CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 498 รุ่นพี่หลิน

  1. Home
  2. จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
  3. บทที่ 498 รุ่นพี่หลิน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

หลินหยุนเดินตามฉินโส่วและคนอื่นๆ เข้าไปในงาน

จางซือจู่และคนอื่นๆ ล้วนเป็นคนที่ไม่เคยได้พบปะกับสังคมภายนอกมากนัก ทันทีที่เข้ามาใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“ว้าว เป็นงานเลี้ยงที่โคตรใหญ่!”

“คนโคตรเยอะ!”

“พวกนายดูสิ นั่นเหลียงเทียนฉีดารานำชายคนดังไม่ใช่หรอ ?”

“นั่นคือนักแสดงที่ฉันชอบมากที่สุดเลย หูเกอ!” ไอ้หินพูดด้วยท่าทางปลาบปลื้มใจ

“แล้วก็เทพธิดาของฉัน หลิวอี้เฟย” หยางเทียนโย่วพูดออกมาด้วยสีหน้าที่หลงใหล

พนักงานสวมชุดยูนิฟอร์มคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมพูดกับพวกเขาอย่างนอบน้อม : “ทุกท่านครับ หอประชุมอยู่ทางนั้นนะครับ!”

“ครับๆ ขอบคุณครับ!” จางซือจู่ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ไปกันเถอะ พวกเราไปหาที่นั่นกันก่อนดีกว่า!” ฉินโส่วเคยได้ร่วมงานแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง เลยมีความสงบเรียบร้อยกว่าคนอื่นๆ

“ได้ ได้!”

หลินหยุนอยากจะไปนั่งแถวด้านหลัง แต่จางซือจู่กับคนอื่นๆ ดันอยากนั่งแถวข้างหน้า ด้วยเหตุผลที่ว่าแถวหน้าจะได้เห็นอย่างชัดเจน

หลินหยุนจึงได้เพียงตามจางซือจู่และคนอื่นๆ ไปเท่านั้น เมื่อมายังบริเวณที่นั่งหน้าเวทีพวกเขาก็นั่งลง

นั่งยังไม่ทันถึงสองนาที จางซือจู่ที่ตวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อดูดาราที่เขาชื่นชอบ อยู่ๆ ก็ร้องตกใจออกมา : “หลินหยุน รีบดูสิ อีหลิง !”

หลินหยุนมองไปยังทิศทางที่นิ้วของจางซือจู่ชี้ไป ตรงบริเวณพรมแดงที่ปูจากทางเข้าประตูมายังเวที มีอีหลิงที่สวยสง่าอ่อนโยน สวมด้วยชุดสีขาวเรียบ พร้อมผมดำยาวสลวยพาดบ่า กำลังเดินตามหลังนักแสดงสาวคนหนึ่งเข้ามา

“นั่นโจวเวยนี่หน่า อีหลิงมากับเธอได้ไงกัน” จางซือจู่พูดอย่างสงสัย

โจวเวย หลินหยุนรู้จักคนคนนี้ อีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ เธอจะกลายเป็นดาราชั้นนำคนหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงแรกเริ่มในการแสดงความสามารถ ซึ่งเทียบเท่ากับนักแสดงระดับสองเท่านั้น

“ฉันจะไปเรียกอีหลิงมาแล้วกัน” จางซือจู่ออกอาสา แล้วลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าไปหาอีหลิง

แล้วจู่ๆ ฉินโส่วก็พูดขึ้น: “ดูทางนั้นสิ พวกเถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิง !”

หลินหยุนมองไปยังด้านหลังของชายกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิงกำลังเดินตามหลังชายวัยกลางคนคนนั้นเข้ามา

ชายวัยกลางคนคนนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นคุณพ่อของจางเหมิง

หลินหยุนหันไปเหลียวมองเพียงครู่เดียว ก็ไม่ได้สนใจอีกเลย พวกคนอย่างเถียนชุ่ยชุ่ย ไม่ใช่คนในโลกเดียวกับเขาอีกต่อไปแล้ว

