จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 663 ไม่รู้จัก
แค่แหวนวงเล็กๆนี้ ก็สามารถถอนเงินได้หกหมื่นล้านเหรอ?
ฉินหลันไม่สามารถจินตนาการได้
ผู้จัดการฝ่ายบริการยิ้มและพูดอย่างมืออาชีพ “ขออภัย ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องประดับเท่าไหร่!”
ฉินหลันหดหู่ใจ ตามที่คาดไว้ ไม่มีใครรู้จักด้วยซ้ำ
ประมาณว่าในใจเธอคงคิดว่าตัวเองเป็นเศรษฐีใหม่ที่โอ้อวดแหวนไปทุกที่!
ใบหน้าของฉินหลันแดงเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้น ขอโทษที่รบกวน” ฉินหลันหันหลังเดินออกไป และเมื่อเธอกลับไปแล้ว จะไปจัดการหลินหยุนให้สุดๆสักตั้ง ผู้ชายคนนี้กล้าโกหกตัวเอง
ในขณะนี้ หลังโต๊ะตรงมุมหนึ่ง มีชายชราสวมแว่นนั่งอยู่ เมื่อกี้ตอนที่ฉินหลันยื่นมือออกไป เขาก็เริ่มสังเกตเห็น
ขณะที่ฉินหลันจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน น้ำเสียงของคนแก่ก็พูดออกมา “โปรดรอสักครู่!”
ในห้องโถงที่เงียบสงบ เสียงของชายชรานั้นชัดเจนมาก
ฉินหลันหยุดเดิน หันกลับมาเพื่อตามหาเสียงนั้น
เมื่อเห็นชายชราที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ฉินหลันก็ชี้ไปที่จมูกที่น่ารักของเธอด้วยความสับสน และถามอย่างไม่แน่ใจ “ท่านผู้เฒ่าเรียกฉันหรือ?”
“ใช่แล้ว!” ชายชราตอบ และเดินมาถึงข้างกายฉินหลัน
ผู้จัดการฝ่ายบริการรีบโค้งคำนับให้ชายชราอย่างเร่งรีบ “ผู้อํานวยการเห้อ!”
ฉินหลันรู้สึกประหลาดใจ ผู้อํานวยการเห้อ น่าจะเป็นผู้รับผิดชอบธนาคารต้ารุ่ยสาขาจงโจว
ชายชราเอื้อมมือไปห้ามไม่ให้ผู้จัดการฝ่ายบริการทำความเคารพ มองไปที่ฉินหลันด้วยรอยยิ้ม และถามว่า “คุณหญิงที่สุดสวยท่านนี้ ขอดูแหวนที่มือคุณได้ไหม?”
ฉินหลันผงะ ประกายแห่งความหวังผุดขึ้นในใจเธอ ถอดแหวนออกมาแล้ว ยื่นให้ชายชรา
“เชิญท่านผู้เฒ่าดูได้!”
ผู้อํานวยการเห้อ!”หยิบแหวน ตรวจดูอย่างละเอียด จากนั้นจึงหยิบสมุดเล่มเล็กๆออกมา แล้วเริ่มเปรียบเทียบกับแหวน
จากนั้นผู้อํานวยการเห้อก็โค้งคำนับฉินหลันและพูดว่า “ถึงแขกผู้มีเกียรติ คุณคือลูกค้าวีไอพีของเรา โปรดตามผมมา!”
ฉินหลันรู้สึกตื่นตัว “เมื่อกี้เธอบอกว่าไม่รู้จักแหวนวงนี้ไม่ใช่เหรอ?”
ผู้อํานวยการเห้อยิ้มและพูดว่า “ตรงนี้นอกจากผม ไม่มีใครรู้จักโทเค็น โปรดวางใจและตามผมมา ลูกค้าอย่างท่าน จะต้องไปทำเรื่องที่ห้องวีไอพี!”
ฉินหลันเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่เมื่อเห็นห้องวีไอพีอยู่ถัดจากห้องโถง เธอก็โล่งใจ
ตามชายชราไปที่ห้องวีไอพี ชายชราพูดอย่างสุภาพ “เชิญนั่ง!”
ฉินหลันนั่งตรงข้ามชายชรา และมองไปที่ชายชรา
ชายชรายิ้มและถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณต้องการทำธุรการอะไร?”
ฉินหลันพูดว่า “ฉันสามารถถอนสินทรัพย์หกหมื่นล้านได้หรือไม่?”
