จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 576 นี่ไม่ใช่วิชาบู๊บนโลกมนุษย์
พวกผู้ชมรอบข้างร่างกายแทบจะแข็งทื่อเป็นหิน พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
“เขา เขากลับไม่เป็นอะไรเลย! ”
“ต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังและดุเดือดขนาดนั้น เขากลับไม่เป็นอะไรเลย! ”
“นี่มันช่างเก่งกาจมากมายอะไรขนาดนี้! ”
หูเหวยซินสองพ่อลูก สีหน้าหม่นหมอง: “ไอ้หนุ่มน้อยนี้ช่างอดทนต่อการโจมตีได้อย่างมากทีเดียว ลงมือขนาดนี้แล้วเขายังไม่ตายอีก! ”
หูเฟยดุด่าว่า: “แม่งสิ มองข้ามไอ้หนุ่มน้อยนี้เกินไปจริง ๆ ด้วย! ”
ใบหน้าของอ้าวซี่ไห่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ: “มันอะไรกันเนี่ย ไอ้หนุ่มน้อยนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย! นี่มันช่างเก่งกาจเหลือเกิน ปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน สมกับคำร่ำลือจริง ๆ ด้วย! ”
อ้าวฉางคงมองไปที่ลูกชาย และถามขึ้นอย่างจริงจังว่า: “แกเคยล่วงเกินปรมาจารย์หลินใช่ไหม? ”
อ้าวซี่ไห่ยิ้มอย่างเขินอาย: “นี่มันก็ไม่ถึงกับว่าล่วงเกิน ก็แค่ตอนที่ไปเที่ยวกับหูเฟย ได้ถกเถียงกันคำสองคำ! ”
อ้าวฉางคงสีหน้าเคร่งขรึม ตวาดเบา ๆ ใส่ว่า: “ไอ้เด็กเวรนี่ บุคคลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แกยังกล้าที่จะถกเถียงกับเขาอีก หากแกคิดอยากจะตายก็อย่าได้ลากทั้งตระกูลของพวกเราเข้าไปพัวพันด้วย! ”
“รอให้งานสี่วีรบุรุษเสร็จสิ้นลง แกรีบไปหาปรมาจารย์หลินเพื่อทำการขอโทษโดยด่วน! ”
อ้าวซี่ไห่มีสีหน้าท่าทางเจ็บปวดรวดร้าว: “ใช่เหรอ ท่านให้ฉันไปแสดงความขอโทษกับไอ้หนุ่มน้อยที่เกาะผู้หญิงกินอย่างนั้นเหรอ! อย่างนั้นข้าจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร! ”
“ถ้าหากแกไม่ไปแสดงความขอโทษ ตอนนี้แกก็คงจะไม่มีชีวิตรอด” อ้าวฉางคงดุใส่
“ก็ได้ ฉันไปขอโทษ” อ้าวซี่ไห่กัดฟันพูด สายตาที่มองไปยังร่างของหลินหยุนบนเวทีประลอง เคลื่อนย้ายไปที่ตัวของหูเฟย
“ต้องโทษหูเฟยไอ้คนงี่เง่านี้ พวกเขาตระกูลหูได้ไปเชิญเทพแห่งทวนมาเป็นที่พึ่ง แต่กลับมาหาเรื่องให้ร้ายข้า”
“ดีที่สุดคือปรมาจารย์หลินเอาชนะโล่อู๋จี๋ จากนั้นก็จัดการปราบตระกูลหูของพวกนายให้สิ้นซาก”
เสิ่นมี่สาวงามผู้เย็นชา สีหน้าขาวซีด หลินหยุนยิ่งแสดงพลังความสามารถที่แข็งแกร่งออกมา ใบหน้าของเธอก็ยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้น
“เขา นึกไม่ถึงว่าพลังความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้! ”
“ก่อนหน้านี้หูเฟยดูถูกเหยียดหยามเขาอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร คนผู้นี้ แอบซ่อนปกปิดได้อย่างลุ่มลึกจริง ๆ! ”
“บางที เขาเพียงแค่มองข้ามคนแบบพวกเราเหล่านี้อย่างที่สุดแล้ว! ” เสิ่นมี่อยู่ดี ๆ ก็แสดงรอยยิ้มอันขมขื่นขึ้น เติบโตมาจนขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไหนเป็นเธอที่มองข้ามผู้อื่น ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่ได้สัมผัสกับรสชาติของการถูกคนอื่นมองข้าม
