จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 404 ฉันพูดแล้วแต่คุณไม่เชื่อ
ในที่สุดพี่โล่โล่ก็กลับมาแล้ว
เดินมาอยู่ตรงหน้าของหลินหยุนแล้ว พี่โล่โล่ก็ได้กวาดสายตาที่เย็นชาเล็กน้อยไปยังเถียนชุ่ยชุ่ยกับเพื่อนคนอื่น ๆ และก็หันมามองหลินหยุนและพูดขึ้นว่า: “ได้พบเจอกับท่านเจี่ยงพวกเขา จึงได้เสียเวลาไปนิดหน่อย ขอโทษด้วย ที่ทำให้นายต้องรอนาน! ”
“ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดขึ้น
“งั้นก็ดีแล้ว! ” สายตาของพี่โล่โล่จ้องมองไปยังฉินหลัน เธอกับฉินหลันไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่จากสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอคิดว่าฉินหลันนั้นไม่ธรรมดา
“คนนี้คือ? ” ฉินหลันมองไปที่หลินหยุน และถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
หลินหยุนพูดว่า: “พี่โล่โล่ เพื่อนของฉันเอง”
จากนั้น ก็แนะนำให้พี่โล่โล่: “นี่คือฉินหลัน เพื่อนของฉันเอง”
ฉินหลันกับพี่โล่โล่จ้องมองซึ่งกันและกัน ผู้หญิงทั้งสองคนสวยงดงามเหมือนกัน ฉลาดหลักแหลมเหมือนกัน และก็รักอิสระ เต็มไปด้วยนิสัยและบุคลิกเฉพาะของตัวเอง
ผ่านไปครู่หนึ่ง พี่โล่โล่ก็เป็นคนที่เริ่มทำลายบรรยากาศที่เงียบสงบลง โดยยื่นมือออกไปให้กับ ฉินหลัน ยิ้มและพูดอย่างองอาจว่า: “ฉันชื่อโล่โล่ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโรงแรมแห่งนี้ ต่อไปขอ ฝากเนื้อฝากตัวและให้คุณฉินช่วยสนับสนุนกิจการด้วย! ”
ฉินหลันก็ยื่นมือออกมา แล้วจับมือกับพี่โล่โล่เบา ๆ ยิ้มและพูดว่า: “ฉินหลัน บริษัท ตงหวาง กรุ๊ป! ”
ผู้หญิงทั้งสองคนต่างก็มีบุคลิกที่แข็งแกร่งโดยธรรมชาติ หลังจากที่ทักทายกันแล้ว พี่โล่โล่ก็ยื่นมือไปรับถาดอาหารที่อยู่ในมือของหลินหยุน และพูดว่า: “พอเท่านี้ ขอบคุณมากที่นายช่วยฉันถือมาตั้งนาน นายไปทักทายพูดคุยกับเพื่อนของนายเถอะ! ”
“อืม” หลินหยุนตอบรับ และมองไปที่ฉินหลัน: “พวกเราไปพูดคุยกันที่ตรงนั้นเถอะ”
“ตกลง! ”
เห็นหลินหยุนกับฉินหลันเดินจากไป ฉินโส่วก็ยิ้มอย่างเย็นชา: “หลินหยุนบอกแล้วว่าเขาไม่ใช่พนักงาน ตอนนี้พวกคุณเชื่อกันแล้วยังล่ะ? ”
เถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิงและคนอื่น ๆ หน้าตาแดงก่ำ
ใครจะไปทราบว่าหลินหยุนช่วยคนอื่นถือถาดอาหารกันล่ะ! และเขาก็ไม่ยอมพูดอธิบาย
แต่ว่าในใจของเถียนชุ่ยชุ่ยกับคนอื่นต่างก็ชัดเจนดีว่า ต่อให้หลินหยุนพูดอธิบาย พวกเธอก็คง ไม่เชื่อ แต่กลับจะยิ่งคิดไปกันว่าหลินหยุนกำลังปกปิดความจริงอยู่
“คิดไม่ถึงจริง ๆ! ” ไอ้หนุ่มหลินหยุนจะรู้จักกับผู้ช่วยฉินของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปด้วย! ” เสิ่นหย่งอุทานขึ้นด้วยความตะลึง และในแววตายังมีความอิจฉาริษยาขึ้นด้วย!
