่างสูงบาง ท่าทางสง่างาม และถือแก้วไวน์ทรงสูงอยู่ในมือที่ขาวผ่อง ได้เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
หลินหยุนขยับสายตาเล็กน้อย ลมหายใจที่เย็นชาในร่างกายได้มลายหายไปทันที
“คิดไม่ถึงว่า พี่ฉินหลันก็มาด้วย! ถ้าอย่างนั้นคุณแม่ก็คงจะมาด้วยใช่หรือไม่? ” หลินหยุนเกิดความกังวลเล็กน้อยโดยได้กวาดสายตามองไปโดยรอบ แต่ก็ไม่พบเห็นเงาร่างของหวางซูเฟิน
ขณะนั้น หลินหยุนจึงเบาใจลงได้บ้าง เขาไม่ต้องการที่จะให้คุณแม่ทราบถึงสถานะของเขาก่อน
เถียนชุ่ยชุ่ยกับเพื่อนคนอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่รู้จักฉินหลัน แต่ก็ถูกบุคลิกท่าทางของเธอสยบเอาไว้
“ผู้หญิงที่สวยงดงาม! เธอคือใครกัน? ”
เถียนชุ่ยชุ่ยมีสีหน้างุนงง เซี่ยหยู่เวยก็เผยให้เห็นถึงสีหน้าที่ไม่เข้าใจ
มองเห็นฉินหลัน แม้ว่าพวกเธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ต่างก็เกิดความอิจฉาริษยาอยู่บ้าง
แต่ว่า สำนักงานใหญ่ของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปอยู่ที่มณฑลจงโจว ซึ่งคนจำนวนมากในเมือง หลินโจวต่างก็ไม่รู้จักฉินหลัน
เสิ่นหย่งขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยทันที แสดงสีหน้าท่าทางที่สงสัย และถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า:
“คุณคือผู้ช่วยฉินแห่งบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปใช่ไหม? ”
ฉินหลันมองไปที่เสิ่นหย่งด้วยความแปลกใจเล็กน้อย: “คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ? ”
ได้ยินฉินหลันยอมรับในสถานะของตัวเอง เสิ่นหย่งก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นทันที
“พ่อของฉันคือเสิ่นยู่หง ครั้งก่อนที่มีพิธีการเปิดร้านใหม่ของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป คุณไปตัดริบบิ้นเปิดงานด้วยตัวเอง ฉันจึงเคยพบเห็นคุณมาก่อน! ”
พิธีการเปิดร้านใหม่ของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในหลายสาขา ต่างก็เป็นฉินหลันที่ไปตัดริบบิ้นเปิดงาน ฉินหลันเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมีความสามารถ และยังเป็นคนที่สวยงดงาม ในแบบฉบับผู้หญิงที่ภายนอกดูแข็งกร้าวแต่จิตใจอ่อนโยน ทำให้คนจดจำเธอได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นเลือดร้อน
แต่ว่าสำหรับฉินหลันแล้ว เสิ่นหย่งเป็นคนที่ธรรมดาทั่วไปมาก ฉินหลันไม่เคยได้ให้ความสนใจในตัวเขาเลย
ยังดีที่ว่าฉินหลันจดจำเสิ่นยู่หงได้ รู้ว่าเขาประกอบกิจการโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งในบริเวณพื้นที่เมืองหลินโจวนี้ นับว่ามีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อย
“เดิมทีคือคุณชายเสิ่นนี่เอง สวัสดี! ”
ฉินหลันพยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าเป็นการทักทาย
เสิ่นหย่งตื่นเต้นอย่างมาก บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปคือวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ชั้นแนวหน้าของเมืองจงโจว กิจการได้พัฒนาขยับขยายไปทั่วทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน โดยที่กิจการของตระกูล ของเขานั้น เมื่อเปรียบเทียบกับกิจการที่ใหญ่โตของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปแล้ว มันก็เพียงแค่เล็กน้อยนิดเดียวเท่านั้น
ส่วนฉินหลันที่มีสถานะเป็นผู้ช่วยของประธานกรรมการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ถือได้ว่าเป็นคนดังในระดับสูงสุดของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ซึ่งนึกไม่ถึงว่าจะเรียกเขาว่าคุณชายเสิ่น
ทำให้เสิ่นหย่งตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาโปรดปรานอย่างคาดไม่ถึง!
“ผู้ช่วยฉินเกรงใจเกินไปแล้ว ฉันนั้นถือว่าเป็นคุณชายที่ไหนกัน ทั้งนี้ยังคงที่จะหวังให้คุณช่วยสนับสนุนกิจการของตระกูลของฉันให้มาก ๆ ในอนาคต” เสิ่นหย่งสายตาร้อนผ่าว หลงใหลอย่างมากในตัวของฉินหลันผู้หญิงที่ทั้งสวยงามและมีความคิดความสามารถ
แต่ว่า เสิ่นหย่งรู้ตัวเองดี ซึ่งรู้ว่าผู้หญิงอย่างฉินหลันนี้ เขาคงได้แต่มองไม่มีทางได้มาครอบครองอย่างแน่นอน
“นึกไม่ถึงว่าเป็นผู้ช่วยฉินแห่งบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป! ”
“ได้ยินว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงรองจากประธานกรรมการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเลย! ”
ผู้คนในหลายกลุ่มเล็กนั้น ต่างก็ทยอยเผยท่าทางที่ตกตะลึงออกมา!
