จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 57 หนึ่งล้าน
บทที่ 57 หนึ่งล้าน
น้ำเสียงของหลินหยุนราบเรียบ เหมือนว่าสองคนนี้กำลังพูดล้อเล่นกันเท่านั้น
แต่ว่าคนในนั้นต่างก็พากันเงียบไปในทันที ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
อยู่ดีๆ ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องเริ่มลดลง
น้ำเสียงที่ดูไม่แยแส สีหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก แต่กลับไม่มีใครกล้าไปสงสัยในคำพูดของหลินหยุนแม้แต่คนเดียว
ทุกคนรู้ดีว่าในประเทศจีน การฆ่าคนต้องแลกด้วยชีวิต ถ้าใครตะโกนว่าฉันจะฆ่าแก ส่วนใหญ่ก็แค่พูดเพราะโมโหเท่านั้น
แต่ว่า พอประโยคนี้ออกมาจากปากหลินหยุน กลับทำให้ผู้คนไม่ได้นึกสงสัยเลยสักนิด
เหมือนกับว่า หากหวางชิ่งเซิงพูดอีกประโยค หลินหยุนก็จะฆ่าเขาจริงๆ
หวางชิ่งเซิงที่โดนคำพูดนี้กระทบไปเต็มๆ เขามองเห็นสายตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึกนั้น ในใจกลับรู้สึกกลัวขึ้นมา
นี่มันคือสายตาที่เด็กอายุ 20 ต้นๆ ได้ยังไง ราวกับสายตาของสัตว์ร้ายที่หิวโซมาแปดวันอย่างนั้น!
หวางชิ่งเซิงไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว แม้แต่สบตากับหลินหยุนก็ไม่กล้า
ถือโอกาสที่ทุกคนไม่มีใครพูดอะไร จ้าวกาวที่นั่งอยู่ข้างๆ หลินหยุนก็พูดเบาๆ ด้วยความตำหนิว่า “หลินหยุน ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือไง? ถ้าไม่มีเงินฉันจะให้ยืม นายมามือเปล่าได้ยังไง?”
หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ฉันเอาของขวัญมาแล้ว”
“งั้นนายซื้ออะไรให้อันซิน? บอกพวกเขาไป พวกเขาจะได้ไม่แคลงใจ!” จ้าวกาวพูด
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพราะของขวัญของเขา ต่อให้พูดออกไป ก็ไม่มีใครเชื่อ
ในเวลานั้น อยู่ดีๆ หลี่นีคุณแม่ของอันซินก็เดินเข้ามา
“หลินหยุน เช็คธนาคารนี่เธอเป็นคนวางไว้ใช่ไหม!”
หลี่นีมือจับเช็คธนาคารใบนั้นแน่น สีหน้าตื่นเต้น มือสั่นระริก
เช็คธนาคาร เกิดอะไรขึ้น!
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลินหยุน สีหน้าแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยความระแวงสงสัย
“ผมเอง” หลินหยุนพูดเสียงเรียบ
หลี่นีพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า “เด็กคนนี้นี่จริงๆ เลย รีบเก็บไว้เถอะ เธอนี่ล้อเล่นเหรือไง? ใครเขาจะมาให้ทีเดียวเป็นล้านแบบนี้! ถ้าให้พ่อแม่นายรู้ ต้องให้เอากลับไปคืนแน่ๆ”
อันซินชะงักไปสักพัก แล้วรีบถามไปว่า “แม่คะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้แม่พูดว่าเท่าไหร่นะ?”
หลี่นีมองไปที่อันซิน แล้วตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “1 ล้าน!”
“1 ล้าน!”
ทุกคนต่างก็ตกใจ แล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะ
หวางชิ่งเซิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “น้องสะใภ้ เด็กมันเอาแค่กระดาษใบหนึ่งมาก็เห็นว่าเป็นเช็คธนาคารแล้ว นี่ก็เชื่อไปได้!”
คนอื่นๆ ก็มีสีหน้าที่ดูถูก ทุกคนต่างก็คิดว่าเช็คธนาคารแผ่นนั้นของหลินหยุนเป็นของปลอม
“แม่ ไม่ได้ดูผิดใช่ไหม? 1 ล้านจริงๆ เหรอ?” แม้แต่อันซินก็ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีกครั้ง
จางจื่อเห้าก็หัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมถามด้วยความดูถูกว่า “คุณน้า ดูให้ละเอียดซิ ว่าเช็คนั่นมันของจริงหรือเปล่า?”
