จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 555 เริ่มงานประลองยุทธ
คนที่สวมเสื้อสูทสีเทา ผมขาวครึ่งหัว ผู้ชายที่อายุราวๆห้าสิบ ค่อยๆเดินเข้ามาที่สนามกีฬา แล้วเดินมาอยู่ตรงกลางสนามหญ้า
ข้างหลังของเขา มีหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีแดงหน้าตาสะสวยตามหลังเขาเข้ามา
ใบหน้าของเธอรู้สึกจะมีความมัวหมองอยู่เล็กน้อย และยังแฝงความเจ็บปวดกับความเสียหวัง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสาวงามที่เยือกเย็น ทำให้คนที่ได้เห็น อยากจะเข้าไปปกป้องสุดชีวิตของตัวเอง
“นั่นคือ เจ้าบ้านโล่ โล่อู๋หมิง!”
“งั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขา ก็น่าจะเป็นลูกสาวของเขาโล่เสว่ฉี!”
“ใช่แล้ว นั่นก็คือโล่เสว่ฉี และเป็นของรางวัลของงานประลองยุทธในครั้งนี้!”
“น่าเสียดายจริงๆ ข้ามีความแข็งแกร่งไม่พอ ไม่งั้นไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเอาถ้วยรางวัลมาให้ได้!”
ตระกูลโล่เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของโลกบู๊เจียงหนาน หลายสิบปีมานี้ ส่วนใหญ่คนที่เป็นผู้นำของโลกบู๊เจียงหนานก็คือตระกูลโล่
พอโล่อู๋หมิงปรากฏออกมา จู่ๆก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในงานไปในทันที
แน่นอนว่า คนที่เป็นจุดสนใจมากที่สุดก็ยังคงเป็นโล่เสว่ฉี
ในฐานะที่เป็นของรางวัลในงานประลองยุทธในครั้งนี้ แน่นอนว่าโล่เสว่ฉีต้องเป็นจุดสนใจของทุกคนอยู่แล้ว
หลินหยุนแววตากระตุก ผู้หญิงที่อยู่บนเวทีคนนั้น กลับเป็นผู้หญิงที่เขาเจอตอนไปที่วังเทพจันทราในภูเขากู่
“ที่แท้ เธอก็คือคนตระกูลโล่ของโลกบู๊เจียงหนาน”
“แต่ว่า ถูกเอามาเป็นของรางวัล ฐานะของเธอในตระกูลโล่ จะต้องแย่มากแน่ๆ!”
“ไม่แปลกที่ตอนนั้นเธอ กลับกล้าไปตามหาสมบัติที่ภูเขากู่ด้วยตัวคนเดียว โดยไร้คนคุ้มครอง”
โล่อู๋หมิงยืนอยู่ตรงกลางสนามหญ้าของสนามกีฬา โล่เสว่ฉียืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ ราวกับเป็นหุ่นเชิด ที่ไม่แสดงสีหน้าอะไร
“เหล่าพี่น้องของโลกบู๊เจียงหนาน ข้าขอกล่าวทักทายทุกท่าน!”
เสียงที่ชัดเจนและทรงพลัง ค่อยๆดังไปทั่วสนามกีฬา ไม่ได้พูดเสียงดังอะไรมาก แต่กลับทำให้ทุกคนได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
ทุกคน ต่างก็ลุกขึ้นมา แล้วโค้งคำนับให้กับโล่อู๋หมิง “ขอคารวะเจ้าบ้านโล่!”
