จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 428 หลินตงหัวผู้โดดเดี่ยว
เจียงซ่างหมิงผู้รับผิดชอบในอำเภอจีหมิง เป็นชายอายุห้าสิบกว่าปี รูปร่างผอมแห้ง ใส่แว่นตาขอบทองซึ่งดูแล้วค่อนข้างฉลาด
เพียแต่ว่า สิ่งที่ทำออกมานั้น ทำให้คนหัวเราะเยาะ
ในขณะนี้เขากำลังยืนอยู่ด้านหน้าเวที มองดูผู้คนด้านล่างด้วยท่าทางที่พอใจ ด้วยรูปลักษณ์ทีบ้าอำนาจไม่กลัวสิ่งใด
ในอำเภอเล็กๆ ในตอนนี้เปรียบเสมือนพระราชวังที่ปกครองโดยเขาเพียงผู้เดียว
หลินหยุนเดินตามมู่เฉิงไปนั่งบริเวณข้างๆหน้าต่าง มองดูผู้คนที่เข้ามาเรื่อยๆ มีคนมากมาย และเขาสามารถจำชื่อพวกเขาได้
เพราะว่า ในชาติที่แล้วหลินหยุนได้เคยอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน
ตอนนี้งานเลี้ยงยังไม่เริ่มเลย หลังจากที่หลายคนเข้ามาแล้ว พวกเขาก็เริ่มทักทายกัน และเริ่มพูดคุยและชักจูงกันทันที
หลินหยุนมองเห็นหม่าเสี่ยวหลง เธอสวมชุดสีขาว แลดูสง่างาม เกาะแขนชายคนหนึ่ง และเดินเข้ามา
นั่นคือผู้รับผิดชอบของตำบลเสี้ยโกว หม่าเจี้ยนกั๋ว และคือพ่อของหม่าเสี่ยวหลง
หลังจากที่หม่าเจี้ยนกั๋วเข้ามาแล้ว สายตาก็กวาดมองไปที่ฝูงชนทันที และในที่สุดสายตาก็หยุดที่มู่ชิงซาน
โดยปราศจากความคิดเห็นใดๆ หม่าเจี้ยนกั๋วเดินตรงไปที่มู่ชิงซาน
“จิ้งจอกเฒ่าคนนี้ ยังต้องการให้พ่อของฉันสนับสนุนเขาอีกหรือ? หรือหวางซี่ไห่ไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานให้พวกเขาฟังเหรอ?” มู่เฉิงจ้องไปที่หม่าเจี้ยนกั๋ว ด้วยใบหน้าเยาะเย้ย
หม่าเสี่ยวหลงมองเห็นมู่เฉิงและหลินหยุน เลยพูดอะไรบางอย่างกับหม่าเจี้ยนกั๋ว จากนั้นก็รีบเดินมาทางนี้
หลินหยุนพูดว่า “ดูเหมือนว่าหวางซี่ไห่จะไม่บอกข่าวเรื่องนั้นให้พวกเธอฟัง มิฉะนั้นขณะนี้เธอจะไม่มาหานาย”
มู่เฉิงมีใบหน้าแสดงความสะใจ “ก็ดี ให้ฉันเล่นกลอุบายกับสาวเจ้าเล่ห์คนนี้หน่อย!”
หลังจากพูดเสร็จ มู่เฉิงก็รีบเข้าไปทักทาย และพาหม่าเสี่ยวหลงเดินไปที่ไกลหูไกลตาคนอื่น
คาดว่าคงถูกหลอกมานานมาก และต้องการเอาผลกำไรจากหม่าเสี่ยวหลงบ้าง!