หลี่นีจ้องเขม็งไปที่ที่จางจื่อเห้า แล้วก็หันไปหาหวางชิ่งเซิง พร้อมพูดว่า “ฉันทำงานเป็นบัญชีที่บริษัท จะดูไม่ออกว่าเป็นเช็คธนาคารได้ไง?”
“เช็คธนาคารใบนี้คือเช็คเงินสดจริงๆ เอาใบนี้ไปขึ้นเงินที่ธนาคารที่กำหนดได้”
อะไรนะ!
เวลานี้ รอยยิ้มแห่งความดูถูกของทุกคนก็ต้องเจื่อนลง
คนที่ทำงานด้านบัญชี ไม่มีทางที่แม้แต่เช็ดธนาคารจริงหรือปลอมจะดูไม่ออก ในเมื่อหลี่นีพูดแล้วว่าเช็คนั่นเป็นของจริง แสดงว่ามันเป็นของจริงจริงๆ
หวางชิ่งเซิงสีหน้าตกใจ แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สินมากกว่าร้อยล้าน แต่จะให้เขาเอาเงินเป็นล้านให้แบบนี้ เขาเองก็คงเสียดายแน่ๆ
สำหรับคนอื่น ที่ไม่ได้ร่ำรวยเท่าเขา อย่าว่าแต่เงินล้านเลย แม้แต่เงินหมื่นพวกเขาก็ต้องเสียดายมากแน่ๆ
จางจื่อเห้าเองก็ตกใจ เขาอยู่ในบรรดาเพื่อนๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโดดเด่นกว่าใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะว่าบ้านของเขามีเงินหลายล้าน แต่พอเห็นว่าหลินหยุนให้ของขวัญแบบนี้ ก็เท่ากับเงิน 1 ใน 5 ของทรัพย์สินบ้านเขาทั้งหมด!
เมื่อครู่ เขาเพิ่งจะดีอกดีใจที่ได้ให้ภาพวาดของอาจารย์เหอให้กับอันซิน นึกว่าตัวเองแน่ที่สุดแล้ว
เขายังใช้เรื่องนี้โจมตีหลินหยุน ทำให้หลินหยุนอับอาย
แต่ผลสุดท้ายคือละครที่เขาเล่นพร้อมกับหยางฉีสองคน พากันพูดจนคอแหบคอแห้งนั้น
แต่หลินหยุนคนที่นั่งหลับตาพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ ไม่พูดอะไรสักคำ กลับตบหน้าเขาได้แรงจนสั่นขนาดนี้ อีกอย่างยังเป็นการเอาคืนแบบที่รุนแรงมากหลายเท่า
เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่พูดอะไร หยางฉีที่เพิ่งจะมีสติขึ้นได้ ก็รีบพูดด้วยความตกใจว่า “เป็นไปไม่ได้ หลินหยุนไอ้คนกระจอกแบบนั้นจะมีเงินเป็นล้านได้ยังไง ฉันไม่เชื่อ!”
หลี่นีใช้หางตามองไปที่เขา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าหลินหยุนไม่มีเงิน 1 ล้าน เช็คเงินสดนี่ก็ไม่มีทางออกมาได้ นี่มันความรู้ง่ายๆ!”
หยางฉีอายจนหน้าแดง เด็กนักเรียนครอบครัวธรรมดาพวกนี้ เห็นเช็คธนาคารก็แค่ในละครกับภาพยนตร์เท่านั้น ในชีวิตจริง ไม่เคยเห็นเช็คธนาคารตัวจริงด้วยซ้ำ
หลังจากที่หลี่นีอธิบาย ทุกคนก็ไม่สงสัยในเช็คธนาคาร 1 ล้านของหลินหยุนแล้ว
จ้าวกาวมองหลินหยุนด้วยความตกใจ พร้อมถามเขาว่า “หลินหยุน นายถูกหวย 5 ล้านเหรอ? ไม่สิ ต่อให้ถูกหวยไป 5 ล้าน ก็คงไม่กล้าให้เงินตั้ง 1 ล้านเป็นของขวัญหรอก!”
อันซินมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาที่สับสน หน้าอกที่เป็นโค้งเว้าน่าภูมิใจของเธอสวยงามยิ่งนัก
“เขาให้เงิน 1 ล้านเป็นของขวัญกับฉัน หมายความว่ายังไงกันแน่? ภรรยาของเขาจะรู้ไหม?”
