จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 646 ความทุกข์ใจของหลินโร่สุ่ย
ประธานเหยียนตะโกนร้องขอความเป็นธรรมว่า “ประธานหลัน นี่คุณจะทำอะไรเหรอ? คุณจับผิดคนแล้ว คนที่คุณควรจะไปจับคือพวกเขาต่างหาก!”
ผู้จัดการจางก็ตะโกนพูดตามว่า “ประธานหลัน นี่คุณหมายความว่ายังไง? ผมเป็นฝ่ายเสียหายนะ!”
หลันโร่หลินไม่ได้สนใจพวกเขาทั้งสองคน แต่กลับเดินไปตรงหน้าหลินหยุน แล้วโค้งตัวคำนับหลินหยุนเล็กน้อย ด้วยท่วงท่าคำนับแบบสุภาพสตรีที่สง่างาม
“หลิน คุณหลินคะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณอีกครั้ง!”
หลันโร่หลินคิดดูแล้ว ตัดสินใจจะยังไม่เปิดเผยฐานะของหลินหยุนดีกว่า เผื่อว่าหลินหยุนอาจจะอยากปลอมตัวมาแอบสืบความจริงบางอย่างก็ได้?
หลินหยุนรู้สึกชื่นชมในความคิดของหลันโร่หลินเป็นอย่างมาก
“ท่านประธานหลันอย่าได้เกรงใจไปเลย ผมก็คิดไม่ถึงว่าจะมาพบท่านประธานหลันที่นี่เหมือนกัน”
คำทักทายของหลินหยุนก็ค่อนข้างเป็นทางการมากเช่นกัน เพียงแต่ว่าคำว่าท่านประธานนั้น เมื่อหลันโร่หลินได้ฟังแล้ว อดไม่ได้ที่รู้สึกหน้าแดงขึ้นมา
หลินหยุนรู้ว่า ความคิดของสาวสวยหลันเริ่มแตกกระเจิงแล้ว
เมื่อเห็นท่าทีที่หลันโร่หลินมีต่อหลินหยุนแล้ว ประธานเหยียนและผู้จัดการจางถึงกับอึ้งไปเลย
“เกิดอะไรขึ้น! ท่านประธานหลันทำไมถึงต้องนอบน้อมกับเจ้าเด็กนี้ขนาดนั้นด้วยล่ะ?”
“เจ้าเด็กนี้เป็นใครกันแน่? เขามีความสัมพันธ์อะไรกับประธานหลัน!”
ในใจของผู้จัดการจางก็ตกใจ ถ้าหากว่าหลินหยุนรู้จักกับประธานหลันละก็ งั้นการกระทำทุกอย่างของพวกเขาทั้งสองคนเมื่อครู่ ก็กลายเป็นเรื่องโจ๊กระดับโลกได้เลย!
ทันใดนั้น ผู้จัดการจางก็หวนนึกถึงคำพูดที่หลินหยุนเคยพูดก่อนหน้านั้น
หลินหยุนบอกว่าจะไล่เขาออก เขายังหัวเราะเยาะว่าหลินหยุนพูดจาโอ้อวด แล้วยังพูดดูถูกเหยียดหยามหลินหยุนอย่างรุนแรงอีกด้วย
ถ้าหากหลินหยุนรู้จักกับท่านประธานหลันจริงละก็ งั้นเรื่องที่จะไล่เขาออกก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือใช่หรือไม่?
อีกอย่าง เมื่อเห็นท่าทางของหลันโร่หลินที่นอบน้อมต่อหลินหยุนเช่นนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพียงแค่รู้จักกันธรรมดาเท่านั้น
ฐานะของหลินหยุนในใจของหลันโร่หลินนั้น น่าจะเคารพนับถืออย่างสูงเลยทีเดียว
หลันโร่หลินกวาดสายตามองไปยังทั้งสองคน แล้วพูดอย่างเยอะเย้ยว่า “คุณหลินเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่ฉันยังได้แต่แหงนมองเลย พวกคุณทั้งสองไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ถึงกับกล้าใส่ร้ายป้ายสีคุณหลิน!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันรู้จักกับคุณหลินมาก่อน รู้จักนิสัยของคุณหลินดีละก็ คราวนี้เกือบจะถูกพวกคุณหลอกแล้ว”
พอพูดจบ หลันโร่หลินก็มองไปยังหลินโร่สุ่ยที่สีหน้ามึนงง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องสาวจ๊ะ เศษสวะสองคนนี้คงไม่ได้ทำให้น้องตกใจนะ?”
