จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 554 เขาก็คือปรมาจารย์หลิน
“ถูกแล้ว เป็นแค่ปรมาจารย์คนเดียว ยังกล้ามาทำตัวกร่างในโลกบู๊เจียงหนานอีก!”
“คงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว!”
คนรอบๆต่างก็แสดงสีหน้าหยิ่งผยอง แววตาที่จ้องมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเต็มไปด้วยความดูถูก
คนที่มาจากที่อื่น ก็ยังกล้ามาทำตัวกร่างในโลกบู๊เจียงหนาน รนหาที่ตายชัดๆ!
“ปรมาจารย์ฉี ข้ายินดีเป็นกำลังให้กับท่าน เพื่อจำกัดคนนอกที่บุกรุกเข้ามายังโลกบู๊เจียงหนานของพวกเรา!” จู่ๆเจ้าบ้านจ้าวก็ยืนออกมา พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“ข้าเองก็ยินดีเป็นกำลังให้กับพี่ฉี!” เจ้าบ้านลู่ก็ยืนออกมาเหมือนกัน
“ข้าก็ยินดี!”
“ข้า ข้าด้วย……”
เหล่าตระกูลเล็กใหญ่ของโลกบู๊เจียงหนานทั้งหมด เกือบจะยืนออกมาทั้งหมด เพื่อช่วยฉีเฉิงคุนจัดการคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าทำหน้าตกใจ แล้วตะโกนเสียงดังว่า “พวกแกชาวตะวันออกจะเล่นสกปรกเกินไปแล้ว พวกแกใช้จำนวนคนที่มากกว่ามารังแกคนที่มีคนน้อยคน เกียรติยศของพวกแกอยู่ที่ไหนกัน?”
ใบหน้าที่งดงามของอีหลิง ก็เต็มไปด้วยความโมโห กวาดสายตามองเหล่าผู้คนของโลกบู๊เจียงหนานด้วยความเย็นชา แล้วพูดด้วยความโมโหว่า “พวกแกจะทำตัวน่าอายเกินไปแล้ว! คนเยอะขนาดนี้มารวมตัวเพื่อรังแกคนแค่คนเดียวงั้นเหรอ? ถ้าเกิดเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะหรือไง!”
เย่จื่อเชี่ยนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกแกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ชื่อเสียงของโลกบู๊เจียงหนาน จะมาเสียด้วยน้ำมือของพวกแกไม่ได้”
ใบหน้าของคนรอบๆเผยความลังเลออกมา ถ้าเกิดจำกัดคนนอกด้วยวิธีแบบนี้ ถ้าเกิดแพร่งพรายออกไป โลกบู๊เจียงหนานของพวกเขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นอย่างแน่นอน
ลู่หนันสุนพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “พวกเราเหล่าพี่น้องโลกบู๊เจียงหนาน ร่วมพลังกันเพื่อต่อกรกับผู้บุกรุกจากภายนอก ถ้าเกิดแพร่งพรายออกไป ก็มีแต่คําสรรเสริญ จะโดนคนอื่นหัวเราะเยาะได้ยังไง?”
“อีกอย่าง คนนอกย่อมไม่มีทางมีความคิดเดียวกันพวกเราอยู่แล้ว เขาเป็นแค่คนที่มาจากที่อื่น แต่กลับกล้าทำตัวกร่างในประเทศจีน เห็นได้ชัดว่าดูถูกโลกบู๊ทั้งประเทศจีนของพวกเรา พวกเราไม่จำเป็นต้องใช้กฎกับเขาด้วยซ้ำ”
“พูดได้ดี จำกัดคนนอก ไม่จำเป็นต้องใช้กฏระเบียบอะไร!”
“ฆ่าเขาซะก็สิ้นเรื่อง!”
“ฆ่าเขาซะ!”
มีคนมากมายตะโกนเสียงดัง ต้องการให้ฆ่าคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าทิ้งซะ
ราวกับว่าคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า จู่ๆก็กลายเป็นผู้บุกรุกที่น่ารังเกียจสักอย่างนั้น
และคนจากโลกบู๊เจียงหนาน เพื่อจัดการผู้บุกรุก ต่อให้ใช้จำนวนคนที่มากกว่า ก็เป็นเรื่องที่ทำได้อย่างสง่าผ่าเผย และก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าโกรธจนจมูกเบี้ยว เขาอยากด่าคนมาก แต่ว่าครูสอนภาษาจีนของเขาไม่เคยสอนเขาด่าคนมาก่อน
ในเมื่อไม่มีทางเลือก คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าจึงได้แต่ด่าด้วยภาษาฝรั่งเศส ด่าทอพวกคนจากโลกบู๊เจียงหนานที่ทำตัวน่าละอายแบบนี้
แววตาของฉีเฉิงคุนเผยความดุร้ายออกมา แล้วตะโกนเสียงดังว่า “พูดได้ดี การที่พวกเราจะจัดการผู้บุกรุกจากภายนอก ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎระเบียบ ทุกคนตามข้ามา สังหารเขาซะ เพื่อรักษาเกียรติยศโลกบู๊เจียงหนานของพวกเรา!”