“ความรู้สึกนี้ มันช่างเจ็บปวดทรมานเสียจริง! ”
ตอนนี้ ในที่สุดเสิ่นมี่ก็เข้าใจว่า ทำไมพวกผู้ชายที่ถูกเธอมองข้ามนั้น แสดงอาการที่เจ็บปวดทรมานขนาดนั้นออกมา
สีหน้าของอีหยุ่นผ่อนคลายลงไปไม่น้อย และถอนหายใจยาว: “ปรมาจารย์หลิน ยังคงเป็นปรมาจารย์หลินคนเดิมไม่เปลี่ยน! การโจมตีที่ทรงพลังขนาดนี้ ก็ยังไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้แม้แต่น้อย”
หัวใจที่หวาดระแวงของอีหลิง ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงได้บ้าง: “พี่หลินหยุน คุณจะต้องสู้ตาย! ”
หลินหยุนค่อย ๆ ก้าวออกมาจากซากปรักหักพังของเวทีประลอง แล้วก็ค่อย ๆ เดินไปยังบริเวณที่ไม่ได้รับความเสียหาย
ไม่มีคำพูดเริ่มต้นอะไร หลินหยุนลงมือในทันที
“สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าสยบเขา! ”
เงาร่างแวบหายไป พริบตาเดียว พลังอันมหาศาลถึงขั้นที่สามารถผ่าให้ภูเขาแยกออกจากกัน ก็ได้พุ่งจู่โจมเข้าใส่ไปยังโล่อู๋จี๋
“ทรงพลังอย่างมาก! ”
โล่อู๋จี๋ตกใจ สีหน้าเคร่งขรึม และก็รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว
แต่ โล่อู๋จี๋พบว่า ไม่ว่าเขาจะหลบหลีกไปยังทิศทางไหน การโจมตีของหลินหยุนต่างก็สามารถครอบคลุมได้อย่างทั่วถึง เหมือนกับเป็นเงาตามตัว
“นี่ นี่มันคือวิชาบู๊อะไรกัน! ถึงขนาดที่ทำให้คนไม่สามารถหลบหลีกไปไหนได้! ”
โล่อู๋จี๋ตะลึงอย่างมาก แต่ว่าการเคลื่อนไหวมือของเขาก็ไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด ตวัดทวนยาว ใช้กระบวนท่าพลิกแม่น้ำพลิกทะเลแบบง่าย พุ่งตรงทุบเข้าไปที่หลินหยุนในทันที
โครม!
ทั่วทั้งบริเวณเหมือนกับว่าเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น
โล่อู๋จี๋ถูกพลังโจมตีเข้าใส่จนลอยกระเด็นออกไปไกลในทันที
แต่ว่า พลังความสามารถของโล่อู๋จี๋ก็ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก ควบคุมร่างกายของตนไว้กลางอากาศ แล้วก็ค่อย ๆ ลงมายืนอยู่บนเชือกด้านข้างของเวทีประลอง
“สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าที่สอง ท่าแยกน้ำ! ”
หลินหยุนก้าวเดินออกมา ฝ่ามือราวกับขวานยักษ์ฟันแยกภูเขา และก้าวไปอีกสิบเมตร ฟันใส่โล่อู๋จี๋ทันที
โล่อู๋จี๋ตกใจอย่างมาก พลังหมัดเมื่อครู่นั้น ทำให้เขารู้สึกถึงพลังความห้าวหาญ ราวกับสามารถที่จะฟันฝ่าทุกสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้าทั้งหมด เจอภูเขาฟันภูเขา เจอน้ำฟันน้ำ
สำหรับพลังฝ่ามือครั้งนี้ กลับเหมือนว่าเป็นลูกศรที่คมกริบสามารถทะลุทะลวงสิ่งปลอมแปลงทุกอย่าง และพุ่งตรงไปยังจุดศูนย์กลางสำคัญได้
โล่อู๋จี๋ไม่กล้าที่จะรอช้า รีบใช้ทวนโบกปัดในทันที
แต่น่าเสียดายที่ ท่าแยกน้ำไม่ใช่ว่าจะฟันแยกน้ำได้เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นพลังที่ฟันแยกทุกสิ่งทุกอย่างที่กีดขวางอยู่เบื้องหน้า
อานุภาพพลังฝ่ามือของหลินหยุนนั้น ฟันแยกพลังที่ใช้ป้องกันร่างกายของโล่อู๋จี๋ แล้วก็พุ่งโจมตีเข้าใส่ตรงทรวงอกของโล่อู๋จี๋อย่างจัง
โครม!
