จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 547 ยังจะมาอีกเหรอ
หลินหยุนและอีหลิงยังคงถูกหยุดอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ แต่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ยามทั้งสองคนกลับปล่อยให้เขาเดินเข้าไป
อีกอย่าง คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเขาเองก็ไม่มีบัตรเข้าชมเหมือนกัน!
อีหลิงถามด้วยความสงสัยว่า “เขาเองก็ไม่มีบัตรเข้าชม ทำไมถึงเข้าไปได้ล่ะ?”
ยามมองหน้าของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่ท่าทางสูงส่ง แล้วพูดว่า “เขาเป็นคนต่างชาติ มีปัญหาให้จัดการเยอะเกินไป ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจจะต้องเรียกสถานทูตอะไรพวกนั้น ทางที่ดีหลีกเลี่ยงปัญหาจะดีกว่า ก็เลยปล่อยให้เขาเข้าไป!”
“นี่มันตรรกะบ้าบออะไรกันเนี่ย!” อีหลิงพูดด้วยความโมโห
เพราะกลัวว่าจะมีปัญหา จึงยอมปล่อยคนต่างชาติเข้าไปเป็นกรณีพิเศษงั้นเหรอ แกจะให้ชาวจีนยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!
แววตาของหลินหยุนเผยภาพกองศพเลือดเต็มภูเขา ยามที่เป็นแค่คนธรรมดา ตกใจจนเหงื่อแตกซีด จึงปล่อยไปตามเลย
“ถอยไป” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ
“ครับ!” ทั้งสองรีบถอยห่างออกไป หลินหยุนพาอีหลิง เดินเข้าไปข้างใน
หลังจากที่หลินหยุนเข้าไปข้างใน ยามทั้งสองถึงได้สติกลับมา
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น!”
“ทำไมจู่ๆฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนได้ตกนรกลงไปเลยล่ะ ภาพนั้น ช่างน่ากลัวจริงๆ!”
ยามทั้งสองคนต่างก็รู้สึกสั่นกลัว แต่ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
หลินหยุนและอีหลิง หลังจากที่เข้าไปยังข้างในประตูหอประชุม ก็เจอกับคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่เข้ามารออยู่ก่อนแล้ว
“เฮ้ พวกเจ้าเพิ่งเข้ามาเหรอ?” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า พูดภาษาจีนชัดถ้อยชัดคำ ในน้ำเสียงของเขา แฝงความเยาะเย้ยอยู่เล็กน้อย
หลินหยุนไม่ได้สนใจเขา
เจ้าหมอนี้หัวเราะฮิๆ แล้วเดินไปข้างๆอีหลิง พูดด้วยใบหน้าภูมิใจว่า “คุณหนูผู้งดงามและสูงศักดิ์ ท่านไม่ควรเดินมาพร้อมกับเขาเลย ถ้าเกิดท่านเดินมาพร้อมกับข้าฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าแล้วล่ะก็ ยามสองคนนั้นคงปล่อยให้ท่านเข้ามาแล้ว
อีหลิงยิ้มเฮะๆให้กับเขา
“ต่อให้โดนห้ามเอาไว้ ฉันก็ชอบอยู่กับพี่หลินหยุนมากกว่า”
จู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็ทำหน้าเจ็บปวด “ให้ตายเถอะ!กลับมีคนขโมยหัวใจของท่านไปก่อนแล้วเหรอเนี่ย เขาเป็นใครกัน ข้าต้องการท้าสู้กับเขา!”
“ฉันเอง แกต้องการท้าสู้กับฉันงั้นเหรอ?” หลินหยุนมองเขาแวบหนึ่ง
จู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็เศร้าหมอง “โอ้ ไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!”
“จริงสิ ข้ารู้สึกได้ว่าที่นี่มีออร่าที่แข็งแกร่งอยู่มาก น่าจะเป็นนักบู๊จากทิศตะวันออกที่พวกเจ้าพูดถึงสินะ”
จู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็เปลี่ยนเรื่อง
หลินหยุนสัมผัสได้ตั้งแต่แรกแล้ว คนที่อยู่ในสนาม กลับเป็นนักบู๊สักส่วนใหญ่
ถึงแม้ส่วนใหญ่จะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนพรแสวง แต่ก็มีแดนพรสวรรค์อยู่มากเช่นกัน แม้แต่ระดับปรมาจารย์ ก็มีอยู่หลายคน
จู่ๆหลินหยุนก็นึกเรื่องขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง “เจียงหนาน!”
