จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 424 การรวมตัวของคนในครอบครัว
มู่ชิงซานก็ตกใจเช่นกัน เมื่อมองไปที่ด้านหน้าของหลินหยุน ท่านเจี่ยงซึ่งไม่กล้าพูดอะไร ความตกใจในหัวใจของเขาเหมือนกับทะเลที่โหมกระหน่ำ เหมือนคลื่นพายุใหญ่
เขาคิดว่าหลินหยุนอาจเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่ บางทีอาจรู้จักท่านเจี่ยง และมีคุณสมบัติพอที่จะพูดคุยกับท่านเจี่ยงได้
เพียงแต่ว่า เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เจี่ยงสงอยู่ต่อหน้าหลินหยุน จะอ่อนน้อมถ่อมตนได้ขนาดนี้!
เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!
ล้อเล่นนะ คนธรรมดาๆคนหนึ่ง ลองนึกภาพเสือตัวใหญ่ที่มีลวดลายหลากสีสันหางตาชี้ดูดุดัน พอเห็นแกะตัวน้อย จู่ๆก็คุกเข่าลงต่อหน้าแกะ และตัวสั่น?
คิดถึงฉากแบบนี้ ต้องมีสติไม่ปกติแน่นอน!
ชั่วขณะปากของมู่เฉิงก็อ้าออกเช่นกัน คราวที่แล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร ได้โพสต์วิดีโอทักษะการต่อสู้ของยอดฝีมือในโลกออนไลน์ มู่เฉิงคิดว่ามันไร้สาระ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ในปัจจุบัน มู่เฉิงรู้สึกว่าบางทีสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากกว่า
แน่นอน ถ้าเขารู้ว่าวิดีโอนั้นเป็นวิดีโอการต่อสู้ระหว่างหลินหยุนกับฉิวเชียนซา เกรงว่าชั่วขณะมุมมองวิสัยทัศน์ของเขาจะพังทลายลง
“เขา เป็นใครกันแน่? ทำไมท่านเจี่ยงอยู่ต่อหน้าเขา ถึงนอบน้อมขนาดนั้น!”
หลินหยุนเหลือบมองไปที่เจี่ยงสง และถามเบาๆ “เขาเป็นหลานชายของคุณเหรอ?”
“เจี่ยงสงไม่กล้าปิดบัง “ใช่ครับ”
“คุณให้เขามากดขี่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหรอ?” หลินหยุนถาม
“ไม่ใช่” เจี่ยงสงส่ายหัว จากนั้นจ้องมองเจี่ยงเวย “ไอ้สัตว์ นายเอาชื่อเสียงของฉันมาทำอะไร?”
จากช่วงเวลาที่เจี่ยงสงมาถึง หัวใจของเจี่ยงเวยก็หล่นลงกับพื้นไปแล้ว
สิ่งที่ในใจกลัวที่สุด ก็เกิดขึ้นจนได้
คนๆนี้ คือปรมาจารย์หลินจริงๆหรือ!
เมื่อได้ยินคำถามของเจี่ยงสง เจี่ยงเวยก็คุกเข่าลงบนพื้นทันที ด้วยท่าทางตื่นตระหนก “คุณอา ผมแค่ใช้ในนามของท่าน เพื่อไปทักทายธนาคารหลายแห่ง……”
เมื่อเห็นใบหน้าของเจี่ยงสงที่เคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงของเจี่ยงเวยก็ค่อยๆเบาลง จนกระทั่งไม่มีเสียง
เจี่ยงสงตะโกนอย่างโกรธเคือง “ฉันไม่สนใจว่านายทำอะไรลงไป ตอนนี้รีบหยุดเดี๋ยวนี้ และต้องรีบขอโทษคุณหลินและเพื่อนๆของคุณหลินทันที!”
“ครับ!” เจี่ยงเวยรีบคุกเข่าก้มหัวขอโทษหลินหยุนเพื่อขอความเมตตาทันที “คุณหลิน ผมมีตาแต่หามีแววไม่ และจำท่านไม่ได้ โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”
แม้ว่าเจี่ยงเวยจะไม่รู้จักปรมาจารย์หลิน แต่ชื่อเสียงของปรมาจารย์หลินนั้น เจี่ยงเวยได้ยินมานานแล้ว
หลังจากรู้ว่าหลินหยุนก็คือปรมาจารย์หลิน ขณะนี้เจี่ยงเวยทำได้เพียงอยากมีชีวิตรอดเท่านั้น
“ในอนาคตคนแบบนี้ ก็ไม่ต้องเอามาใช้งานแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เขาสร้างความเดือดร้อนให้กับคุณในอนาคต” หลินหยุนมองไปที่เจี่ยงสง และพูดเบาๆ
“คุณหลินสั่งสอนได้ถูกต้อง!” เจี่ยงสงยอมรับด้วยความนอบน้อมและหวาดกลัว
“ไอ้สัตว์ ยังไม่รีบมาขอบคุณคุณหลินที่ไว้ชีวิตอันไร้ค่าของแก!” เจี่ยงสงตะโกนอย่างเย็นชา
เจี่ยงเวยดีใจ และรีบก้มหัวคำนับ ขอบคุณคุณหลินมาก!”
