จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 549 เจ้าคนมีตาหามีแววไม่
พอเจ้าบ้านจ้าวพูดแบบนี้ออกมา ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
“นั่นสินะ คนจากโลกบู๊อย่างพวกเรา จะต้องเก็บเพลงฝึกเอาไว้ให้ดีๆ จะปล่อยให้รัฐบาลจีนเอาไปไม่ได้เด็ดขาด”
“ถูกแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้รัฐบาลจีนหวาดกลัวพวกเรา ก็คือเพลงฝึก ถ้าเกิดพวกเขาเอาไปได้ล่ะก็ พวกเราคงจะไม่มีอิสระอีกแล้ว”
“จริงสิ ทุกคนเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม ช่วงนี้ที่หลิงหนานได้มีปรมาจารย์หลินออกมา! ว่ากันว่าเป็นคนที่ลึกลับมาก ได้ยินมาว่ายังสามารถเรียกฟ้าผ่าออกมาได้ ปล่อยไฟออกมาจากปากได้! ราวกับเป็นเซียนที่ลงมายังโลกมนุษย์!” เจ้าบ้านซิงพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา เห็นได้ชัดว่า แม้แต่เขาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน
“ฮ่าๆ พวกคนธรรมดา ก็มักชอบพูดจาเวอร์ๆแบบนี้แหละ ถ้าเกิดปรมาจารย์หลินเก่งถึงขนาดนั้นจริงๆ ทำไมอันดับในหอพันกล ถึงไม่เคยมีชื่อของเขาปรากฏออกมา”
“นั่นสิ ความนับเชื่อถือของหอพันกลคงไม่มีใครสงสัยหรอกมั้ง! ทุกคนเคยเห็นรายชื่อปรมาจารย์หลินในการจัดอันดับของปรมาจารย์มาก่อนไหม?”
“พอพูดถึงการจัดอันดับของปรมาจารย์ ฉันก็นึกถึงคนๆหนึ่ง”
“เจ้าหมายถึงปรมาจารย์อันดับหนึ่งหลินชางฉองใช่ไหม! คนคนนั้นลึกลับมากจริงๆนั่นแหละ เหมือนกับว่าจู่ๆก็ปรากฏตัวออกมา จากนั้นเพียงพริบตาเดียวก็กลายเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่ง!”
“แต่ว่า ถ้าเกิดเจ้าจะบอกว่าหลินชางฉองกับปรมาจารย์หลินมีความเกี่ยวข้องกัน มันคงจะเกินจริงไปหน่อย!”
“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!” คนคนนั้นส่ายหัวแล้วหัวเราะเยาะออกมา
เจ้าบ้านลู่หัวเราะด้วยเสียงเย็นชา “หลิงหนานก็แค่สถานที่ที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง ใครๆก็กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์กันทั้งนั้น! เจ้าลองให้พวกเขามาทดสอบที่เจียงหนานของพวกเราดูสิ? ปรมาจารย์ตัวจริง ต้องเป็นเหมือนอย่างพี่ฉีเท่านั้น!”
ทุกคนมองหน้าฉีเฉิงคุนที่กำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์ เห็นได้ชัดว่า เมื่อกี้พอพูดคุยเรื่องของปรมาจารย์หลิน จนลืมฉีเฉิงคุง ทำให้เขาไม่พอใจเล็กน้อย
“ใช่แล้วใช่แล้ว ปรมาจารย์หลินแล้วมันยังไง! เมื่อเทียบกับปรมาจารย์ฉีของพวกเรา เขาก็แค่ของไร้ค่า”
“ปรมาจารย์หลินไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นคนขัดรองเท้าปรมาจารย์ฉีของพวกเราด้วยซ้ำ!”
“ถ้าเกิดปรมาจารย์หลินกล้ามางานเจียงหนานของพวกเรา ไม่จำเป็นต้องให้ปรมาจารย์ฉีออกโรง ข้าใช้นิ้วแค่สองนิ้วก็สามารถสังหารเขาได้แล้ว!”
ทุกคนต่างก็เริ่มประจบสอพลอ เอาใจฉีเฉิงคุนยกใหญ่ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างก็เอาอกเอาใจฉีเฉิงคุน ใบหน้าเย็นชาของเขาค่อยๆหายไปแล้ว และก็มาแทนที่ด้วยรอยยิ้มภูมิใจบนใบหน้า
“ทุกท่านอย่าได้ยกย่องข้านักเลย โลกบู๊มีคนเก่งๆที่ซ่อนตัวอยู่มากมาย คนรุ่นใหม่ย่อมมีฝีมือกว่าคนรุ่นเก่า ถึงแม้ข้าจะบรรลุขั้นสูงสุดได้ในวัยเยาว์ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าบ้านโล่ก็ยังเทียบไม่ติดอยู่ดี”
“แต่ว่า ถ้าเกิดเทียบกับพวกที่แอบอ้างว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ ให้ข้าจัดการสักคนสองคน ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร”
คำพูดนี้ดูเหมือนถ่อมตัว แต่แท้จริงแล้วเป็นการเสแสร้งทั้งนั้น ทำให้ปรมาจารย์หลินด้อยค่ายิ่งกว่าเดิม
เจ้าบ้านลู่พูดด้วยใบหน้าเคารพว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เป็นแค่ปรมาจารย์หลิน จะมาเทียบกับปรมาจารย์ฉีได้ยังไง!”
