จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 45 ประชุมการรักษา
บทที่ 45 ประชุมการรักษา
หลินหยุนกลับถึงห้องนอน ก็ทำการฝึกฝนทันที
เวลามื้ออาหารค่ำ โจวเฟินให้เชี่ยหยู่เวยไปตามหลินหยุนมาทานข้าว
หลังจากผ่านเรื่องร้านไห่หลานครั้งที่แล้ว ท่าทีที่เชี่ยเจี้ยนโก๋มีต่อหลินหยุนแม้จะนับไม่ได้ว่าเกรงใจ แต่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก
ตอนที่ทานข้าว เชี่ยเจี้ยนโก๋กล่าวขึ้น: “พรุ่งนี้ที่โรงพยาบาลประชาชนมีประชุมการรักษาคนไข้ คุณหมอที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในหลินโจวต่างก็ถูกเชิญไป พรุ่งนี้พวกเธอสองคนอย่าออกไปไหน ไปประจำการที่คลินิกด้วย”
“รู้แล้วค่ะ” เชี่ยหยู่เวยคีบผักมา พร้อมตอบกลับ
หลังทานข้าวเสร็จ หลินหยุนก็กลับเข้าห้องนอนโดยตรง ทำการฝึกฝนต่อ
ผ่านไปสักพัก เชี่ยหยู่เวยก็กลับเข้ามาในห้องนอนเหมือนกัน
หลินหยุนลืมตาขึ้น มองเชี่ยหยู่เวยแวบหนึ่ง เวลานี้เธอน่าจะเที่ยวอยู่ในงานปาร์ตี้วันเกิดของหวางเสี่ยวซีถึงจะถูกนะ ทำไมถึงกลับมานอนได้ละ?
ดูท่าเรื่องวันนี้คงจะทำให้พวกเขาตกใจจนกลัว จนไม่มีกะจิตกะใจที่จะจัดงานปาร์ตี้วันเกิดกันแล้ว
เชี่ยหยู่เวยก็สำรวจหลินหยุน เธอพบว่าสองสามวันมานี้หลินหยุนใช้ท่านั่งที่แปลกๆนั่งอยู่ในมุมกำแพง
เริ่มแรกเธอไม่ได้สังเกต แต่ว่าตั้งเห็นความผิดปกติของหลินหยุนสองสามวันนี้ เชี่ยหยู่เวยมีความสงสัยในตัวหลินหยุนอย่างมาก จึงได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่แปลกๆ
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำนั้น หลินหยุนก็ใช้ท่านั่งที่แปลกประหลาดนี้นั่งอยู่ในมุมกำแพง
ตอนนั้นเธอสะลึมสะลือ ไม่ได้สนใจ แต่ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว เชี่ยหยู่เวยรู้สึกว่ามันผิดปกติ
“คุณทำอะไรเหรอ?”
น้ำเสียงของเชี่ยหยู่เวยแฝงด้วยความรังเกียจเล็กน้อย แต่สิ่งที่มากกว่าคือความอยากรู้อยากเห็น
หลินหยุนรู้ว่าปิดปังเธอไม่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่คิดที่จะปิดปังด้วย ในเมื่อบนโลกก็มีนักบู๊อาศัยอยู่ ถ้าจะเพิ่มเขามาอีกคนก็คงไม่เป็นไร แต่หลินหยุนไม่อยากสนใจเธอ กลัวว่าเธอจะถามจู้จี้จุกจิก
เมื่อเห็นหลินหยุนไม่สนใจตัวเอง ทันใดนั้นเชี่ยหยู่เวยก็รู้สึกอับอายและโกรธ เมื่อก่อนเป็นตัวเธอที่ไม่สนใจหลินหยุน ตอนนี้ถึงคิวเธอที่ถูกเมินแล้ว
เพียงแต่รสชาติแบบนี้มันก็ทรมานมาไม่ใช่น้อย เมื่อก่อนฉันทำกับเขาแบบนี้ แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไร แต่ในใจเขาก็คงไม่สบายนัก?