เหยียนเสวเหวินกับหลี่หงถูและเพื่อนคนอื่น ๆ แต่ละคนต่างก็พากันอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก โดยไม่ต้องพูดถึงบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ก่อนที่เป็นถึงวิสาหกิจขนาดใหญ่ ที่มีกิจการธุรกิจใหญ่โตและแข็งแกร่งกว่ากิจการของตระกูลพวกเขาเป็นร้อยเท่า เพียงแค่พูดถึงฉินหลันคนนี้คนเดียว ก็เป็นถึงหญิงสาวที่ทั้งสวยงามและมีความสามารถที่หาไม่ได้โดยง่าย
เซี่ยหยู่เวยที่อยู่ด้านข้างอยู่ดี ๆ ก็เกิดความหึงหวงขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ: “เดิมทีเขารู้จักคนของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปด้วย! และยังเป็นผู้หญิงที่สวยงดงาม! มิน่าล่ะท่าทางที่เขามีต่อฉันในช่วงก่อนและหลังถึงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเลยทีเดียว! ”
ในแววตาของจงเฟยหยู่ ยิ่งดูมีความสนใจมากขึ้น: “คิดไม่ถึงจริง ๆ ด้วย แม้แต่ผู้ช่วยฉินของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเขาก็ยังรู้จัก ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงแค่มีทักษะวิชาการแพทย์ที่สูงส่งแล้ว ยังน่าจะมีเรื่องราวลึกลับอะไรที่คนอื่นยังไม่รู้อีกมาก! ”
หลินหยุนกับฉินหลันเดินไปยังบริเวณที่ค่อนข้างเงียบสงบ และยืนหันหน้าเข้าหากัน
หลินหยุนมองไปที่ฉินหลัน และถามขึ้นว่า: “ทำไมคุณถึงมาเมืองหลินโจว? แล้วประธานหวางล่ะ? ”
ฉินหลันมองไปที่หลินหยุน ด้วยสีหน้าท่าทางที่ซับซ้อน: “ประธานกรรมการไม่ได้มาด้วย วันนี้ฉันเป็นตัวแทนของประธานกรรมการมาเพื่อแสดงความขอบคุณต่อปรมาจารย์หลิน! ”
หลินหยุนสงสัย: “แสดงความขอบคุณปรมาจารย์หลิน? เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันเหรอ? ”
ฉินหลันเหลือบตาขาวใส่หลินหยุนเล็กน้อย และพูดบ่นขึ้นว่า: “จนถึงตอนนี้แล้ว นายยังจะมาปิดบังอะไรอยู่อีก? ปรมาจารย์หลินไม่ใช่อาจารย์ที่ลึกลับของนายท่านนั้นหรอกเหรอ? ”
“อาจารย์ของฉัน? เรื่องนี้ใครเป็นคนบอกคุณ? ” หลินหยุนมีท่าทีที่แปลกใจ มิน่าล่ะที่พี่ฉินหลันเดินทางตั้งไกลจากเมืองจงโจวเพื่อมาเมืองหลินโจว ที่แท้ก็เป็นเพราะจะมาแสดงความขอบคุณปรมาจารย์หลินนี่เอง
แต่หากพูดอย่างจริงจังแล้ว จะมาแสดงความขอบคุณต่อปรมาจารย์หลินก็คงไม่ผิดอะไร
ฉินหลันพูดว่า: “ฉันได้สำรวจตรวจสอบแล้ว ทั่วทั้งมณฑลหลิงหนานผู้ที่สามารถสั่งการให้กับ เจี่ยงสงและผู้มีอิทธิพลอำนาจ รวมถึงควีนจินได้ มีเพียงแค่ปรมาจารย์หลินผู้เดียว! ”
“ถ้าหากปรมาจารย์หลินไม่ได้เป็นอาจารย์ของนายแล้ว ในตอนนั้นที่การประชุมสุดยอดจงโจว พวกเขาทำไมจะต้องเชื่อฟังนายด้วยล่ะ? ”
หลินหยุนยิ้มอย่างประหลาดใจและพูดขึ้นว่า: “นี่ก็คือสิ่งที่คุณใช้เป็นข้อมูลหลักฐานในการตัดสินใจอย่างนั้นเหรอ? ”