โล่อู๋จี๋ถูกพลังโจมตีจนร่างกายกระเด็นลอยไปไกล แล้วร่วงตกลงมาที่พื้น
“ไอ้ปรมาจารย์หลินผู้นี้ เก่งกาจมากจริง ๆ เสียด้วย! ”
แต่ว่า โล่อู๋จี๋ถูกพลังของหลินหยุนโจมตีเข้าใส่ติดกันสองกระบวนท่า แต่ก็กลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตีลังกา ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีประลองอีกครั้ง แล้วก็จ้องมองมายังหลินหยุนด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง
“แต่ ข้าก็ไม่มีทางที่จะยอมนั่งรอความตายอย่างเดียวเป็นแน่! ”
“หลายปีมานี้ข้าบำเพ็ญฝึกฝนโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก แม้ว่าจะเลื่อนระดับขั้นขึ้นไม่มากนัก แต่ก็ยังได้เรียนรู้และเข้าใจได้ถึงสิ่งอะไรบางอย่าง”
“เดิมทีข้าคิดอยากจะเก็บไว้โดยลำพัง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จำเป็นที่จะต้องนำออกมาใช้งานแล้ว”
โล่อู๋จี๋ตวัดทวนยาวขึ้น แล้วปักลงไปยังพื้นดินในทันที
“ท่วงท่าผนึก!”
ทันใดนั้นคลื่นพลังที่แปลกประหลาดเป็นวงกลมก็พุ่งออกมาจากทวนยาวสีเงินของโล่อู๋จี๋ หลินหยุนเห็นได้ชัดเจนว่า ปลายทวนสีเงินของโล่อู๋จี๋ ได้ปลดปล่อยพลังที่แปลกประหลาดออกมา แล้วได้ ครอบคลุมไปทั่วบริเวณพื้นที่ในระยะสิบเมตร
ก็ประมาณว่าได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งเวทีประลอง
ตามที่หลินหยุนเข้าใจในพลังครอบคลุมนั้น เขาทราบว่านั่นคือพลังของวิถีต้าเต๋า หากจะเปลี่ยนเป็นคำพูดในโลกบู๊ นั่นก็คือจิตทวน
โล่อู๋จี๋สัมผัสได้ถึงวิถีต้าเต๋าแล้ว สามารถรับรู้เข้าใจได้ถึงจิตทวนของตนเอง
“ในเมื่อจิตทวนนี้มีชื่อว่า ท่วงท่าผนึก ก็คงจะเป็นจิตทวนในลักษณะปกป้องคุ้มกัน”
หลินหยุนครุ่นคิดในใจ จากนั้น น้ำเสียงที่เฉยชาก็ดังขึ้นอีกครั้ง: “สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าที่สาม ค้อนดาวร่วง! ”
โล่อู๋จี๋รู้สึกได้โดยพลันว่าด้านบนของศีรษะ มีลมหายใจที่เป็นอันตรายอย่างที่สุดได้ลอยผ่านมา
“ฮึ! ”
โล่อู๋จี๋ไม่ได้หลบหลีก โดยมือที่ถือทวนยาว ได้ทิ่มแทงเข้าไปยังกลางอากาศในทันที
โครม!