“พี่สาวคนนี้ขอโทษน้องด้วยนะ พี่รับรองว่า จะช่วยระบายความคับแค้นใจให้กับน้องอย่างสาสมเลย!”
หลินโร่สุ่ยมองไปยังใบหน้ายิ้มแย้มสดใสของหลันโร่หลินด้วยท่าทีตกตะลึง เธอสังเกตเห็นว่าเมื่อหลันโร่หลินยิ้มขึ้นมา แลดูสวยงามมากจริงๆ
อีกทั้งรอยยิ้มของหลันโร่หลิน ก็ยังแสนจะอบอุ่นเหลือเกิน
ทำให้สาวน้อยที่ขาดความอบอุ่นตั้งแต่เด็กคนนี้ยอมสยบให้เลยทีเดียว
“พี่ก็คือประธานสาวสวยของบริษัทหวนตี้เหรอคะ? ว้าว ช่างไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ!”
“พี่สาวไม่เพียงแต่หน้าตาสวยงามแล้ว อีกทั้งยังอ่อนโยนขนาดนั้น น่าอิจฉาจริงๆเลย!”
คำเยินยอของหลินโร่สุ่ย ไม่ได้มีการเสแสร้งแกล้งทำอะไรเลย ไม่เหมือนกับคำยกยอปอปั้นที่เจตนาพูดประจบเอาใจพวกนั้น เมื่อได้ฟังแล้วไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกเสแสร้งเลย แต่กลับยังทำให้หลันโร่หลินรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
จากนั้น หลินโร่สุ่ยก็มองไปยังผู้จัดการจาง พูดด้วยความโกรธว่า “ใช่แล้วพี่สาว ลูกน้องของพี่คนนี้เลวสุดๆเลย!”
“เดิมทีฉันอยากจะขอให้บริษัทของพวกคุณช่วยเหลือหน่อย แต่คนนี้กลับฉวยโอกาสลวนลามฉัน พูดคำพูดบางอย่างที่น่าเกลียดออกมา คนแบบนี้ไม่สมควรให้อยู่ต่อไปเลย ทำให้ชื่อเสียงของพี่สาวเสียหายหมด”
หลันโร่หลินมองไปยังผู้จัดการจางด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วพูดว่า “น้องสาววางใจเถอะ พี่จะช่วยระบายความคับแค้นใจให้กับน้องเอง”
หลินหยุนยืนอยู่ด้านข้าง ไม่เข้าใจเลยว่าระหว่างผู้หญิงด้วยกันทำไมถึงสนิทสนมกันเองได้เร็วขนาดนั้น
นี่แค่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งสองคนก็เรียกพี่เรียกน้องสนิทสนมกันขนาดนั้นแล้ว
ทั้งผู้จัดการจางและประธานเหยียน เมื่อได้ยินคำพูดของหลันโร่หลินแล้ว ทำให้ตกใจกลัวจนครึ่งค่อนวันก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมาเลย
“ประธานหลันบอกว่าเด็กนั่นเป็นคนใหญ่คนโตที่แม้แต่เธอยังต้องแหงนมองเลย!”
“นี่เป็นไปได้ยังไง!”
“เจ้าเด็กนั่นเป็นใครกันแน่? แม้แต่ท่านประธานสำนักงานใหญ่บริษัทหวนตี้ก็ยังได้แต่แหงนหน้ามองเลย!”
