จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 475 ทางเลือกของควีนจิน
ความหมายของหวางเจ๋อนั้นชัดเจนมาก
ปรมาจารย์หลินได้ตายไปแล้ว หากคุณยังเลือกที่จะไปหลินโจว นั่นก็คือต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลหวาง ต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาเอง
หากควีนจินเลือกที่จะอยู่ต่อ ก็หมายถึงการประนีประนอมกับตระกูลหวาง และกลายเป็นเพื่อนของตระกูลหวาง
จะเลือกยังไง อำนาจการตัดสินอยู่ที่ควีนจิน
ควีนจินครุ่นคิดเล็กน้อย และก็ได้คำตอบ
มองไปที่หวางเจ๋อ และออร่าอันเคร่งเครียดราวกับได้ทะลุผ่านผ้าคลุมหน้า เปล่งประกายออกมา
“อย่าพึ่งคิดว่าข่าวของคุณจริงหรือเท็จ ถึงแม้หลินหยุนจะตายจริงๆ ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาไม่ใช่สิ่งที่คนนอกสามารถก้าวก่ายได้ หลิงหนานนี้ ยังมีฉันอยู่!”
“คุณชายหวาง คนที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ มีสิ่งของบางอย่าง ที่อยู่เหนือเงินทองและผลประโยชน์ อย่างเช่น บุญคุณ มิตรภาพ……”
“ถ้ามีใครสักคน สามารถทอดทิ้งทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ ในอนาคตเขาก็สามารถทอดทิ้งคุณได้เช่นกัน”
ในที่สุดหวางเจ๋อก็หุบยิ้ม และพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ดังนั้น นี่เป็นทางเลือกของคุณ!”
“ถูกต้อง!”
“ถ้างั้นก็ระวังตัวให้ดี!” หวางเจ๋อพูดด้วยเสียงขรึม
“ขอลา!”
ควีนจินพาหยุนเยว่และเฟิงเหมียนหันหลังแล้วเดินจากไป โดยไม่ลังเลเลยสักนิด
หวางเจ๋อมองไปที่ด้านหลังของพวกเขาทั้งสองที่จากไป ใบหน้าวัยเยาว์จู่ๆก็หดหู่ใจขึ้นมา
“ควีนจิน ฉันประเมินค่าเธอต่ำไป!”
“คุณชายสอง ต้องการให้ผมไปรั้งพวกเธอไว้หรือไม่?” เหมือนลมกระโชกพัดผ่าน ชายชราในชุดสีเทาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายหวางเจ๋อ ด้วยความรวดเร็วมาก
“ไม่ต้องแล้ว ปล่อยให้คนของสำนักเจ็ดดาวจัดการกับเธอเอง! คราวนี้คนที่สำนักเจ็ดดาวส่งออกมา ดูเหมือนว่าจะเป็นอาจารย์อาที่เก่งในวิชาดูดหยินบำรุงหยาง(ผู้หญิงกับผู้ชายทะอะไรกันเพื่อให้ร่างแข็งแกร่งกว่า)” ใบหน้าหวางเจ๋อปรากฏรอยยิ้มที่มีแผนการสมรู้ร่วมคิด
ก่อนที่จะพบควีนจิน เขาวางตำแหน่งของควีนจินเหมือนกับเจี่ยงสง ทั้งหมดก็พึ่งพาพลังอันมหาศาลของปรมาจารย์หลิน
หลังจากที่ได้พบควีนจินแล้ว หวางเจ๋อค้นพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างควีนจินกับหลินหยุนนั้น ลึกซึ้งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
หากเกิดเรื่องไม่ดีกับควีนจิน แม้ว่าหลินหยุนจะกลับมาไม่ทันเวลา แต่หลังจากที่เขากลับมาแล้ว เขาจะต้องต่อสู้กับสำนักเจ็ดดาวให้ตายไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน
หากหลินหยุนกลับมาก่อนเวลา ตระกูลกงและคนในสำนักเจ็ดดาว คงไม่สามารถมีชีวิตกลับไปแน่นอน ด้วยวิธีนี้ สำนักเจ็ดดาวจะต้องต่อสู้กับหลินหยุนจนต้องตายไปข้างหนึ่ง
“ด้วยวิธีนี้ ไม่มีอะไรผิดพลาด” หวางเจ๋อทำท่าบิดขี้เกียจ สีหน้าผ่อนคลาย
ในวันเดียวกันควีนจินรีบไปที่หลินโจว และได้พบกับเจี่ยงสง
ชั่วขณะเจี่ยงสงก็มีที่พึ่งพิงทันที
“คุณท่านจิน กงซิวซ่างให้เวลาฉันวันหนึ่ง เพื่อให้ฉันเรียกผู้มีอิทธิพลเมืองสิบแปดเมืองแห่งมณฑลหลิงหนานมา เพื่อยอมศิโรราบต่อเขา ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมที่จะไปแจ้งข่าวบอกเส้เทียนหัวและคนอื่นๆ คุณคิดว่าอย่างไร?” เจี่ยงสงพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
ควีนจินพูดว่า “ในเมื่อตระกูลกงมียอดฝีมือด้านบู๊คอยช่วยเหลือ ถึงแม้จะเรียกทุกคนมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร เนื่องจากตระกูลกงต้องการอุตสาหกรรมการผลิตน้ำแห่งชีวิต และคงจะไม่ปล่อยคฤหาสน์เยว่หยาหูไปอย่างแน่นอน”
“พวกเราขึ้นไปที่คฤหาสน์ตึกว่างเยว่ที่อยู่เหนือทะเลสาบเยว่หยา และแจ้งข่าวให้กับคุณซูจื่อเหลียง หวังว่าเขาจะสามารถควบคุมค่ายกลที่ปรมาจารย์หลินสร้างไว้ เพื่อต่อต้านการโจมตีของตระกูลกง
เจี่ยงสงพูดว่า “ถ้างั้นเรื่องนี้ชักช้าไม่ได้ ตอนนี้พวกเราควรรีบไปแจ้งคุณซูจื่อเหลียง!”