เดิมทีฉีเฉิงคุนก็ไม่คิดที่จะฆ่าหรอก แต่ว่า ในเมื่อคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ามีความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ งั้นถ้าเกิดถึงเวลาที่ฉีเฉิงคุนต้องการจะจัดการกับหลินหยุน ก็จะมีศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
จัดการคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าตั้งแต่ต้นซะ จะได้ตัดปีกของหลินหยุนออก
“ฆ่าเขาซะ!”
เหล่าเจ้าบ้านเล็กใหญ่ของโลกบู๊เจียงหนานกว่าสิบคน ระเบิดออร่าในร่างออกมาพร้อมกัน ในหมู่คนพวกนี้มีระดับปรมาจารย์อยู่หลายคน ส่วนที่เหลือ ก็มีความแข็งแกร่งแค่แดนพรสวรรค์สูงสุดเท่านั้น
ต้องรับมือกับคู่ต่อสู้ขนาดนี้ในเวลาเดียวกัน คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าต้องตายอย่างแน่นอน
ในที่สุดคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็หวาดกลัวแล้ว กลืนน้ำลาย แล้วเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว
หลินหยุนที่จ้องมองด้วยสายตาเย็นชามาโดยตลอด จู่ๆก็ลุกขึ้นมา มือข้างหนึ่งจับไปที่ไหล่ของคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่า
“ให้พวกเขามา” หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ น้ำเสียงเรียบๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกเกิดความหวาดกลัวในจิตใจขึ้นมา
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน ยืนตัวตรง ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดด้วยใบหน้าหยิ่งผยองว่า “มาสิ คิดว่ากลัวพวกแกหรือไง!”
ข้างๆ เย่จื่อเชี่ยนที่จ้องมองหลินหยุนอยู่เงียบๆมาโดยตลอด พอเห็นหลินหยุนหันหลัง แล้วเผยให้เธอเห็นข้างหลังของเขา
จู่ๆก็อึ้งไปเลย
แววตาของเด็กสาวเผยความนึกคิดออกมา “หลังแบบนี้……ทำไมถึงคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก!”
ทันใดนั้น หัวใจของเย่จื่อเชี่ยนก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง!
เขาหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋า ข้างในรูปเป็นรูปถ่ายหลังของคนคนหนึ่ง
“นี่ นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
“เหมือนเกินไปแล้ว มันจะเหมือนเกินไปแล้ว!”
“ไม่ นี่มันคนเดียวกันเห็นๆ! สีหน้าแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ เป็นปรมาจารย์หลินชัดๆ!”
ตั้งแต่ที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับปรมาจารย์หลิน เย่จื่อเชี่ยนก็กลายเป็นแฟนคลับของปรมาจารย์หลินด้วยที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
เย่จื่อเชี่ยนเอารูปถ่ายกลางหลังใบนั้น ติดตัวไปไหนมาไหนทุกวัน เกือบหนึ่งปีแล้ว ที่เธอดูรูปถ่ายนี้เกือบทุกวัน
ดังนั้น หลังจากที่หลินหยุนหันหลังจนเผยให้เห็นกลางหลัง เธอก็ดูออกได้ในทันที
“ปรมาจารย์หลิน พี่คือปรมาจารย์หลิน!” เย่จื่อเชี่ยนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินหยุน จู่ๆก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
เสียงของเธอ ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
“ปรมาจารย์หลิน? ปรมาจารย์หลินอะไร? เธอกำลังพูดบ้าอะไรกัน!” เจ้าบ้านตระกูลเล็กคนหนึ่ง จ้องเย่จื่อเชี่ยนด้วยความไม่พอใจ แล้วตะโกนใส่ไปหนึ่งที
“ปรมาจารย์หลินจากหลิงหนาน!” เย่จื่อเชี่ยนพูดด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“ปรมาจารย์หลินจากหลิงหนาน?” ทุกคนต่างก็ขมวดคิ้ว ชื่อเสียงปรมาจารย์หลินจากหลิงหนาน พวกเขาล้วนเข้าใจกันดี
อีกอย่างเมื่อกี้ พวกเขายังพูดจาว่าร้ายปรมาจารย์หลิน เพื่อเอาใจฉีเฉิงคุนอยู่เลย
“เธอบอกว่าใครคือปรมาจารย์หลินจากหลิงหนานนะ?” ฉีเฉิงคุนจ้องเย่จื่อเชี่ยน แล้วถามด้วยเสียงโทนต่ำ
เย่จื่อเชี่ยนชี้ไปทางหลินหยุน แล้วพูดว่า “เขา เขาก็คือปรมาจารย์หลินจากหลิงหนาน!”
หลินหยุนหันไปมองเย่จื่อเชี่ยน นึกไม่ถึงว่าในเจียงหนาน กลับมีคนที่รู้จักเขาด้วย
แต่ว่า ในเมื่อเย่จื่อเชี่ยนรู้ตัวจริงของเขา ทำไมตอนที่อยู่บนเครื่องบิน ถึงไม่รู้ตัวล่ะ?
