จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 559 แรงกดดันจากทั่วทั้งโลกบู๊เจียงหนาน
ฉีเฉิงคุนแอบดีใจ “เจ้าหนู การโจมตีที่รุนแรงขนาดนี้ ข้าจะดูซิว่าแกจะรับยังไง! เฮิง ต่อให้เจ้ารับได้ พลังกายของแกก็คงใช้ไปจนเกือบหมดแล้ว! ถึงเวลานั้น เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี!”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าร้อนรนจนบ่นขึ้นมาว่า “พอรวมพลังของทั้งสิบแปดคนไว้ด้วยกัน มันจะรุนแรงเกินไปแล้ว”
“ไม่รู้ว่าเขาจะรับได้หรือเปล่า! ถ้าเกิดรับไม่ไหว ต้องแย่แน่”
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าแอบเดินเข้าไปหาอีหลิง แล้วพูดกระซิบว่า “องค์หญิงผู้งดงามของข้า ใช้โอกาสนี้ ให้ข้าพาท่านหนีออกไปเถอะ!”
“ถ้าเกิดรอให้เขาพ่ายแพ้ พวกเราก็ออกไปไม่ได้แล้ว”
อีหลิงจ้องเขาเขม็ง ใบหน้าเล็กๆพูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ไม่มีทาง หลินหยุนจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน!”
พอเห็นอีหลิงมีการตอบสนองขนาดนี้ คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าก็หดคอลง จู่ๆก็รู้สึกจิตตก
อีหลิงมองหลินหยุนที่ยืนกลางสนามอยู่เงียบๆ ใบหน้าที่งดงามเผยความมั่นใจออกมาเต็มร้อย “พี่หลินหยุนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ฉันเชื่อใจเขา!”
ในสนาม ขนาดต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือทั้งสิบแปดคนของโลกบู๊เจียงหนาน หลินหยุนก็ยังคงมีสีหน้าที่เรียบสงบ
รอการโจมตีของนักบู๊ทั้งสิบแปดคน จนถึงตอนที่การโจมตีเข้ามาใกล้ร่างของเขา……ร่างของหลินหยุน จู่ๆก็หายวาปไป
จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลางอากาศ
“ท่าแรกของสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าสยบเขา!”
หลินหยุนที่หล่นลงมาจากข้างบน ปล่อยหมัดซัดใส่นักบู๊ทั้งสิบแปดคนที่อยู่ข้างล่าง
ผัวะ!
ราวกับมีลูกระเบิดขนาดใหญ่หล่นใส่ศัตรูที่อยู่ข้างล่าง
จู่ๆนักบู๊ทั้งสิบแปดคนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดังอันน่ากลัว ที่กำลังหล่นลงมาจากฟากฟ้า
“พลังนี้……จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
ณ วินาทีนั้น ก็มีนักบู๊ที่มีระดับการบำเพ็ญต่ำที่สุดสองคน ทนรับไม่ไหว จนคุกเข่าอยู่กับพื้น
ต่อจากนั้น ก็มีนักบู๊อีกสองคนคุกเข่าอยู่กับพื้น
ตามการร่วงหล่นของหลินหยุน นักบู๊ทั้งสิบแปดคนต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น
พวกเขาพยายามเงยหน้าขึ้นมา แต่ว่า ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลของหลินหยุน สุดท้ายแม้แต่จะเงยหน้าก็ทำไม่ได้
หมัดเดียว ทำให้นักบู๊ทั้งสิบแปดคน คุกเข่าลงได้!
แถม หมัดนี้ โดนแค่นักบู๊ทั้งสิบแปดคน หญ้าที่อยู่กลางสนาม ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่า การควบคุมพลังของหลินหยุน ไปถึงขั้นที่สามารถเจาะจงเป้าหมายได้แล้ว!
ทุกคน ตกอยู่ในอาการตกตะลึงอีกครั้ง!
“ยอดฝีมือทั้งสิบแปดคนของโลกบู๊เจียงหนาน! เขาก็ยังสามารถล้มได้ในหมัดเดียว!”
“โอ้พระเจ้า! พลังของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกันแน่!”
ลู่หนันสุน ซิงจื่อเย่ ฉีซือหย่วน แม้แต่ฉีเฉิงคุน และทุกคน ต่างก็จ้องมองร่างผอมที่กำลังยืนอยู่บนสนามหญ้าด้วยความตกใจ
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” ต่อให้เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งระดับฉีเฉิงคุน ก็ไม่กล้าเชื่อภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า
นี่มันจะน่าตกใจเกินไปแล้ว!
