จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 66 หกนิ้วแวะมาเยี่ยม
บทที่ 66 หกนิ้วแวะมาเยี่ยม
Upper Island Cafe
หลินหยุนนั่งข้างๆหน้าต่างบนชั้นสอง มองอู๋กั๋วส้วงที่อยู่ตรงข้ามอย่างเงียบๆ และถามเบาๆ “คุณหาผมเจอได้อย่างไร?”
อู๋กั๋วส้วง หรือที่รู้จักกันในนามเทพพนันหกนิ้ว ครั้งที่แล้วหลินหยุนได้แสดงพลังของเขาในบ่อนคาสิโน เอาชนะหลี่เหยนกับเว่ยเทียนหมิงและคนอื่นๆ อู๋กั๋วส้วงเห็นพอดี
อู๋กั๋วส้วงต้องการผูกมิตร แต่ว่า หลินหยุนปฏิเสธอย่างไร้ความปราณี
อู๋กั๋วส้วงมองไปที่หลินหยุน และพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอเพียงพยายามสอบถาม ก็สามารถหาที่อยู่อาศัยของคุณหลินได้ เพราะข้างหลังของผมยังมีผู้มีอิทธิพลในเว่ยเหอคอยหนุน คือท่านเส้!”
“คุณหาผมเพื่ออะไร?” หลินหยุนไม่ค่อยสนใจผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ เขาแค่อยากรู้ว่าเทพพนันเหล่านี้ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อหาเขา ต้องการอะไรกันแน่?”
อู๋กั๋วส้วงรู้สึกได้ถึงความเบื่อหน่ายในน้ำเสียงของหลินหยุน และไม่กล้าที่จะอ้อมค้อม รีบพูดทันที “คืออย่างนี้คุณหลิน… …”
อันที่จริง เส้เทียนหัวผู้มีอิทธิพลในเว่ยเหอ ได้เดิมพันกับคุณชายอู๋ซวงหรือฉินอู๋ซวงแห่งฉินโจว เส้เทียนหัวกังวลว่าจะแพ้ ดังนั้นจึงให้อู๋กั๋วส้วงไปหาผู้ช่วย
“คุณก็เป็นเทพพนันหลิงหนานไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังต้องไปหาคนอื่น?” หลินหยุนถามด้วยความแปลกใจ
อู๋กั๋วส้วงหน้าแดง และพูดอย่างเขินอาย “ไม่ขอปิดปังคุณหลิน ผมแพ้ไปแล้ว”
หลินหยุนเหลือบมองเล็กน้อย “ แม้แต่เทพพนันหลิงหนานยังแพ้ ดูเหมือนว่าทักษะการพนันของคุณชายอู่ซวงคนนี้คงร้ายกาจมาก”
อู๋กั๋วส้วงพูดว่า “ไม่ขอปิดปัง ท่านเส้ได้เชิญเทพพนันหวางสุ้นจากมณฑลเป่ยซิน เพื่อเตรียมเดิมพันครั้งใหญ่กับฉินอู๋ซวง แต่เพื่อกันเอาไว้ก่อน จึงหวังให้คุณหลินไปช่วยควบคุมอีกแรง!”
แต่เดิมหลินหยุนก็อยากไปดูๆเพื่อหาประสบการณ์ แต่เมื่อได้ยินว่าเส้เทียนหัวได้หาเทพพนันมาจากมณฑลเป่ยซิน หลินหยุนก็หัวเราะในใจ “กล้าเอาฉันไปเป็นตัวสำรองเหรอ!”
หลินหยุนหัวเราะเบาๆอย่างไม่แยแส “ไม่มีอารมณ์ คุณไปหาคนอื่นเถอะ!”
“ห้าล้าน!” อู๋กั๋วส้วงคิดไว้แล้วว่าหลินหยุนคงไม่ตกลงง่ายๆ และพูดพร้อมกับยื่นมือออกมา
“ขอเพียงให้หวางสุ้นชนะ คุณหลินไม่ต้องลงมือใดๆ ก็สามารถรับเงินรางวัลห้าล้าน”
“แน่นอน ถ้าต้องการให้คุณหลินลงมือ ก็จะได้รับค่าตอบแทนอีกต่างหาก!”
อู๋กั๋วส้วงคิดว่า คงไม่มีใครปฏิเสธเงื่อนไขนี้ได้ ไม่ต้องลงมือก็จะได้รับเงิน ดีขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่รับ?
แต่ว่า หลินหยุนยังคงหัวเราะอย่างไม่แยแส “ไม่มีอารมณ์”
หลังจากพูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืนและเตรียมตัวจากไป
อู๋กั๋วส้วงรู้สึกลำบากใจ นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่คาดคิดว่าหลินหยุนจะปฏิเสธโชคลาภที่ได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้
“คุณหลินโปรดรอสักครู่!” เมื่อตั้งสติได้ อู๋กั๋วส้วงก็รีบลุกขึ้นและวิ่งไล่ตาม
“คุณหลินไม่จำเป็นต้องรีบปฏิเสธ นี่คือนามบัตรของผม หลังจากที่คุณหลินกลับไปแล้วก็คิดทบทวนดีๆ ถ้าคิดดีแล้ว ก็สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา ค่าตอบแทนที่ผมตกลงไว้กับคุณหลินไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน”
เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอู๋กั๋วส้วง เดิมทีหลินหยุนต้องการปฏิเสธ แต่ก็ยอมรับนามบัตรของเขา
“คุณหลินขอให้เดินทางปลอดภัย!” อู๋กั๋วส้วงพูดสุภาพมาก
หกโมงเย็น หลินหยุนกลับถึงบ้าน
ในระหว่างรับประทานอาหารค่ำ จู่ๆเซี่ยหยู่เวยก็พูดว่า “คุณพ่อ คุณแม่ พรุ่งนี้หนูไม่ไปคลินิกนะ เสี่ยวซีให้หนูไปดูการแข่งขันการเดิมพันกับเธอที่เมืองศตวรรษต้าฮัว ได้ยินมาว่าเส้เทียนหัวผู้มีอิทธิพลในเว่ยเหอและคุณชายอู๋ซวงในฉินโจวต่างก็มา”
โจวเฟินตาเหลือกใส่เซี่ยหยู่เวย และพูดว่า “เธอเป็นผู้หญิง ไปในสถานที่วุ่นวายแบบนั้นทำไม?” อยู่บ้านเป็นเพื่อนเสี่ยวหยุนดีกว่าไหม?”
เซี่ยเจี้ยนโก๋วางตะเกียบลง และพูดว่า “เป็นผู้หญิงแล้วทำไม ตอนนี้ผู้ชายและผู้หญิงเท่าเทียมกันแล้ว คุณควรละทิ้งความคิดสมัยโบราณเก่าๆแบบนั้น ฉันคิดว่าเป็นการดีที่จะไปพบเห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ ไปเถอะ พ่อสนับสนุนลูก!”
โจวเฟินจ้องมองไปที่เซี่ยเจี้ยนโก๋และพูดว่า “ถ้าจะไปก็ได้ แต่ต้องให้เสี่ยวหยุนไปเป็นเพื่อน มิเช่นนั้นฉันไม่วางใจ”
“คุณแม่ มีเสี่ยวซีและคนอื่นๆไปเป็นเพื่อน ยังต้องกังวลอะไร!” สิ่งที่เซี่ยหยู่เวยเกลียดที่สุดคือการอยู่กับหลินหยุน โดยเฉพาะท่าทางที่หยิ่งผยองของหลินหยุน ดูเหมือนจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
โจวเฟินทำหน้าบึ้งตึงทันที และพูดเสียงดัง “จะเหมือนกันได้ไง? ตอนนี้เธอแต่งงานแล้ว ไม่ให้สามีไปเป็นเพื่อน แล้วจะให้ใครไปด้วย!”
“ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องไป”
เซี่ยหยู่เวยตะโกนด้วยความอัดอั้นตันใจ “คุณแม่ ใครกันแน่ที่แม่เป็นลูกแท้ๆของแม่!”
โจวเฟินทำตาเหลือก “อย่ามาไร้สาระกับฉัน ฉันใช้เหตุผลโดยไม่เข้าข้างญาติ อีกอย่างฉันถือว่าหลินหยุนเป็นลูกชายของฉันมานานแล้ว และฉันก็ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”
เซี่ยหยู่เวยโมโหจนหายใจแรง จนปัญญาและมองไปที่เซี่ยเจี้ยนโก๋เพื่อขอความช่วยเหลือ “คุณพ่อฟังสิ่งที่แม่พูดสิ!”
เซี่ยเจี้ยโก๋ส่งเสียงไอเบาๆ และพูดว่า “พ่อคิดว่าเธอควรให้หลินหยุนไปเป็นเพื่อนด้วย ยังไงเขาก็เป็นสามีของเธอ
เซี่ยหยู่เวยทนไม่ไหวจนเบิกตากว้าง และมองไปที่เซี่ยเจี้ยนโก๋อย่างไม่เชื่อสายตา “คุณพ่อ ไม่ใช่แล้วมั้ง เขาให้พวกท่านกินยาแฝดเหรอ ตอนนี้แม้แต่พ่อก็อยู่ฝ่ายเดียวกับเขา!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ทำหน้าบึ้งตึง พูดอย่างจริงจัง “ฉันพูดความจริง ไม่ได้เข้าข้างใคร!”
