จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 610 ระยะแด่เทพเจ้าตอนปลาย
สิ่งที่หลินหยุนต้องการ ก็คือพลังในการฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ที่ มิงค์สีทองจื่อมู่สืบทอดเชื้อสายมาจากมิงค์สีม่วงอมตะ
แต่ว่า การสืบทอดพลังนี้ ล้วนเป็นการสุ่ม แม้แต่หลินหยุนก็ไม่มีทางเลือก มีแต่ต้องฝากชะตาไว้กับสวรรค์
วิญญาณของมิงค์สีทองจื่อมู่ โดนหลินหยุนดูดกลืนเข้าไปยังร่างภูตป่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการหลอมรวม
ในภูเขาไม่รู้กาลเวลา ทว่าที่ฆราวาสตั้งพันปี
หลินหยุนเข้าสู่การหลอมรวม กินเวลาไปสามเดือนกว่า
สภาพอากาศจากต้นฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาว เวลาของปีนี้ ใกล้จะหมดแล้ว
ในระหว่างนั้น คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าและซูหนัน ได้กลับมาสองครั้ง พอเห็นว่าหลินหยุนกำลังปิดตัวฝึกฝน ทั้งสองจึงแยกย้ายกันออกไป ไม่รู้ว่ากำลังยุ่งเรื่องอะไรกันอยู่
วันนี้ อาการสดใส หลินหยุนลืมตาตื่นขึ้นมา
มีออร่าขยายออกมาจากร่างของหลินหยุน ออร่านั่นไม่เหมือนกับแดนแด่เทพเจ้าที่หลินหยุนไปถึงก่อนหน้านี้ มันยิ่งใหญ่กว่า ราวกับเป็นกระบี่ที่แหลมคม
ออร่าในตอนนี้ เข้มข้นและหนาแน่นเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นกระบี่ทื่อที่ทั้งหนักและเก่าแก่
“ในที่สุดก็มาถึงระยะแด่เทพเจ้าตอนปลายแล้ว!”
หลินหยุนลุกขึ้นมา ใช้พลังทิพย์ทำความสะอาดร่างกาย ฝุ่นและใบ้ไม้โดนกำจัดไปจนหมด สะอาดเหมือนของใหม่
หลังจากที่หลอมรวมเข้ากับวิญญาณของมิงค์สีทองจื่อมู่ ร่างภูตป่าของหลินหยุนในที่สุดก็ถูกเติมจนเต็ม ระดับการบำเพ็ญก็สูงขึ้นเป็นอย่างมาก
“ให้ข้าดูหน่อย ตกลงข้าได้ความสามารถอะไรของเชื้อสายมิงค์สีทองจื่อมู่”
หลินหยุนยื่นแขนของตัวเองออกมา แสงสีเขียวกำลังเคลื่อนไหวภายในร่าง
หลินหยุนทำการกรีดแขนด้วยเล็บของตัวเอง จากนั้น แผลนั่นก็ฟื้นฟูกลับเป็นเหมือนเดิมภายในพริบตา มองไม่เห็นแผลเป็นแม้แต่น้อย
“ข้าได้ความสามารถในการฟื้นฟูของมิงค์สีทองจื่อมู่มา”
หลินหยุนดีใจมาก นี่เป็นความสามารถที่เขากำลังต้องการ
หลังจากนี้ ร่างกายของหลินหยุน ก็จะมีความสามารถในการฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ ขอแค่ไม่ใช่แผลที่ใหญ่มาก ก็จะฟื้นฟูกลับมาได้ในพริบตาเดียว
“ต่อจากนี้ คงจะถึงเวลาที่ต้องบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำแล้ว”
“พอดีเลย ได้หินทะเลลึกจากหุบเขาเทพยามาไม่น้อย สามารถบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำไปจนถึงแดนพรสวรรค์”
หลินหยุนรีบบำเพ็ญต่อทันที เพื่อบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำที่เป็นหนึ่งในร่างเต๋าห้าธาตุ