โล่อู่หมิงไม่ได้พูดอะไร แต่ก็โค้งคำนับทุกคนกลับ
คนที่ให้ความสำคัญกับมารยาท ทำอะไรก็ดูดีไปหมด
พอเจ้าบ้านโล่คนนี้ปรากฏออกมา ความรู้สึกแรกที่หลินหยุนรู้สึกได้ก็คือ มีเบื่องหลังลึก มีศักยภาพสูง
โล่อู่หมิงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับทุกคน จากนั้นก็มองคนรอบๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงงานประลองยุทธอีกแล้ว ก็ยังคงใช้กฎเดิม แต่ว่า ของรางวัลในครั้งนี้ ไม่ใช่ตำราวิชาอะไรอีกแล้ว แต่เป็นลูกสาวของข้า โล่เสว่ฉี”
โล่อู๋หมิงเอามือชี้ไปที่โล่เสว่ฉีที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ถ้าเกิดใครสามารถคว้าถ้วยรางวัลในครั้งนี้ไปครองครอบ ก็สามารถแต่งงานกับลูกสาวของข้าได้ ต่อให้จะเป็นคนที่มีลูกมีเมียอยู่แล้ว ขอแค่พวกท่านพูดจนภรรยาตัวเองยอมตกลงได้ ก็ยังคงแต่งงานกับลูกสาวข้าได้อยู่ดี แล้วก็จะได้กลายมาเป็นลูกเขยตระกูลโล่ของข้า”
พอโล่อู๋หมิงพูดจบประโยค หลินหยุนสัมผัสถึงลมหายใจหื่นกระหายของคนรอบๆได้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะพวกผู้ชาย สายตาที่จ้องมองโล่เสว่ฉี แทบจะพ่นไฟออกมาได้อยู่แล้ว
สายตาของหลินหยุนเย็นชาลงเล็กน้อย ตำแหน่งโล่เสว่ฉีในตระกูลโล่ แย่กว่าที่เขาเดาเอาไว้สักอีก
พ่อของเธอ โล่อู่หมิงเพื่อที่จะดึงคนที่มีความสามารถเข้ามาในตระกูล กลับไม่เสียดายที่จะยอมให้เธอแต่งไปเป็นเมียน้อยของคนอื่น
อีหลิงทำหน้าโมโห “จะมากเกินไปแล้ว! พวกเขากลับใช้คนเป็นๆมาเป็นของรางวัล โลกบู๊ห่าเหวอะไร แตกต่างจากพวกป่าเถื่อนตรงไหนกัน!”
คนข้างๆพอได้ยินคำพูดของอีหลิง ก็หัวเราะฮิๆแล้วพูดว่า “สาวน้อย เรื่องนี้เจ้าคงจะไม่รู้ล่ะซิ! คงจะไม่เข้าใจว่าแผนนี้ของตระกูลโล่มันล้ำเลิศขนาดไหนล่ะสิ? ถ้าเกิดเอาตำราวิชามาเป็นของรางวัล งั้นก็เท่ากับว่าเสียตำราไปฟรีๆ แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนมาเป็นลูกสาวของเจ้าบ้านโล่ ก็เท่ากับว่าใครที่ได้ถ้วยรางวัล ก็จะกลายเป็นลูกเขยของตระกูลโล่”
“ได้หญิงงามมาครองครอบก็ทำให้ใจสั่นไหวแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจตื่นเต้นมากกว่าก็คือการได้เป็นลูกเขยตระกูลโล่ ตระกูลโล่เป็นใหญ่ในโลกบู๊เจียงหนานมานับหลายสิบปี ในบ้านคงจะต้องสะสมของทั่วทั้งโลกบู๊เจียงหนานเอาไว้ ถ้าเกิดใครที่ได้เป็นลูกเขยตระกูลโล่ แล้วได้รับการช่วยเหลือจากทรัพยากรมากถึงขนาดนั้น ความแข็งแกร่งจะต้องเพิ่มไปอีกระดับอย่างแน่นอน”
“นี่ต่างหากถึงจะเป็นของที่น่าดึงดูดที่สุด!”
โล่อู่หมิงดูการตอบสนองของทุกคน ดูจะพอใจมาก ไม่พูดมากให้เสียเวลา จึงประกาศออกมาว่า “ยังคงใช้กฎเดิม เริ่มกันเถอะ!”
โล่อู๋หมิงไม่พูดให้เสียเวลาแม้แต่ประโยคเดียว ดูใบหน้าไม่พอใจของโล่เสว่ฉี ใบหน้าค่อยๆเย็นชา “ลงไปได้!”
โล่เสว่ฉีไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร หันหลัง ราวกับเป็นหุ่นเชิด ค่อยๆเดินไปที่นั่งที่อยู่นอกสนาม
พอโล่อู่หมิงลงจากสนาม ทันใดนั้น ก็มีเจ้าภาพคนหนึ่งของตระกูลโล่เดินมาที่ตรงกลางสนามทันที
“ทุกท่าน ข้าขอประกาศ งานประลองยุทธในครั้ง เริ่มได้ ณ บัดนี้!”
ฉีเฉิงคุนจ้องเย่จื่อเชี่ยนเขม็ง แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “หลังจากที่งานประลองยุทธสิ้นสูญลง ข้าจะมาคิดบัญชีกับเจ้า”
ถึงแม้ฉีซือหย่วนจะไม่พอใจ แต่ความน่าดึงดูดของงานประลองยุทธ เหนือกว่าความแค้นของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้หนู จะปล่อยให้แกมีชีวิตต่ออีกสักพัก! หลังจากที่งานประลองยุทธสิ้นสูญลง ข้าค่อยมาคิดบัญชีกับแก!” ฉีซือหย่วนพูดด้วยใบหน้าดุร้าย
ลู่หนันสุนและซิงจื่อเย่ ความสนใจที่อยู่ในตัวของพวกหลินหยุน ก็ย้ายไปอยู่ตรงงานประลองยุทธ
“ไอ้หนู แกช่างโชคดีซะจริง!”
เหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุกครั้งที่จัดงานประลองยุทธ ก็จะรวบรวมเหล่าผู้มีฝีมือเอาไว้มากมาย เจ้าบ้านพวกนี้ถ้าเกิดต้องการรักษาอำนาจของตระกูลเอาไว้ ก็จำเป็นจะต้องดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาในตระกูลของตัวเอง
ขนาดตระกูลโล่ที่เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของโลกบู๊เจียงหนาน ก็ยังเป็นอย่างนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาแล้ว
ดังนั้น ทุกครั้งที่งานประลองยุทธสิ้นสุดลง ก็เป็นช่วงเวลาในการแย่งชิงคนที่มีความสามารถ
ทุกคนไม่ได้สนใจพวกหลินหยุนอีกแล้ว แต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น นั่นก็คือฉีเฉิงคุน
แผนที่เขาเอาไว้จัดการหลินหยุน หนึ่งในนั้น ก็คือหาทางให้หลินหยุนเข้าร่วมงานประลองยุทธ เพื่อลดพลังกายของหลินหยุน
ดังนั้น ถึงแม้ฉีเฉิงคุนจะแกล้งทำเป็นว่ากำลังสนใจงานประลองยุทธ แต่ว่า ความสนใจที่แท้จริงของเขาอยู่ที่ตัวของหลินหยุนอยู่ตลอด
จู่ๆฉีเฉิงคุนก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าเกิดไปแสดงฝีมือในงานประลองยุทธ นั่นต่างหากถึงจะเป็นยอดฝีมือตัวจริง”
ตอนที่พูดประโยคนี้ สายตาของฉีเฉิงคุนก็จ้องมองไปที่หลินหยุน
ลู่หนันสุนพูดต่อด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า “ไม่เหมือนใครบางคน ที่มีดีแค่ปาก!”
หลินหยุนไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของพวกเขา
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วไปกระซิบข้างหูหลินหยุนว่า “ดูเหมือนพวกเขากำลังพูดถึงเจ้าอยู่!”
อีหลิงจ้องคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเขม็ง แล้วพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “นายไม่ต้องพูดอะไรจะได้ไหม?”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่ายักไหล่ แบมือทั้งสองข้าง “ข้ากลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจ จึงพูดเตือนเขาด้วยความหวังดี ในเมื่อท่านไม่ชอบ งั้นข้าไม่พูดก็แล้วกัน”
เย่จื่อเชี่ยนเดินเข้ามา มองหลินหยุนด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ แล้วถามว่า “พี่ชาย ทำไมพี่ถึงไม่ยอมรับว่าพี่เป็นปรมาจารย์หลิน?”
หลินหยุนมองเธอ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “จำเป็นด้วยเหรอ?”
ปรมาจารย์หลินไม่ใช่สิ่งที่หลินหยุนยอมรับแล้วทุกคนจะเชื่อตาม ชื่อเสียงของปรมาจารย์หลินได้มาจากการแสดงฝีมือออกมา
เย่จื่อเชี่ยนพอเห็นท่าทางเรียบง่ายของหลินหยุน ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์หลิน แค่หัวใจนี้ของท่าน คนที่อยู่ในสนามทั้งหมด ก็ไม่มีใครที่เทียบท่านได้แล้ว” เย่จื่อเชี่ยนชื่นชมจากใจจริง สายตาที่จ้องมองหลินหยุน เต็มไปด้วยความเคารพ
“ข้าขอก่อน!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง กระโดดออกมาอยู่กลางสนาม
นึกไม่ถึงจริงๆว่า รูปร่างที่ใหญ่โตแบบนั้น จะตัวเบาถึงขนาดนี้ได้
“ขอทุกท่านชี้แนะด้วย!” ชายร่างใหญ่เอามือประสานแล้วแสดงความเคารพต่อทุกคน ด้วยน้ำเสียงหยาบ
ในหมู่ฝูงชนมีคนตกใจขึ้นมา “นี่คือ‘หมียักษ์’หนิว!ได้ยินมาว่าไม่กี่ปีก่อนก็เข้าไปอยู่แดนพรสวรรค์สูงสุดแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว!”
“ได้ยินมาว่าบันทึกการต่อสู้ที่ดีที่สุดของหนิว ก็คือตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาอยู่ในแดนพรสวรรค์สูงสุด คนเดียวสู้กับยอดฝีมือระดับพรสวรรค์สูงสุดถึงสามคน แต่กลับฆ่าไปสอง ส่วนอีกคนก็กลายเป็นคนพิการ!”