จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 454 ฉินหลันถูกจับเป็นเชลย
นักบู๊จำนวนหนึ่งเดินกลับออกมาจากภูเขากู่
ส่วนใหญ่ต่างก็แยกย้ายกลับไปยังสำนักของตน
แต่ว่า ในจำนวนนั้นมีชายชราผิวคล้ำในชุดสูทท่านหนึ่ง ยังคงอยู่ที่นี่ต่อ โดยได้หาโรงแรมที่หมู่บ้านเปากู่เพื่อเข้าพักอาศัย
ผ่านไปไม่นาน นักบู๊หนุ่มหลายคนก็มาถึงที่หมู่บ้านเปากู่ เพื่อพบเจอกับชายชราผู้นั้น
“เจ้าสำนัก ท่านเรียกรวมตัวพวกเรามีเรื่องอะไรเหรอ? ”
ชายชราผิวคล้ำผู้นั้น ก็คือนักบู๊ผู้ที่ถูกคัดเลือก ให้ติดตามหลินหยุนเพื่อไปค้นหากุญแจค่ายกล และก็คือผู้ที่พบเจอแผนที่แผ่นนั้นท่ามกลางซากปรักหักพังในวังเทพจันทรา
ชายชราผู้นี้มีสถานะอีกอย่างหนึ่ง ก็คือเจ้าสำนักสวนอินในโลกบู๊
ประตูของสำนักสวนอิน อยู่บนภูเขาลมปีศาจ และภูเขาลมปีศาจก็อยู่ที่หมู่บ้านชิงเฟิงซึ่งอยู่ด้านข้างติดกับหมู่บ้านเปากู่
เขาคือนักบู๊กลุ่มแรกที่ค้นพบวังเทพจันทรา
แต่น่าเสียดายที่ สำนักสวนอินของเขาไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างสำนักอู๋จี๋ ดังนั้นจึงทำได้เพียงมองดูวังเทพจันทราถูกสำนักอู๋จี๋เข้าครอบครอง
เขาล่วงเกินสำนักอู๋จี๋ไม่ได้ แต่ว่าต่อมาแม้แต่หลินหยุนก็มารังแกข่มขู่เขา ซึ่งความโกรธแค้นนี้ เขาอดทนรับมันไม่ได้แล้ว
เจ้าสำนักสวนอินมีสีหน้าที่หม่นหมองอย่างช่วยไม่ได้ และพูดขึ้นว่า: “พวกนายรีบไปสะกดรอยตามหลินตงหัวผู้รับผิดชอบหมู่บ้านเปากู่ และหาโอกาสที่จะจับตัวเขามาให้ได้”
เด็กหนุ่มหลายคนนี้ คือลูกศิษย์ของเขา
ได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มคนหนึ่งในจำนวนนั้นก็เกิดความวิตกกังวล: “เจ้าสำนัก หลินตงหัวแม้ว่าจะเป็นเพียงผู้รับผิดชอบหมู่บ้านแห่งนี้ แต่เขาเป็นถึงคนของทางราชการ พวกเราทำแบบนี้เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก! ”
เจ้าสำนักสวนอินขมวดคิ้ว จากนั้นก็เปลี่ยนความคิดใหม่: “ข้าสะเพร่าไปเอง ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่ไปแตะต้องเขา โดยที่ข้างกายของเขามีหญิงสาวงดงามคนหนึ่ง เหมือนว่าจะชื่อฉินหลัน พวกนายหาโอกาสจับตัวเธอกลับมาที่สำนักให้ได้! ”
“รับทราบ! ”
“แต่ว่าเจ้าสำนัก ทำไมพวกเราต้องไปจับตัวคนธรรมดาด้วยล่ะ? ”
เจ้าสำนักสวนอินแสดงสีหน้าโกรธเคือง: “ฮึ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับไอ้หนุ่มน้อยนั่นไม่ธรรมดา พวกเขาทั้งสองส่งสายตาสื่อความรักให้แก่กัน ข้าแค่เห็นก็พอมองออกแล้ว! ”
“จับตัวผู้หญิงคนนี้มา เพื่อให้ไอ้หนุ่มน้อยนั่นนำเอาสิ่งของที่ช่วงชิงจากมือของข้าไป ส่งมอบกลับคืนมาให้ข้าทั้งหมด! ”