หินทะเลลึกสีดำพวกนั้น หลินหยุนวางพวกมันไว้บนหลังคา พอท่องคาถา หินทะเลลึกสิบกว่าก้อนที่อยู่รอบๆ ก็ไปหมุนอยู่รอบตัวของหลินหยุน
สติของหลินหยุนได้เข้าสู่การบำเพ็ญอีกครั้ง
ระดับการบำเพ็ญของเขาเพิ่งเข้าสู่ระยะแด่เทพเจ้าตอนปลาย ตอนนี้ก็กำลังบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำ จะได้ทำให้การบำเพ็ญมั่นคงได้พอดี
เมืองหลวง ลานของตระกูลหวาง
ภายในห้องหวางโส่วหลี่ของตระกูลหวาง
ในฐานะที่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลหวาง หวางโส่วหลี่ไม่ได้รับการปฏิบัติที่พิเศษอะไร เพราะว่าหวางโส่วหลี่ไม่ได้มีความสามารถอะไร เริ่มแรกก็ให้ฝึกเป็นนักบู๊แต่ก็ไม่ไหว ต่อมาก็ให้จัดการเรื่องธุรกิจแต่ก็ยังไม่ไหว
แต่ว่า ก็ไม่ถือว่าเป็นคนโง่ รักษาสิ่งที่ตัวเองมีก็ยังพอไหว แต่ไม่สามารถพัฒนามันได้
นี่เป็นสาเหตุที่หวางโส่วหลี่ไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
แต่ว่า ยังดีที่หวางโส่วหลี่มีลูกชายที่เก่งกาจถึงสองคน
ลูกชายคนโตหวางเซิ่งเฉียน มีพรสวรรค์ในด้านการฝึกบู๊ โดนส่งไปเป็นผู้ฝึกบู๊ตั้งแต่อย่างเด็ก
ลูกชายคนรองหวางเจ๋อ มีพรสวรรค์ในด้านการบริหารธุรกิจ พรสวรรค์ในด้านการฝึกบู๊เองก็ไม่เลว
ลูกชายสองคนนี้ ได้รับการดูแลจากเจ้าบ้านหวางจิงหลงเป็นพิเศษ ดังนั้น การที่หวางโส่วหลี่ยังสามารถรักษาตำแหน่งพี่ใหญ่ในตระกูลหวางเอาไว้ได้ ล้วนเป็นเพราะลูกชายทั้งสองคนของตัวเอง
หวางโส่วหลี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ และกำลังดื่มชาหลงจิ่งคุณภาพสูง
กำลังนั่งรอหวางเจ๋ออยู่
หวางเจ๋อมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เห็นหวางโส่วหลี่ ก็มีมารยาทมาก โค้งทำความเคารพ “คุณพ่อ ท่านเรียกผมเหรอ!”
หวางโส่วหลี่ดูลูกชายตัวเอง ใบหน้าแสดงความสบายใจออกมา
“นั่งสิ!”
“ครับ!” หวางเจ๋อมีมารยาทมาก ยังไงซะเขาก็เป็นอัจฉริยะที่ทุกคนของตระกูลหวางต่างก็จับตามอง
แต่ว่า ในฐานะที่ตระกูลหวางเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของสี่ตระกูลใหญ่ในประเทศจีน จึงมีการสั่งสอนที่เข้มงวดมาก โดยเฉพาะ กฎของเป็นกษัตริย์ก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นกษัตริย์ คนเป็นพ่อก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นพ่อ คนเป็นลูกก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นลูก เข้มงวดยิ่งกว่าตระกูลไหนๆ
หวางเจ๋อนั่งที่นั่งที่รองลงมาจากหวางโส่วหลี่ ในฐานะที่เป็นลูกหลาน ไม่สามารถนั่งตำแหน่งที่อยู่เหนือกว่าผู้ที่อาวุโสกว่าได้
หวางโส่วหลี่พูดว่า “ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แกกำลังทำอะไรอยู่? เรื่องนั้นมีความคืบหน้าอะไรบ้าง?”