เจี่ยงสงมองไปที่มู่ชิงซาน และโค้งคำนับเพื่อขอโทษ “สำหรับทุกสิ่งที่ไอ้สัตว์คนนี้ทำไป ฉันขอชดเชยเป็นสองเท่า หวังว่าท่านจะยกโทษให้!”
ชั่วขณะมู่ชิงซานตื่นตระหนก นี่คือท่านเจี่ยงนะเนี่ย!
“ท่านเจี่ยงรีบลุกขึ้นเถอะ ฉันจะกล้ารับการคารวะของท่านได้อย่างไร!”
มู่ชิงซานเข้าใจอย่างชัดเจน เจี่ยงสงยอมจำนนต่อเขา ทั้งหมดเป็นเพราะความสัมพันธ์ของหลินหยุน ถ้าหลินหยุนไม่อยู่ที่นี่ แค่เจี่ยงเวยคนเดียว พวกเขาก็ไม่สามารถจัดการได้แล้ว
ดังนั้น มู่ชิงซานจึงตระหนักได้ว่า เขาจะกล้ารับการคารวะจากท่านเจี่ยงได้อย่างไร?
เจี่ยงสงหันกลับมา เหลือบมองหวางซี่ไห่และคนอื่นๆที่มีสีหน้าซีดเซียว และพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกนายแยกย้ายกันไปให้หมด ฉันเชื่อว่าพวกนายเป็นคนฉลาด และรู้ว่าต้องทำอย่างไร!”
หวางซี่ไห่และคนอื่นๆเหมือนกับได้นิรโทษกรรม ผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเจี่ยงสง เพราะผู้สนับสนุนของเจี่ยงเวยคือเจี่ยงสง
ดังนั้น แม้ว่าหลินหยุนจะแสดงบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ของจินซื่อหรง พวกเขาก็ไม่กลัว
เพียงแต่ว่า ตอนนี้ท่านเจี่ยงผู้สูงศักดิ์ปรากฏตัวขึ้น ให้เกียรติและเคารพหลินหยุนมาก ราวกับว่าพวกเขาค้นพบในทันใดว่าผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา กลายเป็นน้องหลินหยุน
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก
“ขอบท่านเจี่ยงที่เมตตา พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้!”
หวางซี่ไห่วิ่งหางจุกตูด และคนอื่นๆ ก็เดินตามหวางซี่ไห่จากไป
เพียงแต่ว่า ประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหล่านั้นที่ได้หักหลังบริษัท ไม่รู้ว่าจะจากไป หรืออยู่ต่อ ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำและยืนนิ่งอยู่กับที่
มู่ชิงซานมองไปที่ประธานหลี่ และพูดอย่างช้าๆ “พี่หลี่ น้องหยาง พวกคุณทำงานกับฉันมาหลายปีแล้ว ฉันเข้าใจในความลำบากใจของพวกคุณ ถ้าทุกท่านยินดีกลับมา ถ้างั้นพวกเราก็ยังร่วมมือกันต่อไป”
“จริงเหรอ!” ประธานหยางดีใจมาก เพราะว่าพวกเขาถูกหวางซี่ไห่คุกคาม โดยบอกว่าท่านเจี่ยงต้องการจัดการกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องยอมหักหลังบริษัท
แต่ความเป็นจริงนั้นช่างน่าขันเสียจริง เจี่ยงเวยใช้ชื่อเสียงของเจี่ยงสงมาหลอกลวงหวางซี่ไห่
ทำชีวิตพวกเขาจบเห่
โชคดีที่มู่ชิงซานไม่ถือสา ทำให้พวกเขาประทับใจจริงๆ
“ไอ้มู่ ฉันยอมรับแล้ว! ในอนาคตฉันยินดีที่จะร่วมมือกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไปจนตาย!” ประธานหลี่พูดอย่างตื่นเต้น
“พวกเราด้วย!”