คิดถึงเมื่อก่อนที่ตัวเองทำกับหลินหยุนแบบนี้ ในใจเชี่ยหยู่เวยก็ดีขึ้นมาหน่อย เธอเหลือบมองหลินหยุน แล้วก็เข้านอนด้วยความโกรธ
หลินหยุนได้นำพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่ได้มาจากบ้านจินซื่อหรง ยังมีพระพุทธรูปที่เช่ามาจากร้านขายของโบราณ วางไว้ข้างกาย
“ตอนนี้ฉันเข้าสู่ระยะปฐมภูมิตอนแรก สามารถดูดซับพลังของสวรรค์และโลกที่มีอยู่ในหยกได้เท่านั้น อนาคตหากฉันเข้าสู่ระยะเทพ ก็สามารถดูดซับพลังแห่งสวรรค์และโลกที่ติดมากับวัตถุที่ไม่มีชีวิตทุกอย่าง ”
“ดูแล้วในโลกที่แห้งแล้งด้วยชี่ทิพย์ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า《วิชากลืนสวรรค์》ของฉัน”
หลินหยุนมือซ้ายจับพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ มือขวาจับพระพุทธรูป หมุนพลังวิชา
พลังชี่มหาโหดสีแดงบนพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ของพระพุทธรูปเป็นแสงสีทอง คลื่นแสงที่สายตามองไม่ทัน ค่อยๆเข้าสู่ภายในร่างกายของหลินหยุน
หลังจากการกลั่นของมีวิชากลืนสวรรค์ ก็ได้กลายเป็นพลังทิพย์ในร่างของหลินหยุน
หลังจากดึงพลังจากพระพุทธรูปทั้งสององค์ หลินหยุนคายลมหายใจออกมายาวๆ
“พลังของพระพุทธรูปสององค์นี้ เทียบได้กับการฝึกฝนสิบวัน อาจจะไม่นานนัก ฉันก็สามารถเข้าสู่ระยะปฐมภูมิกลาง” ดูดพลังทั้งหมดของพระพุทธรูปสององค์นี้แล้ว หลินหยุนยังคงฝึกฝนต่อ
เช้าวันที่สอง เชี่ยเจี้ยนโก๋ออกไปจากบ้านแต่เช้า ไปที่โรงพยาบาลประชาชน
ดูแล้วการที่ถูกโรงพยาบาลประชาชนเรียนเชิญ เชี่ยเจี้ยนโก๋ดีใจไม่น้อย รู้สึกว่าตัวเองมีหน้ามีตา
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ภายใต้การกำกับของโจวเฟิน หลินหยุนกับเชี่ยหยู่เวยก็ไปที่คลินิก
หลินหยุนเห็นคุณค่าของเวลา หลังจากที่เข้าไปในคลินิก ก็ทำการฝึกฝนทันที
ตอนเที่ยง ทั้งคู่สั่งอาหารมาทาน
เพิ่งจะทานข้าวเสร็จ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลประชาชนโจวชิงเหอก็เข้ามาอย่างรีบร้อน
เมื่อเข้ามา โจวชิงเหอก็กล่าวอย่างเร่งรีบ: “คุณหลิน รบกวนคุณไปกับผมหน่อย มีเรื่องที่ด่วนมาก!”
หลินหยุนที่กำลังหลับตาพักผ่อน ได้ยิน ก็ลืมตาขึ้น ถามอย่างเรียบเฉย: “เรื่องอะไร?”
“ช่วยชีวิตคน!” โจวชิงเหอพูดจบ ก็ไปดึงมือของหลินหยุนโดยตรง
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย หากคนทั่วไปทำแบบนี้ เกรงว่าคงถูกฝ่ามือของหลินหยุนตบจนเซ
แต่ว่า โจวชิงเหอเป็นผู้มีบุญคุณของเขาเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้ หลินหยุนจำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณนี้
ตามโจวชิงเหอมาถึงโรงพยาบาลประชาชน ก็เข้าไปในห้องประชุมทันที
ด้านหน้าห้องประชุมมีหน้าจอขนาดใหญ่ กำลังฉายคลิปวิดีโอผ่าตัดอยู่
ตรงนี้ รวบรวมคุณหมอที่มีชื่อเสียงทั้งหมดของหลินโจว กำลังถกปัญหานี้อย่างเข้มข้น
เมื่อเห็นโจวชิงเหอเปิดประตูเข้ามา ผู้คนทั้งหมดก็เงียบสงบลงทันที
โจวชิงเหอพาหลินหยุนขึ้นไปที่แท่นพูด กล่าวแนะนำอย่างจริงจัง: “ท่านนี้เป็นคุณหมอหลินที่ผมเชิญมาโดยเฉพาะ”
สายตาของทุกคน ได้มองไปที่หลินหยุนทั้งหมด
หญิงวัยกลางคนที่มีสวมแว่นตากรอบสีดำลุกขึ้นยืน สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยแล้วกล่าว: “ไม่ใช่มั้ง!”
“ผู้อำนวยการโจว คนนี้เป็นหมอเทพที่คุณเชิญมาเหรอ?”
ทุกคนมองไปโจวชิงเหอด้วยความอยากรู้อยากเห็น
โจวชิงเหอยิ้มๆแล้วพยักหน้า: “ใช่ ท่านนี้ก็คือหมอเทพที่ผมเคยบอกกับทุกท่าน!”