เจ้าสำนักสวนอินสังเกตได้อย่างแนบเนียนมาก ตอนนั้นหลินหยุนกับฉินหลันได้ส่งสายตาสื่อสารระหว่างกันเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ถูกเขามองออกถึงต้นสายปลายเหตุได้แล้ว
“เจ้าสำนัก พวกเราจะไปจัดการเดี๋ยวนี้! ”
เด็กหนุ่มหลายคนเดินจากไป
เจ้าสำนักสวนอินยิ้มอย่างเย็นชา: “ฮึ หลินหยุน ในวังเทพจันทรา มีสำนักอู๋จี๋คอยหนุนหลัง นายจึงแย่งชิงแผนที่ของข้าไป คราวนี้ข้าจะให้นายส่งมอบกระบี่สั้นเล่มนั้นออกมาด้วยมือของนายเอง! ”
“ช่วงบ่าย เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับมาที่โรงแรม เพื่อรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดให้กับเจ้าสำนักสวนอิน”
“เจ้าสำนัก พวกเราเจอตัวของหลินตงหัวแล้ว แต่ที่ท่านพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อฉินหลันคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
เจ้าสำนักสวนอินขมวดคิ้ว: “ไม่อยู่ที่นี่? แล้วเธอไปที่ไหนล่ะ? ”
“ได้ยินว่ากลับอำเภอไปแล้ว”
“แล้วจะมัวรออะไรอยู่อีก ไปตามตัวจับมาให้ข้าให้ได้ รีบไปที่อำเภอกันเดี๋ยวนี้! ”
เจ้าสำนักสวนอินเป็นผู้นำขบวนเอง โดยได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอจีหมิง
เมื่อมาถึงอำเภอแล้ว เจ้าสำนักสวนอินก็หาโรงแรมเพื่อเข้าพักอาศัย
แล้วก็สั่งให้ลูกศิษย์ออกไปสืบเสาะค้นหาบ้านของหลินตงหัว
หลินตงหัวอย่างน้อยก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง จึงไม่ยากที่จะเสาะหา
ไม่นาน พวกลูกศิษย์ก็ได้รายงานผลให้กับเจ้าสำนักสวนอินรับทราบ
เจ้าสำนักสวนอินได้สั่งการให้ลูกศิษย์เฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านของหลินตงหัวก่อน เพื่อหาโอกาสจับตัวฉินหลัน โดยพยายามที่จะไม่ให้คนอื่นพบเห็น
โม่หยู่หลังจากที่พบเห็นหลินหยุนในครั้งก่อนนี้แล้ว ไม่รู้ว่าทำไม มักจะคิดถึงคำพูดของหลินหยุนอยู่บ้างเป็นครั้งคราว
หลินหยุนเคยพูดว่า เขารู้จักนักบู๊ยอดฝีมือ
แต่ว่า โม่หยู่รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่เขาพูดเรื่องนี้นั้น สายตาของเขาจ้องมองมาที่เธอโดยตลอด เหมือนกับว่าจงใจที่จะพูดให้เธอฟังโดยเฉพาะ
“หรือว่าไอ้หนุ่มนี้จะมองอะไรออกแล้ว? ” โม่หยู่เกิดความสงสัยขึ้นในจิตใจ
“ไม่น่าจะใช่! ในร่างกายของเขา ฉันไม่ได้รับรู้และสัมผัสถึงชี่แท้แม้เพียงเล็กน้อยเลย! อีกทั้งครั้งแรกที่พบเจอกัน ต่อให้จะถูกเขามองออก แต่เขาก็ไม่ควรที่จะพูดแบบนี้กับฉัน”
“หรือว่าบางทีอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้! ”
โม่หยู่คิดว่าคงเป็นแบบนี้