ทั้งสองคนย่อมไม่คิดว่าหลันโร่หลินจะจงใจยกฐานะของหลินหยุนให้สูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่ามันไม่มีความจำเป็นอะไรเลย
ผู้จัดการจางและประธานเหยียนมองไปยังหลินหยุน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
หลันโร่หลินมองไปยังผู้จัดการจางทั้งสองคน พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกคุณสองคนกลับไปก่อน รอให้ผลสรุปจากบริษัทก่อน แน่นอน เรื่องที่คุณทำกับสาวน้อยคนนี้ บริษัทจะสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องไว้
ประธานเหยียนคิดหาทางเอาตัวรอดขึ้นมาได้ จึงรีบเคลียร์ความสัมพันธ์กับผู้จัดการจางให้ชัดเจนทันที “ประธานหลันครับ เรื่องราวทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้จัดการจางเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลยนะ!”
“ผมก็ถูกหลอกเหมือนกัน ไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อนเลย คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการจางถึงกับทำเรื่องชั่วช้าสามานย์ยิ่งกว่าเดียรัจฉานอย่างนี้ออกมาได้ เสียแรงที่เป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ช่างน่าอับอายขายหน้าบริษัทเสียจริง!”
ผู้จัดการจางจ้องหน้าประธานเหยียน ด่าทอด้วยความโมโหว่า “คนแซ่เหยียน แกหมายความว่ายังไง? ผลประโยชน์ที่ฉันประเคนให้แกมาตลอด เอาไปเลี้ยงสุนัขหมดแล้วเหรอไง?”
“แกถึงกับมาซ้ำเติมกันในเวลาอย่างนี้!”
“ถ้าฉันถูกไล่ออกแล้ว แกนึกว่าแกยังอยู่ได้ดีอีกเหรอ? เรื่องที่แกทำพวกนั้น เน่าเฟะกว่าฉันเป็นร้อยเท่าเลย!”
ประธานเหยินสะดุ้งตกใจ สีหน้าหวาดผวาตะโกนด้วยความโกรธว่า “แกหุบปากเดี๋ยวนี้! จะตายอยู่แล้วแกยังคิดจะใส่ร้ายฉันอีก แกนึกว่าท่านประธานหลันจะเชื่อแกเหรอ? ไม่กี่วันมานี้ฉันยังไปฟังการบรรยายของประธานหลินที่สำนักงานใหญ่มาโดยตลอด เรื่องที่แกทำไปทั้งหมด ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”
หลันโร่หลินมองดูทั้งสองคนที่เหมือนสุนัขกัดกันต่อหน้าเธอ ใบหน้าที่สะสวยกลับเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง “พอแล้ว!”
“พวกคุณสองคนหนีไม่พ้นแม้แต่คนเดียว รอผลการตรวจสอบจากบริษัทก่อนเถอะ!”
“ยาม ไล่พวกเขาออกไปเลย!”
ประธานเหยียนและผู้จัดการจางตกใจหน้าถอดสี
ประธานเหยินตะโกนพูดว่า “ประธานหลันครับ คุณฟังผมอธิบายก่อนเถอะ!”
ผู้จัดการจางตะโกนเสียงดังกว่าอีก “ประธานหลันครับ ผมผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะครับ!”
“น้องชายท่านนี้ ไม่ คุณชายท่านนี้ ผมไม่ได้เจตนาจะลบหลู่ท่านเลย ขอให้ท่านให้โอกาสผมสักครั้งเถอะครับ!” ผู้จัดการจางไหวพริบไวกว่า เมื่อเห็นหลันโร่หลินไม่ยอมอ่อนข้อให้ จึงหันไปขอร้องหลินหยุน
หลินหยุนไม่มีทางที่จะไปสนใจเขาอย่างแน่นอน
หลันโร่หลินพูดด้วยความโมโหว่า “หุบปาก! คนอย่างคุณนี่ยังไม่คู่ควรที่จะขอร้องคุณหลิน! รีบไล่ตะเพิดออกไปเลย!”
