จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 552 ทำไมถึงเป็นแก
ลู่หนันสุนจ้องมองอีหลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “คุณหนูอี ฉันว่าเธอรีบห้ามแฟนหนุ่มของเธอดีกว่า ที่นี่เป็นงานเจียงหนาน ท่านผู้นี้คือคุณชายฉีจากตระกูลฉี!”
“มีเรื่องกับฉันเป็นแค่เรื่องเล็ก แต่ถ้าเกิดมีเรื่องกับคุณชายฉี งั้นก็มีแต่ตายสถานเดียว”
หลินหยุนเงยหน้า จ้องมองลู่หนันสุนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์” มีเรื่องกับฉัน ก็ตายสถานเดียวเหมือนกัน”
ทุกคนต่างก็อึ้งไปเลย
“ฮ่าๆ เจ้าหมอนี้ ช่างกล้าซะจริงๆ!”
“แม้แต่คุณชายตระกูลฉีก็ยังไม่ไว้หน้า เจ้าหมอนี้มีคนใหญ่คนโตหนุนหลังอยู่หรือเปล่า?”
คนรอบๆต่างก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา แต่ว่าคนส่วนใหญ่ก็กำลังดีใจที่จะได้เห็นคนอื่นเดือดร้อน รอให้ฉีซือหย่วนระบายอารมณ์ แล้วอัดหน้าหลินหยุน
ซิงจื่อเย่เงยหน้ามองด้วยความหยิ่งผยอง จ้องมองหลินหยุนด้วยใบหน้าดูถูก “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง สมควรตาย!”
ฉีซือหย่วนจ้องมองหลินหยุน ด้วยใบหน้าดำมืด “เจ้าหนู ความอดทนของข้ามีจำกัด”
“ในเมื่อแกอยากตาย งั้นข้าก็จะสงเคราะห์ให้”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่ยืนอยู่ข้างๆ เอามือกอดอกทั้งสองข้าง ยิ้มด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
แถม ยังช่วยใส่ไฟเพิ่มเข้าไปอีก “ใช่แล้ว ฆ่าเขาซะ จะต้องฆ่าเขาให้ได้!”
หลินหยุนจ้องมองเขา จู่ๆคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็ไม่กล้าหันหน้าหนีไปไหน ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ฉีซือหย่วนหันไปกวาดมือเรียกเหล่าลูกน้องตัวเอง แล้วตะโกนว่า “ลุย ให้มันรู้ว่าถ้าเกิดเป็นศัตรูกับตระกูลฉีจะลงเอยยังไง!”
“ช้าก่อน!”
ในตอนที่เหล่าลูกน้องของตระกูลฉี กำลังจะเข้าไปจับตัวหลินหยุน ฉีซือหย่วนที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็นชา
ฉีเฉินคุนกำลังจ้องมองหน้าของหลินหยุน ใบหน้าเผยความดีใจออกมา “เป็นแกเองงั้นเหรอ!”
จากนั้น หน้าของฉีเฉิงคุนก็เผยสีหน้าภูมิใจออกมา แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “นึกไม่ถึงจริงๆว่า แกจะยังกล้ามางานเจียงหนาน!”
หลินหยุนมองฉีเฉิงคุน แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะแก แกยังไม่มีค่าถึงขั้นนั้น”
ฉีเฉิงคุนยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่เป็นไร ไม่ว่าแกจะมาที่นี่เพราะใคร ขอแค่แกมาก็พอแล้ว”
“ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็ไม่ต้องกลับไป”
พอได้ยินคำพูดระหว่างฉีเฉิงคุนและหลินหยุน คนรอบๆต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน
“นี่มันสถานการณ์อะไรกันเนี่ย ปรมาจารย์ฉีรู้จักเจ้าหมอนี้ด้วยงั้นเหรอ!”
“ดูเหมือนว่า เจ้าหมอนี้จะเคยมีเรื่องกับปรมาจารย์ฉีอีกด้วย!”
“ช่างกล้าจริงๆ! ไม่แปลกใจที่ไม่เห็นคุณชายตระกูลฉีอยู่ในสายตา ที่แท้แม้แต่ปรมาจารย์ฉีก็ยังไม่อยู่ในสายตาของเขา คุณชายตระกูลฉีในสายตาของเขายังจะมีค่าอะไรอีกล่ะ!”
“ฉันรู้สึกว่าเจ้าหมอนี้ต้องตายอย่างแน่นอน!”
“ในโลกบู๊เจียงหนานคนที่มีเรื่องกับตระกูลใหญ่อันดับสองอย่างตระกูลฉี นี่มันหาเรื่องตายไม่ใช่หรือไง?”
ทุกคนต่างก็จ้องมองหลินหยุน ราวกับเป็นคนที่ตายไปแล้ว
ฉีซือหย่วนหันไปมองฉีเฉิงคุน แล้วตะโกนว่า “ลุงสอง ท่านมีความแค้นกับเขางั้นเหรอ?”