แม้แต่หลินหยุนก็ไม่รู้ เย่จื่อเชี่ยนไม่เคยเจอเขา เธอใช้รูปถ่ายข้างหลังของเขาแค่ใบเดียว ก็ทำให้รู้ตัวจริงของหลินหยุน
แต่ว่า หลินหยุนนั้นเข้าใจดี ฐานะของเขาในไม่ช้านี้ก็คงจะถูกเปิดเผยอยู่ดี อีกอย่างครั้งนี้ ก็มาเพื่อระบายอารมณ์แทนอีหลิง เขาเองก็ไม่เคยคิดที่จะปิดบังฐานะของตัวเอง
“เจ้าบอกว่าเขาคือปรมาจารย์หลินจากหลิงหนาน?” นักบู๊หนุ่มคนหนึ่งทำหน้าเยาะเย้ย ใบหน้าบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อ “ถ้าเกิดเขาคือปรมาจารย์หลิน งั้นข้าก็คือปรมาจารย์หวาง เขาคือปรมาจารย์หลี่ เขาคือปรมาจารย์จาง……ฮ่าๆ!”
“ฮ่าๆ ใช่แล้ว พวกเราล้วนเป็นปรมาจารย์!”
คนรอบๆต่างก็หัวเราะเยาะเสียงดัง
“สาวน้อย จะโกหกทั้งทีก็เอาให้มันเนียนกว่านี้สิ เจ้าเคยเจอปรมาจารย์ที่มีอายุแค่ยี่สิบหรือไง?”
ลู่หนันสุนก็พูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ถ้าเกิดเขาคือปรมาจารย์หลิน พวกเราคงกลับมาจากเกาะดอกพีชแบบมีชีวิตไม่ได้หรอก”
“เธอว่างั้นไหม? จื่อเย่?” ลู่หนันสุนหันไปมองซิงจื่อเย่ที่อยู่ข้างๆ แล้วถามด้วยเสียงอบอุ่น
ซิงจื่อเย่ส่งเสียงเฮิงด้วยความเย็นชา “ขยะแบบนี้ ก็กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์? น่าขำ!”
จู่ๆฉีเฉิงคุนก็ส่งเสียงเฮิงเย็นชาออกมา จ้องเย่จื่อเชี่ยน ด้วยใบหน้าดำมืด “ข้าว่าเจ้าจงใจมาก่อกวนชัดๆ ถึงว่าเมื่อกี้เจ้าถึงพูดแทนปรมาจารย์หลินอยู่ตลอด ที่แท้เธอวางแผนเอาไว้แล้วนี่เอง!”
“พูดมา ตอนแรกเจ้าก็มาพูดยกย่องปรมาจารย์หลิน ตอนนี้ก็ยังให้เขาปลอมเป็นปรมาจารย์หลิน ต้องการจะทำอะไรกันแน่!”
นักบู๊คนหนึ่งตะโกนขึ้นมา “ใช่แล้ว ตอนแรกยัยเด็กคนนี้ก็พูดแทนปรมาจารย์หลินไม่หยุด ตอนแรกข้าก็ยังคิดว่ายัยเด็กคนนี้เป็นแค่เด็กใส่ซื่อ คิดอะไรก็พูดแบบนั้น นึกไม่ถึงว่าเธอกลับวางแผนเอาไว้แล้ว หาคนมาปลอมเป็นปรมาจารย์หลินไว้ก่อนแล้ว!
“พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่! เจ้าหาคนมาปลอมเป็นปรมาจารย์หลิน แล้วได้ผลประโยชน์อะไร!”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ามองหลินหยุนด้วยใบหน้าแปลกประหลาดแล้วยิ้มออกมา “เฮ้ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เชื่อเจ้า เห็นทีเจ้าคงจำเป็นต้องแสดงฝีมือของเจ้าออกมาสักหน่อยแล้ว!”
อีหลิงก็มองหลินหยุน ไม่รู้ว่าเขาจะแสดงฝีมือออกมา เพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือเปล่า
หลินหยุนกวาดสายตามองเหล่านักบู๊จากเจียงหนาน ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ในหมู่คนพวกนี้ คนที่มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุดก็คือฉีเฉิงคุน ที่มีระดับการบำเพ็ญใกล้เคียงปรมาจารย์ระดับใหญ่ ทำให้เขาเกิดความสนใจไม่ได้แม้แต่น้อย
เย่จื่อเชี่ยนมองหลินหยุน แล้วตะโกนว่า “ปรมาจารย์หลิน ท่านรีบบอกพวกเขาสิ! ว่าท่านเป็นปรมาจารย์หลินจากหลิงหนานจริงๆ!”
เวลานี้เอง จู่ๆก็มีเสียงไอดังขึ้นมารอบทิศทาง ราวกับว่ามีคนมากมาย ที่อยู่คนละที่ ไอขึ้นมาพร้อมกัน