ชายชรายิ้มและพูดว่า “โทเค็นของคุณ สามารถถอนสินทรัพย์หนึ่งแสนล้านได้สบาย แต่ถ้าเกินหนึ่งแสนล้าน เจ้าของโทเค็นจะต้องมาจัดการด้วยตนเอง”
ฉินหลันตกตะลึง
นี่หมายความว่าอะไร แสดงว่าโทเค็นนี้ มีทรัพย์สินเกินแสนล้าน!
“ปรมาจารย์หลิน นายซ่อนตัวได้ลึกลับมาก!”
ฉินหลันรู้เพียงว่าหลินหยุนต่อสู้เก่ง และรู้ว่าหลินหยุนไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง แต่ว่า ในใจฉินหลัน อย่างมากทรัพย์สินของหลินหยุนน่าจะอยู่ที่หนึ่งพันล้าน
แต่ว่า ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่า ทรัพย์สินของหลินหยุน เหนือกว่าบริษัทตงหวางกรุ๊ปมาก
ฉินหลันมองไปที่ผู้อํานวยการเห้อ!”และพูดว่า “คุณสามารถช่วยโอนเงินไปบัญชีนี้ได้ไหม เป็นเงินหกหมื่นล้านได้ไหม!”
“ได้ครับ” ผู้อํานวยการเห้อ!”พยักหน้า
บริษัทตงหวางกรุ๊ป ออฟฟิตหวางซูเฟิน
หวางโส่วหลี่หาเก้าอี้และนั่งลง หวางเจ๋อยืนอยู่ข้างเขา
หลินหยุนยืนอยู่ข้างๆหวางซูเฟิน ทั้งสองฝ่ายไม่พูดอะไร ต่างกำลังรอฉินหลันกลับมา
เมื่อฉินหลันกลับมาถึง แพ้ชนะจะออกมาทันที
คนแรกที่ได้รับข่าวคือหวางซูเฟิน การแจ้งเตือนทางเอสเอ็มเอสของธนาคารที่เธอผูกไว้ แสดงให้เห็นว่ามีเงินหกหมื่นล้านโอนเข้ามา
สายตาของหวางซูเฟินจ้องไปที่หลินหยุน ชั่วขณะเต็มไปด้วยความตกใจ
“ไอ้หนุ่มคนนี้มีภูมิหลังมาจากไหน! หกหมื่นล้านสำหรับเขาทำไมเอาออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้!”
“เขาเข้าใกล้บริษัทตงหวางกรุ๊ป เป็นความบังเอิญ หรือเพื่อจุดประสงค์อื่น?”
ในไม่ช้า ฉินหลันก็กลับมา
สายตาของทุกคน จับจ้องไปที่ฉินหลันทันที
“ท่านประธาน!” ฉินหลันเรียก ความตื่นเต้นที่แสดงออกมาผ่านสายตาเธอไม่สามารถปกปิดได้
หวางโส่วหลี่และหวางเจ๋อ ต่างก็แสดงความตกใจ จากการแสดงออกของฉินหลัน พวกเขาเดาได้ว่า หลินหยุนสามารถนำเงินออกมาได้หกหมื่นล้านจริงๆ
โดยไม่รอให้ฉินหลันประกาศผล หวางเจ๋อพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “พวกเราไปกันเถอะ!”
หวางซูเฟินพูดอย่างเย็นชา “ทำไม? ไม่รอดูผลก่อนค่อยไปเหรอ?”
หวางโส่วหลี่หยุดเดิน ไม่หันกลับมา และพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “คราวนี้ พวกเราประมาทไป แต่พวกคุณก็อย่าภูมิใจเกินไป ขัดแย้งกับตระกูลหวาง พวกคุณมันไม่รู้จักดูน้ำหน้าของตัวเอง”
“พวกคุณอยู่ตรงหน้าตระกูลหวาง เป็นเพียงมดสองสามตัว ตระกูลหวางต้องการจะจัดการกับพวกคุณ มันง่ายนิดเดียว”
หวางซูเฟินและฉินหลันไม่ได้ตอบโต้ เพราะตระกูลหวางมีคุณสมบัติที่จะพูดเช่นนั้น
“ตระกูลหวางอยู่ในสายตาของฉัน มันก็เหมือนมดนั่นแหละ? ถ้าตระกูลหวางของคุณทำสงครามธุรกิจอย่างเปิดเผย ท่านประธานหวางก็จะยินดีอำนวยการถึงสุดๆ”
“แต่ถ้าตระกูลหวางของคุณกล้าที่จะเล่นกลอุบาย ปรมาจารย์ของตระกูลหวางมาหนึ่งคน ฉันจะฆ่าหนึ่งคน มาสองคน ฉันจะฆ่าทั้งคู่!”