ต้องขอบอกว่า การจัดการของมู่ชิงซานครั้งนี้ ทำได้สุดยอดจริงๆ ซื้อใจคนได้จริงๆ
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างจัดการเสร็จสิ้นแล้ว เจี่ยงสงก็มองไปที่หลินหยุน และถามด้วยความเคารพ “คุณหลิน ท่านพอใจกับผลลัพธ์การจัดการของฉันหรือไม่?”
หลินหยุนพยักหน้า ลุกขึ้นและจากไป “พอใช้ได้”
เจี่ยงสงรีบเดินตาม แต่จะรักษาระยะห่างจากหลินหยุนหนึ่งก้าวเสมอ เดินตามหลังหลินหยุน ราวกับเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง
มู่เฉิงอยากก้าวไปข้างหน้าเพื่อเรียกหลินหยุน แต่ถูกมือของมู่ชิงซานขวางไว้
“อย่า!” มู่ชิงซานส่ายหัวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
มู่เฉิงงุนงงและพูดว่า “แต่ว่า ผมยังไม่มีเวลาถามชื่อเขาเลย……”
มู่ชิงซานมองที่แผ่นหลังของหลินหยุน และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สามารถทำให้เจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในหลินโจว ปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพเหมือนเป็นคนรับใช้ บุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันกับพวกเรา นายไปถาม มันก็ไร้ประโยชน์!”
มู่เฉิงรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย “แล้วในอนาคตหากต้องการพบเขาควรทำอย่างไร?”
มู่ชิงซานยิ้มแปลกๆ “บุคคลผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ถ้าเขาต้องการพบนาย นายไม่จำเป็นต้องไปหาเขา เขาจะมาหานายเอง ถ้าเขาไม่ต้องการพบนาย แม้ว่านายจะหาไปทั่วทุกมุมโลก ก็จะไม่มีวันเจอเขา”
มู่เฉิงมองมู่ชิงซานอย่างสงสัย และถามว่า “คุณพ่อ ท่านรู้อะไรมาเหรอ?”
มู่ชิงซานไม่ได้พูด ด้วยประสบการณ์ของเขา เขาสามารถคาดเดาตัวตนของหลินหยุนได้อย่างชัดเจน เพราะว่าในหลินโจวและแม้แต่ทั่วหลิงหนาน คนที่สามารถทำให้เจี่ยงสงอ่อนน้อมถ่อมตน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ไม่ต้องถามแล้ว รีบทำความสะอาด เตรียมพร้อมสำหรับวันปีใหม่!” หลังจากพูดจบ มู่ชิงซานก็เดินออกไป
หลินหยุนและเจี่ยงสงมาถึงสวนสนามตระกูลมู่
รอบๆไม่มีใครอยู่ เจี่ยงสงรีบเดินไปข้างหน้า ด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตน “ปรมาจารย์หลิน จากนี้ท่านจะไปที่ใด? ให้ฉันเตรียมการให้ท่าน อำเภอจีหมิงก็มีสำนักงานของพวกเราด้วย”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันจะไปหาเพื่อนสองสามคน” หลินหยุนพูดเบาๆ
เพื่อน?
เจี่ยงสงถามด้วยความสงสัย “ปรมาจารย์หลินเคยมาที่นี่หรือ?”
หลินหยุนไม่คิดมาก และตอบอย่างเป็นกันเอง “เคยมา และคุ้นเคยมาก
หลังจากพูดจบ หลินหยุนพูดต่อว่า “คุณกลับไปเถอะ ถ้าฉันมีอะไรจะโทรหาคุณ”
“โอเค” เจี่ยงสงไม่พูดอะไรมาก ด้วยพลังของปรมาจารย์หลิน เขาไม่จำเป็นต้องเตือนเขาให้ดูแลความปลอดภัยของตัวเอง
หลินหยุนออกจากบ้านตระกูลมู่ เตรียมกลับไปบ้านของตัวเอง
หลินตงหัวอาศัยอยู่ในอำเภอจีหมิง ซึ่งเป็นคอนโดที่มีสามห้องนอนใหญ่ แน่นอนว่า อาศัยเงินเดือนอันน้อยนิดของหลินตงหัว ตลอดทั้งชีวิตของเขาคงไม่สามารถซื้อได้ ดังนั้นเงินนี้หวางซูเฟินเป็นคนออก
วันนี้เป็นวันปีใหม่ เวลาผ่านไปนานมากแล้วจากที่ได้เกิดใหม่อีกครั้ง ถึงเวลาพบพ่อของตัวเองแล้ว
เมื่อคิดถึงเสียงและรอยยิ้มของหลินตงหัว หลินหยุนที่ลงจากรถแท็กซี่ก็เร่งฝีเท้า และเดินไปที่ชุมชนที่อยู่ข้างหน้า