จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 661 วิกฤตของหวางซูเฟิน
“ท่านประธาน ถึงแม้ฉันจะรู้ ฉันทำเช่นนี้ ค่อนข้างไร้ยางอาย แต่ว่า ฉันไม่สามารถทนดูบริษัทตงหวางกรุ๊ปล่มสลายไปเช่นนี้ หากถูกตระกูลหวางซื้อกิจการไป อย่างน้อยก็สามารถรักษาบริษัทไว้ได้” ประธานท่านหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
ประธานอีกท่านหนึ่งพูด “ท่านประธานหวาง พวกเราไม่สนหรอกว่าคุณจะมีบุญคุณและความแค้นอะไรกับตระกูลหวาง แต่ว่า สำหรับพวกเรา พวกเราจะเลือกวิธีที่มีผลประโยชน์ที่สุดต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป ดังนั้น โปรดอย่าเอาเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัวของคุณ นำมามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของบริษัท”
คนอื่นๆไม่พูดอะไร คนเหล่านี้ติดตามหวางซูเฟินมาตลอด พวกเขาอยู่ในบริษัทตงหวางกรุ๊ปเคยประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่พวกเขาก็ผ่านพ้นมาได้
ดังนั้น ความรู้สึกผูกพันที่มีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปนั้น มันลึกซึ้งมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานั้น ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน บริษัทตงหวางก็ยังอยู่ พวกเขารู้สึกว่าความพยายามทุ่มเททำงานอย่างหนักนั้นคุ้มค่า
แต่ว่าตอนนี้ หวางซูเฟินกำลังจะยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป พวกเขาไม่สามารถทนดูบริษัทตงหวางกรุ๊ปล่มสลายไปเช่นนี้
หวางซูเฟินเหลือบมองฝูงชน และถามว่า “พวกคุณทุกคนมีความเห็นเหมือนกันใช่ไหม?”
ทุกคนไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าอย่างเงียบๆ
หวางซูเฟินยิ้มอย่างอย่างชา “พวกคุณคิดว่า ถ้าถูกซื้อกิจการ บริษัทตงหวางจะยังคงอยู่ได้ไหม?”
“สิ่งที่พวกคุณคิดนั้นไร้เดียงสาเกินไป”
ความเกลียดชังที่ตระกูลหวางมีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป แน่นอนว่าจะไม่อนุญาตให้บริษัทตงหวางกรุ๊ปดำรงอยู่ต่อไป ซึ่งนั่นจะเป็นความอัปยศของตระกูลหวาง
หวางซูเฟินเข้าใจจิตใจที่โหดเหี้ยมของคุณพ่อ หากว่าถูกกว้านซื้อกิจการ บริษัทตงหวางกรุ๊ปจะหายตัวไปอย่างน่าสมเพชที่สุด และ อาจจะมีมลทินเหลือไว้
ประธานท่านนั้นพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ท่านประธานหวาง สิ่งที่ท่านพูดพวกเราก็เคยคิด แต่ว่า ถึงแม้จะมีความหวังเพียงริบหรี่ พวกเราก็ต้องดิ้นรนต่อสู้!”
“ถ้าคุณประกาศในตอนนี้ ปกป้องบริษัทตงหวางกรุ๊ป และต่อสู้จนนาทีสุดท้าย พวกเราจะยืนเคียงข้างคุณทันที และจะไม่ผิดคำสัญญา!”