ฉินหลันยิ้มอย่างเย็นชา: “ทำไมเหรอ? สิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะบ่งบอกว่านายเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์หลินอย่างนั้นเหรอ? ”
หลินหยุนได้แต่ยิ้มหัวเราะโดยไม่พูดไม่จา
ผ่านไปครู่หนึ่ง อยู่ดี ๆ หลินหยุนก็ได้สอบถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า: “คุณเรียกอย่างเต็มปากเต็มคำว่าปรมาจารย์หลิน ฉันขอถามคุณหน่อยว่า คุณเคยเห็นปรมาจารย์หลินไหม? คุณรู้ไหมว่าเขามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? ”
ฉินหลันตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากที่จะทราบ แต่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์หลินนั้น ไม่มีใครที่จะกล้าพูดอะไรมาก
เธอได้ส่งลูกน้องที่มีความสามารถไปทำการสำรวจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือไม่พบข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลย ปรมาจารย์หลินท่านนี้ ก็เหมือนกับตำนานการเล่าขาน สามารถรับฟังได้ถึงเรื่องราวความเป็นมามากมายที่เกี่ยวกับตัวเขา แต่ก็ไม่เคยได้พบเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
แต่ว่าฉินหลันไม่อยากที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าของหลินหยุน จึงได้พูดไปตามการคาดเดาของตัวเองว่า: “เป็นถึงปรมาจารย์ ก็น่าจะต้องเป็นคนชราที่มีอายุเจ็ดแปดสิบปี และมีประสบการณ์ความรู้มากมาย คิดถึงสภาพท่าทางทั่วไปออกได้ง่ายอยู่แล้ว”
“แล้วนายทำไมจะต้องถามเรื่องเหล่านี้ด้วย? หรือว่านายเองก็ยังไม่เคยเห็นอาจารย์ของนายด้วยเหมือนกัน? ถ้าเป็นอย่างนี้ปรมาจารย์หลินคงจะลึกลับมากเกินไปแล้ว! ” ฉินหลันไม่รู้คิดอะไรไปไกลโพ้นแล้ว
หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างหดหู่ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่สวยงามด้วยแล้ว ความคิดความอ่านยิ่งจะทำให้คนอื่นตื่นตระหนกอยู่เป็นประจำ!
หลินหยุนมองไปที่ฉินหลันที่มีความอยากรู้อยากเห็น พี่ฉินหลันในความทรงจำที่เคยพบเห็นนั้น แต่ไหนแต่ไรจะอยู่ในสภาพที่กดดันทนรับต่อความทุกข์ยากลำบากทั้งหมดเอาไว้ แล้วแสดงท่าทางอันยิ้มแย้มออกมาให้คนอื่น
น้อยมากที่เขาจะเห็นพี่ฉินหลันในสภาพที่อยากรู้อยากเห็นเหมือนกับเด็กน้อย ซึ่งนี่ก็สัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสถานการณ์วิกฤตของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในชาติที่แล้ว
เป็นเพราะสถานการณ์วิกฤตของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป และตัวหลินหยุนเองที่ไร้ความสามารถ จึงทำให้ฉินหลันต้องแบกรับภาระความกดดันทั้งหมดไว้ที่บ่าสองข้างของเธอ ดังนั้นจึงทำให้พี่ฉินหลันในชาตินี้ สูญสิ้นช่วงเวลาแห่งความสุขสนุกสนานที่หญิงสาวทั่วไปควรจะมี
พี่ฉินหลันวางใจเถอะ ในชาติที่แล้วคุณเป็นเกราะปกป้องภัยอันตรายต่าง ๆ ให้กับฉัน ส่วนในชาตินี้ เป็นหน้าที่ของฉันที่จะปกป้องดูแลคุณแทนแล้ว!