เรื่องที่หวางโส่วหลี่พูดถึง แน่นอนว่าหมายถึงเรื่องการบุกยึดบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
หวางเจ๋อตอบว่า “ความแข็งแกร่งของเจ้านั้น เหนือกว่าที่พวกเราคาดคิดเอาไว้มาก ครั้งก่อนตอนที่อยู่ในภูเขาเย่นต้านตะวันตกเฉียงเหนือ ค่ายกลจิ่วเจ๋ของสำนักบู๊แท้ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้”
“ถ้าเกิดต้องการจะต่อกรกับเจ้านั้น นอกซะจากว่ายอดฝีมือของโลกบู๊โบราณจะยอมออกมา หรือ ก็มีแต่ต้องรอให้เยนหนานเทียนออกมา”
เมื่ออยู่ต่อหน้าหวางโส่วหลี่ หวางเจ๋อก็ไม่กล้าพูดโกหก
หวางโส่วหลี่ส่ายหัว “ตอนนั้น โลกบู๊โบราณได้ทำข้อตกลงกับปรมาจารย์เฉินเอาไว้ว่า ห้ามเข้ามาเหยียบโลกมนุษย์อีก เว้นซะแต่จะมีใครมาทำลายเขตแดนนั้นได้”
“ดังนั้น อย่าไปคาดหวังว่ายอดฝีมือของโลกบู๊โบราณจะยอมออกมา ถ้าเกิดไม่สามารถทำอะไรเจ้าหนูนั้นได้ งั้นก็จัดการบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปก่อนแล้วกัน!”
“เจ้าบ้านยกหน้าที่ที่สำคัญขนาดนี้ให้แกเป็นคนจัดการ ไม่ว่าจะยังไง แกก็ต้องแสดงผลงานออกมาให้ทุกคนได้รับชม”
หวางเจ๋อหยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจแล้วครับคุณพ่อ!”
“หลายเดือนก่อนหน้านี้ หลังจากที่ผมกลับมาจากภูเขาเย่นต้านตะวันตกเฉียงเหนือ ก็ได้วางกับดักบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเอาไว้แล้ว”
“ต่อให้เจ้าเด็กนั้นจะมีระดับการบำเพ็ญบู๊ที่แข็งแกร่งขนาดไหน แต่ว่า ครั้งนี้ผมจะทำให้เขาไม่สามารถใช้การบำเพ็ญบู๊ได้”
หวางโส่วหลี่พูดว่า “หลายเดือนมานี่ แกแอบวางกับดักมาโดยตลอด ก็เพื่อการนี้งั้นเหรอ?”
“ถูกแล้ว ถ้าเกิดไม่มีปัญหาอะไร ครั้งนี้ผมมั่นใจว่าจะจัดการเรื่องทั้งหมดได้ในครั้งเดียว!” หวางเจ๋อมั่นใจมาก
“งั้นก็ดี ถ้าเกิดต้องการความช่วยเหลือจากฉัน แกก็บอกมาได้เลย” หวางโส่วหลี่พูด
“คุณพ่อไม่จำเป็นต้องทำอะไร ผมเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วัน บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปก็จะเข้ามาติดกับเอง ถึงเวลานั้น ก็จะเป็นเวลาเริ่มแผนที่ผมวางเอาไว้” หวางเจ๋อพูด
“ดี งั้นฉันขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของแกล่วงหน้า!”
“ขอบคุณครับคุณพ่อ!”