ในไม่ช้า หลินหยุนก็เห็นหลินตงหัว หวางซูเฟิน และฉินหลันที่เดินเข้ามา
เพียงแต่ว่า หลังจากที่คนอื่นเข้ามา จะมีเพื่อนๆเข้าไปต้อนรับและทักทายทันที แต่หลังจากที่หลินตงหัวพวกเขาทั้งสามคนเข้ามาแล้ว ก็ไม่มีใครเข้าไปทักทายหลินตงหัวเลย
ใบหน้าของผู้คนส่วนใหญ่ ถึงกับแสดงความดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่าพวกเขารังเกียจหลินตงหัวมาก
หลินตงหัวไม่ได้โกรธ ราวกับว่าเคยชินกับมันแล้ว ได้หาที่นั่งห่างไกลคนอื่น และนั่งรออย่างเงียบๆ
หลินหยุนรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย ในชาติที่แล้วมีเพียงพ่อคนเดียว ที่ต้องอดทนต่อการถูกทอดทิ้งและความอัปยศอดสู ไม่รู้เป็นเวลากี่ปี
ในเวลานั้นเขายังคงบ่นว่าหลินตงหัวเป็นคนขี้ขลาด และไม่ทำหน้าที่ในฐานะพ่อ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า หลินตงหัวต้องทนกับความยากลำบากเพียงใด
เห็นได้ชัดว่าแค่เพียงหลินตงหัวยอมประนีประนอม เขาก็จะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลของเขา และใช้ชีวิตคุณชายกับตระกูลร่ำรวย
เพียงแต่ว่า เขาไม่เอา แม้จะดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อครอบครัวนี้ แต่ที่จริงแล้ว เขาแบกรับภาระของครอบครัวนี้อย่างเงียบๆตลอดเวลา
หากไม่ใช่เขาที่แบกรับแรงกดดันทั้งหมดเพียงลำพัง มิเช่นนั้นครอบครัวของเขาคงจะถูกอำนาจสุนัขรับใช้ของสองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหวางและตระกูลหลินกดดัน จนครอบครัวพังพินาศไร้ญาติขาดมิตรไปแล้ว
ความรักของพ่อ บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดออกมาให้อบอุ่นใจ แล้วทำตามคำแนะนำของคุณทุกอย่าง เพียงแต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ เขายืนอยู่ที่นั่น ก็เพียงพอแล้ว
ในไม่ช้า มู่เฉิงก็กลับมา ด้วยใบหน้าที่เบิกบาน
“อารมณ์ดีมากสิ?” หลินหยุนถามเบาๆ
มู่เฉิงมองไปรอบๆราวกับขโมย และหัวเราะเบาๆ “หลินหยุนหวางซี่ไห่ไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานให้ตระกูลหม่าฟังจริงๆ ดูเหมือนเป็นเพราะแรงกดดันจากท่านเจี่ยง จึงตัดสินใจทอดทิ้งตระกูลหม่าแล้ว”
“เมื่อกี้หม่าเสี่ยวหลงมาหาฉัน และพูดสิ่งที่น่าขยะแขยง ฟังแล้วน่ารังเกียจ! เธอต้องการให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปสนับสนุนพ่อของเธอเหรอ?”
หลินหยุนเหลือบมองเขา “นายตกลงแล้วหรือ?”
“แน่นอน! ฉันใช้โอกาสนี้เพื่อลงมือ และหาผลกำไรกลับคืนหน่อย เธอเคยหลอกฉันยังไง ฉันจะให้เธอชดใช้คืนสองเท่า!” มู่เฉิงพูดด้วยความโกรธ
หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ดูเหมือนการปรากฏตัวของเขา ทำให้มู่เฉิงเปลี่ยนไปมากจริงๆ
ในชาติที่แล้ว มู่เฉิงมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อหม่าเสี่ยวหลง หลายปีผ่านไปยังไม่เคยลืมเลือน
แม้จะรู้ว่าหม่าเสี่ยวหลงหลอกเขา แต่เขาก็ยังไม่สามารถโหดร้ายกับหม่าเสี่ยวหลงได้
แต่คราวนี้ เห็นได้ชัดว่ามู่เฉิงเกลียดจนต้องการให้หม่าเสี่ยวหลงไปตาย!
เป็นไปได้ไหมเพราะเขาเปิดเผยความหลอกลวงของหม่าเสี่ยวหลงออกมาก่อน ทำให้ความรักที่มู่เฉิงมีต่อหม่าเสี่ยวหลงยังไม่ลึกซึ้งพอ?
หลินหยุนไม่สามารถอธิบายได้ว่าการปรากฏตัวของเขา สำหรับมู่เฉิงแล้ว จะดีหรือไม่ดี
แต่อย่างน้อยดูจากตอนนี้ มู่เฉิงดูมีความสุขมาก
หลังจากที่หม่าเจี้ยนกั๋วมาแล้ว ดูเหมือนจะกลายเป็นจุดสนใจของฝูงชนทันที
อีกด้านหนึ่งหม่าเสี่ยวหลงเป็นหนึ่งในสามของสาวงานในอำเภอจีหมิง ในอีกด้านหนึ่ง ประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปสองบริษัทชั้นนำมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ดีกับตระกูลหม่า ในครั้งนี้มีผู้สนับสนุนเยอะ แน่นอนต้องเป็นเพราะหม่าเจี้ยนกั๋ว
นอกจากนี้ คนต่อไปที่เจียงซ่างหมิงต้องการสนับสนุน ต้องเป็นหม่าเจี้ยนกั๋วอย่างแน่นอน ถ้าทุกคนไม่รีบเข้าไปประจบประแจงก่อน แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่!
เมื่อเห็นว่าผู้คนมาได้เยอะพอสมควรแล้ว เจียงซ่างหมิงที่อยู่บนเวทีก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมา และประกาศเสียงดัง “ทุกคนเงียบหน่อย ฉันมีเรื่องจะพูดสองสามคำ!”