ทางด้านจางซือจู่ที่เดินไปหน้าพรมแดง ก็โบกมือให้กับอีหลิงทันที

อีหลิงที่มองเห็นเขา ก็แสดงท่าที่ประหลาดใจออกมาอย่างชัดเจน จากนั้นเธอหันหน้าไปพูดบางอย่างกับโจวเวย ก่อนที่จะเดินตามจางซือจู่มาด้วยกัน

อีหลิงถึงแม้จะไม่ใช่ดารา แค่เพราะเป็นคนที่สวย มีออร่าแผ่ประกาย ดังนั้นไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มักจะดึงดูดสายตาผู้คนให้เหลียวมองตลอด

เมื่อได้เห็นว่าอีหลิงเดินตามจางซือจู่มายังฝั่งหลินหยุนและคนอื่นๆ ในแววตาของผู้ชายเหล่านั้นก็มีความอิจฉาประกายออกมา

ยิ่งโดยเฉพาะตอนที่ได้เห็นอีหลิงกล่าวทักทายหลินหยุนอย่างสนิทสนม ก็ยิ่งทำให้หลายๆ คนอดไม่ได้ที่จะสงสัยถึงความสัมพันธ์ของเธอกับหลินหยุนเลย

“หลินหยุน นายก็มาด้วยงั้นหรอ !” ใบหน้าสะสวยของอีหลิงแดงระเรื่อขึ้นมา ดูแล้วไร้เดียงสาน่าเอ็นดูมากๆ

“อืม” หลินหยุนตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ

อีหลิงนั่งลงยังที่นั่งข้างๆ หลินหยุน ดวงตาคู่สวยนั้นจ้องมองไปยังหลินหยุนอย่างไม่ลดละ ทำเอาจางซือจู่และคนอื่นถึงกับอิจฉาไม่น้อย

“หลินหยุน นายไม่ไปโรงเรียนเลยหรอ ?” อีหลิงถาม

“อืม พอดีมีธุระหน่ะ ก็เลยลาไปหลายวัน” หลินหยุนตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ

แต่จางซือจู่กลับบ่นออกมา: “อันนั้นนายเรียกว่าหลายวันงั้นหรอ?เห็นๆ อยู่ว่าหลายเดือนต่างหาก โอเค๊!”

ฉินโส่วถึงกับต้องถลึงตาใส่เขา แล้วกดเสียงต่ำพูดออกมา : “ไม่พูดก็ไม่มีใครมองว่านายเป็นใบ้หรอกนะ!”

จางซือจู่ที่ได้ยินอย่างนั้นเลยต้องหุบปากแต่โดยดี

และในตอนนั้นเอง หญิงสาวสองคนที่แต่งตัวน้อยชิ้น เปิดเนื้อหนังออกมาให้เห็นด้วยชุดสุดยั่วยวน ถือกระเป๋าแบรนด์เนม พร้อมกับหน้าที่แต่งมาอย่างจัดจ้าน กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง

ในขณะที่ด้านหลังก็มีหญิงสาวอีกหลายคนเดินตามหลังมาด้วย ซึ่งก็คงจะเป็นพวกผู้ช่วยของพวกเธอ

หญิงสาวปากแดงแรงริษหนึ่งในนั้น เดินมาพร้อมกับพูดจาด่าทอ : “ถุย ยอดเยี่ยมอะไรกัน ยังกล้าดีให้ฉันไปนั่งแถวข้างหลังอีก !”

“บอกว่าไงนะที่นั่งแถวแรกสุดเอาไว้สำหรับดาราระดับหนึ่ง แล้วนี่ฉันเป็นดาราระดับสามหรือยังไง?”

จางซือจู่หันไปเห็นผู้หญิงคนนั้นพอดี

ทันใดนั้น จางซือจู่ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจทันที : “พวกนายดูเร็ว นั่นใช่หลินเสี่ยวลู่ดาราชื่อดังที่จบจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวของพวกเราหรือเปล่า ?”

ฉินโส่วหันไปจ้องมองก็ร้องอุทานออกมา: “เป็นเธอจริงด้วย ได้ยินมาว่ารุ่นพี่หลินคนนี้ตอนนี้กลายเป็นดาราระดับสามไปแล้ว ถ้าหากว่าลองมีละครอีกสักเรื่องนะ ไม่แน่ก็อาจจะสามารถไต่ไปเป็นดาราระดับหนึ่งก็ได้”

อีหลิงเองก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ: “เป็นรุ่นพี่หลินจริงๆ ด้วย!ดูเหมือนว่าเธอกำลังเดินมาทางพวกเรานะ”

หยางเทียนโย่วพูดขึ้น : “คนข้างๆ รุ่นพี่หลินคนนั้น จ้าวจื่อฉีไม่ใช่หรอ ?ฉันชอบหนังเรื่อง《ตระกูลสูงศักดิ์》ที่เธอแสดงมากเลย”

“เอ๊ะ ทุกคนรีบดูเร็ว ผู้หญิงคนนั้นที่เดินตามหลังจ้าวจื่อฉี เหมือนจะเป็นอู่ซื่อหานตัวตลกของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยาง !”

อีหลิงพูดอย่างตกใจ: “ใช่อู่ซื่อหานจริงๆ ด้วย!เธอเดินตามหลังจ้าวจื่อฉีแบบนั้น ดูแล้วความสัมพันธ์ของเธอกับจ้าวจื่อฉีจะดีไม่น้อยเลย !”

ทว่าจางซือจู่กลับตะเบ็งเสียงไม่พอใจออกมา: “เดิมทีจ้าวจื่อฉีโด่งดังมากจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยางอยู่แล้ว ฉันว่าอู่ซื่อหานก็คงจะหน้าด้านไปกระชับสัมพันธ์ เพราะอยากให้จ้าวจื่อฉีช่วยให้เธอได้บทบาทอะไรมากกว่า”

สำหรับหลินหยุนแล้วทั้งหลินเสี่ยวลู่ จ้าวจื่อฉีรวมทั้งอู่ซื่อหานเขาล้วนมีความทรงจำเกี่ยวกับพวกเธอทุกคน

หลินเสี่ยวลู่เคยเป็นนักเรียนจากสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว ในช่วงเวลานั้นเธอเป็นดาวโรงเรียน ซึ่งในระหว่างการเรียนได้ถูกบริษัทหนังเลือกตัวไป จึงได้ดังเป็นพลุแตก

ระยะเวลาเพียงแค่สองปี เธอก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ถึงแม้จะยังไม่สามารถเทียบได้กับดาราระดับหนึ่ง แต่ก็สามารถไต่มาเป็นดาราระดับสาม

แต่ถึงอย่างนั้น ลักษณะนิสัยของหลินเสี่ยวลู่นั้นไม่ได้ดีมากนัก ล่าสุดได้ยินมาว่าเธอถูกแฉเรื่องชอบวางมาดหยิ่งยโส สุดท้ายความนิยมจึงค่อยๆ ลดลง จนไม่สามารถเรียกชื่อเสียงกลับคืนมาได้อีก

จ้าวจื่อฉียิ่งถูกแฉหนักกว่าคือเธอไปมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้กำกับคนหนึ่ง จนคนมากมายต่างก็เรียกเธอว่าเมียน้อย

ส่วนอู่ซื่อหานนั้นเป็นดาวโรงเรียนของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยาง โดยสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยางที่ตั้งอยู่ในมณฑลหลิ่งเป่ย มักจะทำการแข่งขันกับสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวที่ตั้งอยู่ในมณฑลหลิงหนานอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในวงการสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์มักจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อศึกหนานหลินเป่ยหวู่ และทั้งสองสถาบันนี้มักจะแข่งขันกันไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็ตาม ดังนั้นภายในกลุ่มนักเรียนจากทั้งสองสถาบันจึงเกิดการแข่งขันอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน

โดยในกลุ่มผู้ชายที่รู้สึกเบื่อก็จะนิยมเอาเหล่าดาวโรงเรียนของทั้งสองสถาบันมาจัดอันดับกันเป็นว่าเล่น

อู่ซื่อหานคนนี้เป็นดาวสถาบันของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยาง แต่กลับถูกอีหลิงกดทับเอาไว้