“ใช่แล้ว ถ้าเกิดเจอปรมาจารย์ฉีอยู่ต่อหน้า ปรมาจารย์หลินก็คงจะเป็นเหมือนกับหนูที่เจอแมว จะต้องหนีเอาตัวรอดอย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆ!”
คนพวกนี้เอาชื่อของปรมาจารย์หลินมาพูดให้ด้อยค่าไม่หยุด แล้วยกย่องปรมาจารย์ฉี
ที่นี่คือเจียงหนาน คนส่วนใหญ่ล้วนหวาดกลัวตระกูลฉี ต่อให้รู้อยู่แล้วว่าพวกฉีเฉิงคุนจงใจลดคุณค่าของปรมาจารย์หลิน ก็ไม่มีใครกล้าออกมาพูดแทนปรมาจารย์หลิน
คนส่วนมากเลือกที่จะทำตาม เหล่าเจ้าบ้าน พูดจาว่าร้ายปรมาจารย์หลิน
สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ แน่นอนว่าหลินหยุนได้ยินทุกประโยค แต่ว่า สำหรับพวกที่ชอบนินทาลับหลัง หลินหยุนขี้เกียจไปยุ่งด้วย
คำพูดต่อจากนี้ของคนเหล่านี้ หลินหยุนก็ไม่สนใจที่จะฟัง จึงปิดประสานการได้ยินของตัวเอง
เฝ้ารอให้งานประลองยุทธเริ่มขึ้นอยู่เงียบๆ ดูว่าคนจากโลกบู๊เจียงหนาน มีฝีมือระดับไหนกันบ้าง
“ฉันขอตัวไปห้องน้ำ!” อีหลิงพูด
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ารีบลุกขึ้นมา “ข้าจะไปเป็นเพื่อน!”
อีหลิงยิ้มแบบขมขื่น “นายจะตามฉันมาทำไม?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ข้าต้องปกป้ององค์หญิงผู้งดงามของข้า”
“ไม่จำเป็น ประเทศจีนของพวกเรายังเป็นสถานที่ปลอดภัยอยู่ แถมฉันแค่จะไปห้องน้ำเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก” อีหลิงปฏิเสธ
“งั้นก็ได้!” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเองก็รู้สึกว่าการตามอีหลิงไปห้องน้ำมันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ จึงกลับไปที่นั่งของตัวเอง
ฉีซือหย่วนพาลูกน้องออกมาสองคน และกำลังเดินเล่นอยู่บนสนามเพราะความเบื่อหน่าย
ในฐานะที่เป็นคุณชายของตระกูลฉี ปกติฉีซือหย่วนก็ชอบทำตัวกร่างไปทั่ว ครั้งนี้ตามลุงของเขาฉีเฉิงคุนมาร่วมงานประลองยุทธ กะว่าจะมาแสดงอำนาจและดึงดูดความสนใจสักหน่อย แต่กลับโดนลุงของเขาฉีเฉิงคุนแย่งความสนใจไปจนหมด
เพราะความเบื่อหน่าย ฉีซือหย่วนจึงพาลูกน้องออกมาสองคน เดินเล่นรอบๆ เผื่อจะเจอเหยื่อให้เล่นสนุกด้วย
พอออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆฉีซือหย่วนก็เจอกับอีหลิงที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหญิงที่อยู่ตรงข้าม ความงดงามของเธอ ทำให้ฉีซือหย่วนอึ้งไปเลยทีเดียว
ตาทั้งสองข้างของฉีซือหย่วนเอาแต่จ้องมองอีหลิง ดูเธอล้างมือ จัดกระโปรงของตัวเอง แล้วเดินจากไป
ในเวลานั้น จู่ๆฉีซือหย่วนก็ขยับขึ้นมา
เพียงไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ตรงหน้าของอีหลิง แล้วขวางทางเดินของอีหลิงเอาไว้
“นายเป็นใคร?” อีหลิงถามด้วยความสงสัย
ฉีซือหยว่นจ้องมองอีหลิง แววตาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการจะทำอะไร จนลืมที่จะตอบคำถาม
“ของดีเลยนะเนี่ย!” ฉีซือหย่วนถอนหายใจดังเฮือก
ลูกน้องทั้งสองคนพอเห็นว่าฉีซือหน่วนขวางอีหลิงเอาไว้ จึงรีบวิ่งเข้าไปหา
“สาวน้อย ท่านผู้นี้คือคุณชายฉีของพวกเรา เธอน่าจะเคยได้ยินมาก่อนใช่ไหม!” ลูกน้องคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าภูมิใจ
ใบหน้าอันงดงามของอีหลิงได้ถอนหายใจออกมา แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่เคยได้ยิน ขอให้พวกนายหลีกทางไปด้วย!”