“ดี!”
ทะเลสาบเยว่หยา เต็มไปด้วยหมอก และภายใต้ค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์ ทั่วทะเลสาบเยว่หยาอุดมไปด้วยออร่าของชี่ทิพย์ สวยงามเหมือนดั่งแดนสวรรค์
เพียงแต่ว่า ค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์มีผลทำให้เห็นภาพมิติ และคนธรรมดาไม่สามารถขึ้นไปได้
แต่ว่า เนื่องจากเจี่ยงสงต้องเข้าไปในคฤหาสน์ตึกว่างเยว่เพื่อไปเอาน้ำชี่ทิพย์มาผลิตเป็นน้ำแห่งชีวิต ดังนั้น หลินหยุนจึงได้นำวิธีเข้าไปในตึกว่างเยว่ บอกกับเจี่ยงสง
เจี่ยงสงและควีนจิน พร้อมด้วยคนสนิทสองสามคน ไปที่คฤหาสน์ตึกว่างเยว่ แต่ไม่พบซูจื่อเหลียง และไม่มีใครอยู่สักคน
ขณะนี้ซูจื่อเหลียงยังคงอยู่ในจงโจว ปกป้องดูแลความปลอดภัยของหวางซูเฟินและฉินหลัน
หลังจากมองหาไปรอบๆ เจี่ยงสงกับควีนจินและคนอื่นๆก็ยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์อีกครั้ง ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ควรทำอย่างไรดี? คุณซูจื่อเหลียงไม่อยู่ และไม่สามารถติดต่อปรมาจารย์หลินได้ เรื่องนี้ควรจะทำอย่างไรดี?” เจี่ยงสงตื่นเต้นจนกระทืบเท้า
ควีนจินถอนหายใจ “ตอนนี้พวกเราต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว”
“มีค่ายกลพิทักษ์ที่ปรมาจารย์หลินสร้างไว้ หวังว่าจะสามารถหยุดคนตระกูลกงได้ซักพัก ยื้อเวลาจนกว่าปรมาจารย์หลินหรือคุณซูจื่อเหลียงจะกลับมา!”
เจี่ยงสงพูดด้วยความกลุ้มใจ “น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีข้อมูลติดต่อของคุณซูจื่อเหลียง ไม่แน่บางทีขณะนี้อาจจะอยู่กับปรมาจารย์หลิน หากสามารถติดต่อเขาได้ บางทีก็อาจติดต่อปรมาจารย์หลินได้”
ควีนจินไม่พูดอะไร ซูจื่อเหลียงยืนอยู่ข้างหลังหลินหยุนมาโดยตลอด ซึ่งทำให้ผู้คนมองข้ามได้ง่าย และดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยสนใจควีนจินและคนอื่นๆ และทุกคนก็ไม่จำเป็นต้องไปประจบเอาใจเขาฝ่ายเดียว
“ตอนนี้พูดอะไรมันก็สายเกินไป คุณให้คนติดต่อกับปรมาจารย์หลินเรื่อยๆ และฉันจะไปค้นหารอบๆเพื่อดูว่าปรมาจารย์หลินได้ทิ้งมาตรการป้องกันไว้หรือไม่”
วันรุ่งขึ้น กงซิวซ่างได้พาผู้คนไปที่คฤหาสน์ของเจี่ยงสงอีกครั้ง
เพียงแต่ว่า คฤหาสน์เจี่ยงสงนั้นว่างเปล่าไม่มีคนสักคน แม้แต่รปภ.ก็หายไป
ยืนอยู่ในลานที่ว่างเปล่า กงซิวซ่างยิ้มเยาะเย้ย “เจี่ยงสงตัวดี ถึงกับหนีไปจริงๆ! แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายของฉันไม่ใช่แก หนีไปแล้วก็ช่างมัน!”
“ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกเราไปที่ทะเลสาบเยว่หยารังของปรมาจารย์หลิน!”