ซึ่งการกดทับครั้งนี้ ก็นับเป็นเวลาถึงสองปีเต็มเลยทีเดียว

ดังนั้นอู่ซื่อหานเลยอยากจะก้าวข้ามอีหลิงมาโดยตลอด แล้วจะได้กลับไปกดอีหลิงให้จมดิน ถึงขนาดที่มองอีหลิงเป็นศัตรูอันดับต้นๆ ของตัวเอง

แล้วเรื่องซุบซิบนินทาเหล่านี้ พวกผู้ชายอย่างจางซือจู่นั้นก็ต่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี แม้แต่หลินหยุนเองก็ได้รับอิทธิพลจากข่าวพวกนี้เหมือนกัน ถึงแม้จะบอกว่าหลินหยุนเป็นคนที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ได้ยินเรื่องพวกนี้บ่อยๆ จนสามารถอธิบายได้เหมือนกัน

จู่ๆ จางซือจู่ก็หันหน้าไปพูดกับอีหลิง : “เธอดูอู่ซื่อหานคนนี้สิ คงคิดจะยืมอิทธิพลจากจ้าวจื่อฉี เพื่อมากดทับเธอในวงการแน่นอน”

“แต่ก็ดี เธอก็สามารถไปกระชับมิตรกับรุ่นพี่หลินได้เหมือนกัน อย่าปล่อยให้อู่ซื่อหานดูถูกสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวของพวกเราเด็ดขาด”

อีหลิงตอบกลับอย่างลำบากใจ: “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง?ฉันไม่ค่อยชำนาญเรื่องเอาอกเอาใจแบบนี้”

จางซือจู่แย้ง: “ไม่มีใครเอาอกเอาใจคนได้มาตั้งแต่เกิดหรอกนะ มันก็เสแสร้งบังคับตัวเองออกมาทั้งนั้น !รีบไปเถอะ มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกคน ก็มีหนทางเพิ่มขึ้นมาอีก รุ่นพี่ไม่ช่วยรุ่นน้องตัวเอง แล้วจะไปช่วยคนของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หวู่หยางหรือไง !”

อีหลิงยังคงไม่ค่อยเต็มใจ แต่จางซือจู่ก็คอยกระตุ้นไม่หยุดอยู่ข้างๆ : “มาแล้ว ๆ รีบไปสิ !ถึงแม้จะแค่ทักทายก็ยังดี อย่าให้รุ่นพี่บอกว่าพวกเราไม่มีสัมมาคารวะ ที่เจอหน้าแล้วไม่ทักทายสักคำ”

อีหลิงถึงกับไม่สามารถโต้แย้งกับจางซือจู่ แต่เมื่อลองคิดดูแล้วคำพูดของจางซือจู่ก็ฟังมีเหตุผล รุ่นน้องได้เจอกับรุ่นพี่ หากไม่กล่าวทักทายเลยก็คงจะดูหยาบคายเกินไป

ในขณะนั้นเองหลินเสี่ยวลู่กับจ้าวจื่อฉีและคนอื่นๆ ก็นั่งลงยังบริเวณแถวข้างหน้าของพวกเขาด้วยความหงุดหงิด

อีหลิงลุกขึ้นยืน พร้อมกับก้มหัวต่ำโน้มคำนับด้วยความเคารพ ก่อนจะทักทายอย่างอ่อนโยน : “รุ่นพี่หลินสวัสดีค่ะ!”

หลินเสี่ยวลู่ที่กำลังโมโหอยู่ หันหลังไปมองอีหลิง สายตาของเธอแสดงความตกใจออกมา

ซึ่งแน่นอนว่า ความสวยของอีหลิงทำให้เธอรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

หลินเสี่ยวลู่ถามด้วยเสียงเฉยเมย: “เธอเป็นใคร?ทำไมถึงเรียกฉันว่ารุ่นพี่!”

อีหลิงตอบ: “ฉันเป็นนักเรียนของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวค่ะ ก่อนหน้านี้ได้ข่าวมาว่ารุ่นพี่หลินได้เป็นถึงดาราระดับสามแล้ว พวกเรารุ่นน้องต่างก็รู้สึกชื่นชมอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะโชคดีได้เจอกับรุ่นพี่หลินด้วย ฉันรู้สึกดีใจมากๆ เลยค่ะ”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 498 รุ่นพี่หลิน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์