“ใช่” ฉีเฉิงคุนพูด
“งั้นก็พอดีเลย วันนี้ก็ฆ่าเขาไปด้วยซะเลย” ฉีซือหย่วนพูด
ฉีเฉิงคุนจ้องมองเจ้าหลานคนนี้ด้วยความเหนื่อยหน่าย ถ้าเกิดฆ่าได้ล่ะก็ เขายังต้องรอจนถึงตอนนี้ไหม?
เจ้าหลานคนนี้ของเขา ช่างไม่มีหัวคิดเอาซะเลย
“ใครเป็นคนทำร้ายเจ้า?” สายตาของฉีเฉิงคุน ไปอยู่บนตัวของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า แล้วหันไปถามฉีซือหย่วน
พอพูดถึงศัตรูคู่แค้น จู่ๆฉีซือหย่วนก็ทำหน้าดุร้ายทันที ชี้หน้าของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าที่กำลังทำหน้าสูงส่ง แล้วพูดว่า “เขา!”
“ลุงสอง อย่าเพิ่งฆ่าเขา พอท่านจัดการเขาได้ ก็เอามาให้ข้า ข้าจะทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตาย!” ฉีซือหย่วนกัดฟัน แล้วพูดด้วยใบหน้าชั่วร้าย
“ได้!” ฉีเฉิงคุนจ้องมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าด้วยสายตาเย็นชา ความโกรธที่ได้รับจากหลินหยุน ดูเหมือนในที่สุดก็หาที่ระบายได้สักที
ฉีเฉิงคุนตะโกนเสียงเย็นชา “เจ้าชาวตะวันตก ทำไมเจ้าถึงต้องทำร้ายหลานชายของข้าด้วย?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าโบกมือปฏิเสธ จากนั้นก็ชี้ไปที่หลินหยุนแล้วพูดว่า “เขาเป็นคนบอกให้ข้าทำ”
อีหลิงจ้องเขาเขม็ง “นายอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ!”
หลินหยุนกวาดสายตามองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า ไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดปฏิเสธออกมา
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าหันไปขอโทษอีหลิงด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกได้ว่าฉีเฉิงคุนไม่ใช่คนธรรมดา ถึงแม้เขาจะมีความมั่นใจว่าสามารถเอาชนะได้ แต่ก็ต้องเสียแรงไปมากเช่นกัน
ตอนนี้เขาเพิ่งจะดูดซับต้นแห่งชีวิต จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก ไม่สามารถทุ่นแรงไปกับการต่อสู้ใหญ่ๆได้
ดังนั้น คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าถึงได้โกหก ให้หลินหยุนเป็นผู้รับเคราะห์แทน
ฉีซือหย่วนกลับเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จ้องมองหลินหยุน แล้วพูดด้วยใบหน้าดุร้ายว่า “ที่แท้แกเป็นคนออกคำสั่งเขานี่เอง!”
“ไอ้หนู ข้ากับแกไม่ได้มีความแค้นต่อกัน แต่แกกลับสั่งให้เขาทำร้ายข้า!”
“ความแค้นนี้ พวกเรามาชำระแค้นที่นี่แหละ!”
ฉีซือหย่วนมองฉีเฉิงคุนอีกครั้ง แล้วพูดด้วยใบหน้าโมโหว่า “ลุงสอง ท่านต้องแกแค้นให้ข้านะ!”
“เข้าใจแล้ว” ฉีเฉิงคุนพูดด้วยความรำคาญ
เขาเองก็อยากจะแก้แค้นเหมือนกัน แต่ว่า เขาสู้หลินหยุนไม่ได้
แต่ว่า ที่นี่เป็นงานเจียงหนาน เป็นถิ่นของตระกูลฉีของเขา ฉีเฉิงคุนมีวิธีที่จะรับมือกับหลินหยุน
ฉีเฉิงคุนจ้องมองหลินหยุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าหนู ในเมื่อมาแล้ว ไม่ลองขึ้นเวทีเพื่อประลองฝีมือกับเหล่านักสู้ของโลกบู๊เจียงหนานสักหน่อยเหรอ! แกจะได้รู้ว่าอะไรคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง”
ฉีเฉิงคุนเคยแพ้หลินหยุนมาแล้ว ถ้าเกิดสู้กันตรงๆ เขาไม่คิดว่าจะชนะได้
เขาได้วางแผนเอาไว้แล้ว หาวิธีให้หลินหยุนเข้าร่วมงานประลองยุทธให้ได้ก่อน จะได้ลดพลังกายของเขา
จากนั้น เขาก็จะหาข้ออ้าง เพื่อให้เหล่านักสู้ของโลกบู๊เจียงหนานจู่โจมเขาพร้อมกัน
ถึงเวลานั้น ต่อให้หลินหยุนจะมีสามหัวหกแขน ก็ต้องตายสถานเดียว
ฉีซือหย่วนไม่เข้าใจ แล้วตะโกนด้วยความไม่พอใจว่า “ลุงสอง เจ้าหมอนี้สั่งให้คนมาทำร้ายข้าจนกลายเป็นแบบนี้ ท่านไม่เพียงไม่แก้แค้นให้กับข้า ทำไมถึงยังให้เขาเข้าร่วมงานประลองยุทธอีกล่ะ!”