หลินหยุนเข้าใจความคิดของเซี่ยเจี้ยนโก๋ เขาต้องการใช้เซี่ยหยู่เวยเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับหลินหยุน
เพียงแต่ว่า สิ่งที่หลินหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่ในขณะนี้ คือการแข่งขันเดิมพันขนาดใหญ่ หรือว่าการแข่งขันเดิมพันระหว่างเส้เทียนหัวและฉินอู๋ซวง แข่งขันกันที่หอเฟยชุ่ยในเมืองศตวรรษต้าฮัว?
หลินหยุนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าใช่แน่นอน เมืองหลินโจวและเมืองฉินโจวติดกับเขตแดนเว่ยเหอ เพื่อความยุติธรรม การแข่งขันระหว่างเส้เทียนหัวกับฉินอู๋ซวงจงใจจัดขึ้นที่หลินโจว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีอำนาจอิทธิพลใดๆ
คำขอร้องของโจวเฟินหลินหยุนไม่อาจขัดขืน พรุ่งนี้ยังไงเขาก็ต้องไปเป็นเพื่อนเซี่ยหยู่เวยเพื่อไปเมืองศตวรรษต้าฮัว
“นี่ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ” หลินหยุนแสดงรอยยิ้มแปลกๆ
เซี่ยหยู่เวยต้องจำยอม โจวเฟินเตือนหลินหยุน “หลินหยุน พรุ่งนี้ต้องดูแลเซี่ยหยู่เวยให้ดีๆนะ!”
“วางใจได้ มีผมอยู่ ไม่มีใครกล้ารังแกเธอ” หลินหยุนรับปากด้วยรอยยิ้ม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หลินหยุนก็หาข้ออ้าง เพื่อออกไปข้างนอก
เดินไปถึงบันได หลินหยุนหยิบนามบัตรที่อู๋กั๋วส้วงมอบให้
“ใคร?” เสียงอันเคร่งขรึมของอู๋กั๋วส้วงดังมาตามสายโทรศัพท์
หลินหยุนถาม “พรุ่งนี้การเดิมพันระหว่างเส้เทียนหัวและฉินอู๋ซวงแข่งขันที่เมืองศตวรรษต้าฮัวเหรอ?”
“คุณคือคุณหลิน!” เสียงของอู๋กั๋วส้วงเปลี่ยนเป็นเคารพทันที “ใช่แล้ว หลินโจวเป็นเขตของผู้มีอิทธิพลเจี่ยง ท่านเส้และคุณชายฉินไม่มีอิทธิพลตรงนั้นเลย และขนาดของหอเฟยชุ่ยเป็นบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในหลิงหนาน ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกหลินโจว”
“ฉันตกลงตามเงื่อนไขของคุณ พรุ่งนี้ฉันจะไปที่หอเฟยชุ่ยด้วยตัวเอง” หลินหยุนพูดเบาๆ
“เยี่ยมมาก ผมจะไปบอกท่านเส้เดี๋ยวนี้!” เสียงของอู๋กั๋วส้วงตื่นเต้น
… …
… …
เมืองศตวรรษต้าฮัว ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
หลี่เหล่ยเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทรักษาความปลอดภัยของเมืองศตวรรษต้าฮัว ในวัยสามสิบต้นๆ เช้าตรู่วันนี้ ผู้จัดการบริษัทคนนี้ซึ่งปกติครึ่งเดือนยังไม่ค่อยเจอหน้า จู่ๆได้พาหัวหน้างานทั้งหกคนของเขา ปรากฏตัวที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
“หัวหน้าจาง คุณไปเรียกสมาชิกในทีมมาไม่กี่คน วันนี้ไม่ว่ายังไงต้องเฝ้าช่องจอดรถบริเวณทางเข้าลิฟต์ให้ดีๆ! ถ้าหายไปแม้แต่ช่องเดียว พวกนายก็เตรียมถูกไล่ออก!” ผู้จัดการบริษัทใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพูดด้วยความจริงจังเคร่งขรึม
หัวหน้าจางที่มีร่างกายกำยำ เดินเข้ามาทางประตูหลัง ซึ่งเป็นคนที่มีหัวหน้าคอยหนุนหลัง และโดยปกติแล้วแม้แต่ผู้จัดการก็ยังต้องให้เกียรติเขา
แต่วันนี้ผู้จัดการถึงกับพูดอย่างแรง ทำให้หลี่เหล่ยที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้วรู้สึกแปลกใจ
แต่สิ่งที่ทำให้หลี่เหล่ยประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ โดยปกติหัวหน้าจางจะไม่ค่อยแยแสผู้จัดการคนนี้เลย แต่วันนี้กลับเชื่อฟังอย่างง่ายดาย และตบหน้าอกของเขาเพื่อยืนยัน
“ผู้จัดการไม่ต้องห่วง ถ้าวันนี้มีที่จอดรถหายไปหนึ่งช่อง ไม่ต้องให้คุณพูดหรอก ผมจะเก็บข้าวของแล้วไสหัวไปเอง!”