จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 654 ฉันหาคุณหนูรอง
ผู้หญิงอีกคนที่มีรูปร่างอ้วนหน้ากลม ก็พูดขึ้นอย่างจริงใจว่า: “โร่สุ่ย ฉันเองก็จะสนับสนุนเธอตลอดไป เธอจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป! ”
หลินโร่สุ่ยเผยรอยยิ้มออกมา พยักหน้าหงึกหงึก: “อืม ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง! ”
“โอ้ พี่โร่สุ่ย ฉันว่าแล้วทำไมถึงหาพี่ไม่เจอ ที่จริงก็อยู่ที่ตรงนี้นี่เอง! ” หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้า ยิ้มเยาะพร้อมกับเดินตรงเข้ามาหา
“พวกเธอทำไมไม่อยู่ที่พี่สาวของฉันตรงนั้นล่ะ จะมาทำอะไรที่ตรงนี้? ” หลินโร่สุ่ยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับสองคนนี้ และก็รู้ว่าที่พวกเขามาคงจะมีเจตนาที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าก็ไม่เกรงใจ ไม่แม้แต่จะต้องเสแสร้งอีก โดยได้พูดเยาะเย้ยถากถางขึ้นว่า: “พวกเรามาก็เพื่อดูว่าเธอจะมีความอับอายขายหน้ามากขนาดไหนยังไงล่ะ! ”
หลินเห้ายิ้มเยาะพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม: “หลินโร่สุ่ย ดูงานพิธีเปิดบริษัทของเธอสิ แล้วก็ดูงานพิธีเปิดบริษัทของพี่สาวของเธอ หากว่าฉันเป็นเธอ ก็คงจะแทรกแผ่นดินหนีตั้งไปนานแล้ว คงไม่มีทางอยู่ที่นี่เพื่อทนรับต่อความอับอายขายหน้าได้อีกแล้ว! ”
คำพูดของหลินเสี่ยวหยู ยิ่งไม่น่าฟังขึ้นไปอีก: “หลินโร่สุ่ย เธอตั้งใจที่จะจัดงานพิธีเปิดบริษัทพร้อมกันกับพี่โร่หลัน ก็เป็นเพราะต้องการที่จะอาศัยความโด่งดังของพี่โร่หลันล่ะสิ! ”
“น่าเสียดายที่เธอคงคิดไม่ถึงว่า ไม่ทันจะได้อาศัยความโด่งดัง แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ขบขัน น่าอาย พี่โร่หลันตรงนั้น มีแขกผู้มีเกียรติคับคั่ง ส่วนที่เธอตรงนี้มีเพียงแค่สองสามคน โดยที่มีแม่ผู้ให้กำเนิดเป็นคนเดียวกัน แต่ทำไมพวกเธอถึงมีความแตกต่างกันมากมายขนาดนี้ไปได้ล่ะ? ”
หลินเสี่ยวหยูพวกคนเหล่านี้ ก็เพียงแค่อยู่ต่อหน้าหลินโร่สุ่ยเท่านั้น จึงจะสามารถค้นพบความ ล้ำเลิศของตัวเองได้บ้าง
เพื่อนสมัยเรียนสองคนของหลินโร่สุ่ย มีสีหน้าท่าทางที่โกรธเคือง แต่ พวกเขารู้ดีว่าตนเองมีสถานะที่ต่ำต้อย จึงทำได้เพียงแค่โมโหแต่ก็ไม่กล้าพูดดุด่าออกไป
หลินโร่สุ่ยตะโกนใส่อย่างเย็นชาด้วยความโมโห: “หลินเสี่ยวหยู หลินเห้า พวกแกสองคนอยากจะโดนอีกใช่ไหม? ดูเหมือนว่าครั้งที่แล้วสั่งสอนพวกแกยังไม่พอ! ”
แววตาของหลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าแสดงอาการที่หวาดกลัวขึ้นในทันที ครั้งก่อนพวกเขาสองคนเยาะเย้ยหลินโร่สุ่ย จึงได้ถูกหลินโร่สุ่ยต่อยตีไปหนึ่งยก
ดังนั้น พวกเขาจึงได้เคียดแค้นหลินโร่สุ่ย เมื่อมีโอกาส ก็จะว่ากล่าวโจมตีหลินโร่สุ่ย
หลินโร่สุ่ยเองก็ทำอะไรไม่ค่อยจะเป็น แต่ในเรื่องทักษะการต่อสู้แล้วกลับเก่งกาจมีความสามารถ โดยทั่วไปห้าถึงหกคนไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ประชิดตัวเธอได้
“ฮึ หลินโร่สุ่ย นอกจากแกจะต่อยตีคนเป็นแล้วทำอะไรเป็นอีกบ้าง! ไอ้คนไม่ได้เรื่อง ตระกูลหลิน อับอายขายหน้าไปหมดก็เพราะแกคนเดียว! ” หลินเห้ามีความหวาดกลัวอยู่บ้าง ซึ่งพูดออกไปพร้อมกับก้าวถอยหลังไปด้วย
หลินโร่สุ่ยเดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว: “พูดบ่นให้ฉันฟังอีกทีสิ! ”
หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าตื่นตกใจ และทั้งสองคนก็ได้ถอยหลังไปพร้อมกัน
“หลินโร่สุ่ย เธอก็แค่ใช้กำลังเป็นอย่างเดียว ซึ่งเทียบกับหลินโร่หลันแล้ว เธอก็คือไอ้คนไม่ได้เรื่อง ได้ราว! ”
หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าพูดจบก็วิ่งหนีไป กลัวว่าจะถูกหลินโร่สุ่ยจับตัวเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น
หลินโร่สุ่ยทำให้สองคนนั้นตกใจแล้วก็วิ่งหนีไป สายตาก็ได้เผยออกมาถึงความหดหู่อย่างที่สุด
หลินโร่หลัน หลินโร่หลัน ชื่อเรียกนี้เหมือนกับเป็นภูเขาลูกหนึ่ง กดทับอยู่บนศีรษะของหลินโร่สุ่ย อย่างหนักหน่วง ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นออกไปได้ตลอดชีวิต
หลินโร่สุ่ยก็เข้าใจอย่างดีกับความคิดที่คุณพ่อคุณแม่มีต่อตัวเธอเอง และเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในใจ: “ฮึ ตอนนั้นพวกท่านก็ไม่สมควรที่จะให้กำเนิดฉัน! ฉันไม่ใช่หลินโร่หลัน และฉันก็ไม่ได้ต้องการที่จะเปลี่ยนไปเป็นแบบเธออย่างนั้นด้วย! ”
เพื่อนสมัยเรียนสองคนได้ปลอบใจหลินโร่สุ่ยอีกครั้ง โดยหลินโร่สุ่ยได้แสดงออกมาว่าตัวเองไม่เป็นอะไร
ทางด้านของหลินโร่หลัน แขกผู้เกียรติยังคงทยอยมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งผู้รับผิดชอบบริษัทหวนตี้สาขาเมืองหลวง รวมถึงผู้รับผิดชอบจากบริษัทเกนเนอร์ ซึ่งที่คนเหล่านี้มาร่วมงานต่างก็เป็นการให้เกียรติกับหวางเหวินหย่วนทั้งนั้น
มองเห็นภาพที่แขกผู้มีเกียรติมากันเต็มห้องโถง หลินโร่หลันรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
มองเห็นสีหน้าท่าทางที่อิจฉาของคนในตระกูลหลิน ใบหน้าอันสวยงามของหลินโร่หลันก็แอบกระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
แต่ว่า หลินโร่หลันเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ทั้งหมดในวันนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นความดีความชอบของหวางเหวินหย่วน
ถ้าหากอาศัยแค่ตัวเธอเองแล้ว ต่อให้รวมถึงตระกูลหลินแห่งอูซู ก็คงจะไม่มีความสามารถในการเชื้อเชิญผู้คนให้มาร่วมงานได้มากขนาดนี้อย่างแน่นอน
หลินโร่หลันอดไม่ได้ จึงใช้คู่ดวงตาที่งดงามแอบมองสังเกตไปยังหวางเหวินหย่วนที่กำลังต้อนรับทักทายแขกอย่างสุภาพ ในสายตา ก็เกิดเป็นความรู้สึกซึ้งใจอย่างที่สุด
“ก็คงมีเพียงแค่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหวางแบบนี้ จึงจะเป็นเป้าหมายที่ฉันหลินโร่หลันต้องมุ่งมั่นไขว่คว้ามาให้ได้ ตระกูลหลิน ก็คงมีแค่ฉันที่สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้เพียงคนเดียว! ”
“แต่ ผู้คนที่มาในวันนี้ แม้ว่าต่างก็มีชื่อเสียง ทว่า กลับไม่มีบุคคลที่ยิ่งใหญ่ตัวจริง ซึ่งน่าแปลกที่ว่า เจ้านายใหญ่บริษัท หลงสือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ไม่ใช่ว่าตอบตกลงที่จะมาร่วมงานในวันนี้แล้วไม่ใช่เหรอ? ซึ่งก็ควรจะมาถึงแล้ว! ”
หลินโร่หลันแอบครุ่นคิด เจ้านายใหญ่บริษัท หลงสือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ คงจะไม่ผิดนัดโดยง่ายอย่างแน่นอน
ในเวลานี้เอง เด็กหนุ่มคนหนึ่งพลันวิ่งพรวดเข้ามา เพื่อหาหวางเหวินหย่วน พร้อมกับรายงานว่า: “คุณชายหวาง เจ้านายใหญ่บริษัท เกนเนอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประธานเหรินมาถึงแล้ว! ”
บริษัทเกนเนอร์ กับบริษัทหวนตี้และบริษัทหลงสือ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
อีกทั้ง หลังจากที่ถูกหัวหยา กรุ๊ปเข้าซื้อกิจการแล้ว ผลประกอบการก็เติบโตขึ้นต่อเนื่อง และตลาดหุ้นก็พุ่งสูงขึ้นมากด้วย
หวางเหวินหย่วนตกใจเล็กน้อย: “ประธานเหรินแห่งบริษัทเกนเนอร์? ตอนนั้นที่ฉันไปเชิญเขา เขาก็ไม่ได้ตอบตกลงที่จะมาร่วมงาน หรือว่าคิดได้หลังจากนั้นแล้ว? ”
“ในเมื่อเป็นประธานเหรินแห่งบริษัทเกนเนอร์ งั้นฉันก็จะต้องออกไปต้อนรับด้วยตนเอง”
หลินโร่หลันตื่นเต้นดีใจ เจ้านายใหญ่ของบริษัทเกนเนอร์ ซึ่งในท่ามกลางแขกผู้เกียรติทั้งหมดในตอนนี้ ถือว่าเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
“เหวินหย่วนรอก่อน ฉันจะไปต้อนรับประธานเหรินพร้อมกันกับคุณด้วย! ” ขณะที่หลินโร่หลันพูด ก็ได้เร่งฝีเท้าเดินมาหาหวางเหวินหย่วน
“ดีเลย” หวางเหวินหย่วนพยักหน้า รอจนหลินโร่หลันเดินมาถึงด้านข้างของเขา จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปที่หน้าประตูพร้อมกัน
ประธานเหรินแห่งบริษัทเกนเนอร์ ก็เหมือนกับหลันโร่หลิน ที่เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งประธานคนใหม่ โดยที่เป็นเพราะประธานคนก่อนไปล่วงเกินหลินหยุน จึงได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
ประธานเหรินคนนี้ มีรูปร่างสูงผอมอายุประมาณห้าสิบต้น ๆ ดูท่าทางเป็นคนอ่อนโยน มีลักษณะคล้ายกับอาจารย์สอนหนังสือ
“ยินดีต้อนรับประธานเหริน ที่ท่านมาในวันนี้ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากเลยทีเดียว! ”
หวางเหวินหย่วนทักทายด้วยความยิ้มแย้ม
ประธานเหรินเคยเจอหวางเหวินหย่วนมาก่อน รู้ว่าถึงแม้เขาจะเป็นเพียงญาติห่าง ๆ ของตระกูลหวาง แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของตระกูลหวางแล้ว เขามีสถานะที่ไม่ธรรมดา
เวลานี้จึงไม่กล้าที่จะแสดงความเฉยเมย จึงได้ตอบรับอย่างสุภาพกลับไป: “คุณชายหวางเกรงใจกันไปแล้ว มีคุณอยู่ที่นี่ ฉันจะโดดเด่นได้อย่างไรล่ะ! ”
ผู้คนโดยรอบมองมาที่ประธานเหริน และต่างก็พูดกันอย่างดีอกดีใจว่า: “ใช่ประธานเหรินจริง ๆ! ”
“คิดไม่ถึงว่า ลูกสาวของตระกูลหลิน จะยอดเยี่ยมขนาดนี้ ถึงขนาดประธานเหรินแห่งบริษัท เกนเนอร์ก็ยังสามารถเชิญให้มาร่วมงานได้! ”
“เหอะเหอะ ไม่ใช่ว่าเธอเก่งหรอก แต่เป็นเพราะเธอหาแฟนที่ยอดเยี่ยมคนนี้ได้ต่างหาก! มีคนตระกูลหวางคอยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้กับเธอ จึงสามารถทำให้ประธานเหรินที่ยิ่งใหญ่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ได้! ”
ผู้คนส่วนมากในงานต่างก็เป็นคนในวงการบันเทิง เป็นดาราระดับแถวที่สองแถวที่สาม และรวมถึงผู้รับผิดชอบสาขาของบริษัทเกนเนอร์
ภายในใจของคนเหล่านี้ ประธานเหรินในฐานะที่เป็นประธานของบริษัทเกนเนอร์ที่เป็นหนึ่งในสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ก็เทียบเท่าได้กับปรมาจารย์บู๊ในใจของ พวกนักบู๊
หลินโร่หลันแสดงความเคารพด้วยท่าทางสุภาพ: “สวัสดีประธานเหริน! ”
“ยินดีต้อนรับประธานเหริน โร่หลันปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง! ”
ประธานเหรินหัวเราะเหอะเหอะแล้วพูดว่า: “ผู้นี้คือคุณหนูหลินคนโตล่ะสิ! ช่างสวยงดงามเหนือใครจริง ๆ”
หลินโร่หลันพูดขึ้นอย่างเกรงใจว่า: “ขอบคุณมากสำหรับคำชมของประธานเหริน ประธานเหรินเชิญนั่งลงก่อน! ”
“เอ่อ หากนั่งก็คงไม่ต้องหรอก” ประธานเหรินสีหน้าท่าทางแปลก ๆ
“ใช่แล้ว ไม่ทราบว่าพิธีเปิดบริษัทของคุณหนูรองหลินจัดขึ้นที่ไหนเหรอ? ” ประธานเหรินถามขึ้นอย่างกะทันหัน
คุณหนูรองหลิน?
ทุกคนในสถานที่แห่งนี้ต่างตกตะลึงกับคำถามนี้ของประธานเหริน
หรือว่าตระกูลหลินยังมีผู้ที่จัดงานพิธีเปิดบริษัทขึ้นที่นี่ด้วยอีกเหรอ?
หวางเหวินหย่วนขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังประธานเหรินเกิดความสงสัยขึ้นมาบ้าง
หลินโร่หลันตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างเก้อเขินและพูดขึ้นว่า: “ประธานเหรินพูดผิดไปเหรอเปล่า? ที่นี่คือพิธีเปิดบริษัท โร่หลัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ฉันเป็นลูกสาวคนโตของบ้านตระกูลหลิน! ”
ประธานเหรินพูดว่า: “ฉันทราบว่าคุณโร่หลันเป็นลูกสาวคนโต ฉันต้องการจะหาคุณหนูรอง หลินโร่สุ่ย”
ทุกคนในที่แห่งนี้ ก็พลันเงียบสงบลงอย่างประหลาด ทุกคนต่างก็มองไปที่ประธานเหรินด้วยความตกตะลึง เหมือนกับว่าได้พบเห็นเรื่องราวที่แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