ลูกน้องทั้งสองคนอึ้งไปสักพัก เมื่อก่อนขอแค่พวกเขาบอกชื่อของตระกูลฉีออกมา ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ผู้ใหญ่หรือเด็ก ล้วนแสดงสีหน้าเคารพ แล้วโค้งคำนับกันทั้งนั้น
แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้กลับบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน!
เห็นได้ชัดว่าไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้!
“ตระกูลฉี เป็นตระกูลใหญ่อันดับสองในโลกบู๊เจียงหนาน! เธอกลับบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อนงั้นเหรอ?” ลูกน้องคนนั้นไม่เชื่อ จ้องมองอีหลิงด้วยความเย็นชา อย่างกับจะดูใบหน้าของอีหลิงให้ชัดๆ ว่าเธอกำลังพูดโกหกอยู่
อีหลิงพูดด้วยเสียงเย็นชา “ต่อให้นายจะเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่ง หรือตระกูลใหญ่อันดับสอง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ตอนนี้ฉันอยากจะกลับแล้ว ขอให้พวกนายหลีกทางด้วย!”
ไม่ไว้หน้าขนาดนี้เลยเหรอ!
ลูกน้องทั้งสองคนมองฉีซือหย่วน กำลังรอคำสั่งอยู่
แววตาทั้งคู่ของฉีซือหย่วน เต็มไปด้วยความเร่าร้อน กำลังสำรวจอีหลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ช่างเป็นของดีจริงๆ!”
“สาวน้อย เจ้าชื่ออะไร?” ฉีซือหย่วนถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ฉันไม่ได้สนิทกับนาย” อีหลิงเงยหน้า จ้องมองเขา ด้วยไร้ซึ่งความกลัว
“โย ใจกล้าสักด้วย! ข้าชอบคนแบบเจ้าที่สุด พวกผู้หญิงที่พอได้ยินฐานะของข้า ก็เข้ามาหาข้า ข้าเล่นจนเบื่อแล้ว
“วันนี้ ข้าขอลองรสชาติใหม่ดูหน่อยก็แล้วกัน!”
ฉีซือหย่วนยิ้มอย่างชั่วร้าย เดินเข้าไปหาอีหลิงทันที เห็นได้ชัดว่าจะลงมือที่นี่เดี๋ยวนี้เลย
พอเกิดในตระกูลใหญ่อันดับสองในโลกบู๊เจียงหนาน ฉีซือหย่วนหยิ่งผยองจนถึงขีดสุดจริงๆ
ในโลกบู๊ ผู้อ่อนแอล้วนไม่เคยได้รับความคุ้นครองจากกฎหมาย ผู้ที่แข็งแกร่งกว่า จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ฉีซือหย่วนทำตัวกร่างจนชินแล้ว ต่อให้เขาจะทำอะไรพวกผู้หญิง ก็ยังมีอำนาจของตระกูลฉีอยู่ จึงทำได้แต่เก็บอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้
ดังนั้น พอนานวันเข้า ก็ทำให้ฉีซือหย่วนทำตัวหยิ่งผยองยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่สนว่าอีหลิงจะเป็นคนของโลกบู๊หรือเปล่า คิดจะลงมือแตะต้องเธอทันที
ห่างออกไป หลินหยุนพอเห็นภาพตรงหน้า ก็มีจิตสังหารออกมาจากร่างกาย
ในตอนที่หลินหยุนกำลังจะออกไปช่วยเหลืออีหลิง ก็มีคนออกตัวไปก่อนเขาแล้ว
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าระเบิดความเร็วสูงสุดของเผ่าโลหิต เพียงพริบตาเดียว ก็มาอยู่ตรงกลางระหว่างอีหลิงและฉีซือหย่วน ทำให้ทั้งสองแยกห่างจากกัน
“แกเป็นใคร?” ฉีซือหย่วนจ้องมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่ตัวสูงกว่าตัวเอง
ถึงแม้ฉีซือหย่วนจะทำตัวกร่างไปทั่วในโลกบู๊เจียงหนาน แต่เมื่อกี้พอเห็นความเร็วของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า เขาเองก็ตกใจไปเหมือนกัน