ขณะที่ไม่ทันตั้งตัว โม่หยู่ก็ได้มองเห็นคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก
ผมยาวประบ่า รูปร่างสูงยาว สวยงดงามกว่าสาวงามทั้งสามคนของอำเภอจีหมิงมากมายหลายเท่าเลย
ที่สำคัญลักษณะท่าทางของเธอ ในความกระฉับกระเฉงและมีความสามารถยังเผยให้เห็นถึงความอ่อนโยน ผู้หญิงแบบนี้ไม่เพียงแค่สามารถหาเงินหารายได้ ยังจะดูแลคนได้อีกด้วย
เมื่ออยู่นอกบ้านก็เป็นหญิงแกร่ง เมื่ออยู่ในบ้านก็เป็นนางฟ้า
เป็นแบบฉบับตัวเลือกภรรยาในฝันของผู้ชายเลยทีเดียว
แน่นอนว่า โม่หยู่ก็เป็นผู้หญิงที่สวยงามเช่นกัน ดังนั้นเรื่องสำคัญที่เธอมองไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้มีความสวยงามมากแค่ไหน
แต่เป็นเพราะด้านหลังของผู้หญิงที่สวยงามคนนี้ มีเด็กหนุ่มลามกสองคนเดินตามอยู่ตลอด
ที่นี่ยิ่งจะเปลี่ยวมากขึ้น เด็กหนุ่มสองคนนั้นก็ยังคงเดินตามผู้หญิงสาวสวยคนนั้นอยู่ตลอด โดยมีวัตถุประสงค์อะไรแค่คิดก็พอจะทราบได้แล้ว
โม่หยู่เห็นว่าผู้หญิงสวยงามคนนี้ไม่ใช่คนอื่น คือฉินหลัน
เพราะว่าเดินทางมาทำงานนอกสถานที่ และถูกลูกศิษย์สองคนของสำนักสวนอินสะกดรอยติดตามมาตลอดทาง
มองดูโดยรอบแล้วไม่มีผู้คนที่เดินทางไปมา เด็กหนุ่มสองคนก็ส่งสายตาให้กัน แล้วลงมือกระทำการทันที
ทั้งสองคนเป็นนักบู๊ระดับแดนพรสวรรค์ ฉินหลันไม่มีความสามารถที่จะต่อต้านขัดขืนได้ จึงถูก ทำร้ายจนสลบไป
โม่หยู่เห็นฉินหลันถูกทำร้ายจนสลบไป จึงได้ปรากฏตัวออกมา ยืนขัดขวางอยู่เบื้องหน้าเด็กหนุ่มสองคนนั้น
“พวกนายเป็นใครกัน! ”
เด็กหนุ่มสองคนเห็นโม่หยู่ ก็ตะโกนใส่อย่างเย็นชา: “อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น! ”
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ! ” โม่หยู่ตะโกนอย่างเย็นชา
เด็กหนุ่มที่ประคองฉินหลันนั้น พูดกับเด็กหนุ่มอีกคนว่า: “ลงมือ จัดการจับตัวเธอไว้เลย! ”
“ตกลง! ”
เด็กหนุ่มอีกคนนั้นก็ได้ลงมือจัดการทันที
โม่หยู่รับมืออย่างสงบนิ่ง ขยับตัวหลบหลีกการบุกเข้าใส่ของเด็กหนุ่มนั้น
“โอ้ว คิดไม่ถึงว่าคุณจะมีความสามารถที่ไม่เลวเลย! ” เด็กหนุ่มคนนั้นเยาะเย้ยด้วยความเหลือเชื่อ
“แต่ว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อกรของข้า ข้าขอเตือนให้คุณเชื่อฟังเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นจะต้องพบกับความยุ่งยากลำบาก! ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่สุภาพ
“ใช่หรือไม่ใช่คู่ต่อกร ต่อสู้กันก่อนจึงจะรู้! ” โม่หยู่ไม่พูดไร้สาระอะไรกับเขา แล้วก็ลงมือทันที เงาร่างราวกับผีเสื้อที่กำลังบินชมดอกไม้ คล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างมาก