“เห่อๆ ผู้อำนวยการโจว คุณกำลังล้อเล่นกับพวกเราอยู่ใช่มั้ย? เจ้าหนุ่มคนนี้มากสุดอายุก็คงจะยี่สิบปี ถ้าหากคุณบอกว่าเป็นแพทย์ฝึกหัด พวกเรายังอยากจะเชื่อ แต่ว่าคุณบอกว่าเขาก็คือคนที่คุณบอกว่าเป็นหมอเทพคนนั้น คุณเห็นพวกเราเป็นเด็กอายุสามขวบเหรอ?”
หมอแก่ที่มีผมขาวครึ่งหัว มีความโกรธเล็กน้อยหัวเราะอย่างเย็นชากล่าว
หมอแก่คนนี้เป็นรองผู้อำนวยการคนก่อนของโรงพยาบาลประชาชนชื่อว่าหวางหยวนเผย เป็นหมอเชี่ยวชาญด้านสมอง ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการแพทย์ของหลินโจว
หากไม่ใช่เพราะโจวชิงเหอเป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลประชาชน เกรงว่าหวางหยวนเผยคงด่าหยาบออกมาโดยตรง
โจวชิงเหอรู้อยู่แล้วว่าพาหลินหยุนมาที่นี่ ต้องถูกผู้คนสงสัยในความสามารถอย่างแน่นอน เพียงแต่คนที่ก้าวออกมาก็คือรองผู้อำนวยการคนเก่าของโรงพยาบาลประชาชน โจวเหอชิงนั้นรู้สึกว่าตัวเองนั้นประเมินปฏิกิริยาตอบสนองของทุกคนต่ำเกินไป
“ท่านหวาง ท่านอยากไปมองว่าหมอเทพหลินอายุน้อย แต่ว่าฝีมือการแพทย์ของเขานั้นอัศจรรย์มาก แม้กระทั่งโรคที่หมอเทพเย่แห่งเมืองหลวงรักษาไม่ได้ แต่เมื่อถึงมือหมอเทพหลินก็สามารถรักษาหายได้” โจวชิงเหอหัวเราะอธิบาย
“งั้นเหรอ? งั้นก็ให้หมอแก่อย่างผมต้องดูใหม่อีกครั้งแล้ว!” หวางหยวนเผยมองหลินหยุน ความสงสัยในสายตาค่อยๆลดลง
แต่ว่า จู่ๆในห้องประชุมก็มีหมอคนหนึ่งลุกขึ้นมา มองไปที่หลินหยุนแล้วตะโกนพูด: “เหลวไหล!”
“หลินหยุน นายมาที่นี่ทำไม? นายที่เป็นนักศึกษาสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์คนหนึ่ง จะเป็นหมอเทพได้อย่างไร!”
หมอคนนี้ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นพ่อตาของหลินหยุน เชี่ยเจี้ยนโก๋
โจวชิงเหอไม่ได้รู้จักเชี่ยเจี้ยนโก๋ รู้เพียงแต่ว่าเขาเป็นหมอที่ถูกรับเชิญให้มา และไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหยุน
โจวชิงเหอมองเชี่ยเจี้ยนโก๋อย่างสงสัย แล้วถาม: “คุณคือ?”
เชี่ยเจี้ยนโก๋กล่าวอย่างเคร่งขรึม: “ผมเป็นพ่อตาของเขา เขามีความสามารถแค่ไหนผมจะไม่รู้เลยเหรอ? ผู้อำนวยการโจว คุณอยากโดนเขาหลอกนะ!”
โจวชิงเหอตกใจจนพูดไม่ออก ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึง วันนี้หมอที่เชิญมาเหล่านี้ จะมีพ่อตาของหลินหยุนร่วมอยู่ด้วย!
ตอนนี้ ในห้องประชุมก็เกิดความโกลาหล!
ทุกคนล้วนกล่าวหาว่าหลินหยุนเป็นคนไม่ดี กล้าแอบอ้างเป็นหมอ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าหมอที่ไร้ความสามารถนั้นทำให้คนตายนั้นมีไม่น้อยไม่ใช่เหรอ?
ในเวลาเดียวกันต่างชื่นชมเชี่ยเจี้ยนโก๋ ไม่ไหว้หน้าญาติ เปิดโปงฐานะของหลินหยุนโดยตรง
คุณหมอเหล่านี้ ก็มีหมอผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลประชาชนอยู่ด้วย คนที่เป็นศัตรูกับโจวชิงเหอ ฉวยโอกาสนี้สาดโคลนใส่โจวชิงเหอทันที
“ผู้อำนวยการโจว คุณพานักศึกษาสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์มาแอบอ้างเป็นหมอเทพ คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?” หมอผู้เชี่ยวชาญสมอง จางฉางฝูหัวเราะเย็นชาแล้วกล่าว