หวางซูเฟินนิ่งอึ้งและจ้องมาที่พวกเขา ดูเหมือนว่า เธอจะเข้าใจความหมายของคนเหล่านี้ผิดไป
พวกเขาไม่ได้โลภกับเงื่อนไขที่ตระกูลหวางเสนอมา เพียงแค่ต้องการรักษาบริษัทตงหวางกรุ๊ปที่ดิ้นรนต่อสู้มาหลายปี
เมื่อเทียบกับหวางซูเฟิน ความคิดของพวกเขาบริสุทธิ์กว่า
ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้สึกดีๆของพวกเขาที่มีบริษัทตงหวางกรุ๊ป ในบางสิ่งบางอย่าง มันยังมากกว่าหวางซูเฟินซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง
หวางซูเฟินเงียบเป็นเวลานาน คนเหล่านี้ไม่ได้ทรยศ และความรู้สึกดีๆที่พวกเขามีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ป ทำให้หวางซูเฟินรู้สึกละอายใจ
“ท่านประธาน ถ้าคุณหมดความมั่นใจต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปจริงๆ ผมขอให้คุณปล่อยมือ! แล้วมอบให้พวกเรา ให้พวกเราดำเนินกิจการต่อไป” ท่านประธานหลี่พูดอย่างจริงใจ ด้วยน้ำเสียงแฝงด้วยความอ้อนวอน
“ท่านประธาน ขอร้องท่านยอมตกลง!” คนอื่นๆตะโกนพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย ราวกับว่าได้ซ้อมกันมานับครั้งไม่ถ้วน
หวางซูเฟินรู้ พวกเขาไม่ได้ซ้อมกันมา เพียงเพราะมีอุดมคติเดียวกัน
หวางเจ๋อไม่ยอมพูดอะไร มองดูหวางซูเฟินอย่างเงียบๆ แสดงท่าทางสีหน้าแห่งชัยชนะ
เมื่อมองดูสหายเก่าที่เคยทำงานร่วมกันมา และเพื่อนร่วมงานที่จงรักภักดีที่สุดของบริษัทตงหวางกรุ๊ป หวางซูเฟินก็ตกตะลึง
ฉินหลันขมวดคิ้ว จุดประสงค์ของหวางเจ๋อนั้นเรียบง่าย เขาต้องการให้คนภายในของบริษัทตงหวางกรุ๊ปแตกแยกกันเอง
สิ่งนี้ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการวางแผนชั่ว แต่เป็นการบีบให้หวางซูเฟินต้องตัดสินใจเลือก
ไม่สนใจคำขอร้องของเพื่อนร่วมงานที่ต่อสู้กับเธอมาหลายปี และยืนกรานที่จะยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป
ยังคงประนีประนอมกับทุกคน ให้ยอมมอบบริษัทตงหวางกรุ๊ป
ทั้งหมดนี้ เป็นความคิดของหวางซูเฟินเอง
การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือของหวางซูเฟิน
ทุกคนมองไปที่หวางซูเฟิน รอคำตอบจากเธอ
“ขอให้ฉันคิดดูก่อน!” หวางซูเฟินตัดสินใจไม่ได้จริงๆ
เธอไม่ต้องการที่จะทำให้เพื่อนร่วมงานจำนวนมากต้องมาเสียใจ แต่ว่า เธอก็ไม่สามารถปฏิบัติตามความปรารถนาของหวางเจ๋อ
นับตั้งแต่เรื่องราวของลูกหายไป หวางซูเฟินกับตระกูลหวาง ก็ขัดแย้งกันมาตลอด
ทุกคนไม่ได้บังคับหวางซูเฟิน แต่โค้งคำนับให้หวางซูเฟินอย่างเงียบๆ “ท่านประธาน หวังว่าท่านจะเติมเต็มความหวังของพวกเรา!”
ทุกคน โค้งคำนับหวางซูเฟิน
ฉินหลันทนไม่ไหว และพูดอย่างเย็นชา “พวกคุณไม่ต้องบังคับท่านประธานแล้ว เธอเป็นคนสร้างบริษัทตงหวางกรุ๊ปมากับมือ ที่ตัดสินใจยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป เพราะไม่มีหนทาง ส่วนลึกเธอเสียใจมากกว่าคนอื่น!”
ผู้ช่วยฉิน พวกเราแค่หวังจะรักษาบริษัทตงหวางกรุ๊ปไว้ หากท่านประธานยินดีที่จะเป็นผู้นำพวกเราต่อไป พวกเราก็จะสนับสนุนเธอเต็มที่!” ท่านประธานหลี่พูดเสียงดัง
ฉินหลันพูดไม่ออก การยุบบริษัทตงหวางกรุ๊ป เดิมทีเป็นเจตนาส่วนตัวของหวางซูเฟิน
อย่างไรก็ตาม หากไม่ยุบ สุดท้ายบริษัทตงหวางกรุ๊ปทำได้เพียงต้องประกาศล้มละลาย
ด้วยวิธีนี้ แม้แต่ค่าจ้างพนักงานก็ไม่สามารถจ่ายได้ และสิ่งที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปได้รับจะมีแต่คำสาปแช่ง เป็นการดีกว่าที่ตอนนี้ ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดห้ามลังเล
ในเวลานี้ มีคนเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ
เมื่อหวางเจ๋อเห็นเขา ก็เรียกออกมาด้วยความเคารพ “ท่านพ่อ!”
