จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 494 เหตุผลนี้ของคุณมันงี่เง่าเกินไป
“นี่จะเป็นไปได้ยังไง ?หลินหยุนจะกลายเป็นปรมาจารย์หลินได้ยังไง?” สีหน้าของอันซินเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แต่ว่าเจ้าบ้านตระกูลกงก็ไม่น่าจะมาพูดโกหกในสถานการณ์แบบนี้นี่หน่า ?
กงซิวซ่างแสดงรอยยิ้มเย็นชามองไปยังหลินหยุน พร้อมกับพูดอย่างไร้ความหวาดกลัว: “ปรมาจารย์หลิน การมาซีหนิงครั้งนี้ของคุณ ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของน้ำแห่งชีวิตสินะครับ !”
“แต่ขออภัยด้วย ในมณฑลซีหนิงแห่งนี้ผมเป็นคนตัดสินใจ ผมบอกจะไม่ให้ขายน้ำแห่งชีวิต คุณก็อย่าคิดว่าจะได้ขายออกไป!”
“ถึงต่อให้คุณจะมีวรยุทย์เเกร่งกล้า แต่มันจะทำอะไรผมได้ ?”
“หรือว่าคุณคิดจะทำลายพันธสัญญา เพื่อมาต่อกรกับคนธรรมดาคนหนึ่ง ?”
โลกบู๊และโลกมนุษย์ในประเทศจีน จะมีพันธสัญญาที่ไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษรว่าคนในโลกบู๊จะไม่สามารถทำร้ายคนในโลกมนุษย์โดยไร้เหตุผล
ซึ่งตัวกงซิวซ่างก็อาศัยจุดนี้ ถึงได้ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ แล้วเผชิญหน้ากับหลินหยุนอย่างนี้ต่อไป
สายตาของหลินหยุนที่มองไปยังเขาราวกับกำลังมองดูคนโง่คนหนึ่ง : “นี่ก็คือที่พึ่งของคุณงั้นหรอ?”
กงซิวซ่างแสดงสีหน้าท้าทาย: “ทำไม?ที่พึ่งนี้มันยังไม่เพียงพออีกหรือไง ?ผู้อยู่เบื้องหลังของฉัน เหล่ารัฐบาลจีน เพียงเท่านี้ต่อให้คุณจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน มีหรือที่จะหนีรอดเครื่องบินมิสไซล์ ?”
“ถ้าคุณบังอาจมาทำร้ายตระกูลกงของฉัน รัฐบาลจีนไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่ !”
ทางด้านกงเฉิงยู่เองก็ยิ้มเยาะออกมาเช่นกัน: “เจ้าหนุ่ม ไม่ว่าตอนอยู่ที่มณฑลหลิงหนานนายจะมีกำลังอำนาจมากขนาดไหน แต่ที่นี่คือมณฑลซีหนิง เป็นที่ของตระกูลกงของเรา !ต่อให้นายจะเป็นมังกรก็ต้องคุกเข่าลง หรือต่อให้เป็นเสือก็ต้องยอมศิโรราบกับเรา !”
ฝั่งโห้หมิงก็เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน และรู้ว่าไม่ว่าผู้ฝึกบู๊คนนั้นต่อให้มีความแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถลงไม้ลงมือกับคนธรรมดาได้ตามอำเภอใจ
“ดูแล้ว เขาจะเป็นปรมาจารย์หลินจริงๆ ด้วย !ไม่อย่างนั้นตระกูลกงก็คงไม่จำเป็นต้องใช้พันธสัญญาข้อนี้มาข่มขู่เขาแน่นอน”
“และเมื่อว่าตามนี้ ก็หมายความว่าตระกูลกงได้รวบเป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาลจีน หากว่าเขากล้าไปแตะต้องทำอะไรกับตระกูลกง ก็เท่ากับว่าเขานั้นได้ท้าทายต่อรัฐบาลจีนอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ ”
“และต่อให้เขาจะเป็นปรมาจารย์หลิน ก็คงจะไม่กล้าไปต่อสู้กับทั้งรัฐบาลจีนอยู่แล้ว !”