ฉีเฉิงคุนจ้องมองฉีซือหย่วนด้วยความดุดัน แล้วตะโกนใส่ว่า “หุบปาก! ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่!”
ฉีซือหย่วนโดนด่า จึงได้แต่ถอยหลังออกไป เขาไม่กล้าขัดคำสั่งฉีเฉิงคุน จึงได้แต่เอาความโกรธไปลงที่หลินหยุน
“เจ้าหนู วันนี้ข้าจะต้องทำให้แกทรมานยิ่งกว่าตาย!”
คนรอบๆ ต่างก็จ้องมองฉีเฉิงคุน ต่างก็เผยสีหน้าที่ไม่เข้าใจออกมา
ตามนิสัยของฉีเฉิงคุน ถ้าเกิดหลินหยุนทำให้เขาโมโห ไม่มีทางที่เขาจะพูดเจรจากับหลินหยุนแบบนี้
ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะต้องมีเรื่องที่พวกเขาไม่รู้อยู่แน่นอน
หลินหยุนไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉีเฉิงคุนวางแผนอะไรเอาไว้ แต่งานประลองยุทธสำหรับเขา ไม่ได้มีความน่าสนใจแม้แต่น้อย
เป้าหมายของเขาในวันนี้ ก็แค่ต้องการหาโอกาส แล้วตบหน้าซิงจื่อเย่กับลู่หนันสุน เพื่อระบายอารมณ์แทนอีหลิง
เรื่องนอกเหนือจากนี้ เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
“ไม่สนใจ ถ้าเกิดแกไม่อยากโดนฉันอัด ก็อยู่ให้ห่างฉันเอาไว้” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ
คนรอบๆที่มีหัวคิด รู้ตัวได้ทันทีว่าเรื่องนี้มันผิดปกติ
“เจ้าหมอนี้เสียมารยาทกับปรมาจารย์ฉีถึงขนาดนี้! แต่ปรมาจารย์ฉีกลับไม่ยอมลงมือ เขากำลังกลัวอะไรกันแน่?”
เวลานี้เอง เย่จื่อเชี่ยนที่ถูกดึงดูดความสนใจจากการเคลื่อนไหวของฝั่งนี้ ได้มองเห็นหลินหยุนแล้ว
เย่จื่อเชี่ยนทำหน้าดีใจ รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“พี่ชาย ทำไมพี่ถึงอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ!”
หลินหยุนมองเธอ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “อาการของปู่เธอดีขึ้นหรือยัง?”
“ดีขึ้นมากแล้ว เขายังบอกอีกว่าถ้าเกิดเจอพี่อีก ให้หนูขอบคุณพี่แทนเขาด้วย!” เย่จื่อเชี่ยนพูดด้วยรอยยิ้มตื่นเต้น
พอเห็นว่าเย่จื่อเชี่ยนและหลินหยุนรู้จักกัน แววตาของฉีเฉิงคุนก็ยิ่งดุร้ายมากกว่าเดิม
เมื่อกี้เย่จื่อเชี่ยนทำให้เขาขายขี้หน้าต่อหน้าทุกคน เขาคิดที่จะฆ่าเย่จื่อเชี่ยนเอาไว้แล้ว นึกไม่ถึงว่าเย่จื่อเชี่ยนกลับรู้จักศัตรูคู่แค้นของเขาอย่างหลินหยุนด้วย
ความคิดนี้ แม้แต่ศัตรูก็ยังชอบอยู่ร่วมกัน
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจ้องมองฉีเฉิงคุนด้วยใบหน้ารังเกียจ แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่ได้ยินที่พี่ข้าพูดหรือไง? ยังไม่ไสหัวไปอีก!”
อีหลิงหมดคำพูด จ้องคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเขม็ง “หลินหยุนไปเป็นพี่ของนายตอนไหนกัน!”
หลินหยุนก็หมดคำพูดกับผีดูดเลือดตัวนี้ แต่พอนึกว่าจากนี้ถ้าเกิดมีโอกาสได้ไปที่ตะวันตก คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าคงทำประโยชน์ได้ไม่น้อย สำหรับความเจ้าเล่ห์ของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า หลินหยุนถือซะว่าไม่เคยเกิดขึ้น