กลุ่มประธานของบริษัทตงหวางกรุ๊ป ต่างตกตะลึง
ตัวตนของหวางเจ๋อมีสายเลือดรุ่นหลังของตระกูลหวาง พ่อของหวางเจ๋อ ในปัจจุบันคงเป็นเสาหลักของตระกูลหวาง
แม้ว่าหลายคนจะไม่รู้จักตัวตนของหวางโส่วหลี่ แต่ว่า ก็เข้าใจด้วยว่าชายวัยกลางคนที่น่าเกลียดคนนี้ เป็นผู้ที่กุมอำนาจอย่างแน่นอน
หวางซูเฟินเงยหน้าขึ้น และเห็นหวางโส่วหลี่ในชุดสูทสีดำ ใบหน้าของเธอก็เย็นชาลงทันที
หวางโส่วหลี่ มองไปที่หวางซูเฟิน พูดเสียงต่ำ “คุณยังจะต่อต้านต่อไปหรือ?”
“ไม่เอาเงินแม้แต่เงินแดงเดียวก็ได้ แต่ไม่ยอมมอบบริษัทตงหวางกรุ๊ปให้กับพวกเรา?”
“ทำไมคุณต้องทำถึงขั้นนี้?”
หวางซูเฟินพูดอย่างเย็นชา “เรื่องของฉัน คนนอกไม่ต้องเข้ามายุ่ง”
“ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อเกลี้ยกล่อมฉัน ก็ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา”
หวางโส่วหลี่พูดอย่างเคร่งขรึม “ถึงตอนนี้ คุณยังหมกมุ่นอยู่กับความผิด?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด คุณคิดหรือว่ากับแค่บริษัทตงหวางกรุ๊ป ก็สามารถต่อต้านกับตระกูลหวางได้?”
“คุณยังไม่เคยสัมผัสกับพลังสูงสุดของตระกูลหวาง คุณคิดว่าในฐานะหัวหน้าของสี่ตระกูลใหญ่ มีเพียงความแข็งแกร่งผิวเผินแค่นี้เหรอ?”
“ยอมแพ้ซะ แม้ว่าคุณจะพยายามทำงานหนักไปตลอดชีวิต แค่ปลายเล็บของตระกูลหวางก็เทียบไม่ได้ บริษัทตงหวางกกรุ๊ปอยู่ในสายตาของตระกูลหวาง ก็เหมือนมดไม่มีผิด จะเอาหรือไม่เอา ไม่มีความแตกต่างอะไร”
เหตุผลที่ต้องการบริษัทตงหวางกรุ๊ปของคุณ เพื่อต้องการเอาชนะความดื้อรั้นของคุณ และให้คุณเข้าใจว่าเมื่อเทียบกับตระกูลหวาง คุณมันเล็กแค่ไหน”
ใบหน้าของหวางซูเฟินดูแย่มาก ภายใต้คำพูดที่โจมตีของหวางโส่วหลี่ การทุ่มเททำงานหนักมาหลายปี และความเพียรพยายามมาหลายปี ในสายตาของตระกูลหวาง กลายเป็นเพียงเรื่องตลก
หวางซูเฟินรู้มานานแล้วว่า ตระกูลหวางมีมากกว่าที่มองเห็น
ตอนนี้ หวางโส่วหลี่พูดเอง ซึ่งทำให้หวางซูเฟินยอมแพ้อย่างสมบูรณ์
“ตระกูลหวาง สู้ไม่ได้จริงๆ ฮึฮึ ความพยายามของฉันตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะมีความหมายอะไร?”
ฉินหลันเห็นความผิดปกติ รีบเตือน “ท่านประธาน อย่าหลงกล เขาต้องการทำลายกลไกการป้องกันทางจิตใจ!”
เมื่อกลไกป้องกันทางจิตใจของหวางซูเฟินถูกทำลาย จากนั้น ในอนาคตหวางซูเฟินจะสูญเสียความกล้าหาญที่จะต่อต้านกับตระกูลหวางอย่างสิ้นเชิง
เพียงแต่ว่า เห็นได้ชัดว่าฉินหลันเตือนช้าไป หวางซูเฟินนิ่งอึ้ง ใบหน้าซีดเผือก และก็บ่นพึมพำ “ที่แท้สิ่งที่ฉันทำงานหนักมาหลายปีแล้ว ในสายตาของตระกูลหวางเป็นแค่เรื่องตลก”
“บริษัทตงหวางไม่มีแล้ว ฉันจะเอาอะไรมาต่อสู้กับตระกูลหวาง? เอาอย่างนี้แหละ! ทุกอย่างให้มันจบซะ!”
ฉินหลันกระวนกระวายใจ แต่ว่า เห็นได้ชัดว่าหวางซูเฟินได้เข้าสู่ทางตันแล้ว
ฉินหลันไม่สามารถปลุกเธอให้ตื่นได้เลย