“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงเลยว่า พวกแกจะกล้ามา!” เวลานี้เอง ก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก ดังมาจากด้านข้าง
ฟังจากเสียงนี้ ก็รู้เลยว่าเป็นลู่หนันสุนที่เจอในเกาะดอกพีชเมื่อวาน
หลินหยุนและอีหลิงหันหน้า จ้องมองลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่ในชุดแดงที่กำลังเดินเข้ามา
อีหลิงพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ที่นี่เป็นงานอะไรกันแน่?”
ลู่หนันสุนหัวเราะด้วยเสียงแปลกประหลาด ซิงจื่อเย่เงยหน้ามองด้วยสีหน้าดูถูกแล้วส่งเสียงเฮิงออกมาด้วยความเย็นชา ใบหน้านั้นดูหยิ่งยโสถึงขั้นสุด เหมือนกับกำลังจ้องดูมดอยู่
“ยินดีต้อนรับสู่งานประลองยุทธ!”
“งานประลองยุทธเจียงหนาน!” อีหลิงตกใจแล้วหันหน้าไปมองหลินหยุน
หลินหยุนไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แต่ในใจกลับถอนหายใจออกมา ช่างบังเอิญจริงๆ
ตอนนั้นฉีเฉิงคุนหาทุกวิธีทาง เพื่อให้เขามาเข้าร่วมงานประลองยุทธเจียงหนาน แต่ก็โดนเขาปฏิเสธ
แต่ว่า ตอนนี้เพราะลู่หนันสุน ถึงได้มาที่นี่
ครั้งนี้ลู่หนันสุนไม่ได้หาเรื่องหลินหยุนกับอีหลิง แค่จ้องมองหลินหยุนด้วยใบหน้าดูถูกแล้วพูดออกมาว่า “ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็ดูในดีๆล่ะ อีกเดี๋ยวพวกแกก็จะได้รู้ ว่าอะไรคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง”
ลู่หนันสุนหันสายตาไปมองอีหลิง แล้วพูดด้วยเสียงหยิ่งยโสว่า “อีกเดี๋ยว เธอก็จะได้รู้ ว่าทำไมฉันถึงต้องขอบคุณเธอ จะให้เธอได้เห็นว่า ความห่างชั้นระหว่างเธอกับจื่อเย่ มันกว้างขนาดไหน!”
“พวกกเราไปกันเถอะ!” พอพูดจบ ลู่หนันสุนก็ทำหน้าได้ใจ ดึงแขนซิงจื่อเย่แล้วเดินจากไป
ตั้งแต่แรกจนจบ ซิงจื่อเย่ก็ทำหน้าเหนือกว่ามาโดยตลอด ไม่มองหลินหยุนกับอีหลิงแม้แต่น้อย ความจองหองพุ่งถึงขีดสุด
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่มองซ้ายมองขวามาโดยตลอด ก็สัมผัสได้ถึงความประสงค์ร้ายจากตัวของลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่ แล้วหันกลับไปมองแผ่นหลังของทั้งคู่
“พวกเขาน่าจะเป็นนักบู๊จากโลกทิศตะวันออกสินะ? แต่น่าเสียดาย พวกเขาอ่อนแอเกินไปแล้ว” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าส่ายหัว
“แต่ว่า ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาใช้ได้ จะต้องอร่อยมากแน่ๆ!” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเลียมุมปากของตัวเอง แล้วหัวเราะด้วยใบหน้าแปลกประหลาด
“อะ……อร่อย!” อีหลิงจ้องมองเขาด้วยความตกใจ แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “ภาษาจีนของนายเรียนมาจากครูคณิตศาสตร์หรือไง? การชมใครสักคน ทำไมถึงต้องใช้การกินในการเปรียบเปรยด้วย!”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไม่สามารถอธิบายความหมายของประโยคนี้ได้ แต่ว่าคำถามของอีหลิง เขาก็ตอบแบบขอไปทีไม่ได้เหมือนกัน
ดังนั้น คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจึงพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ไม่ ภาษาจีนของข้าเรียนมาจากอาจารย์สอนภาษาจีนจามหาวิทยาลัยชิงหวาของประเทษจีน”
“เขาเก่งมาก!”
