จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 544 เธอแสดงให้ฉันดูสิ
หลินหยุนมองชายหนุ่มคนนั้นแวบหนึ่ง หน้าตาหล่อเหลาจริงๆนั่นแหละ สูงร้อยแปดสิบ รูปร่างดี ตามตัวยังมีกลิ่นน้ำหอมอยู่เล็กน้อย ไม่เหมือนกับพวกผู้ชายที่ชอบแต่งตัวฉูดฉาดเหล่านั้น
ถ้าเกิดวัดกันด้วยรูปร่างหน้าตา แม้แต่หลินหยุนก็รู้ตัวว่าเทียบไม่ติด
และผู้หญิงที่อยู่ข้างๆชายหนุ่มคนนั้น เธอสวมกระโปรงสีขาว รูปร่างผอมสูง ผมสีดำที่ยาวถึงหัวไหล่ ท่าทางที่ดูสูงส่ง ราวกับเป็นนางฟ้าที่ไม่เหมาะกับคนธรรมดา
ต่อให้เอาอีหลิงไปเทียบกับเธอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงมีแต่เสมอกัน
คู่นี้พอเดินอยู่ด้วยกัน ก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะเกิดความโกลาหลแบบนี้
ในตอนที่หลินหยุนกำลังสำรวจพวกเขา สองคนที่อยู่ตรงหน้า ก็กำลังสำรวจเขากับอีหลิงเหมือนกัน
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามองหลินหยุนแวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อีหลิง จะไม่แนะนำให้รู้จักหน่อยเหรอ มีแฟนแล้วเหรอ?”
อีหลิงหน้าแดง ไม่ได้ตอบคำถามนี้ เธอก็อยากจะยอมรับ แต่กลัวว่าหลินหยุนจะไม่เห็นด้วย
“นี่เป็นเพื่อนของฉัน หลินหยุน!” อีหลิงพูดแนะนำ
“นี่คือลู่หนันสุน……คุณชายใหญ่ของตระกูลลู่ในเจียงหนาน!” ในตอนที่อีหลิงแนะนำลู่หนันสุน ได้ลังเลไปพักหนึ่ง ดูเหมือนจะเปลี่ยนวิธีเรียกกะทันหัน
คนรอบๆที่เดินผ่านไปมา พอได้ยินการแนะนำของอีหลิง จู่ๆก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ “คุณชายใหญ่ตระกูลลู่ของเจียงหนาน! เป็นตระกูลลู่ที่ลึกลับนั้นหรือเปล่า?”
“นอกจากตระกูลลู่นั่น ยังมีตระกูลลู่ในเจียงหนานอีกงั้นเหรอ!”
“นึกไม่ถึงจริงๆว่า คุณชายลู่จะหล่อเหลาขนาดนี้!”
“ทำไมสวรรค์ถึงไม่เป็นธรรมขนาดนี้ มีทั้งเงินทอง และหน้าตาที่หล่อเหลา จะให้ผู้ชายอย่างเราเราที่ทั้งจนและขี้เหร่ใช้ชีวิตต่อยังไง!”
ลู่หนันสุนชี้ไปทางผู้หญิงข้างๆที่ท่าทางหยิ่งยโสแล้วพูดว่า “ซิงจื่อเย่ แฟนฉันเอง!”
“พี่ซิงสวยจังเลย! ยินดีกับนายด้วยนะลู่หนันสุน!” อีหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ซิงจื่อเย่ทำท่าใหญ่โต มองอีหลิงด้วยสายตาเย็นชา แล้วส่งเสียงเฮิงด้วยความเย็นชา “ฉันไม่มีน้องสาว พวกเราไม่ได้สนิทกัน อย่ามาทำตัวใกล้ชิด”
“……”
ลู่หนันสุนที่อยู่ข้างๆ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แววตาของหลินหยุนเผยความเย็นชาออกมาเล็กน้อย
คำพูดนี้ไม่เป็นมิตรเป็นอย่างมาก
สาวสวยคนนี้ดูเหมือนจะสนิทได้ยาก!”
ระหว่างทั้งสองฝ่าย จู่ก็มีมีดปัดอยู่ตรงกลาง บรรยากาศหนักอึ้งขึ้นมาทันที
และคนรอบๆที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน กลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ถ้าเกิดสาวสวยทั้งสองคนนี้เกิดการต่อสู้ขึ้นมา แล้วเกิดเผยจุดซ่อนเร้นอะไรเล็กน้อยขึ้นมา ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาจินตนาการถึงมันได้อีกหลายเดือน
ใบหน้าของอีหลิงซีดลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ฉันขอพาเพื่อนไปชมวิวทางนั้นก่อน ขอตัวล่ะ”
พอพูดจบ ก็หันไปพูดกับหลินหยุนว่า “หลินหยุน พวกเราไปกันเถอะ!”
“อืม” หลินหยุนตอบกลับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วเตรียมตัวที่จะเดินออกไปกับอีหลิง
แต่ว่า ข้างหลังลู่หนันสุน จู่ๆก็มีชายไอ้หัวทองคนหนึ่ง ข้างๆยังมีคนที่ใส่กระโปรงที่สั้นมาก ที่หน้าตาสะสวยอยู่คนหนึ่ง
“อย่าเพิ่งไปซิ! นี่มันคุณหนูอีที่ทิ้งคุณชายลู่ของพวกเราไม่ใช่หรือไง? วันนี้บังเอิญเจอกันทันที ทำไมถึงไม่มานั่งคุยกันก่อนล่ะ!”
ไอ้หัวทองยิ้มอย่างชั่วร้าย เห็นได้ชัดว่า มีเจตนาร้าย
อีหลิงทำหน้าเย็นชาในทันที จ้องมองไอ้หัวทองคนนั้น “แกอย่าพูดจาซี้ซั่ว ฉันไม่เคยตอบรับเขา จะบอกว่าฉันทิ้งเขาได้ยังไง!”
จู่ๆซิงจื่อเย่ก็มองอีหลิงด้วยแววตาที่เย็นชา หน้าเต็มไปด้วยความดูถูก จากนั้น ก็มองลู่หนันสุนด้วยสายตาดูถูก “นี่เหรอผู้หญิงที่ทิ้งนายน่ะ? ฉันอุตส่าห์นึกว่าจะเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยกว่านี้ซะอีก ก็ไม่เห็นเท่าไหร่!”
ลู่หนันสุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน หลงรูปลักษณ์ของคนอื่นได้ง่าย ถึงได้เข้าใจผิดว่าขี้ดินเป็นเพชร”
“แต่ว่า ฉันก็ต้องขอบคุณเธอ ถ้าเกิดเธอไม่ได้ปฏิเสธฉัน ฉันจะหาผู้หญิงที่งดงามอย่างเธอได้ยังไงกัน?”
“คุณหนูอี ตอนนั้นเธอปฏิเสธคุณชายลู่ของพวกเรา ตอนนี้ กลับหาคนขี้แบบนี้งั้นเหรอ?”
“ให้ฉันดูหน่อยสิ ทั้งเนื้อทั้งตัวของเขา เกรงว่าราคาคงเกินร้อยมาไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง!”
“คุณหนูอีอย่างเธอเป็นคนชอบขยะหรือไง ถึงได้เก็บขยะแบบนี้มา!”
เห็นได้ชัดว่าไอ้หัวทองคนนี้เป็นลูกน้องของลู่หนันสุน จงใจยั่วโมโหอีหลิง
“ฮ่าๆ คำพูดนี้ช่างโหดร้ายซะจริงๆ!”
“แต่ว่าฉันเห็นด้วยกับประโยคนี้ สายตาของคุณหนูอีคนนี้ ไม่เท่าไหร่จริงๆนั่นแหละ!”
“ไม่เพียงเท่านั้น นี่มันถึงขั้นตาบอดกันเลย ถึงแม้ไอ้หนุ่มคนนี้จะหน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่ก็เรียกไม่ได้ว่าหล่อ เมื่อเทียบกับคุณชายลู่ของพวกเรา มันก็ขี้หมาดีๆนี่เอง!”
“ไม่เข้าใจจริงๆว่าคุณหนูอีคนนี้ ชอบเขาได้ยังไง!”
คนรอบๆพอได้ยินคำพูดของไอ้หัวทอง ก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
ทันใดนั้น ก็ว่าอีหลิงเป็นพวกยอมทิ้งของล่ำค่า เพื่อแลกกับขยะ เป็นผู้หญิงที่มีตาหามีแววไม่
ลดคุณค่าของหลินหยุนตกต่ำถึงขีดสุด ถึงกระทั่งมีคนบอกว่าหลินหยุนวางยาอีหลิง เพราะงั้นถึงได้สาวสวยแบบนี้มา
อีหลิงโกรธจนหน้าแดง จ้องมองลู่หนันสุน แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ลู่หนันสุน นี่เป็นมารยาทของแกงั้นเหรอ?”
ลู่หนันสุนพูดด้วยสีหน้าขอโทษว่า “คุณหนูอีหลิง ผมไม่ได้มีเจตนาให้เป็นอย่างนี้จริงๆ! เชื่อผมเถอะ นี่ไม่ใช่จุดประสงค์ที่ผมต้องการ”
มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่จะเชื่อคำพูดของแก!
ถ้าเกิดไม่ใช่จุดประสงค์ของแก ทำไมแกถึงไม่เข้าไปห้ามล่ะ?
