จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 429หม่าเสี่ยวหลงได้รับทุกข์ทรมาน
“ครับ!”
ชายหัวล้านหลิวหล่าซี่ยืนขึ้น ยืดพุงใหญ่แล้วเดินขึ้นไปบนเวที
“ปีนี้ตำบลซ่างโกวของเรา จะเทถนนคอนกรีตสองเส้น รับประกันว่าจะสามารถเทไปถึงทุกหมู่บ้านและเทไปถึงหน้าบ้านทุกครัวเรือน……”
หลังจากที่หลิวหล่าซี่รายงานผลงานทางการเมืองเรียบร้อย หลังจากนั้นก็มาถึงจุดเชื่อมโยงที่สำคัญ
“ทุกท่าน ผลงานของผม ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของทุกท่าน! ณ ตรงนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริงครับ !”
พูดจบหลิวหล่าซี่ก็โค้งคำนับทุกคนอย่างสุดซึ้ง จากนั้น ยืนรอบนเวทีอย่างเงียบๆ
ข้างล่างเวที มู่เฉิงกระซิบเบาๆกับหลินหยุน “อีกสักครู่ทุกคนจะใช้ในนามการอวยพรวันปีใหม่ เพื่อสนับสนุนหลิวหล่าซี่ ยิ่งคนอวยพรมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่ามีคนสนับสนุนมากเท่านั้น และมนุษย์สัมพันธ์ยิ่งกว้างขวางมากขึ้น!”
หลินหยุนถามว่า “ถ้าหากมีคนต้องการแค่อวยพรปีใหม่อย่างเดียว ก็ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนเหรอ?”
มู่เฉิงตอบ “ไม่หรอก คนที่มาที่นี่ในวันนี้ ตามพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่จะเป็นคนเข้าใจดี จะไม่มีเหตุการณ์อย่างที่คุณพูดเกิดขึ้นแน่นอน!”
หลินหยุนพยักหน้า ไม่ได้พูดอีก
ข้างล่างเวที มีนักธุรกิจที่กำลังเติบโตในตำบลซ่างโกวยืนขึ้น และประสานมือแสดงความเคารพกับหลิวหล่าซี่ที่อยู่บนเวทีแล้วพูดว่า “พี่หลิวที่พูดเมื่อครู่พูดได้ดีมาก! อยู่ที่นี่ ผมขออวยพรให้พี่หลิวครับ!”
มู่เฉิงกระซิบอีกครั้ง “คนนี้ชื่อหลี่กวง เป็นเจ้าของโรงงานอาหารซ่างโกว ซึ่งเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อหลิวหล่าซี่”
จากนั้น ก็มีอีกสองคนยืนขึ้นติดต่อกันอวยพรปีใหม่ให้กับหลิวหล่าซี
คนที่อวยพรปีใหม่ให้หลิวหล่าซี่มีทั้งหมดสี่คน ล้วนเป็นคนที่มีธุรกิจเติบโตในตำบลซ่างโกว หรือมีการติดต่อทางธุรกิจกับตำบลซ่างโกว
ผู้รับผิดชอบแต่ละตำแหน่งของตำบล ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แปลกใจกับผลลัพธ์นี้มากนัก คาดว่ามนุษย์สัมพันธ์ของของหลิวหล่าซี่ก็ไม่ได้กว้างขวางเท่าไหร่
หม่าเจี้ยนกั๋วผู้ดูแลตำบลเสี้ยโกวคนนั้น ก็คือพ่อของหม่าเสี่ยวหลง บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่ดูถูกเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกมนุษย์สัมพันธ์ของหลิวหล่าซี่
หลิวหล่าซี่ก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเช่นกัน แต่ว่าคนอย่างเขาค่อนข้างเป็นคนมีหลักการ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจมากกับการหาพรรคพวก
เจียงซ่างหมิงพูดอย่างไม่พอใจ “พอเถอะหลิวหล่าซี่ ลงไปได้แล้ว!”
หลิวหล่าซี่สองมือประสานบนอกคำนับให้กับผู้ที่สนับสนุนเขา และคำนับให้เจียงซ่างหมิง แล้วเดินลงจากเวที
เจียงซางหมิงตะโกนอย่างรำคาญ “คนต่อไป!”