อันซินและโห้ซือหนันถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้ยินเรื่องพันธสัญญาอะไรแบบนี้อย่างที่กงซิวซ่างได้พูดออกมา แต่หากคิดตามคำพูดของกงซิวซ่างแล้ว พวกเธอก็เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ทันที
ถ้าหากหลินหยุนกล้าไปทำร้ายตระกูลกง ก็เป็นไปได้ว่าจะไปสร้างความไม่พึงพอใจกับรัฐบาลจีนด้วย
ซึ่งการสร้างความผิดต่อทั้งรัฐบาลจีนนั้น ……ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว
อันซินที่ติดได้อย่างนั้นจึงต้องพูดเกลี้ยกล่อมอย่างอดไม่ได้ : “หลินหยุน นายต้องใจเย็นๆ เข้าไว้”
หลินหยุนมองไปยังกงซิวซ่างด้วยสีหน้าที่ท้าทาย ก่อนจะก้าวเท้าค่อยๆ เดินตรงเข้าไปตรงหน้าของกงซิวซ่าง
ทางด้านกงซิวซ่างก็ใจแข็งไม่เบา ถึงได้ยืนอยู่กับที่ไม่ก้าวถอยหลังเลยสักก้าว ราวกับมั่นอกมั่นใจว่า หลินหยุนไม่กล้าที่จะทำอะไรเขาแน่นอน
หลินหยุนจ้องมองเขา แล้วพูดอย่างเฉยชา: “เหตุผลนี้ของคุณช่างโง่เขลาจริงๆ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ชี้นิ้วไปยังกงซิวซ่าง
กงวิวซ่างเบิกตากว้าง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่นั้นจะค่อยๆ ล้มฟุบไปกับพื้น จนกระทั่งตายดวงตาทั้งสองก็ยังคงเบิกกว้าง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าหลินหยุนจะฆ่าเขาจริงๆ
“อ๊า!”
ทางด้านกงเฉิงยู่และคนอื่นๆ ต่างพากันร้องตกใจ
“ปรมาจารย์หลิน คุณไม่กลัวรัฐบาลจีนหรือไง ?” กงเฉิงยู่ร้องตะโกนออกมา
หลินหยุนค่อยๆ หันเดินไปยังกงเฉิงยู่อย่างเชื่องช้าด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ แล้วมองไปยังเขาอย่างไร้ความรู้สึก : “ผมไม่ใช่คนของโลกบู๊”
จากนั้น ก็ยกนิ้วขึ้นมาชี้อีกครั้ง
ทันใดนั้นกงเฉิงยู่ก็มีสภาพเช่นเดียวกับกงซิวซ่างทันที
เมื่อเห็นว่าผู้ทรงอำนาจทั้งสองคนของตระกูลกงได้ตายตามกันไป คนที่เหลือแต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่หวาดกลัว
“บ้าแล้ว บ้าไปแล้ว ปรมาจารย์หลินเป็นคนบ้า !เร็วเข้า รีบเข็นฉันออกไป!” กงเห้าที่นั่งอยู่บนรถเข็น ร้องตะโกนลั่น
แต่ทว่าคนที่อยู่ด้านหลังเขานั้นต่างตกใจวิ่งหนีกันไปตั้งนานแล้ว เพราะว่าสายตาของหลินหยุนกำลังจ้องมองมาที่เขา
ที่จริงเมื่อวานนี้หลินหยุนอยากจะฆ่าเขาแล้ว แต่เพราะกังวลว่าจะทำให้อันซินและโห้ซือหนันตกใจ ดังนั้นหลินหยุนจึงไว้ชีวิตเขาไป
แต่ว่าตอนนี้เมื่อได้ฆ่าคนตระกูลกงไปถึงสองคนแล้ว แน่นอนว่าหลินหยุนจะไม่ปล่อยเขาไปอีก
เขาชี้นิ้วออกไปอีกครั้ง พลังวิญญาณพุ่งทะลุเข้าไปกลางหว่างคิ้วของกงเห้า จนกงเห้าตายไปในทันที
ส่วนคนตระกูลกงที่เหลือ ต่างก็ตกใจกลัวจนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว
ตอนนี้ พวกเขาถึงได้เข้าใจว่าความมั่นใจนั้นของกงซิวซ่างนั้น น่าขำมากแค่ไหน
กงซิวซ่างรู้เพียงแค่พันธสัญญาของโลกบู๊และโลกมนุษย์ แต่กลับไม่รู้คำพูดอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าโลกปรมาจารย์ อย่าได้คิดดูถูกเด็ดขาด
ทางด้านโห้หมิงและคนอื่นๆ ต่างตกใจจนใบหน้าซีดเผือดถึงแม้บนมือของพวกเขาจะเคยแปดเปื้อนด้วยชีวิตของคนมากมาย แต่ล้วนเป็นการลงมือจัดการเบื้องหลังพวกเขาทั้งนั้น และเหมือนกับว่าการฆ่าคนต่อหน้าต่อตาแบบนี้ พวกเขาจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน
ส่วนโห้ซือหนันและอันซิน ดูแล้วกลับไม่ได้มีความหวาดกลัวตามที่หลินหยุนได้คาดคิดเอาไว้เลย ถึงแม้ว่าทั้งสองจะมีความตกใจไม่ต่างกับคนอื่น แต่สีหน้ากลับแค่ซีดขาวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โห้หมิงจ้องมองหลินหยุน ด้วยใจที่สั่นเทา: “เขาคือปรมาจารย์หลินจริงๆ !”
“ถึงว่าเขาถึงเอาแต่พูดว่าจะขอสิทธิ์การเป็นตัวแทนน้ำแห่งชีวิตคืน !”
“น่าตลกสิ้นดี ฉันกลับไปหัวเราะกับคำพูดโอ้อวดนั้นของเขาซะอย่างนั้น แล้วยังหัวเราะที่เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเรื่องของน้ำแห่งชีวิตอีกต่างหาก !”
“แล้วยังพูดต่อหน้าผู้สร้างนำแห่งชีวิตอีกว่าเขาไม่เข้าใจน้ำแห่งชีวิต เฮอะๆๆ น่าขำชะมัด !”
“เมื่อเทียบกับเขาแล้วตระกูลกงจะนับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรไปได้?แล้วยังคิดกล้าจะจับตัวเขาไปรับผิดต่อตระกูลกงอีก!”
ร่างกายของโห้หมิงสั่นเคลือ จนต้องคุกเข่าลงตรงหน้าของหลินหยุนอย่างเลี่ยงไม่ได้
โห้จินผิงและโห้จินเย่นสองพี่น้องร้องลั่นออกมาอย่างตกใจ: “คุณพ่อ กำลังจะทำอะไรคะ!”
โห้หมิงพูดด้วยเสียงสั่นๆ : “ปรมาจารย์หลิน ผมเป็นคนมีตาแต่ไร้แวว ถึงมองคุณไม่ออกจนไปสร้างความเคืองใจกับคุณ หวังว่าคุณจะไม่ถือโทษกับคนไร้กำลังอย่างผม ไว้ชีวิตผมไปเถอะ!”
“พวกเธอสองคนยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก !” โห้หมิงถลึงตาให้โห้จินผิงสองคนพร้อมพูดตะคอก
สองพี่น้องโห้จินผิงมองไปยังหลินหยุนด้วยความตกใจและอับอาย พวกเขาจะคิดได้อย่างไรว่า หลินหยุนจะเป็นถึงปรมาจารย์หลิน !
เมื่อวานนี้ พวกเขายังดูถูกหลินหยุนอย่างไม่เกรงใจอยู่เลย เพียงแค่พริบตาเดียวกลับกลายเป็นพวกเขาที่ต้องมาคุกเข่ารับผิดต่อหน้าหลินหยุนซะอย่างนั้น แล้วสองพี่น้องที่เติบโตมาด้วยความหยิ่งผยองอย่างพวกเขา จะรับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ?