ผัวะ!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมา เป็นเสียงที่ดังมาก
คนรอบๆเห็นไม่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ จู่ๆไอ้หัวทองคนนั้นก็ปลิวออกไป แล้วหล่นลงไปในแม่น้ำที่อยู่ข้างล่างสะพานหิน
เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น!
ใบหน้าของคนรอบๆเต็มไปด้วยความสงสัย
ไอ้หัวทองค่อยๆยืนขึ้นมาจากแม่น้ำ จับใบหน้าของตัวเอง แล้วตะโกนด่าเสียงดังว่า “ไอ้เหี้ย มึงกล้าดียังไงมาตบหน้ากู กูจะฆ่ามึง!”
พอพูดจบ ไอ้หัวทองก็ปีนขึ้นมา
ทุกคนต่างก็จ้องมองหลินหยุนด้วยความตกใจ ไม่เว้นลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่
พวกเขาไม่เข้าใจ คนขี้แพ้กลับกล้าลงมือทำร้ายคน!ดูเหมือนว่า ในสายตาของคนพวกนี้ คนขี้แพ้มีแต่ต้องโดนคนอื่นทำร้าย
“หลินหยุน!” อีหลิงมองเขาด้วยความซาบซึ้ง เธอเข้าใจดี หลินหยุนกำลังระบายอารมณ์แทนเธอ
หลินหยุนยิ้ม แล้วพูดว่า “เขาหนวกหูเกินไป ให้เขาไปสงบสติอารมณ์สักหน่อย”
“กูจะฆ่ามึง!” ไอ้หัวทองปีบขึ้นมาแล้ว แล้วซัดหมัดใส่ข้างหลังของหลินหยุน
หลินหยุนสะบัดมือเบาๆ เพี้ย มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้หัวทองโดนตบจนหล่นลงไปยังแม่น้ำอีกครั้ง
แต่ว่า ครั้งนี้ ไอ้หัวทองปีนขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว
ลู่หนันสุนหน้าถอดสี หันไปส่งสายตาให้กับชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังสองคน จากนั้นก็มีคนลงไปดึงไอ้หัวทองที่ไม่ได้สติขึ้นมาทันที
“ตอนนี้สงบแล้ว” หลินหยุนมองอีหลิง แล้วยิ้มเบาๆ ก็เหมือนกับเอามือตบแมลงวันที่น่ารำคาญ
จู่ๆซิงจื่อเย่ก็มองไปยังหลินหยุน ใบหน้าเผยความสนใจออกมา
ลู่หนันสุนยิ้มด้วยความดูถูก “ไอ้หนุ่ม มองไม่ออกจริงๆ ที่แท้แกยังมีฝีมือนิดหน่อย นี่เป็นเหตุผลที่คุณหนูอีสนใจในตัวแกสินะ!”
อีหลิงพูดด้วยเสียงเย็นชา “ฝีมือของหลินหยุน แกคงคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ!”
จู่ๆซิงจื่อเย่ก็เดินมาข้างหน้า ด้วยท่าทางที่เหนือกว่า จ้องมองอีหลิงด้วยความเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “เธอมันก็แค่คนธรรมดา จะไปรู้ได้ยังไงว่าแบบไหนถึงจะเรียกว่ามีฝีมือจริงๆ!”
“ในสายตาของเธอ บางทีไอ้หนุ่มคนนี้จะเก่งมาก แต่ในสายตาของฉัน เขามันก็แค่มดตัวหนึ่ง”
หลังจากที่สิ้นเสียง ก็มีออร่าที่ยิ่งใหญ่ระเบิดออกมาจากตัวของซิงจื่อเย่
อีหลิงตกใจขึ้นมา “บรรยากาศแบบนี้……เธอเป็นนักบู๊!”
ตอนนี้ อีหลิงพอจะเข้าใจเหล่านักบู๊ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว ออร่ารุนแรงที่ระเบิดออกมาจากตัวของซิงจื่อเย่ เหมือนกับเหล่านักบู๊ที่เธอเคยเห็นก่อนหน้านี้
ซิงจื่อเย่แปลกใจเล็กน้อย “นึกไม่ถึงว่า เธอกลับรู้จักนักบู๊ด้วย! ดูเหมือนฉันจะดูถูกเธอเกินไปซินะ”
“ในเมื่อเธอรู้ถึงการมีอยู่ของนักบู๊ งั้นก็คงจะรู้ว่าในหมู่นักบู๊ด้วยกันเอง ก็ยังมีความห่างชั้นกันอยู่”
ซิงจื่อเย่จ้องมองหลินหยุนด้วยความดูถูก มองเขาราวกับเป็นมดตัวหนึ่ง “ฉันใช้แค่นิ้วเดียว ก็สามารถฆ่าเขาได้แล้ว”
เสียงของหลินหยุน ค่อยๆดังขึ้นมา “งั้นเธอลองแสดงให้ฉันดูสิ”