ในไม่ช้าห้องโถงก็เงียบลง และทุกคนก็จ้องมองไปยังบุคคลที่รับผิดชอบในอำเภอจีหมิง
ใบหน้าเจียงซ่างหมิงได้ซ่อนความรู้สึกเต็มที่ ต่ก็ไม่สามารถซ่อนความดีใจไว้ได้
“ฉันอยากจะบอกข่าวดีกับทุกคน! ข่าวดีสุดๆ! ครั้งนี้นอกจากงานเลี้ยงฉลองนี้แล้ว ยังมีข่าวดีอีกอย่างที่จะแบ่งปันกับพวกคุณ!”
“นั่นก็คือ ท่านเจี่ยงในหลินโจว ต้องการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอำเภอของพวกเรา! ในอนาคต อำเภอของพวกเราจะเป็นเป้าหมายหลักของการร่วมมือของท่านเจี่ยง!”
“กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ในไม่ช้าอำเภอของพวกเราจะแซงหน้าอำเภออื่น และอาจสามารถอัพเกรดเป็นเมืองได้โดยตรง!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างก็ตกใจและดีใจมาก!
“จริงเหรอ ท่านเจี่ยงต้องการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับอำเภอของเรา! นี่มันเยี่ยมมาก! อำเภอของพวกเราช่างโชคดีมากจริงๆ!”
“ใช่แล้ว ในอนาคตเศรษฐกิจของอำเภอพวกเราจะเริ่มต้นขึ้นอย่างรุ่งโรจน์! ทันทีที่ท่านเจี่ยงมา เมื่อถึงตอนนั้นอำเภอใกล้เคียง ใครจะกล้าหัวเราะเยาะอำเภอของพวกเรา!”
หม่าเจี้ยนกั๋วดูตื่นเต้นดีใจ “เยี่ยมมาก! เยี่ยมมาก! มันส่งผลดีต่อฉันมาก!”
หากท่านเจี่ยงมาลงทุน ถ้างั้นพื้นที่ในอำเภอจีหมิงก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทันที หม่าเจี้ยนกั๋วเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้หากการเมืองของอำเภอจีหมิงพุ่งสูงขึ้น และถ้าตำแหน่งเจียงซ่างหมิงก็สูงขึ้นด้วย แล้วเขาจะเข้ามาแทนที่โดยอัตโนมัติหรือไม่?
คิดอย่างนี้แล้ว หม่าเจี้ยนกั๋วจะไม่ตื่นเต้นดีใจได้ยังไง!
หลินตงหัวเองก็ดูตื่นเต้นดีใจเช่นกัน “นี่เป็นข่าวดีจริงๆ! ท่านเจี่ยงจะมาลงทุน อำเภอจีหมิงจะมีอนาคตที่สดใสแน่!”
เขาทำเพื่ออนาคตของอำเภอจีหมิงอย่างจริงใจ
แต่มู่เฉิงมองหลินหยุนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านเจี่ยงจะลงทุนในอำเภอของเรา? เรื่องนี้วางแผนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
จู่ๆหลินหยุนก็ค้นพบกุญแจสำคัญ และเข้าใจว่าเจี่ยงสงต้องการทำอะไร
“คงจะเป็นเรื่องเช้านี้! เจี่ยงสงคนนี้ เลือกเวลาได้ดีจริงๆ!” หลินหยุนยิ้มเยาะเย้ย เจี่ยงสงรู้จักใช้โอกาสจริงๆ
แม้แต่ หลินหยุนยังคาดเดาได้ว่าตัวแทนที่เจี่ยงสงส่งมาในครั้งนี้จะต้องเป็นหลานชายของเขาเจี่ยงเวยแน่นอน
เพียงแต่ว่า หลินหยุนไม่ได้ต่อต้านการลงทุนของเจี่ยงสง อย่างไรก็ตาม อำเภอจีหมิงเคยเป็นบ้านเก่าของหลินหยุน และเขาก็คาดหวังว่า อำเภอจีหนิงจะได้พัฒนาให้เจริญยิ่งขึ้น
ไม่ว่าเจี่ยงสงจะมีจุดประสงค์อะไร ในเมื่อเขาต้องการพัฒนาอำเภอจีหมิงให้เจริญ หลินหยุนจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
เมื่อเห็นความตื่นเต้นของผู้คนด้านล่าง เจียงซ่างหมิงที่อยู่บนเวทีก็พอใจมาก
“เอาล่ะ ทุกคนเงียบสักครู่! เรื่องนี้ ต้องไม่ให้เอิกเกริกเกินไป ต่อไปคือการดำเนินงานเลี้ยงฉลองของพวกเรา หลิวหล่าซี่ เริ่มจากตำบลซ่างโกวก่อน!” เจียงซ่างหมิงชี้ไปที่ชายหัวล้านอย่างกระตือรือร้นและ