กงซิวซ่างพาผู้คน และหันหัวไปทางทะเลสาบเยว่หยา
ทุกคนยืนอยู่ที่เชิงเขาทะเลสาบเยว่หยา มองดูหมอกที่เต็มไปหมด ทะเลสาบเยว่หยาซึ่งคล้ายกับแดนสวรรค์ในโลกมนุษย์ และตกตะลึงเล็กน้อย
กงซิวซ่างถอนหายใจ “นี่คือรังของปรมาจารย์หลินเหรอ? ไม่คาดคิดว่าโลกนี้ยังมีแดนสวรรค์ในโลกมนุษย์เช่นนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันสามารถผลิตน้ำแห่งชีวิตที่น่าทึ่งได้!”
ศิษย์น้องของสำนักเจ็ดดาวที่อยู่ข้างหลัง หลับตาเพื่ออิ่มเอมกับความสุข
“ปรมาจารย์อา ตรงนี้อุดมไปด้วยชี่ทิพย์!”
“ใช่แล้ว มันมีมากกว่าน้ำพุทิพย์ในสำนักเจ็ดดาวของเราหลายสิบเท่า!”
อาจารย์อาในสำนักเจ็ดดาวรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ไม่ใช่สิ เมื่อก่อนฉันเคยเดินผ่านที่นี่ ชี่ทิพย์ตรงนี้ขาดแคลนมาก ปรมาจารย์หลินมีวิธีบางอย่างจริงๆ มีวิชามหัศจรรย์ที่สามารถแย่งชี่ทิพย์จากฟ้าดิน!”
“พี่เสิ่นชอบที่นี่เหรอ?” กงซิวซ่างถามด้วยรอยยิ้ม
แน่นอน!” ใบหน้าของอาจารย์อาปรากฏรอยยิ้มความโลภโดยไม่ปิดบัง สถานที่ที่อุดมไปด้วยชี่ทิพย์เช่นนี้ เป็นสถานที่ล้ำค่าที่เหล่านักบู๊ใฝ่ฝันอยากมาฝึกฝน
“ถ้างั้นก็แย่งมันมาเลย ทำเป็นสำนักของสำนักเจ็ดดาว สถานที่ที่ดีเช่นนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนนอกได้อย่างไร!” กงซิวซ่างพูด
“ฉันก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่มันเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นควรยึดครองที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน” อาจารย์อาพูด
“ดี ถ้างั้นตอนนี้พวกเราขึ้นไปโจมตีเลย!” กงซิวซ่างเป็นผู้นำ และมุดเข้าไปในเขตค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์
ในเมื่อปรมาจารย์หลินได้ตายไปแล้ว สิ่งที่กงซิวซ่างกังวลที่สุดก็หมดไป แม้ว่าปรมาจารย์หลินยังมีลูกน้องเหลืออยู่บ้าง มีอาจารย์อาอยู่ เขาก็ไม่มีความกังวลใจใดๆอีก
อาจารย์อาก็ติดตามกงซิวซ่างขึ้นไปอย่างใกล้ชิด และเข้าสู่เขตค่ายกลใหญ่
ตรงนี้อุดมไปด้วยชี่ทิพย์ ช่างเป็นที่ที่ทิวทัศน์สวยงามและหายากที่สุดในโลก โชคดีที่สำนักเจ็ดดาวของพวกเขานั้นรวดเร็วพอ หากถูกผู้อื่นยึดครองไว้ก่อน ถ้าพวกเขาต้องไปแย่งชิง มันจะไม่สมเหตุสมผลและไม่ยุติธรรม
ดังนั้น ก่อนที่คนที่มีพลังอำนาจจะมาพบสถานที่นี้ ต้องเข้ายึดครองที่นี่ก่อน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา กงซิวซ่างและคนของสำนักเจ็ดดาวและคนอื่นๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในที่เดียวกัน ด้วยท่าทางสับสน
กงซิวซ่างมองไปที่อาจารย์อา “พี่เสิ่น เกิดอะไรขึ้น? พวกเราเดินมาตั้งนาน ทำไมถึงกลับไปมาอยู่ที่เดิม?”
อาจารย์อามองไปที่ค่ายกลที่ปกคลุมไปด้วยหมอก และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ที่นี่มีค่ายกลฮู่ซาน!”
ค่ายกลฮู่ซาน!
เมื่อได้ยินสี่คำนี้ ศิษย์น้องหลายคนของสำนักเจ็ดดาว ก็แสดงสีหน้าตกใจ
ค่ายกลฮู่ซานเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนัก โดยทั่วไปแล้วจะทำลายได้ยากมาก หากตรงนี้ได้สร้างค่ายกลฮู่ซานไว้ หากพวกเขาต้องการยึดพื้นที่นี้ มันยากพอๆกับการปีนขึ้นสวรรค์!
“แล้วพวกเราควรทำอย่างไรดี? บางทีเจี่ยงสงและคนอื่นๆอาจซ่อนตัวอยู่ข้างบน พวกเราไม่ควรกลับไปแบบนี้?” สีหน้ากงซิวซ่างดูเป็นกังวล