จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 423 ท่านเจี่ยงมาเข้าพบ
“ช่างใจกล้า ! ไอ้หนุ่ม นายกล้าเรียกชื่อเต็มท่านเจี่ยง!” ลูกน้องคนหนึ่งของเจี่ยงเวยพูด ตะโกนใส่หลินหยุนด้วยความโกรธ
เจี่ยงเวยยกมือขึ้นเพื่อขัดขวาง มองหลินหยุนอย่างเฉยเมย และถามว่า “ฉันเป็นหลานชายของท่านเจี่ยง ทำไมจะตัดสินใจไม่ได้?”
“นายโทรหาเจี่ยงสง และให้เขามาพบฉัน” หลินหยุนพูดเบาๆ
เจี่ยงเวยขมวดคิ้ว น้ำเสียงของหลินหยุนโอ้อวดเกินไป เหมือนเทพผู้สูงส่ง ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก
ลูกน้องคนหนึ่งยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม สถานะของท่านเจี่ยงนั้นสูงส่งเพียงไร ไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืนอย่างนายที่อยากพบก็จะได้พบ!ไม่ดูน้ำหน้าตัวเองเลย ว่าตัวเองคู่ควรจะพบท่านเจี่ยงหรือไม่?”
“ฮ่าๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ คิดว่ามีบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ของจินซื่อหรง คงคิดว่าตัวเองมีความสำคัญมาก!”
“เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ แม้ว่าจินซื่อหรงเจอท่านเจี่ยง เขาก็ต้องให้เกียรติ!”
ฝูงชนมองไปที่หลินหยุน และหัวเราะเยาะเย้ย
มู่ชิงซานก็เกลี้ยกล่อม “น้องชาย สถานะท่านเจี่ยงนั้นสูงศักดิ์ แม้แต่ฉันที่โชคดีก็เคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่ว่านายอยากพบก็จะได้พบตามต้องการ? ฟังคำแนะนำของฉัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย นายรีบไปจากที่นี่เร็วๆ!”
มู่เฉิงก็เกลี้ยกล่อมอย่างกังวล “น้องชาย บุญคุณครั้งนี้ตระกูลมู่ของเราจะจดจำฝังใจ แต่ท่านเจี่ยงไม่ใช่คนธรรมดา นายไม่มีสิทธิ์ไปล่วงเกินได้ ฟังฉันเถอะ รีบไปเถอะ!”
หลินหยุนยืนเงียบๆอยู่ที่เดิม โดยไม่สนใจคำถากถางดูถูกของฝูงชน และไม่สนใจคำโน้มน้าวของสองพ่อลูกตระกูลมู่
“ถ้าคุณไม่สู้ ผมจะสู้เอง” หลินหยุนเหลือบมองเจี่ยงเวย และพูดเบาๆ
“ช้าก่อน ฉันจะสู้เอง!”
“ขณะที่หลินหยุนกำลังจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เจี่ยงเวยก็พูดขึ้นทันที
เจี่ยงเวยจ้องมองหลินหยุนอย่างเย็นชา จากนั้นจึงกดโทรศัพท์ไปหาเจี่ยงสง
“นายชื่ออะไรนะ?” เจี่ยงเวยมองไปที่หลินหยุนและถาม
หลินหยุนพูดเบาๆ “นายบอกเจี่ยงสง ฉันแซ่หลิน”
แซ่หลิน?
มันคงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง!
เจี่ยงเวยตกใจ ในหลินโจว มีเพียงคนๆเดียวที่แซ่หลิน ที่ไม่เห็นท่านเจี่ยงอยู่ในสายตา
นั่นคือปรมาจารย์หลิน!
เพียงแต่ว่า เจี่ยงเวยไม่เคยเจอปรมาจารย์หลิน แม้ว่าเขาจะเป็นหลานชายของเจี่ยงสง แต่เขาก็เพิ่งมาจากถิ่นอื่นเพื่อมาพึ่งพาเจี่ยงสง
หลังจากที่เขามา เขาก็แค่ได้ยินตำนานบางอย่างเกี่ยวกับปรมาจารย์หลิน และไม่เคยมีโอกาสได้พบปรมาจารย์หลินเลย
โทรศัพท์เชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็ว และเจี่ยงเวยพูดก็ด้วยน้ำเสียงเคารพ “คุณอา ผมอยู่ในอำเภอจีหมิง และมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่แนะนำตัวเองว่าแซ่หลิน ให้คุณมาพบเขาหน่อย!”