แต่น่าเสียดายที่พลังความสามารถของโม่หยู่ต่ำกว่าเด็กหนุ่มคนนั้น ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่าก็เสียเปรียบให้กับคู่ต่อสู้แล้ว
“ไม่ได้ สู้เขาไม่ได้ จะต้องถอยร่นก่อนแล้ว”
โม่หยู่ใช้กระบวนท่าหลอกลวง เพื่อหลบหลีกถอยร่นกลับไป
“คิดจะหนีเหรอ? ” เด็กหนุ่มนั้นหัวเราะอย่างแปลกประหลาด แต่ก็ไม่ได้ไล่ตามไป
แต่ว่า โม่หยู่กลับเป็นผู้ถอยร่นออกมาเอง โดยที่ด้านหน้าของเธอ ก็ปรากฏเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
“คนสวย คุณคิดจะหลบหนีไปที่ไหนเหรอ! ”
“แย่แล้ว! ” โม่หยู่แอบพูดขึ้น และรีบตัดสินใจ พุ่งไปทางด้านซ้ายเพื่อหลบหนีออกไป
แต่ว่า ก็ยังมีเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้าของโม่หยู่ เด็กหนุ่มสี่คนแยกกันยืนอยู่สี่ทิศทาง ล้อมรอบโม่หยู่เอาไว้
“ปล่อยฉันไปนะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ฉันจะคิดว่ามันไม่เคยได้เกิดขึ้น! ” โม่หยู่พูดด้วยสีหน้าที่หนักแน่น
“เหอะเหอะ คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้ไหมล่ะ? ทำร้ายเธอให้สลบแล้วก็นำตัวกลับไป! ” เด็กหนุ่มที่ประคองฉินหลันอยู่พูดขึ้นอย่างเย็นชา
เด็กหนุ่มอีกสามคนลงมือจัดการพร้อมกัน โม่หยู่ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านอะไรได้เลย จึงถูกทำร้ายจนสลบไป
รถตู้สีขาวคันหนึ่งขับเข้ามา เด็กหนุ่มสี่คนได้นำตัวฉินหลันและโม่หยู่ ขึ้นไปบนรถ
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ได้ถูกคุณป้าพนักงานทำความสะอาดพบเห็นเข้าพอดี
ที่บ้านของหลินตงหัว เปลือกตาของหวางซูเฟินกระตุกอย่างไม่หยุด จิตใจไม่ค่อยสงบ รู้สึกว่าเหมือนกับจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฉินหลันออกไปทำงานต่างพื้นที่ แต่ว่า รอตั้งนานแล้วก็ยังไม่เห็นฉินหลันกลับมาสักที หวางซูเฟินกระวนกระวายใจ จึงได้โทรศัพท์ไปหาฉินหลัน
แต่กลับได้ยินคำพูดว่า หมายเลขโทรศัพท์ที่คุณกำลังติดต่อนั้นไม่อยู่ในเขตการให้บริการ
ทราบกันดีว่าตอนนี้สัญญาณโทรศัพท์นั้นมีการให้บริการที่ดีมากแล้ว โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่จัดอยู่ในลำดับผู้นำของโลกอย่างแน่นอน
มีน้อยมากที่ยังเป็นสถานที่อับสัญญาณ
อีกทั้งสถานที่ที่ฉินหลันไปในวันนี้ ก็ไม่ใช่สถานที่ที่อับสัญญาณแต่อย่างใด
จากการวิเคราะห์จากประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมาของหวางซูเฟิน ฉินหลันจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
ครั้นแล้ว หวางซูเฟินก็ได้รีบโทรศัพท์ไปหาหลินตงหัว ให้เขาหยุดงานทุกอย่างในมือของเขาลงชั่วคราว แล้วรีบกลับมาที่บ้าน