อันซินสับสนมาก ตั้งแต่ครั้งที่หลินหยุนช่วยเธอจากพวกคนร้ายจนหัวแตกเลือดออกครั้งนั้น ภาพของหลินหยุนในสายตาของอันซินก็ถูกสะกดไว้อย่างลึกซึ้งในใจของเธอ
หลังจากที่เธอรู้อยู่แล้วว่าหลินหยุนแต่งเข้าบ้านตระกูลเซี่ย แต่อันซินเองก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะเข้าหาเขา
ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แค่เพียงได้พูดกับเขาบ้างสักนิด แค่นี้เธอก็ดีใจแล้ว
ตอนนี้ อยู่ดีๆ หลินหยุนก็เอาเงินเป็นล้านมาให้เธอ อันซินอดไม่ได้ที่จะคิดไปไกล
หลี่นีเดินมาข้างๆ หลินหยุน พร้อมกับยื่นเช็คธนาคารให้เขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “เอากลับไปเถอะ ฉันกับน้าอันปรึกษากันแล้ว ของขวัญราคาสูงขนาดนี้เรารับไว้ไม่ได้เด็ดขาด!”
หลินหยุนมองไปที่เช็คธนาคารนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะหยิบมันกลับมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณน้า เงินแค่นี้ถือว่าเป็นการสนับสนุนอันซินจากผมเถอะ!”
“เธอมีพรสวรรค์มาก ผมอยากเห็นเธอประสบความสำเร็จเร็วๆ”
หลี่นียังคงยืนยันคำเดิม “ยังไงก็ไม่ได้ เงินนี่เธอต้องเอาคืนไป”
อันซื่อเอินและภรรยา ถึงแม้ว่าจะเหมือนคนทั่วไปที่ชอบรู้จักกับคนที่มีเงินทองมียศถาบรรดาศักดิ์ แต่พวกเขาเองก็เป็นคนมีหลักการเป็นของตัวเอง
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย พร้อมพูดว่า “ของที่ให้ไปแล้ว จะเอากลับคืนมาได้ยังไงครับ? ถ้าคุณน้าไม่รับไป ก็เอาไปทิ้งที่ถังขยะก็ได้!”
จ้าวกาวตกใจจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้ว นั่นมันเงิน 1 ล้านเลยนะ นายจะให้ทิ้งลงถังขยะ ลูกที่ล้างผลาญครอบครัวยังไงก็ไม่เคยเห็นจะล้างผลาญอะไรได้ขนาดนี้!
สีหน้าของจางจื่อเห้ายิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่ เขาให้ภาพวาดที่มีราคา 7-8 พันไป ก็ดีอกดีใจจนคิดว่าตัวเองแน่ที่สุด แต่หลินหยุนกลับให้เงินเป็นล้านแล้วบอกว่าทิ้งลงขยะก็ได้ นี่ยิ่งเอามาเปรียบเทียบกันยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม!
“นาย…” หลี่นีไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี มองหลินหยุนที่กำลังดื่มชาอย่าเงียบๆ หลี่นีทำได้แค่เอาเช็คธนาคารใบนั้นส่งให้อันซิน
“บอกเขาหน่อยเถอะ ของขวัญมีค่าขนาดนี้ เรารับไว้ไม่ได้!”
อันซินพยักหน้า “แม่ หนูเข้าใจ แม่วางใจเถอะ หนูจะลองพูดกับเขาเอง!”
“อื้ม แขกเริ่มมากันจนจะหมดแล้ว เดี๋ยวแม่กับพ่อไปต้อนรับกันก่อน ลูกดูแลเพื่อนๆ ดีๆ!” หลี่นีพูดจบ ก็หันมายิ้มให้กับทุกคน แล้วเดินออกไปนอกประตู
อันซินมองไปที่หลินหยุน เอาเช็คธนาคารวางไว้ที่ข้างหน้าเขา พร้อมพูดด้วยเสียงเบาๆ ว่า “เอากลับไปเถอะค่ะ!”
หลินหยุนหันหน้ามามองอันซิน หัวเราะ แล้วพูดว่า “ฉันพูดไปแล้ว ถ้าเธอไม่เอา ก็เอาไปทิ้งขยะ”
“……”
อันซินเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง เมื่อกี้เธอคิดว่าหลินหยุนเพียงแค่พูดเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะจริงจัง
“พี่หลินหยุน ความหวังดีของพี่ฉันรับไว้แล้ว แต่เงินเยอะขนาดนี้ฉันรับไว้ไม่ได้จริงๆ!”
ใบหน้าสวยงามของอันซินเต็มไปด้วยความจริงจัง