ทันทีที่พูด เสียงตึ๊ดๆก็ดังมาตามสาย
เห็นได้ชัดว่า เจี่ยงสงไม่มีเวลาพอที่จะกดวางสาย
เจี่ยงเวยยิ่งประหลาดใจมากขึ้น เขามองไปที่หลินหยุนอย่างครุ่นคิด และคิดในใจว่า “เป็นไปได้ไหม เขาจะเป็นปรมาจารย์หลินจริงๆ? ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่ไม่แยแสของหลินหยุน นอกจากปรมาจารย์หลินแล้ว ใครเล่าจะใจเย็นรอให้ท่านเจี่ยงมาพบเขาได้?
“ท่านรอสักครู่ ท่านเจี่ยงกำลังเดินทางมาแล้ว” น้ำเสียงของเจี่ยงเวยเปลี่ยนไปอย่างสุภาพมาก
มู่ชิงซานเป็นคนแรกที่รับรู้สิ่งผิดปกติ สายตามองไปที่หลินหยุน ชั่วขณะมีแสงแห่งความหวังปรากฏขึ้น “ไม่แน่บางทีชายหนุ่มที่แปลกประหลาดคนนี้ อาจสามารถช่วยตระกูลมู่ของฉันให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้จริงๆ!”
เบื้องหลังเจี่ยงเวย คือเจ้าของธุรกิจท้องถิ่นคนหนึ่ง ยิ้มเยาะเย้ยและพูดดูถูกเหยียดหยาม “ไอ้หนุ่ม คุณชายเจี่ยงไว้หน้านายมากพอแล้ว โทรหาท่านเจี่ยงด้วยตนเอง เพื่อให้ท่านเจี่ยงมาที่นี่”
“ฉันแนะนำนาย ตอนนี้รีบคุกเข่าต่อหน้าคุณชายเจี่ยง และก้มหัวขอโทษคุณชายเจี่ยง อย่ารอให้ท่านเจี่ยงมาถึง นายจะไม่มีชีวิตรอด!”
“หึ แค่เด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านเจี่ยงยังไม่อยู่ในสายตา สมควรตาย!”
หวางซี่ไห่เยาะเย้ยและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายต้องคิดให้ดีๆ ท่านเจี่ยงไม่ได้พูดง่ายเหมือนคุณชายเจี่ยงนะ! ถ้าท่านอยู่ที่นี่ จะต้องเอาชีวิตนายแน่นอน!”
มู่เฉิงก็กังวลใจ “น้องชาย หรือว่านายรีบถอนคำพูดเมื่อกี้ และขอโทษพวกเขา นี่เป็นปัญหาของตระกูลมู่ของเรา และไม่เกี่ยวข้องกับนาย นายไม่จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง!”
หลินหยุนมองไปที่มู่เฉิง และอมยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวล แม้จะเป็นเจี่ยงสง ก็ต้องมีเหตุผล! พวกเราไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร เขาทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก?”
มู่เฉิงพูดไม่ออก แม้ว่าจะพูดเรื่องเหตุผล แต่ก็ต้องดูว่าพูดกับใคร!
ท่านเจี่ยงจะให้เหตุผลกับเด็กเมื่อวานซืนเหรอ?
ก็เหมือนเสือตัวหนึ่ง เวลาจะกินแกะ มันจะพูดเหตุผลกับแกะไหม?
อำเภอจีหมิงเป็นอำเภอในหลินโจว อยู่ไม่ไกลจากหลินโจว และมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านอำเภอจีหมิงพอดี
ถ้าเจี่ยงสงมาเร็ว ก็จะใช้เวลาสิบกว่านาทีเท่านั้น
แน่นอน สิ่งแรกที่เจี่ยงสงต้องทำคือโทรหาหลินหยุน เพื่อยืนยันว่าเขาอยู่ในอำเภอจีหมิงหรือไม่
ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของหลินหยุนก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของเจี่ยงสงอยู่บนหน้าจอ หลินหยุนอมยิ้มเล็กน้อย หลังจากรับสายแล้วไม่รอให้เจี่ยงสงถาม เขาพูดทันที “ฉันอยู่ในอำเภอจีหมิง”
จากนั้น หลินหยุนก็เพิกเฉยต่อความนิ่งเงียบที่ปลายสายโทรศัพท์ แล้ววางสายทันที
หัวใจของเจี่ยงเวยเต้นแรง และเขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เมื่อกี้ใครโทรมาหาคุณเหรอ?”