ใบหน้ายิ้มแย้มของโล่อู๋หมิงในที่สุดก็หายไปแล้ว แทนที่ด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เจ้าหนูทำดีมาก ช่างเหนือความคาดหมายจริง!”
“ถ้าเกิดเจ้าหนูนี้กลายเป็นลูกเขยตระกูลโล่ของข้าได้ล่ะก็ คงจะดีไม่ใช่น้อย!”
“เสว่เอ๋อ เจ้าคิดว่าไง?”
โล่อู่หมิงหันไปมองโล่เสว่ฉีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ข้างในแววตาเผยสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้
โล่เสว่ฉีตกใจ นึกไม่ถึงว่าพ่อที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของตัวเองมาก่อน กลับถามความรู้สึกของตัวเองเป็นครั้งแรก
ถ้าเกิดสุดท้ายหลินหยุนสามารถคว้าถ้วยรางวัลมาได้จริงๆล่ะก็ ขอแค่เขายอมแต่งงาน โล่เสว่ฉีก็เคยถามตัวเอง น่าจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้แต่งงานกับเขา
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเบิกตาโต “เทพแห่งสว่างเฮงซวย เขาชนะได้จริงๆ!”
อีหลิงมองคาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าด้วยหางตา แล้วส่งเสียงเฮิงด้วยความเย็นชาออกมา “บอกนายตั้งแต่แรกแล้ว พี่หลินหยุนจะต้องชนะได้อย่างแน่นอน!”
หลินหยุนยืนอยู่กลางสนาม ใบหน้าเงียบสงบราวสายน้ำ หมัดเดียวล้มยอดฝีมือทั้งสิบแปดคน ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้เขาดีใจแม้แต่น้อย
“ยังมีใครอีกไหม?” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ กวาดสายตามองเหล่านักบู๊ของเจียงหนานที่กำลังนั่งอยู่
ตอนที่หลินหยุนกวาดสายตามองผ่านมา คนส่วนใหญ่ต่างก็ก้มหน้า ไม่กล้าสบสายตากับหลินหยุน
แค่หมัดเดียวก็ล้มยอดฝีมือทั้งสิบแปดคนลงได้ มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ฉีเฉิงคุนกวาดสายตามองคนทั้งสนาม หัวเราะเยาะด้วยเสียงเย็นชาแล้วพูดว่า “พวกไม่ได้เรื่อง ดูเหมือนคงถึงเวลาที่ข้าต้องลงมือเองซะแล้ว!”
พอพูดจบ ฉีเฉิงคุนก็หันไปส่งสายตาให้กับเหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่
เหล่าเจ้าบ้านต่างก็พยักหน้า ฉีเฉิงคุนกระโดดออกไป มายืนอยู่ตรงหน้าของหลินหยุน
“เจ้าหนู อย่าเพิ่งจองหอง! คิดว่าโลกบู๊เจียงหนานไม่มีคนมีฝีมือแล้วหรือไง!”
หลินหยุนกวาดสายตามองเขา ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ในที่สุดแกก็ยอมออกมาแล้ว”
ฉีเฉิงคุนรู้สึกใจสั่น ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี้จะเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่าข้ามีเป้าหมายอยู่ที่เขา!
เฮิง เดาได้แล้วยังไง? ตอนนี้ ข้าได้รวบรวมยอดฝีมือทั้งทั้งโลกบู๊เจียงหนานเอาไว้ เพื่อมาสังหารเจ้าแล้ว
เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่ยิ่งใหญ่ ต่อให้แกจะเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็ยังคงมีแค่คำว่าตายสถานเดียว
“เจ้าหนู ข้ายอมรับว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่แกไม่ควรดูถูกโลกบู๊เจียงหนานแบบนี้!”
“ดังนั้น ครั้งนี้ข้าจะไม่ขอใช้กฎกติกากับแก! วันนี้ แกอย่าหวังว่าจะได้ออกจากโลกบู๊เจียงหนานอีกเลย!”
เจ้าบ้านลู่ตะโกนเสียงดัง “พูดถูกแล้ว คนที่มาดูถูกโลกบู๊เจียงหนาน ต้องตายสถานเดียว!”
“เหล่าพี่น้อง ใครกล้าที่จะเป็นกำลังให้กับปรมาจารย์ฉีรวมกับข้า!”
“ข้ายินดี!” เจ้าบ้านจ้าวตะโกนเสียงดัง แล้วกระโดดลงสนาม
“ยังมีข้า!”
“ข้า นับข้าด้วยคน!”
