จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 483 ต่อสู้กับสำนักเจ็ดดาว
“เฮิง ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าโชคดีรอดพ้นความตายได้ยังไง แต่ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ของสำนักเจ็ดดาวเรียบร้อยแล้ว เจ้ารีบออกไปซะ ข้ายังสามารถไว้ชีวิตของเจ้าได้” กงชางเซินพูดด้วยสีหน้าหยิ่งยโส
“พวกเจ้ายึดพื้นที่ของข้า กลับมาสั่งให้ข้าออกไป ใครให้ความกล้ากับพวกเจ้า” หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
กงชางเซินพูดด้วยเสียงเย็นชา “พื้นที่ของเจ้า?”
“ใครสามารถพิสูจน์ได้? เจ้าลองเรียกเขาดู ดูว่าเขาจะตอบรับเจ้าหรือเปล่า ถ้าเกิดตอบรับข้าจะคืนให้กับเจ้า ถ้าเกิดไม่ตอบรับ เจ้าก็รีบไสหัวไปซะ!”
เหล่าลูกศิษย์ในสำนักเจ็ดดาวที่อยู่รอบๆ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ใช่แล้ว เจ้าลองเรียกเขาดู ดูว่าเขาจะตอบรับไหม!”
“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” หลินหยุนไม่ได้สนใจเสียงหัวเราะเยาะของคนรอบๆ สีหน้าไร้อารมณ์ ค่อยๆยกขาขึ้นแล้ว แล้วกระโดดขึ้นไปเบาๆ
เส้นพลังทิพย์งพุ่งไปหาฐานของค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เพียงครู่เดียว ค่ายกลทั้งสามสิบหกแห่งของค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์ ส่องแสงประกายออกมา ในเวลาไล่เลี่ยกัน
แสงทั้งสามสิบหกสาย พุ่งออกมาจากทั่วทิศทางของทะเลสาบเยว่หยา ราวกับดวงดาวสว่างไสวทั้งสามสิบหกดวงในยามราตรี กำลังตอบรับเสียงของหลินหยุน
“นี่……”
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
เหล่าลูกศิษย์ของสำนักเจ็ดดาวที่ล้อมรอบหลินหยุนเอาไว้ แต่ละคนเผยความตกใจออกมาทางแววตา และสีหน้าดูแย่
หลินหยุนจ้องมองกงชางเซินอยู่เงียบๆ พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เมื่อกี้ข้าเรียกเขาแล้ว เขาเองก็ตอบรับ ตอนนี้พวกเจ้าไสหัวออกไปได้แล้ว”
กงชางเซินจ้องมองหลินหยุน ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมา แววตาดูมืดมน แอบพูดในใจว่า “เจ้าปรมาจารย์หลินสมคำร่ำลือจริงๆ”
“ฮ่าๆ ปรมาจารย์หลินมีฝีมือจริงๆ! เก่งแม้กระทั่งเทคนิคการหลอกตาคนแบบนี้ด้วย”
“เก็บการแสดงของเจ้าเอาไว้เถอะ เจ้าเองก็ไม่ต้องใช้ความคิดให้หนักสมอง ที่นี่เป็นสำนักใหม่ของสำนักเจ็ดดาวของข้า ใครกล้ามาแย่งก็ต้องเป็นศัตรูกับข้า!”
กงชางเซินเผยสีหน้าเย็นชา เห็นได้ชัดว่ากำลังข่มขู่อยู่
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้า เป็นเจ้าเองที่ไม่ยอมรับเอาไว้”
พอพูดจบ หลินหยุนก็ยื่นเท้าออกไป ร้องตะโกนเบาๆว่า “ท่าแรกของสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าสยบเขา!”
หมัดนี้ของหลินหยุน แม้จะเชื่องช้า แต่ว่าเหมือนกับขวานยักษ์ที่สามารถผ่าท้องฟ้าแยกจากกันได้ ฟากลงไปที่กลางหัวของกงชางเซิน
“แย่แล้ว หลบเร็ว!” กงชางเซินหันไปร้องตะโกนใส่เหล่าลูกศิษย์ในสำนัก ระเบิดแสงสีเขียวออกมาจากร่างกาย แล้วร้องตะโกนว่า “สายฟ้าเจ็ดชั้น!”