พอเห็นท่าทางที่จริงจังของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า อีหลิงหันไปมองหลินหยุน เอามือปิดปาก แล้วหัวเราะออกมา
หลินหยุนหัวเราะออกมา “ระดับภาษาจีนของเขาธรรมดามาก”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไม่ค่อยเข้าใจความหมายของทั้งสองคน แต่ว่าเขาเป็นถึงฝ่าบาทของเผ่าโลหิต ไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดของพวกหลินหยุนด้วยซ้ำ
อีหลิงกวาดสายตามองรอบๆสนามกีฬา ถึงแม้จะมีคนมาร่วมงานประลองยุทธอยู่ไม่น้อย แต่ว่าเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่บรรจุได้ในสนามกีฬาล่ะก็ มันก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่
“พวกเราไปหาที่นั่งกันเถอะ!”
“อืม”
หลินหยุนทั้งสองได้หาที่นั่งที่อยู่ใกล้ๆ คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าตามหลังอีหลิง พยายามเอาใจเธอด้วยความสุภาพ
“พระชายาที่งดงามของข้า เชิญนั่งที่นี่!” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาราวกับมายากล เช็ดที่นั่ง แล้วเชิญให้อีหลิงนั่ง
“ฉันไม่ใช่พระชายาของนาย! นายอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ!” อีหลิงจ้องเขาเขม็ง
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา จมูกโด่งและเบ้าตาลึก เมื่อบวกกับใบหน้าอันวิจิตรตระการตาของเขา ทำให้หล่อเหลามากจริงๆ
“โอ้ ท่านอย่าได้โมโห ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่อนาคตจะต้องเป็นอย่างแน่นอน” พอพูดจบ คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็โค้งคำนับให้กับอีหลิง
อีหลิงขมวดคิ้ว มองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าด้วยหางตา “ผู้ชายตะวันตกอย่างพวกนาย หลอกผู้หญิงแบบนี้เป็นเรื่องปกติหรือไง?”
“โอ้ไม่ ข้าขอสาบาน คำพูดแบบนี้ข้าจะพูดกับท่านแต่เพียงผู้เดียว!” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าชูมือขึ้น กำลังจะสาบานจริงๆแล้ว
อีหลิงยิ้มขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “ขอร้องล่ะ พวกเราเพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่นายกลับบอกว่าจะแต่งกับฉันเท่านั้น จากนี้นายอย่าพูดล้อเล่นแบบนี้อีกจะได้ไหม?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ารีบส่ายหัว พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าขอสาบานต่อเทพแห่งสว่างเฮงซวย ข้าไม่ได้ล้อเล่น ตั้งแต่ที่ข้าเจอท่านครั้งแรก ก็หลงรักท่านเข้าสักแล้ว”
พอเห็นคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าทำสีหน้าจริงจัง ทำให้อีหลิงอึ้งไปเลย
เดิมทีหลินหยุนกะจะเตะไล่คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าออกไป แต่พอเห็นสีหน้าของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า เขาเองก็อึ้งไปเช่นกัน
เพราะว่าเขารู้สึกว่า คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไม่ได้พูดล้อเล่น สิ่งที่พูดเขาเอาจริง
“เจ้าหมอนี้ คงไม่ใช่ว่าเขาจะชอบอีหลิงเข้าจริงๆหรอกนะ!”
อึ้งไปสักพัก อีหลิงถึงยิ้มอย่างขมขื่นออกมา มองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าแล้วพูดว่า “นายชอบฉันตรงไหนกัน ฉันจะได้เปลี่ยนมันเครไหม?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงพูดเอาใจอีหลิงต่อ “ท่านเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ งดงามยิ่งกว่าเทพีแห่งปัญญาสักอีก”
“ท่านเป็นผู้หญิงที่มีจิตเมตตาที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ ความใจดีของท่าน ก็เหมือนกับพระอาทิตย์อันยิ่งใหญ่ ที่ส่องแสงในที่มืด……ต่อให้พูดเป็นหมื่นคำก็ไม่สามารถบรรยายความดีงามของท่านได้”