หลินหยุนมองไปที่ฉินหลัน แล้วอยู่ดี ๆ ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า: “พี่ฉินหลัน คุณเคยคิดมาก่อนไหมว่า ที่จริงแล้วฉันก็คือปรมาจารย์หลิน! ”
ฉินหลันตอนแรกถึงกับตกใจ จากนั้นก็เหลือบตามองไปที่หลินหยุน: “เรื่องตลกที่นายพูดนี้…… ช่างน่าขันเสียจริง! ”
“หากว่านายคือปรมาจารย์หลิน อย่างนั้นฉันก็คือปรมาจารย์ฉิน ตรงนั้นก็ยังจะมีปรมาจารย์จางปรมาจารย์หวางปรมาจารย์หลี่อีกมายมายเลย! ”
หลินหยุนยิ้มหัวเราะอย่างไม่หยุด เขารู้ดีว่าฉินหลันคงไม่มีทางเชื่อ แต่ว่า เขาก็ไม่ได้หวังที่จะให้ฉินหลันเชื่อ เพียงแต่บอกก่อนเพื่อเป็นนัยให้พี่ฉินหลันรับทราบล่วงหน้า
อีกสักครู่สถานะของเขาคงจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น เพียงแค่หวังว่าฉินหลันจะไม่ตื่นตะลึงมากเกินไปก็พอแล้ว!
“ใช่สิ ใกล้ที่จะถึงวันข้ามปีแล้ว คุณกับประธานกรรมการจะไปพักผ่อนช่วงวันข้ามปีที่ไหนกันเหรอ? ” หลินหยุนเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
เขาไม่คิดที่จะกลับไปที่ตระกูลเซี่ยแล้ว พูดตามความจริง เขาต้องการที่จะพักผ่อนฉลองช่วงวันหยุดข้ามปีกับพี่ฉินหลันและคุณพ่อคุณแม่
อีกทั้ง หลินหยุนยังทราบอีกว่า ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน หวางซูเฟินมักจะพาฉินหลันไปที่อำเภอจีหมิงตำบลเปากู่ เพื่อไปฉลองวันข้ามปีด้วยกันกับหลินตงหัว
ที่ถามขึ้นดังนี้ก็เพราะ ต้องการให้ฉินหลันพูดออกมาเอง เพื่อหลีกเลี่ยงที่ว่าอยู่ดี ๆ หลินหยุนก็ปรากฏตัวขึ้นที่อำเภอจีหมิง ซึ่งจะทำให้ฉินหลันกับหวางซูเฟินตั้งตัวไม่ทัน
คำตอบของฉินหลันนั้นตรงกับที่หลินหยุนคาดเดาไว้ไม่มีผิด: “ในวันข้ามปี ประธานกรรมการจะพาฉันกลับไปที่อำเภอจีหมิงเมืองหลินโจว ถ้าหากว่านายมีเวลาว่าง ยินดีต้อนรับนายมาเป็นแขก! ”
“ดีเลย! ” หลินหยุนตกปากรับคำทันที ท่าทางดูเหมือนว่าจะดีอกดีใจมากด้วย
ฉินหลันสำลักเล็กน้อย เธอก็เพียงแค่พูดไปตามมารยาทเท่านั้น แต่หลินหยุนกลับไม่เกรงใจเธอเลยจริง ๆ ตกปากรับคำในทันทีเลย!
ช่วงวันข้ามปีต่างก็อยู่กับคนในครอบครัวของตน นายกลับเดินทางตั้งไกลเพื่อไปฉลองวันข้ามปีกับคนอื่น นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ดูยังไงชอบกล?
แม้ว่านายจะเคยช่วยเหลือบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป แต่หากพูดกันตามหลักความหมายที่เคร่งครัดแล้ว พวกเราทุกคนไม่ใช่ว่าจะสนิทสนมคุ้นเคยกันมากสักเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ?
“โอ้ว นี่คุณฉินคนสวยแห่งบริษัท ตงกวาง กรุ๊ปไม่ใช่เหรอ? คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาพบเจอกันที่นี่ ช่างเป็นโชควาสนาเสียจริง! ”
น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี ดังขึ้นจากข้างหลังของหลินหยุนอย่างกะทันหัน
วัยรุ่นในชุดสูทสีขาว ทรงผมแสกข้างดกดำเงางาม เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ และยังมีชายวัยกลางคนในชุดจงซานสีดำเดินตามมาอยู่ด้านหลังด้วย