ปะทะเข้ากับหมัดที่หลินหยุนปล่อยออกมา
บูมบูมบูมบูม……
เกิดเสียงดังต่อเนื่องขึ้นมาเจ็ดครั้ง เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ แต่ว่าไม่สามารถต้านหมัดของหลินหยุนเอาไว้ได้ กงชางเซินโดนหมัดของหลินหยุนซัดกระเด็นออกไป
หมัดสายฟ้าเจ็ดชั้นที่เคยอัดซูหนันจนกระอักเลือดออกมา พออยู่ต่อหน้าสิบแปดท่าต้าเต๋าของหลินหยุน กลับทำอะไรไม่ได้
แต่ว่า กงชางเซินเองก็แข็งแกร่งมาก กลับสามารถต้านท่าแรกของสิบแปดท่าต้าเต่าของหลินหยุนเอาไว้ได้
เหล่าลูกศิษย์ของสำนักเจ็ดดาวต่างก็มีสีหน้าตกใจ “เป็นไปได้ยังไง!ท่านเจ้าสำนักกลับโดนหมัดของเจ้าหนุ่มคนนั้นซัดกระเด็นออกมา!”
“ปรมาจารย์หลินแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
กงชางเซินลุกขึ้นมาจากพื้น จ้องมองหลินหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง “ปรมาจารย์หลินแข็งแกร่งสมคำร่ำลือจริงๆ!”
“เมื่อกี้นี้ข้าประมาทศัตรูไป ตอนนี้ข้าจะแสดงสุดยอดวิชาให้ปรมาจารย์หลินได้รับชม!”
กงชางเซินยื่นมือออกมา แสงสีเขียวหนึ่งเส้นระเบิดออกมาจากร่างกายอย่างรวดเร็ว แล้วรอบล้อมร่างกายของเขา
จากนั้น เขาก็ปล่อยลำแสงออกมา ร้องตะโกนใส่ท้องฟ้าเบาๆ “รวมจิตเจ็ดดาว ฟังคำสั่งจากข้า!”
กรี๊ด!
ฟ้าผ่าในยามอาการแจ่มใส มีแสงฟ้าผ่าผ่านบนท้องฟ้า ชี่ทิพย์จากฟ้าดินที่อยู่ในรัศมีสิบเมตรสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง แล้วพุ่งไปรวมตัวอยู่รอบๆกงชางเซิน
ทั้งตัวของกงชางเซินล้อมรอบเป็นวงกลมใหญ่ ทั้งผมและเคราตั้งขึ้นมา ใบหน้ารอบล้อมไปด้วยออร่าสีเขียว ราวกับเป็นยมทูตขาวที่อยู่นรก
“ปรมาจารย์หลิน ลองรับสายฟ้าเจ็ดชั้นของข้าอีกครั้ง!”
เสียงของกงชางเซินราวกับเป็นเสียงของฟ้าร้อง ก้องกังวานอยู่เหนือคฤหาสน์เยว่โหลว หนวกหูเป็นอย่างมาก
เหล่าผู้อาวุโสจ้องมองราวกับเป็นเทพสายฟ้าที่จุติลงมายังโลกมนุษย์ กงชางเซินที่เพิ่มพลังจนขีดสุด พูดด้วยสีหน้าเคารพและหวาดกลัวว่า “รวมจิตเจ็ดดาวของท่านเจ้าสำนัก น่าจะฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว”
“เมื่อกี้ปรมาจารย์หลินใช้โอกาสที่เจ้าสำนักประมาท ลอบโจมตีเจ้าสำนัก เพราะงั้นเจ้าสำนักถึงเสียเปรียบ ครั้งนี้ปรมาจารย์หลินจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
“มีพลังที่ได้รับมาจากรวมจิตเจ็ดดาว ความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเท่าตัว จะต้องทำลายมือของปรมาจารย์หลินได้แน่!”
เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ในสำนัก สายตาที่มองหลินหยุน ราวกับเป็นคนตายแล้ว
หลินหยุนจ้องมองกงชางเซินที่เปิดใช้วิชาเต๋าเพื่อรวมจิตเจ็ดดาวอยู่เงียบๆ เกิดความประหลาดใจเล็กน้อย “เห็นได้ชัดว่าเป็นวิชาเต๋า นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลอมรวมเข้ากับวิชาบู๊ สำนักเจ็ดดาวพอมีฝีมืออยู่บ้าง”
“กระบวนท่าที่สองท่าแยกน้ำ!”
รอจนกำปั้นของกงชางเซินเข้ามา หลินหยุนถึงปล่อยหมัดที่สองออกไป
เกิดเสียงดังต่อเนื่องเจ็ดครั้งอีกครั้ง ร่างของกงชางเซินโดนซัดจนกระเด็นออกไปอีกครั้ง
“เป็นไปได้ยังไง!”
เหล่าผู้อาวุโสและศิษย์ในสำนักต่างก็จ้องตาค้าง
ถ้าเกิดครั้งแรกกงชางเซินแพ้ให้กับหลินหยุน เป็นเพราะความประมาท แต่ว่าครั้งที่สองกงชางเซินได้ใช้วิชารวมจิตเจ็ดดาว ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่ก็ยังโดนหมัดของหลินหยุนซัดกระเด็นออกมา
มีคำอธิบายเดียว นั่นก็คือหลินหยุนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่ากงชางเซินหลายขุน!
กงชางเซินลุกขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง จ้องมองหลินหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง ครั้งนี้เขาไม่กล้าดูถูกหลินหยุนอีกแล้ว
“ปรมาจารย์หลินแข็งแกร่งสมคำร่ำลือ!แต่ว่า ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่งขนาดไหน เจ้าก็มีแค่ตัวคนเดียว ที่นี่เป็นสำนักเจ็ดดาวของข้า ในเมื่อเจ้ากล้าเข้ามา งั้นก็อย่าหวังว่าจะออกไปได้!”
“ผู้อาวุโสทุกท่าน วางค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว!” กงชางเซินร้องตะโกนออกมา
ทันใดนั้น เหล่าผู้อาวุโสในชุดสีดำ ก็กระโดดออกมาจากฝูงชน ไปยืนอยู่ในตำแหน่งค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว จ้องมองหหลินหยุนด้วยความเย็นชา
กงชางเซินตะโกนอีกครั้ง “เหล่าลูกศิษย์ทั้งหลาย วางค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว!”
“น้อมรับบัญชา!”
เหล่าลูกศิษย์สิบคน อยู่ในวงนอกทันที จนกลายเป็นค่ายกล ล้อมรอบหลินหยุนทั้งในและนอกทั้งหมดสามชั้น
กงชางเซินยิ้มด้วยสีหน้าได้ใจแล้วพูดว่า “ฮ่าๆๆ ปรมาจารย์หลิน ต่อให้เจ้าจะมีสามหัวหกแขน วันนี้ก็หนีไปได้ยาก!”
“เตรียมตัวตายซะ!”
“กระบวนท่าแรกของค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว สั่นแสงย้อนกลับ!”
กงชางเซินตะโกนเสียงดัง คนอื่นๆก็โจมตีในเวลาเดียวกัน เพื่อให้หลินหยุนรับมือไม่ทัน และผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เปล่งแสงออกมาคนนั้น กระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองจากข้างบนมายังข้างล่าง แล้วปล่อยหมัดซัดไปทางหลินหยุน
ส่วนคนอื่นก็หลบออกไปอย่างรวดเร็ว และเอาชี่แท้ของตัวเองถ่ายทอดให้กับผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เปล่งแสงออกมา
บูม!
หลินหยุนรับกระบวนท่าแรกของค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว
ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าว พลังทำลายของทั้งคู่พอๆกัน
“น่าสนใจ” หลินหยุนจ้องมองค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว แล้วเผยรอยยิ้มออกมา
พวกกงชางเซินตกใจอีกครั้ง “นึกไม่ถึงว่าขนาดประสานพลังทั้งเจ็ดคนไว้เดียวกัน บวกกับพลังจากค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว แต่กลับทำได้แค่มีพลังทำลายเท่ากับเขา!”
“คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“ไม่ได้การแล้ว จะต้องจบศึกนี้อย่างรวดเร็ว จะยืดเยื้อไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเกิดปล่อยให้เขามองหลักการทำงานของค่ายกลจนออก ถึงเวลานั้นคงจัดการเขาได้ยากยิ่งกว่านี้!”
กงชางเซินตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง “ทุกคน ฟังคำบัญชาจากข้า!”
“ฝุ่นดาวเข้าร่วมบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว!”
เหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ในวงนอก เข้าสามถอยสอง จนล้อมรอบเป็นรูปทรงกลม ล้อมรอบกงชางเซินทั้งเจ็ดคนเอาไว้
“เหอ!”
เหล่าลูกศิษย์ตะโกนออกมาพร้อมกัน ปล่อยหมัดใส่เหล่าผู้อาวุโสพร้อมกัน
พลังที่อยู่ในร่างทั้งเจ็ดคนระเบิดขึ้นมาทันที ปล่อยหมัดใส่หลินหยุนพร้อมกัน
“สามารถรวมพลังของทุกคนเอาไว้เดียวกันได้!”
“แต่น่าเสียดายที่ปล่อยให้พลังส่วนใหญ่เสียเปล่า อย่างมากก็แค่สามารถรวบรวมพลังไว้ได้แค่หนึ่งในสิบ”
กงชางเซินกระโดดขึ้นมา ยืนอยู่เหนือหัวของหกคนที่เหลือ แล้วตะโกนออกมาว่า “กระบวนท่าสุดท้ายของค่ายกลบิ๊กดาวไถเจ็ดดาว ดาวเทียนซูกลับที่เดิม!”