ต่อจากนี้ ตำบลและหมู่บ้านที่อยู่ภายใต้การปกคลองของอำเภอจีหมิง แต่ละตำบลต้องมีผู้รับผิดชอบรองหัวหน้าสองคน และหัวหน้าหนึ่งคน ทุกคนก็ต้องขึ้นเวทีด้วย
คนที่ขึ้นมาจากด้านล่าง เทียบกันแล้วดีกว่าหลิวหล่าซี่เล็กน้อย คนที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุด คือรองหัวหน้าผู้รับผิดชอบตำบลหวางเตี้ยน ถึงกับแซงหัวหน้ารับผิดชอบด้วยซ้ำ
หลายคนในเหตุการณ์ต่างก็ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น แม้แต่เจียงซ่างหมิง ก็ยังปรบมือชมไม่หยุด ถึงกับมีความคิดที่จะส่งเสริม คาดว่าปีหน้าเขาคงกลายเป็นผู้รับผิดชอบเต็มตัวแล้ว
เทียบกันแล้ว หัวหน้าผู้รับผิดชอบตำบลหวางเตี้ยน สีหน้าซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าเขาก็เข้าใจถึงสถานการณ์ในอนาคตของเขา
ต่อจากนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาของหม่าเจี้ยนกั๋วในตำบลเสี้ยโกว
ขณะที่หม่าเจี้ยนกั๋วลุกขึ้นจากที่นั่ง ทุกคนต่างก็เริ่มหารือกัน นี่คือยุคข้อมูลข่าวสาร และข่าวสารของทุกคนก็ฉลาดรอบรู้
ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ทุกคนล้วนรู้ดี
ดังนั้น ครั้งนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับหม่าเจี้ยนกั๋วเป็นอย่างมาก แม้แต่เจียงซ่านหมิงปกติก็ชื่นชมหม่าเจี้ยนกั๋วมากอยู่แล้ว
หม่าเจี้ยนกั๋วเดินไปถึงบนเวที ยืนนิ่ง แล้วพูดเกี่ยวกับผลงานทางการเมืองของตำบลเสี้ยโกวครู่หนึ่ง จากนั้นโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ความสำเร็จเหล่านี้ จะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากทุกคน อยู่ที่นี่ สำหรับผู้ที่เคยช่วยเหลือผม ผมอยากจะแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ!”
หม่าเจี้ยนกั๋วกวาดสายตามองผู้คนด้านล่างอย่างภูมิใจ หลังจากพูดคำนี้จบ ต่อจากนี้ก็รอผู้สนับสนุนมาอวยพรปีใหม่ให้กับหม่าเจี้ยนกั๋ว
“พี่หม่าพูดได้ดีมาก หลี่ซานขออวยพรปีใหม่ให้ท่าน !”
หลี่ซานเป็นเจ้าของบริษัท ไบรท์ ฟู้ด จำกัด ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้าน ถือได้ว่าเป็นแค่นักธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น ไม่สามารถเทียบกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปได้
“หลิวฝูซิง ขออวยพรปีใหม่ให้พี่หม่า!”
ผ่านไปซักพัก ก็มีคนหกคนออกมาอวยพรปีใหม่ต่อหม่าเจี้ยนกั๋ว แต่ว่า คนเหล่านี้ล้วนเป็นนักธุรกิจที่มีทรัพย์สินมูลค่าน้อยกว่าสิบล้าน ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้
เมื่อเห็นบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หม่าเจี้ยนกั๋วที่อยู่บนเวทีก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะมองไปทางมู่ชิงซานและหวางซี่ไห่
แต่ว่า เขาพบว่ามู่ชิงซานกับหวางซี่ไห่ ราวกับนับหมายโดยปริยาย ในขณะเดียวกันต่างก้มหน้าลง ไม่ได้มองเขา
หม่าเจี้ยนกั๋วรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือว่ามู่ชิงซานรู้เจตนาที่แท้จริงของพวกเขาสองคนพ่อลูกแล้ว?
แต่ก็ไม่ถูกนะ แม้ว่ามู่ชิงซานจะรู้ แล้วหวางซี่ไห่ล่ะ?
หวางซี่ไห่กับเขาถือได้ว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง แต่ทำไมหวางซี่ไห่ก็ไม่เห็นเคลื่อนไหวใดๆ
ผู้คนที่อยู่ข้างล่างเวทีก็ค่อยๆเริ่มสงสัย ผู้ที่สนับสนุนหม่าเจี้ยนกั๋ว เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่จะมีเพียงหกคนนี้เท่านั้น
บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปและบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในฐานะที่มีกิจการระดับชั้นนำในอำเภอจีหมิง เมื่อพวกเขาสนับสนุนแล้ว ก็จะกระตุ้นให้นักธุรกิจจำนวนมากมาสนับสนุนร่วมกัน
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า หม่าเจี้ยนกั๋วมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ลูกสาวของหม่าเจี้ยนกั๋วหม่าเสี่ยวหลงกับคุณชายของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคุณชายมู่เฉิงมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน
สองบริษัทใหญ่ที่มีกิจการระดับชั้นนำในจีหมิงนี้ ตามหลักต้องสนับสนุนหม่าเจี้ยนกั๋วสิ ทำไมถึงไม่มีวี่แวว?
และนักธุรกิจคนอื่นๆแน่นอนว่าต้องทำตามคำสั่งของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซี่ไห่อยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหว คนพวกนี้ก็ไม่กล้าทำอะไร
สายตาของหม่าเจี้ยนกั๋วมองไปที่หม่าเสี่ยวหลง นี่คือการขอความช่วยเหลือ
เพียงแต่ว่าหม่าเจี้ยนกั๋วไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ หม่าเสี่ยวหลงก็รู้สึกถึงความผิดปกติตั้งนานแล้ว
หม่าเสี่ยวหลงต้องยืนขึ้นภายใต้สายตาฝูงชนที่จ้องมอง และลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะของมู่เฉิงและหลินหยุน
มู่เฉิงก้มหัวลง และแทงหลินหยุนด้วยศอก “มาแล้ว!”
หลินหยุนเงียบ ฐานะตัวตนของเขาแตกต่างจากมู่เฉิง และวิสัยทัศน์ของเขาก็แตกต่างออกไป
สำหรับผู้หญิงอย่างหม่าเสี่ยวหลง สิ่งที่มู่เฉิงต้องการทำคือคุณทำอะไรไว้กับฉัน ฉันก็จะตอบแทนเช่นนั้นกับคุณ และเวลาส่วนใหญ่ของหลินหยุน ส่วนใหญ่จะเพิกเฉย
หม่าเสี่ยวหลงเดินเข้ามา และชายหนุ่มข้างๆมู่เฉิง ย้ายที่ให้เธอนั่งลงอย่างน่าสนใจ หม่าเสี่ยวหลงนั่งข้างๆมู่เฉิง ท่าทางเหมือนกำลังสอบปากคำผู้ร้าย
“มู่เฉิง พ่อของฉันอยู่บนนั้น ทำไมคุณลุงมู่ไม่เห็นมีการเคลื่อนไหวใดๆเลย” หม่าเสี่ยวหลงรู้แล้วยังแกล้งถาม
มู่เฉิงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หม่าเสี่ยวหลง ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “หม่าเสี่ยวหลง ต้องถามตัวเธอเอง! ทำไมเธอถึงมาถามฉัน? เธอทำอะไรกับฉันไว้ ตัวเองยังไม่เข้าใจเหรอ? อยากให้ฉันเปิดเผยตัวตนธาตุแท้ของเธอในที่สาธารณะ เธอถึงจะยอมตายใจเหรอ?
หม่าเสี่ยวหลงตกใจ เธอรู้สึกว่าสิ่งต่างๆอยู่เหนือการควบคุมของเธอ มู่เฉิงคนก่อน จะไม่คุยกับเธอด้วยท่าทางแบบนี้
เป็นไปได้ไหมที่ไอ้เศษสวะคนนี้รู้อะไร?
ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ เขาจะรู้ได้อย่างไร? เว้นแต่คนในตระกูลหวางจะพูดออกมา!
อย่างไรก็ตาม ตระกูลหวางและตระกูลมู่เป็นคู่แข่งกันมานานหลายปี ดังนั้นพวกเขาจะพูดออกมาได้อย่างไร
ใช่แล้ว ไอ้เศษสวะคนนี้คงจะได้ยินข่าวอะไรบางอย่าง จงใจทดสอบฉัน?
หม่าเสี่ยวหลงแสร้งทำเป็นตกใจและเสียใจ “มู่เฉิง คุณหมายความว่าอย่างไร? ฉันไปทำอะไรที่ผิดต่อนายเหรอ? นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ที่น่าสงสารของหม่าเสี่ยวหลง ถ้าไม่รู้จักตัวตนและธาตุแท้ของเธอล่วงหน้า มู่เฉิงคงจะใจอ่อนแน่นอน
“ฮึ่ม หม่าเสี่ยวหลง เธอไม่จำเป็นต้องมาเสแสร้งอีก สิ่งที่ไร้ยางอายที่เธอและหวางเจียเฉียงได้ทำไป หวางเจียเฉียงยอมรับเองแล้ว!”
“หวางซี่ไห่เรียกเธอว่าลูกสะใภ้แล้ว เธอยังจะหลอกฉันไปอีกนานแค่ไหน
หม่าเสี่ยวหลงช็อก!
ดูจากท่าทางของมู่เฉิงแล้ว ดูเหมือนไม่ได้โกหก หวางซี่ไห่ต้องพูดแบบนี้แน่ๆ
อย่างไรก็ตาม หม่าเสี่ยวหลงไม่เข้าใจว่าทำไม หวางซี่ไห่ซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ถึงได้เปิดเผยตัวหมากรุกที่สำคัญเช่นนี้ออกมา?