“ไม่ต้องแล้ว” หลินหยุนจ้องไปยังสองพี่น้องตระกูลโห้ด้วยสีหน้าเฉยชา: “สองคนนี้มีจิตใจที่ชั่วร้าย ตายไปก็ไม่น่าเสียดายหรอก”
เมื่อพูดจบ หลินหยุนได้ชี้นิ้วขึ้นมา แล้วพลังวิญญาณทั้งสองดวงก็พุ่งทะลุเข้าไปยังหว่างคิ้วของทั้งสองคน
“ลูกพ่อ!” โห้หมิงร้องลั่นออกมาอย่างเจ็บปวด ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ โอบกอดร่างทั้งสองเอาไว้ พร้อมกับจ้องมองไปยังหลินหยุนด้วยสายตาที่เกลียดชัง
หลินหยุนจ้องมองเขาอย่างสงบ น้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับผู้พิพากษาผู้สูงส่ง: “ในฐานะผู้เป็นพ่อ แต่กลับขายลูกสาวเพื่อผลประโยชน์ ตายไปก็ไม่น่าเสียดายเหมือนกัน”
“อย่านะ!” จู่ๆ โห้ซือหนันก็ร้องตะโกนออกมาอย่างร้อนรน ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าของหลินหยุน แล้วบังเขาเอาไว้
“ปรมาจารย์ ปรมาจารย์หลิน ขอร้องคุณโปรดไว้ชีวิตเขาเถอะ !” โห้ซือหนันเรียกชื่อปรมาจารย์หลินออกมาอย่างไม่คุ้นเคย
หลินหยุนมองไปยังโห้ซือหนัน พร้อมกับพูดอย่างเย็นชา: “เขาทำกับเธอขนาดนี้ เธอยังจะช่วยร้องขอชีวิตให้เขาอีก มันคุ้มค่าแล้วงั้นหรอ ?”
โห้ซือหนันยิ้มออกมาอย่างเศร้าหมอง: “แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน แบบนี้จะให้ฉันมองดูเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้ยังไง ?”
โห้หมิงจ้องมองลูกสาวที่ถูกเขาจงเกลียดจงชังมาโดยตลอด แล้วความรู้สึกสำนึกผิดก็พรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หลินหยุนตอบกลับอย่างเฉยเมย: “นี่เป็นการเลือกของเธอ หวังว่าเธอจะไม่เสียใจทีหลัง”
“ส่วนสิทธิ์ตัวแทนน้ำแห่งชีวิตของตระกูลโห้ ผมรับคืนแล้วกัน”
สีหน้าของโห้หมิงหดหู่ สิทธิ์ตัวแทนที่ทุ่มเทอย่างยากลำบากกว่าจะได้มา สุดท้ายก็หายไปง่ายดายแบบนี้ซะแล้ว
ทว่าตั้งแต่ในตอนที่เขาได้รู้ว่าหลินหยุนคือปรมาจารย์หลินนั้น เขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าจะต้องมีบทสรุปแบบนี้
“ฝากข้อความถึงตระกูลกงด้วยว่า นับจากนี้ไปจะไม่มีตระกูลกงอีกแล้ว” หลินหยุนจ้องไปยังโห้หมิงแล้วพูดอย่างเย็นชา
กงซิวซ่างและกงเฉิงยู่ตายแล้ว ทางตระกูลกงก็แตกแยกเป็นเสี่ยงๆ ไร้ซึ่งผู้นำ
ในเวลานี้เพียงแค่คำพูดเดียวของปรมาจารย์หลิน ทุกคนก็ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะหนีออกจากตระกูลกงแน่นอน และไม่จำเป็นที่ปรมาจารย์จะต้องลงมืออะไร ตระกูลกงก็จะถูกทำลายไปเอง
หรือต่อให้จะยังมีคนส่วนหนึ่งที่จงรักภักดีต่อตระกูลกงอย่างไม่เสื่อมคลาย และพวกเขาจะพยายามรักษาตระกูลกงดั้งเดิมเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันพวกคนที่เคยถูกตระกูลกงกดขี่หรือคนที่เคยถูกรังแกก็จะไม่มีทางพวกเขาที่เหลือเหล่านี้เอาไว้อยู่แล้ว
เพียงคำพูดเดียวของปรมาจารย์หลิน ตระกูลกงก็จบเห่แล้ว
ในใจของโห้หมิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรงอีกครั้ง นี่ก็คืออำนาจของปรมาจารย์หลิน เพียงคำพูดเดียว โดยที่ไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย เจ้าพ่อมณฑลซีหนิงผู้ยิ่งใหญ่ ก็พลันสลายหายไปในกริบเมฆเพียงชั่วพริบตา