ชื่อเสียงของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป จางเหมิงกับเหยียนเสวเหวินและเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างก็เคยได้ยินจากคำบอกเล่าของผู้อาวุโสของพวกเขา ทราบดีว่าวิสาหกิจนี้ยิ่งใหญ่มากจนถึงขนาดพวกเขาได้เพียงแต่แหงนหน้ามอง
โดยเฉพาะเว่ยเทียนหมิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง รับทราบและคุ้นเคยกับเรื่องราวของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเป็นอย่างดี
อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมานี้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก แม้แต่บริษัท หัวอัน กรุ๊ปของตระกูลส้งก็ยังถูกกดดันจนตกต่ำลง ทำให้ชื่อเสียงของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปยิ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักมากขึ้น
แต่ว่า เถียนชุ่ยชุ่ยที่มาจากตระกูลธรรมดาทั่วไป กลับไม่ทราบถึงชื่อเสียงของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
“พี่หย่ง บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปยิ่งใหญ่มากแค่ไหน? หากเมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลของพวกคุณล่ะ? เถียนชุ่ยชุ่ยถามขึ้นโดยไม่รู้จักความเป็นความตาย”
ในตอนนี้ จางเหมิงกับหวางหยู่หันและเพื่อนคนอื่น ๆ รวมถึงเว่ยเทียนหมิงและคนบริเวณโดยรอบ ต่างก็มองไปที่เถียนชุ่ยชุ่ยราวกับเธอเป็นคนโง่เขลา
ความไม่รู้เป็นตราบาปดั้งเดิมจริง ๆ!
เสิ่นหย่งหน้าตาแดงก่ำ อยากที่จะหลบหนีออกไปให้ไกลจากเถียนชุ่ยชุ่ยโดยเร็วที่สุด และทำตัวเป็นว่าไม่มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่โง่เขลาคนนี้ โดยแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกับเธอ
ธุรกิจของตระกูลของพวกเขานั้น จะหยิบยกมาเปรียบเทียบกับบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปได้อย่างไรกัน?
นี่มันไม่ใช่ว่ากลายเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะน่าขันไปทั่วแล้วหรอกเหรอ?
“อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาด บริษัท ตงหวัง กรุ๊ปเป็นวิสาหกิจขนาดใหญ่แห่งเมืองจงโจว และอยู่ในยี่สิบอันดับแรกของประเทศจีน ธุรกิจของตระกูลพวกเรานั้น จะนำมาเปรียบเทียบกับบริษัท
ตงหวาง กรุ๊ปได้อย่างไรกันล่ะ? เสิ่นหย่งรีบกระซิบว่ากล่าวขึ้น”
แบบนี้เองจึงทำให้เถียนชุ่ยชุ่ยรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปมากขึ้น
จากนั้น เถียนชุ่ยชุ่ยก็ตกตะลึง
หลินหยุนไปรู้จักมีความสัมพันธ์กับคนของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปได้อย่างไรกัน?
เขากับผู้หญิงคนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นนี้ มีความสัมพันธ์อะไรกัน?
เถียนชุ่ยชุ่ยไม่ยอมตายใจและได้ถามขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า: “คุณกับหลินหยุน มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกัน? ”
สำหรับเถียนชุ่ยชุ่ยและคนพวกนี้แล้ว ฉินหลันเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับพวกเธอสักเท่าไหร่ โดยยิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า: “พวกเราเป็นเพื่อนกัน ฉันเชิญเขามาที่นี่ พวกคุณมีปัญหาอะไรไหม? ”
เสิ่นหย่งรีบโบกมือทั้งสองข้างขึ้นทันที: “เปล่า ไม่มี ผู้ช่วยฉินอย่าได้เข้าใจผิดไป! ”
ผู้ช่วยฉินแห่งบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเป็นคนออกหน้าเอง เสิ่นหย่งและคนกลุ่มนี้จะมีใครกล้าที่จะพูดอะไรขึ้นอีกล่ะ?
เถียนชุ่ยชุ่ยมีสีหน้าท่าทางที่ไม่พอใจ: “ฮึ นับว่านายโชคดี ที่มีคนของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปมาช่วยออกหน้าแก้ต่างแทนให้! ”
“หลินหยุน พวกเราไปตรงนั้นกันเถอะ! ” ฉินหลันพูดขึ้น
หลินหยุนพยักหน้า: “ตกลง! ” พอดีเลยเพราะว่าเขาก็มีเรื่องที่ต้องการจะสอบถามฉินหลันอยู่เช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากไปนั้น ก็มีเสียงของผู้หญิงที่รีบร้อนกระวนกระวายใจดังขึ้น: “หลินหยุน เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ”