จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 430 ผู้มีอิทธิพลที่ยอดเยี่ยม
มู่เฉิงยังคงยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “การประมูลในวันนั้น คุณใช่ไหมที่เป็นคนที่นำข่าวเรื่องการประมูลที่ต้องการประสบผลสำเร็จของตระกูลเรา ไปบอกหวางเจียเฉียงใช่ไหม! ดังนั้นตระกูลหวางถึงจงใจตั้งราคาให้สูงขึ้น ทำให้พวกเราต้องจ่ายในราคาสูงถึงจะประมูลชนะ!”
“ฮึ่ม จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกคุณ! พวกคุณทำแบบนี้ เพียงเพื่อต้องการตัดเงินทุนบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปของผม จากนั้นก็ใช้ท่านเจี่ยงกลืนกินบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปของเรา !”
“ตอนนี้คุณยังจะแสดงละครกับผมต่ออีกไหม?”
แม้ว่าหม่าเสี่ยวหลงไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลหวางถึงต้องเปิดเผยตัวตนเธอ แต่เธอก็รู้ว่ามู่เฉิงรู้ทุกอย่างแล้ว
การที่ตระกูลหวางไม่ออกมาสนับสนุนคุณพ่อ บางทีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“ในเมื่อคุณรู้อย่างแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ถูกต้อง ที่ฉันเข้าหาคุณ ตระกูลหวางเป็นคนวางแผนจัดการทุกอย่าง ก่อนหนที่จะรู้จักคุณ ฉันกับหวางเจียเฉียงก็รักกันแล้ว” หม่าเสี่ยวหลงสีหน้าเย็นชา และไม่ต้องแสร้งทำเป็นคนที่น่าสงสารอีกต่อไป
“แต่ว่า ฉันไม่เข้าใจ ทำไมตระกูลหวางถึงบอกคุณเรื่องนี้? ตระกูลมู่ของพวกคุณหนีรอดจากการวางแผนจัดการของตระกูลหวางได้อย่างไร?”
มู่เฉิงหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “หึ คุณคู่ควรที่จะรู้เหรอ? หม่าเสี่ยวหลง ทำชั่วไว้เยอะกรรมนั้นต้องตามสนอง วันนี้ถึงเวลาที่พวกคุณพ่อลูกต้องทนทุกข์กับผลกรรมที่สร้างไว้!”
หม่าเสี่ยวหลงจ้องมองมู่เฉิงอย่างดุเดือด จากนั้น ก็เดินไปทางหวางซี่ไห่
“ลุงหวาง ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หม่าเสี่ยวหลงถามอย่างเย็นชา
หวางซี่ไห่ถอนหายใจ เพราะสถานการณ์บังคับเลยจำใจต้องทำ !
เพื่อทำให้หลินหยุนพอใจ เขาจึงต้องทรยศต่อพ่อลูกตระกูลหม่า
หวางซี่ไห่พูดอย่างเคร่งขรึม “หลานสาว ลุงบอกได้แค่ว่า ยอมรับชะตากรรมเถอะ พวกเราล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินเข้าแล้ว !”
หม่าเสี่ยวหลงสีหน้าประหลาดใจ “คนที่แม้แต่ท่านก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน? เป็นไปได้ยังไง! ท่านมีท่านเจี่ยงอยู่เบื้องหลังไม่ใช่เหรอ?”
เพราะความใจร้อน หม่าเสี่ยวหลงไม่สนใจว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ ดังนั้นเธอจึงพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังของหวางซี่ไห่โดยตรง
“ท่านเจี่ยง!”
“บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปถึงกับหาท่านเจี่ยงเป็นผู้พึ่งพา!”
“ถ้างั้นบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็จบแล้วสิ!”
มีบางคนที่ไม่รู้เรื่อง ยังแสดงท่าทีประหลาดใจกับข่าวนี้!
แต่ว่า ทุกคนที่รู้เรื่องในวันนั้น ต่างก็เงียบไม่พูดอะไร ท่านเจี่ยงที่อยู่ในสายตาของคนเหล่านี้ อาจเป็นคนที่มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ แต่ว่า พออยู่ต่อหน้าบุคคลนั้น ท่านเจี่ยงถ่อมตนจนราวกับคนรับใช้
ความเสียใจแวบผ่านใบหน้าของหม่าเสี่ยวหลง “ฉันขอโทษ ลุงหวาง ฉันปากไวไปหน่อย พูดอะไรบางอย่างที่ไม่ควรพูด ท่านอย่าโกรธนะคะ!”
สีหน้าของหวางซี่ไห่ไม่เปลี่ยน และก็ไม่ได้โทษหม่าเสี่ยวหลง เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “เธอคิดว่าท่านเจี่ยงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเก่งกาจแล้วใช่ไหม?”
หม่าเสี่ยวหลงพยักหน้า เจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลใหญ่สุดในหลินโจว ถึงแม้เทียบกับชาวจีนทั้งหมด ก็ไม่ถือว่าเป็นคนมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับในอำเภอจีหมิงแล้ว นี่ก็คือผู้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า
หวางซี่ไห่หัวเราะหึหึๆและพูดว่า “แล้วคุณรู้ไหมว่าท่านเจี่ยงอยู่ต่อหน้าบุคคลนี้ อ่อนน้อมถ่อมตนราวกับเป็นคนรับใช้?”
“อะไรนะ!” หม่าเสี่ยวหลงไม่อยากจะเชื่อ ท่านเจี่ยงเป็นคนรับใช้ เบื้องหลังของบุคคลนี้เป็นใครกันแน่!
สี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ในเมืองหลวงเหรอ?
“ลุงหวาง ที่คุณพูดเป็นความจริงเหรอคะ? คนคนนี้คือใคร?” หม่าเสี่ยวหลงไม่เชื่อ สติสัมปชัญญะบอกกับเธอว่า ผู้มีอิทธิพลที่เก่งกาจขนาดนี้ เป็นไปได้ไงจะมาอยู่ที่ตำบลจีหมิงเล็กๆแห่งนี้?
หวางซี่ไห่เหลือบมองไปทางหลินหยุน และพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “อย่ารีบร้อน ไม่นานเธอก็จะได้พบเขา!”
หม่าเสี่ยวหลงกลับมาตรงที่นั่งของเธออย่างสิ้นหวัง สมองยังคงคิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของหวางซี่ไห่
“พูดอย่างนี้ คนๆนี้น่าจะอยู่ในสถานที่นี้ ตกลงเขาเป็นใครกันแน่นะ?”
สายตาของหม่าเสี่ยวหลง กวาดมองไปทั่วสถานที่ คนที่อยู่ในนี้ส่วนใหญ่เธอก็รู้จัก แต่ไม่มีใครที่ตรงกับภาพลักษณ์ของชายผู้มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่คนนั้น
บนเวที รอไปสักครู่ ก็ไม่เห็นมีผู้สนับสนุนเพิ่มสักคน
เจียงซ่านหมิงสีหน้าดูแย่เล็กน้อยตะโกนว่า “คนต่อไป!”
หม่าเจี้ยนกั๋วใบหน้าแดงก่ำ ก้มหัวลงแล้วกลับไปตรงที่นั่ง
“เสี่ยวหลง นี่ตกลงเกิดอะไรขึ้น?” หม่าเจี้ยนกั๋วกระซิบอย่างโมโห
หม่าเสี่ยวหลงอ้าปากตาค้าง “ผู้มีอิทธิพลใหญ่ บุคคลที่แม้แต่ท่านเจี่ยงก็ยังเต็มใจที่ยอมเป็นคนรับใช้ของเขา!”
“อะไรนะ!” หม่าเจี้ยนกั๋วไม่เข้าใจคำพูดของหม่าเสี่ยวหลง “เธอพูดให้ชัดเจนสิ ผู้มีอิทธิพลอะไร?”
หม่าเสี่ยวหลงพอมีสติ แล้วเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ และพูดว่า “ตระกูลหวางเคยลงมือกับตระกูลมู่แล้ว แต่ผลที่ได้คือทำให้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ฉันเพิ่งถามหวางซี่ไห่ เขาบอกว่าผู้มีอิทธิพลใหญ่คนหนึ่งช่วยตระกูลมู่ไว้ และผู้มีอิทธิพลใหญ่คนนี้ก็สามารถทำให้ท่านเจี่ยงเต็มใจเป็นคนรับใช้ของเขา!”
หม่าเจี้ยนกั๋วสีหน้าราวกับเห็นผี “นี่เป็นไปไม่ได้!”
“ท่านเจี่ยงคือใคร ใครกล้าให้เขาเป็นคนรับใช้!”
หม่าเสี่ยวหลงไม่ได้พูด ตอนแรกเธอก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่หวางซี่ไห่ไม่มีเหตุผลที่จะโกหก
“อย่ารีบร้อน หวางซี่ไห่บอกว่าไม่นานเราก็จะได้เจอผู้มีอิทธิพลใหญ่คนนั้น!”
เรื่องที่เกิดกับหม่าเจี้ยนกั๋ว ด้านล่างต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
ต้องรู้ว่างานเลี้ยงฉลองครั้งนี้เดิมทีหม่าเจี้ยนกั๋วเป็นคนที่ทุกคนให้ความสำคัญมากที่สุด แต่ตอนนี้ผลงานของเขา น่าสมเพชจนทนดูต่อไปไม่ไหว!
หลินตงหัวซึ่งอยู่ในที่ห่างไกล ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยความสงสัย “นี่เกิดอะไรขึ้น? แต่ไหนแต่ไรหม่าเจี้ยนกั๋วเป็นคนที่มีเล่ห์หลี่ยมแพรวพราว วางกลอุบายล้ำลึก นักธุรกิจชั้นนำหนึ่งในสองของอำเภอจีหมิง บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป เขาก็สร้างความสัมพันธ์ไว้อย่างดี ทำไมวันนี้ทั้งสองบริษัทใหญ่ ถึงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ?”
หวางซูเฟินดูถูกงานเลี้ยงฉลองแบบนี้มาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่มาเป็นเพื่อนหลินตงหัว เธอไม่มาแน่นอน
นอกจากนี้ ถ้าหากหลินตงหัวยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตนของเธอ แม้แต่เจียงซ่างหมิงก็ต้องประจบประแจงเธอ
แต่ว่า คนอย่างหลินตงหัวนั้น ดื้อรั้นมาก และไม่ยินยอมที่จะรับความช่วยเหลือจากหวางซูเฟินแม้แต่น้อย
หวางซูเฟินเข้าใจนิสัยของเขา ดังนั้นจึงตามใจเขา และตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่มีความรู้สึกดีๆอะไรต่องานเลี้ยงฉลองนี้เลย
ถึงแม้ว่าจะมาเป็นเพื่อนหลินตงหัว แต่ก็แค่เดินผ่านๆ นอกจากดื่มน้ำแล้ว แม้แต่อาหารก็ไม่ยอมชิม เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนี้ เต็มไปด้วยความสกปรก
“สิ่งที่ได้มาแบบไม่สุจริตและไม่ยุติธรรม ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายใน หรือไม่มีคุณค่าให้หลอกใช้ได้แล้ว ก็ถูกทอดทิ้งแล้ว” หวางซูเฟินพูดอย่างดูถูก
“อาจจะเป็นเช่นนี้!” หลินตงหัวขมวดคิ้ว โดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าหวางซูเฟินเกลียดงานเลี้ยงฉลองแบบนี้ และจะไม่สนใจใครหรือสิ่งใดในที่นี้
คนที่ขึ้นไปในครั้งนี้ คือหัวหน้าผู้รับผิดชอบหมู่บ้านเปากู่ และเป็นหัวหน้าโดยตรงของหลินตงหัว ชื่อหยูจงหยวน
หยูจงหยวนกับหลินตงหัวแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในภาคปฏิบัติเขาเป็นคนที่จริงจังมาก พูดตรงๆเขาเป็นคนที่พอเจอคนที่มีผลประโยชน์ก็ลืมความถูกต้องทันที ใครให้เงิน เขาก็ดีกับคนนั้น
คนแบบนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากคนที่มีกลอุบายเล่ห์เหลี่ยมเดียวกัน
ดังนั้น ผู้สนับสนุนของหยูจงหยวน มีถึงสิบคน รวมถึงนักธุรกิจใหญ่สองคนที่มีค่าตัวมูลค่าสิบล้าน
ในบรรดาผู้รับผิดชอบทั้งหมดนี้ คนนี้ถือว่ามีผลงานไม่เลว
แม้แต่เจียงซ่างหมิง ก็พูดยกย่องหลายครั้ง
แน่นอนหยูจงหยวนต้องภาคภูมิใจอยู่แล้ว เมื่อเขาเดินผ่านโต๊ะของหลินตงหัว ปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้นเล็กน้อย มองหลินตงหัวอย่างดูถูก
หยูจงหยวนคนนี้ แม้ว่าจะเป็นหัวหน้าของหลินตงหัว แต่ว่าประสบการณ์คุณสมบัติต่างๆก็ไม่ดีเท่าหลินตงหัว และผลงานมากมายของหลินตงหัว ก็ถูกเขายึดครอง
นอกจากนั้น เขาเป็นคนไม่มีหลักการ ดังนั้นกับคนที่มีหลักการสูงอย่างหลินตงหัว แน่นอนไม่สามารถไปด้วยกันได้อยู่แล้ว เขาต้องการกำจัดหลินตงหัวตลอด แต่จนปัญญาเพราะหลินตงหัวทำงานมีประสบการณ์ที่สูงมาก ทำงานจริงจัง ทำให้เขาหาความผิดไม่ได้ เขาเลยทำไม่สำเร็จสักที
ดังนั้น หยูจงหยวนทำได้เพียงทำให้หลินตงหัวอับอายเป็นครั้งคราว รังเกียจเขาเป็นบางครั้ง
แม้ว่าในใจของหลินตงหัวจะไม่พอใจ แต่เขาไม่มีทางเลือก งานเลี้ยงฉลองครั้งนี้ ถือว่าเป็นฝันร้ายของเขาก็ไม่ถือว่ามากเกินไป
เขาคนนี้ ถูกกำหนดแล้วว่าไม่มีผู้สนับสนุนแน่นอน ผู้สนับสนุนของเขา อาจเป็นเพียงประชาชนคนนับหมื่นที่อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด