จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 656 เขา เขา แล้วก็เขา
หลินโร่สุ่ยมองไปยังประธานสือที่ยิ้มแย้ม และกำลังเดินเข้ามาหา สีหน้าท่าทางของเธอก็ตะลึงขึ้นเหมือนเช่นเคย
ประธานสือยกมือแสดงความเคารพต่อหลินโร่สุ่ยและพูดว่า: “ฉันได้รับคำสั่งมาจากคุณหลิน ขอให้คุณหนูรองหลินมีกิจการที่เจริญรุ่งเรือง! ”
“ของขวัญเล็กน้อย มอบให้ด้วยจิตใจที่เคารพ! ”
คุณหลิน คุณหลินอีกแล้ว!
คุณหลินคนนี้ตกลงคือใครกันแน่?
หลินโร่สุ่ยมองไปยังของขวัญที่มีราคาสูงชิ้นนั้นในมือของประธานสือ ขั้นต่ำต้องมีราคาหลายแสน นี่มันคือการมอบของขวัญที่ไหนกันล่ะ เป็นการติดสินบนกันชัด ๆ
“คุณอาสือเกรงใจกันเกินไปแล้ว รีบเชิญนั่งลงก่อน! ” หลินโร่สุ่ยทักทายต้อนรับด้วยความเกรงใจ
ประธานสือเดินไปยังด้านข้างของประธานเหรินแล้วก็นั่งลง ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “พี่เหรินมาถึงนานแล้วเหรอ”
ประธานเหรินยิ้มและพูดว่า: “คำสั่งของคุณหลิน จึงไม่กล้าที่จะมาสาย! ”
ประธานสือพยักหน้า แสดงท่าทางเห็นด้วย: “ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคุณหลินจะมาด้วยตนเองหรือไม่”
หลินโร่สุ่ยมองไปยังสองคนนั้นด้วยความสงสัย จากสถานะของพวกเขาทั้งสองคนแล้ว หลินโร่สุ่ยแม้แต่จะคิดก็ยังไม่กล้า
ในตอนนั้นเธอเพียงแค่ไปที่บริษัทหวนตี้สาขาจงโจว จ่ายเงินเพื่อเชิญให้ผู้จัดการจางมาร่วมงานแสดงความยินดีในพิธีเปิดบริษัทของเธอ และยังถูกผู้จัดการจางอาศัยโอกาสนี้เสนอเงื่อนไขที่เกินไปด้วย
เวลานี้ ประธานสือกับประธานเหรินบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคน กลับมาร่วมงานทั้งที่ไม่ได้เชิญ และยังมอบของขวัญราคากว่าหลายแสนให้อีกด้วย
หลินโร่สุ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า: “ผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน ฉันขอถามหน่อยว่า คุณหลินคนนั้นคือใคร? ฉันรู้จักกับเขาไหม? ”
ประธานสือหัวเราะเหอะเหอะแล้วพูดว่า: “คุณหนูรองหลินรู้จักแน่นอน แต่คุณหลินไม่ได้มอบหมายเอาไว้ ดังนั้นพวกเราก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยสถานะของเขา คุณหนูรองหลินอย่าได้ตำหนิพวกเราเลย”
หลินโร่หลันมองไปที่หวางเหวินหย่วน และพูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมองว่า: “คุณหลินผู้นี้ ตกลงคือใครกัน? ”
“ตระกูลหลินของฉัน ไม่มีบุคคลระดับนี้อย่างแน่นอน! ”
หลินโร่หลันชัดเจนดีว่า ต่อให้เจ้าบ้านตระกูลหลินเป็นคนออกหน้าเอง ก็คงจะไม่สามารถเชิญประธานสือกับประธานเหรินให้มาร่วมงานได้
หวางเหวินหย่วนถอนหายใจด้วยสีหน้าท่าทางที่แปลกประหลาด: “ดูเหมือนว่า น้องสาวของคุณจะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือ! ”
หลินโร่หลันสีหน้าหม่นหมอง: “ฮึ แล้วอย่างไรกัน? ต่อให้เขาสามารถเชิญประธานสือกับประธาน เหรินมาได้ ก็เพียงแค่สองคนนี้เท่านั้น สถานที่จัดงานของพวกเรามีแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก หากจะพูดกันถึงความครึกครื้น ก็ไม่ใช่ว่าจะพ่ายแพ้ให้กับเธอสักหน่อย! ”
หวางเหวินหย่วนไม่ได้พูดต่อ ถ้าหากวัดกันที่จำนวนคน แน่นอนว่าทางด้านของหลินโร่หลันมีความได้เปรียบเป็นอย่างมาก
แต่ประธานสือกับประธานเหรินต่อให้เป็นใครสักคน ต่างก็มีสถานะที่สูงศักดิ์กว่าแขกผู้มีเกียรติ ทุกคนในงานของพวกเขา
ถ้าหากประธานสือกับประธานเหรินกวักมือเรียก เชื่อว่าพวกลูกน้องที่อยู่ภายใต้บริษัทหลงสือและ บริษัทเกนเนอร์ที่เดิมทีเป็นเพราะให้เกียรติแก่หน้าตาของตระกูลหวาง แล้วมาร่วมงานแสดงความยินดีต่อหลินโร่หลันนั้น ก็คงจะโยกย้ายฝั่งกะทันหันเป็นแน่
ทันใดนั้น เด็กที่เฝ้าประตูก็ได้เอ่ยชื่อแขกที่มาถึง: “ประธานหลันโร่หลินแห่งบริษัทหวนตี้มาถึงแล้ว! ”
หลินโร่หลันดีอกดีใจ: “ประธานหลันมาถึงแล้ว! ”
ใบหน้าของหวางเหวินหย่วน กลับไม่ได้แสดงท่าทีดีใจแต่อย่างใด เพราะว่าเขาได้เชิญหลันโร่หลินแล้ว แต่หลันโร่หลินได้ตอบปฏิเสธอย่างชัดเจน
แต่ตอนนี้หลันโร่หลินก็ได้มาถึง ซึ่งหวางเหวินหย่วนเชื่อว่า คงจะไม่ได้มาเพราะหลินโร่หลันอย่างแน่นอน
หลินโร่หลันเหมือนว่ามองออกถึงความคิดของหวางเหวินหย่วน สีหน้าขมขื่น: “ประธานหลันผู้นี้ก็มาเพื่อแสดงความยินดีกับน้องสาวของฉันอีกใช่ไหม? ”
แม้ว่าหวางเหวินหย่วนไม่อยากที่จะยอมรับ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับกับความจริงนี้ พยักหน้าให้กับหลินโร่หลันแล้วพูดขึ้นว่า: “ตอนที่ฉันไปเชิญเธอนั้น เธอได้ปฏิเสธแล้ว”
แค่คำพูดนี้เพียงคำเดียว ผลลัพธ์ก็ประจักษ์อย่างชัดเจน
หลันโร่หลินอยู่ในชุดกระโปรงสีแดง สง่างดงาม ไม่ด้อยไปกว่าหลินโร่หลัน อีกทั้งเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งหญิงสาวอายุน้อยอย่างหลินโร่หลันจะสามารถเปรียบเทียบได้อย่างไรกัน
หลินโร่หลันเข้าไปต้อนรับ โดยที่ไม่สนใจว่าหลันโร่หลินจะมาหาใคร แต่มารยาทในการต้อนรับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
“ยินดีต้อนรับประธานหลัน ขออภัยที่ต้อนรับได้ไม่ดีพอ โปรดอย่าได้ตำหนิกล่าวโทษกัน! ”
หลันโร่หลินยิ้มและพูดขึ้นว่า: “คุณหนูหลินคนโตอย่าได้เกรงใจไป ฉันมาตามคำสั่งของคุณหลิน เพื่อร่วมอวยพรแสดงความยินดีให้คุณหนูรองหลินมีกิจการที่เจริญรุ่งเรือง! ”
พูดจบ หลันโร่หลินก็กวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบ แล้วก็เดินตรงเข้าไปหาหลินโร่สุ่ย
หลินโร่หลันยืนอยู่กับที่ด้วยความตะลึง สีหน้าหม่นหมอง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“คุณหลิน คุณหลินอีกแล้ว! คุณหลินคนนี้ ตกลงเป็นใครกัน? ”
“ที่เขาทำแบบนี้ พยายามคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
ผู้คนโดยรอบต่างก็อุทานขึ้นต่อเนื่อง
“ประธานหลันจริง ๆ ด้วย! ”
“เคยได้ยินมานานแล้วว่าประธานหลันสวยงดงาม วันนี้ได้พบเห็น ช่างเป็นดั่งสมคำร่ำลือจริง ๆ! ”
ผู้รับผิดชอบบริษัทหวนตี้สาขาเมืองหลวงนั้น สีหน้าดูย่ำแย่เล็กน้อย โดยที่ประธานหลันเป็นเจ้านายของเขา ตอนนี้ประธานหลันไปอยู่ที่ฝั่งคุณหนูรองหลินนั้น ส่วนเขาผู้ที่เป็นลูกน้องกลับมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของประธานหลัน
หลังจากที่กลับไปแล้ว ประธานหลันจะกลั่นแกล้งเขาหรือไม่?
ในความเป็นจริง ไม่เพียงแค่ผู้รับผิดชอบบริษัทหวนตี้สาขาเมืองหลวงที่กังวลใจเท่านั้น ผู้รับผิดชอบของบริษัทหลงสือและบริษัทเกนเนอร์ ก็มีสภาพจิตใจที่ไม่ต่างกัน
เจ้านายใหญ่ของพวกเขา ต่างก็อยู่ทางฝั่งของคุณหนูรองหลิน แต่พวกเขาที่ต้องการผูกมิตรกับตระกูลหวาง กลับยืนอยู่ทางฝั่งของคุณหนูหลินคนโต
ตอนนี้ พวกเขารู้สึกเสียใจภายหลังเป็นอย่างมาก
หากรู้ตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ตกลงตอบรับคำเชิญของหวางเหวินหย่วน ซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากทั้งสองทาง
ถ้าหากตอนนี้ออกจากทางฝั่งของคุณหนูหลินคนโต ก็คงจะเป็นการล่วงเกินตระกูลหวาง
แต่หากไม่ปลีกตัวออกมา งั้นก็เป็นการยืนอยู่กันคนละฝั่งกับเจ้านายใหญ่ของตนเอง แบบนี้มันไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรอกเหรอ?
ทุกคนของตระกูลหลิน ยิ่งตะลึงจนถึงกับอ้าปากค้าง
หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้าและคนรุ่นใหม่ของตระกูลหลิน แสดงสีหน้าท่าทางอย่างเหลือเชื่อ
“หลินโร่สุ่ยที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้น ตกลงว่าได้ไปรู้จักกับบุคคลทิ่ยิ่งใหญ่ท่านใด! ถึงขนาดที่ประธานของทั้งสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ในจีนต่างก็มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง! ”
“ต่อให้เป็นเจ้าบ้านก็คงจะไม่มีความสามารถในการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ระดับนี้มาร่วมงานได้! ”
“หลินโร่สุ่ยตกลงว่าไปโชคดีอะไรมาจากที่ไหนกัน รู้จักกับใคร? พวกเธอเคยได้ยินชื่อของคุณหลินคนนั้นไหม? ”
“ทำไมฉันจึงไม่ทราบว่าหลินโร่สุ่ยรู้จักกับคุณหลินอะไรนั่นเลย? ”
ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลหลิน มองไปที่หลินตงเย่ว ด้วยสายตาที่ลังเล
“ตงเย่ว ลูกสาวคนรองของนาย ปกปิดได้อย่างลึกลับเลยทีเดียว! ”
“ยังจะคุณหลิน คุณหลินอะไรอยู่อีก? ทำไมฉันจึงไม่ทราบว่าตระกูลหลินของพวกเรามีบุคคลที่ ยิ่งใหญ่ระดับนี้ด้วย? ”
หลินตงเย่วตะโกนขึ้น: “ทุกท่าน พวกท่านใส่ความข้าแล้ว! เรื่องนี้ข้าไม่รับรู้อะไรเลยแม้แต่น้อย! ”
“ไอ้เด็กที่ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนี้ ตกลงว่าไปทำอะไรมา? ถึงขนาดทำให้ประธานของทั้งสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป มาร่วมงานกันทั้งหมด! ”
“ไม่ได้ ฉันจะต้องถามให้ชัดเจน! ”
พูดจบ หลินตงเย่วก็เดินไปหาหลินโร่สุ่ย
หลินโร่หลันที่กำลังมองดูเหตุการณ์นี้ กำหมัดสองข้างแน่นจนเส้นเอ็นปูดขึ้นอย่างชัดเจน
หวางเหวินหย่วนมองไปยังหลินโร่หลันที่แอบกำหนัดแน่น แล้วกระซิบปลอบใจว่า: “อย่าเคร่งเครียดไปเลย อย่างน้อยจำนวนของแขกที่มาร่วมงาน ทำให้พวกเรายังคงมีความได้เปรียบอยู่”
หลินโร่หลันพยักหน้า แล้วมองไปยังหวางเหวินหย่วนด้วยความชื่นชม: “พี่เหวินหย่วน โชคดีที่ยังมีคุณอยู่! มิเช่นนั้น คราวนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปแล้ว”
“วางใจเถอะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ” หวางเหวินหย่วนพูดขึ้นด้วยความจริงใจ
หลินตงเย่วมาถึงด้านข้างของหลินโร่สุ่ย โดยได้ยิ้มทักทายกับประธานทั้งสามท่านก่อน
จากนั้น ก็แอบเรียกหลินโร่สุ่ยไปยังบริเวณที่ลับตาคน
หลินโร่สุ่ยเดินตามไปด้วยความไม่เต็มใจ: “คุณพ่อมาหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ? ”
หลินตงเย่วพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ลูกน้อย ฉันขอถามหน่อยว่า ตกลงเธอไปทำอะไรมา? ประธานของทั้งสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่พี่สาวของเธอกับตระกูลหวางที่ไปเชิญแล้วก็ยังไม่มา แล้วทำไมถึงได้มาร่วมงานของเธอ? ”
หลินโร่สุ่ยยิ้มอย่างเย็นชา: “อะไรกันพี่สาวของฉันเชิญไม่ได้ แล้วฉันก็ไม่สามารถที่จะไปเชิญมาได้อย่างนั้นเหรอ? ”
“ในสายตาของพ่อก็มีแค่พี่สาว จะเห็นฉันดีบ้างไม่ได้เลยหรือยังไง? ”
หลินตงเย่วมีสีหน้าที่หม่นหมองมากขึ้น: “วันนี้เป็นวันงานพิธีเปิดบริษัทของพี่สาวของเธอ ฉันเตือนเธอไว้นะว่าอย่าได้ก่อเรื่องสร้างความวุ่นวาย ถ้าหากเธอทำลายงานพิธีเปิดบริษัทของพี่สาวของเธอ ดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการกับเธออย่างไร! ”
หลินโร่สุ่ยพูดขึ้นด้วยความโมโห: “วันนี้ก็เป็นวันงานพิธีเปิดบริษัทของฉันเหมือนกัน คนอื่นมาร่วมงานของพี่สาว พวกท่านดีใจยิ้มอย่างไม่หุบ แล้วทำไมเมื่อมีคนมาร่วมงานของฉันบ้างก็กลายเป็นว่ามาก่อกวนสร้างความวุ่นวายล่ะ? ”