หลินหยุนพูดเบาๆ “เจี่ยงสง”
หวางซี่ไห่หัวเราะอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “เสแสร้งแกล้งทำ! ท่านเจี่ยงจะโทรหานายเหรอ? ฝันไปหรือเปล่า!”
คนอื่นๆก็หัวเราะอย่างเหยียดหยาม และไม่มีใครเชื่อว่า เป็นถึงเจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในหลินโจว จะโทรหาเด็กเมื่อวานซืนคนนี้
เจี่ยงเวยก็ไม่เชื่อเช่นกัน แต่ว่า เขาก็ยังกังวลเล็กน้อย
หลินหยุนเพิกเฉยต่อความเห็นถากถางดูถูกของคนเหล่านี้ นั่งบนเก้าอี้ รอการมาของเจี่ยงสงอย่างนิ่งสงบ
เจี่ยงสงมาได้เร็วมาก พูดได้เลยว่าเหมือนม้าที่วิ่งไม่หยุด ยี่สิบนาทีก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านของตระกูลมู่
เมื่อทุกคนเห็นเจี่ยงสงที่สวมชุดนอนผ้าฝ้าย และไม่มีแม้แต่เวลาที่จะเปลี่ยนรองเท้าแตะ เจี่ยงสงก็รีบวิ่งมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
ทุกคน ต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ!
เจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในหลินโจว คนส่วนใหญ่ที่มีหน้ามีตาต่างรู้จักเขา
ดังนั้น ทุกคนจึงจำได้ทันที ชายที่อยู่ข้างหน้าสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย และรูปลักษณ์ที่แย่มากๆ ก็คือท่านเจี่ยง
เจี่ยงเวยรีบก้าวไปข้างหน้า และเรียกด้วยความเคารพ “คุณอา!”
“คารวะท่านเจี่ยง!” หวางซี่ไห่และคนอื่นๆ รีบโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว
เจี่ยงสงไม่มองพวกเขา สายตาของเขามองทะลุผ่านฝูงชน และมองเข้าไปในห้องโถง
จากนั้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินหยุนที่กำลังดื่มชาอย่างสบายใจ
ทันใดนั้น ใบหน้าของเจี่ยงสงก็เปลี่ยนทันที
“หลิน คุณหลิน วันปีใหม่เช่นนี้ ท่านทำไมมาที่เมืองเล็กๆนี้ละ?” เจี่ยงสงพูดด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง
หลินหยุนวางถ้วยน้ำชาของเขาลง เงยหน้าขึ้นมองเจี่ยงสง และพูดเบาๆ “ทำไม? ท่านเจี่ยงตอนนี้เก่งกล้าเหลือเกิน ฉันจะไปไหนก็ต้องมาก้าวก่าย?”
เจี่ยงสงตกใจจนเข่าอ่อน และรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่ไม่ใช่ คุณหลินเข้าใจผิดแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการจะพูดคือ ถ้าคุณหลินรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องฉลองปีใหม่ที่บ้าน สามารถไปหาฉันได้ ฉันจะจัดการวางแผนให้คุณหลินเอง!”
ในขณะนี้ เมื่อสักครู่คนที่ดูถูกหลินหยุน ก็ตกตะลึง!
นั่นเป็นถึงท่านเจี่ยง!
เป็นถึงท่านเจี่ยงผู้สง่าต่อหน้าเด็กเมื่อวานซืน ก็ต้องเคารพและอ่อนน้อมขนาดนี้!
เกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้? หรือว่าพวกเขาล้าสมัยไปแล้ว?
ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร?
สีหน้าของหวางซี่ไห่ ทรมานมากราวกับว่าได้กลืนกินแมลงวันเป็นๆเข้าไปหนึ่งตัว แม้ในความฝันเขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่า เมื่อกี้สิ่งที่หลินหยุนพูดเป็นความจริง!
ท่านเจี่ยงที่อยู่ตรงหน้าเขา ช่างนอบน้อมเหมือนทาสคนหนึ่ง!
ประธานหลี่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และประธานท่านอื่นๆ ก็ดูเหลือเชื่อเช่นกัน
และคนที่อยู่ด้านหลังหวางซี่ไห่ พวกประธานบริษัทที่มาด้วยกัน แต่ละคนก็อ้าปากค้าง ไม่ยอมหุบลง