เพียงพริบตาเดียว เหล่าตระกูลใหญ่ และยังมีตระกูลเล็กๆอีกสิบกว่าคน รวมเจ้าบ้านไว้ทั้งหมดยี่สิบห้าคน ล้อมรอบหลินหยุนเอาไว้
ทันใดนั้น ทั้งสนามก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา
“โอ้พระเจ้า ตระกูลฉีที่อยู่อันดับสอง ตระกูลลู่ที่อยู่อันดับสาม ตระกูลจ้าวที่อยู่อันดับสี่ ตระกูลหลี่ที่อยู่อันดับห้า ตระกูลซิงที่อยู่อันดับหก…..”
“เหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ที่ถูกจัดอันดับอยู่ในแถวหน้าทั้งสามสิบอันดับเกือบทั้งหมดของโลกบู๊เจียงหนาน ล้วนลงมือกันแล้ว!”
“นอกจากตระกูลโล่ นี่คงจะเป็นการรวบรวมผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกบู๊ทั่วทั้งเจียงหนานเอาไว้แล้ว!”
“นั่นสินะ การรวมตัวแบบนี้ ต่อให้เป็นตระกูลโล่ ก็คงไม่กล้าแตะต้อง!”
ผู้ชมทุกคนต่างก็ลุกขึ้นมา ตกอยู่ในอาการตะลึง จ้องมองร่างของเหล่าเจ้าบ้านที่อยู่ในสนามด้วยความตื่นเต้น
ครั้งนี้ แม้แต่โล่อู่หมิงก็ทำสีหน้าจริงจัง ใบหน้าเผยความตกใจออกมา
“ดูเหมือนว่าเจ้าฉีเฉิงคุน จะมีความแค้นเจ้าเด็กคนนี้!”
“เฮิง น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดายจริงๆ!”
ถึงแม้ในใจของเจ้าบ้านโล่จะต้องการให้หลินหยุนเข้ามาอยู่ในตระกูล แต่ว่า ถ้าเกิดออกหน้าในเวลาแบบนี้ คงต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งโลกบู๊เจียงหนาน
เจ้าบ้านโล่ก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม ถ้าเกิดทำเพื่อหลินหยุน แล้วทำให้ตระกูลโล่ตกอยู่ในอันตราย โล่อู๋หมิงไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว
ในสนาม ฉีเฉิงคุนทำหน้าภูมิใจ จ้องมองหลินหยุนด้วยรอยยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “เจ้าหนู แกทำให้ทุกคนโมโหแล้ว! แกไม่ควรมาที่เจียงหนาน”
“ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็อย่าหวังว่าจะได้กลับอีกเลย” สายตาของฉีเฉิงคุน เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เป็นไปตามที่วางเอาไว้
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างนั้นสักนิด”
ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ของทั่วทั้งโลกบู๊เจียงหนาน สีหน้าของหลินหยุนก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ราวกับว่าไม่ได้เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตา
“ฮ่าๆ แกช่างจองหองซะจริงๆ!” ฉีเฉิงคุนหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “หรือว่าแกจะคิดว่า แกยังมีโอกาสชนะพวกเราที่มีจำนวนมากขนาดนี้ แล้วออกไปจากที่นี่ได้งั้นเหรอ?”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ “ทำไมจะไม่ได้?”
“ช่างจองหองซะจริง!”
“เฮิง เจ้าหนูนี่ ไม่เห็นโล่งศพ ไม่หลั่งน้ำตา!”
“ฆ่าเขาซะ เด็กที่จองหองแบบนี้ จะปล่อยให้รอดออกไปจากโลกบู๊เจียงหนานของพวกเราไม่ได้เป็นอันขาด!”
“ใช่แล้ว จะต้องฆ่าเขาให้ได้ ไม่งั้นโลกบู๊เจียงหนานของพวกเราจะต้องกลายเป็นตัวตลกของโลกบู๊ทั้งโลกอย่างแน่นอน!”
เหล่าเจ้าบ้านต่างก็โมโหกับท่าทีเฉยเมยของหลินหยุน ต่างก็แสดงใบหน้าที่ถ้าเกิดไม่ได้ฆ่าหลินหยุนจะไม่ยอมรามือ
คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าเดินมาอยู่ข้างๆอีหลิง แล้วพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “องค์หญิงผู้งดงามของข้า ตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาที่อันตรายถึงขีดสุดแล้ว ตอนนี้ท่าน เดี๋ยวนี้ รีบ ตามไปกับข้า!”
อีหลิงจ้องเขาเขม็ง แล้วพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “ไม่ ฉันเชื่อในตัวของพี่หลินหยุน เขาบอกว่าชนะได้ จะต้องชนะได้อย่างแน่นอน!”