“เชิญครับ!” ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนจึงรีบผลักผู้จัดการจางและประธานเหยียนออกไปข้างนอกประตู
หลันโร่หลินมองไปยังหลินหยุน ดวงตาที่สวยงามนั้น ส่องประกายแวววาวเล็กน้อย
“คุณหลินคะ ทำไมคุณถึงมาที่บริษัทย่อยจงโจวกะทันหันอย่างนี้ล่ะ? มีเรื่องอะไรโทรศัพท์หาฉันโดยตรงก็ได้แล้ว”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “พอดีฉันผ่านมาแถวนี้ ก็เลยแวะเข้ามาดูที่นี่หน่อย”
“ถ้าประธานหลันยังมีงานละก็ รีบไปทำเถอะ!”
หลันโร่หลินพูดในใจว่า มีเจ้านายใหญ่อย่างท่านอยู่ทั้งคน ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปกว่าทำให้ท่านพอใจอีกล่ะ?
แต่ว่า หลันโร่หลินเป็นคนที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจังในการทำงาน ที่เธอสามารถขึ้นมารับตำแหน่งนี้ได้ ไม่ใช่เพราะอาศัยแต่เพียงหน้าตา แต่เป็นเพราะความสามารถ
ให้เธอไปเลียแข้งเลียขาหลินหยุนอย่างไม่แยแสอะไร อีกทั้งยังต้องปฏิบัติต่อเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอตั้งหลายปีนั้น เธอไม่มีทางที่จะไปประจบเอาใจเช่นนั้นได้จริงๆ
“ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็เดินดูตามสบายเลยค่ะ ฉันจะไปจัดการเรื่องราวของสองคนนั้นให้เรียบร้อยก่อน”
หลินหยุนพูดว่า “ได้”
หลันโร่หลินก็เดินจากไป ทันใดนั้นหลินโร่สุ่ยก็กระซิบถามขึ้นข้างหูของหลินหยุนว่า “เฮ้ คุณกับประธานหลันเป็นอะไรกันเหรอ?”
“ยังมีอีกนะ คุณเป็นใครกันแน่? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าประธานหลันเกรงกลัวคุณจังเลย?”
หลินหยุนแอบพูดในใจว่า ยัยเด็กคนนี้สัญชาตญาณรับรู้ก็แม่นเหมือนกันนะ
“อย่าเดาส่งเดช ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง พอดีรู้จักกับประธานหลัน พวกเราจึงได้รู้จักกัน”
หลินหยุนก็ไม่ได้พูดโกหก เขาและหลันโร่หลินรู้จักกันจากการแนะนำของหยางหยิงจริงๆ
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง! ฉันยังคิดว่าคุณกับประธานหลันสนิทกันดีเสียอีก? อาจไม่แน่จะอาศัยคุณให้ช่วยพูดหน่อย”
“เฮ้ย ดูเหมือนว่าฉันจะเพ้อฝันมากไปแล้ว” สีหน้าของหลินโร่สุ่ยแสดงความผิดหวังออกมา
มองดูท่าทีความผิดหวังของสาวน้อยแล้ว หลินหยุนพูดด้วยรอยยิ้มลึกลับว่า “คุณมีเรื่องอะไรบอกฉันได้ อาจไม่แน่ฉันสามารถช่วยคุณก็ได้นะ!”
หลินโร่สุ่ยเหลือบมองหลินหยุน รู้สึกไม่ค่อยเชื่อ “คุณนะเหรอ? ความสัมพันธ์ของคุณกับประธานหลันก็เพียงแค่รู้จักกันเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าประธานหลันดูไปแล้วน่าจะเป็นคนที่พูดง่าย แต่ว่าฉันรู้ว่าเธอต้องเป็นคนที่ทำงานตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน”
“เธอไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงานหรอก”
หลินหยุนยิ้มอย่างเรียบๆ “มันก็ไม่แน่หรอก!”
“คุณบอกมาก่อนว่ามีปัญหาอะไร ฉันจึงจะรู้ว่าจะช่วยเหลือคุณได้หรือเปล่า ถ้าคุณไม่พูดออกมา งั้นก็ไม่มีความหวังแม้แต่นิดเดียวเลยนะ”