โล่อู๋จี๋สีหน้าขาวซีด ส่งเสียงฟู่ว์ แล้วคุกเข่าลงไปที่พื้น
แต่ว่า ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“ต้านทานเอาไว้ได้” หลินหยุนตะลึงบ้างเล็กน้อย จิตทวนที่โล่อู๋จี๋รับรู้และเข้าใจได้นั้น มีพลังการป้องกันที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
“สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าที่สี่ ท่าห้ามสิ่งวายชนม์! ”
“สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าที่ห้า พลิกฟ้าผ่าตะวัน! ”
หลินหยุนใช้สองกระบวนท่าติดต่อกัน ปล่อยพลังออกมาอย่างไม่หยุด โดยที่ไม่ได้เว้นช่วงจังหวะ
โล่อู๋จี๋รู้สึกว่าร่างกายของตนไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้แล้ว แม้แต่ชี้แท้ในร่างกายก็ไม่สามารถขยับเคลื่อนที่ได้ ส่วนจิตทวน ท่วงท่าผนึก ก็เหมือนกับว่าได้หยุดลงในขณะนั้นแล้ว
“เป็นไปได้อย่างไรกัน แม้แต่พลังก็ถูกควบคุมเอาไว้แล้วเหรอ? ” โล่อู๋จี๋มีสีหน้าท่าทางที่หวาดผวา
จากนั้น พลังที่มีความแข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งกว่า ก็พุ่งโจมตีเข้าใส่โล่อู๋จี๋อย่างจัง
โครม!
โล่อู๋จี๋ถูกโจมตีจนถึงกับกระเด็นและกระอักเลือดออกมา คุกเข่าบนพื้นอยู่สักระยะหนึ่ง จากนั้น พยายามรักษาทรงตัวให้ยืนอยู่ได้
“ท่าที่หก ดาวยักษ์ตก! ” ยังไม่ทันที่จะรอให้ความหวาดผวาในจิตใจของโล่อู๋จี๋เลือนหายไป หลินหยุนก็ใช้อีกหนึ่งกระบวนท่าโจมตีเข้าใส่แล้ว
รวดเร็วราวกับดาวตก ขนาดใหญ่ยักษ์ราวกับดาวคงที่ จึงเรียกว่าดาวยักษ์ตก
โครม!
จิตทวนปกป้องคุ้มกันอันแข็งแกร่งของโล่อู๋จี๋ โดนทำลายลง ทวนยาวสีเงินหักออกเป็นสี่ท่อน ร่วงตกลงสู่พื้น ร่างกายของเขาก็ถูกพลังโจมตีจนนอนกองราบอยู่กับพื้น กระอักเลือดออกมา ใบหน้าที่แก่ชราแนบติดอยู่กับพื้น
พลังความสามารถของโล่อู๋จี๋ คือปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ว่า เขาคงน่าจะสัมผัสได้ถึงขอบเขตของแดนตามที่ตำนานเล่าลือแล้ว
เปรียบเทียบกับฉิวเชียนซาในตอนนั้น เขายังจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าไม่น้อย
โล่อู๋จี๋พยายามที่จะลุกยืนขึ้น มองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยยินยอม: “ไอ้หนุ่ม ตกลงเมื่อครู่นายใช้วิชาบู๊อะไรกันแน่? นั่นคงจะไม่ใช่วิชาในโลกบู๊เป็นแน่ ถึงขนาดที่ว่าคงจะไม่ใช่วิชาบู๊ในโลกมนุษย์ด้วย! ”
หลินหยุนพูดว่า: “นายพูดได้ถูกต้อง นั่นไม่ใช่วิชาบู๊บนโลกมนุษย์”
โล่อู๋จี๋ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า: “เหอะเหอะ น่าเสียดาย! ข้าไม่ควรที่จะออกมาจากการบำเพ็ญฝึกฝน ถ้าหากข้ารอไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง เข้าใจในจิตทวนอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ไม่แน่ว่าข้าอาจจะสามารถเข้าสู่ขั้นแดนตามตำนานที่ได้เล่าลือไว้ เมื่อถึงตอนนั้น คนที่พ่ายแพ้ก็คือนาย”