แค่พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกเจ็ดวัน พอมองไปที่ดาดฟ้าของคฤหาสน์เยว่โหลว หลินหยุนได้ทำการกลั่นพลังงานทั้งหมอของหินทะเลลึกเรียบร้อยแล้ว
ร่างเต๋าธาตุน้ำของเขา ได้เข้าสู่แดนพรสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
ออร่าบนตัวของหลินหยุน ดูเรียบนิ่งมากกว่าเดิม ทั้งๆที่เป็นมนุษย์ตัวเป็นๆ แต่กลับไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเขา
ความดีอันสูงสุดนั้นคล้ายกับน้ำ น้ำให้คุณแก่สรรพสิ่ง มิได้แย่งชิงสิ่งใด
ตั้งตนอยู่ในที่ต่ำ ที่อันทุกคนรังเกียจเหยียดหยาม ดังนั้นจึงนับว่าได้เข้าไปใกล้กับเต๋า อุดมธรรมดุจดั่งน้ำ
นี่ก็คือคุณสมบัติพิเศษของร่างเต๋าธาตุน้ำ ถ้าเกิดหลินหยุนบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำจนถึงระดับสูงสุด งั้นถึงเวลานั้น ออร่าของหลินหยุนก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้
หลินหยุนลุกขึ้นมา แสงสว่างใสที่เหมือนกับหยกสองก้อนลอยอยู่ตรงแววตาของหลินหยุน จากนั้น แสงสว่างทั้งสอง ก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิต กำลังว่ายอยู่ในชีพจรภายในร่างของหลินหยุนราวกับเป็นปลา
คุณสมบัติพิเศษของพลังทิพย์ธาตุไม้คือการฟื้นฟู งั้นคุณสมบัติพิเศษของพลังทิพย์ธาตุน้ำก็คือบำเพ็ญอ่อน
หลังจากที่ร่างเต๋าธาตุน้ำของหลินหยุนได้เข้าสู่แดนพรสวรรค์ เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเอง ราวกับกำลังฟื้นฟูอยู่ตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้ตอนที่กำลังต่อสู้ บาดแผลที่เคยได้รับมา ตอนที่อยู่ในช่วงการบำเพ็ญ ชีพจรที่เคยโดนความเสียหาย แม้กระทั่งจิตวิญญาณ ก็กำลังฟื้นฟูอยู่ทีละนิด
“นี่ก็คือร่างเต๋าธาตุน้ำที่อยู่ในแดนพรสวรรค์ ถ้าเกิดบำเพ็ญร่างเต๋าธาตุน้ำจนถึงระดับสูงสุด งั้นร่างกายของข้าก็จะทำการฟื้นฟูอยู่ตลอดเวลา”
“การบำเพ็ญที่อยู่ภายในร่าง คงจะอยู่ในระยะแด่เทพเจ้าตอนปลายได้อย่างมั่นคงแล้ว”
“แดนแด่เทพเจ้าสามอัญมณี ระยะแรกคือเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ระยะกลางก็คือกลั่นร่างเต๋า ระยะสุดท้ายก็สร้างตัวอ่อนยาทอง ทำให้เกิดดวงตาผ้อว่าง ร่างเต๋าก็คือร่างเต๋าไม่สิ้นสูญหุนหยวน ต่อจากนี้ ก็ถึงขั้นตอนการสร้างตัวอ่อนยาทองแล้ว”
ตัวอ่อนยาทอง เป็นสัญลักษณ์ของแดนแด่เทพเจ้าตอนปลายในการฝึกชี่สามแดน
ต่อจากนี้ เป็นการฝึกชี่ในแดนที่สาม แดนรวมยา
ทั้งแดนรวมยา เป็นการบำเพ็ญตัวอ่อนยาทอง รอให้มันสุกแล้ว แล้วรวมกันเป็นยาทอง ความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึงเวลานั้น ก็เตรียมคาดหวังกับต้าเต๋าได้
ผู้บำเพ็ญเซียนมีแต่คนที่รวมยาทองได้แล้วเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าเป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวจริง ส่วนเรื่องแดนฝูกชี่ มีแต่ต้องถือว่าเป็นแค่เด็กฝึกงานที่เพิ่งเริ่มทำงาน