น้ำเสียงของหลินหยุนเย็นชาและไม่แยแส เหมือนกับเทพที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เจตนาฆ่าในคำพูดนั้นเฉียบแหลม ทำให้รู้สึกเยือกเย็น
หวางโส่วหลี่ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลหวาง ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน จะมีคนตามเอาใจ ไม่เคยมีใครกล้าหยาบคายไร้มารยาทกับเขา และไม่มีใครกล้าคุกคามเขาเหมือนที่หลินหยุนทำ
หวางโส่วหลี่หันหัวกลับมาทันที จ้องไปที่หลินหยุนด้วยความโกรธ และตะโกนเสียงต่ำ “ไอ้หนุ่ม แกคิดว่าความแข็งแกร่งของแกแค่นี้ ก็จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม?”
“ฉันขอบอกแก ความแข็งแกร่งที่แกพึ่งพานั้นอยู่ในสายตาของผู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ ไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง!”
“นอกจาก……”
หวางเจ๋อรีบเตือน “ท่านพ่อ ระวังคำพูดให้ดี!”
หวางโส่วหลี่รีบตั้งสติได้ และเปลี่ยนเรื่องทันที “ถ้าวันหนึ่งฝ่าฝืนข้อตกลง แกจะรู้ว่า ความแข็งแกร่งของแกแค่นี้ ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงจริงๆ!”
หลังจากพูดจบ หวางโส่วหลี่และหวางเจ๋อ ก็หันหลังและจากไป
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร มองแผ่นหลังของสองพ่อลูกตระกูลหวาง ด้วยความรู้สึกไม่แยแส “ตระกูลหวาง พวกแกดูถูกความแข็งแกร่งของฉัน แต่ไม่รู้ สิ่งที่เรียกว่ายอดฝีมือในสายตาของพวกแก ในสายตาของฉัน ก็ไม่ต่างจากมด!”
หลินหยุนไม่ได้ตอบโต้ ความสามารถนั้นต้องนำมาพิสูจน์ ไม่ใช่นำมาขี้โม้
รอจนยอดฝีมือที่แท้จริงของหวางโส่วหลี่ปรากฏตัว หลินหยุนจะให้พวกเขารู้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นมด
ทุกคนในบริษัทตงหวางกรุ๊ป ขณะนี้พึ่งแสดงปฏิกิริยาออกมา
“ทำไมจู่ๆคนของตระกูลหวางถึงจากไป?”
“เป็นไปได้ไหมว่า ผู้ช่วยฉินได้เงินหกหมื่นล้านจริงๆ”
“ไร้สาระ ยังต้องถามอีกเหรอ? ถ้าผู้ช่วยฉินไม่ได้เงินหกหมื่นล้าน คนของตระกูลหวางจะยอมจากไปเหรอ!”
“จริงเหรอ? เยี่ยมมาก! ถ้าอย่างนี้แสดงว่าบริษัทตงหวางกรุ๊ปรอดแล้วใช่ไหม!”
ประธานหลี่เป็นผู้นำ เดินไปด้านหน้าหลินหยุน โค้งคำนับและพูดว่า “ปรมาจารย์หลิน ขอบคุณที่ช่วยบริษัทตงหวางกรุ๊ป!”
“ท่านประธาน บริษัทตงหวางกรุ๊ปได้รับการช่วยเหลือแล้ว คุณต้องการลงโทษฉันยังไง ฉันก็ไม่ตำหนิ”
คนที่เหลือก็ก้มหน้าลง “เชิญท่านประธานลงโทษด้วย!”
หวางซูเฟินเหลือบมองทุกคน และถอนหายใจ “ไม่จำเป็น พวกคุณเป็นคนที่ภักดีต่อบริษัทตงหวางกรุ๊ปมากที่สุด!”
“ตอนนี้บริษัทตงหวางกรุ๊ปได้รับการช่วยเหลือแล้ว พวกคุณทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง และเตรียมการโต้กลับ!”
“ครับ!”
ทุกคนต่างพากันดีใจ
จากนั้นทุกคนก็กล่าวคำอำลากับหวางซูเฟิน ในออฟฟิต ก็เหลือเพียงหลินหยุนกับฉินหลันและหวางซูเฟิน
สีหน้าหวางซูเฟินมีความซับซ้อนเล็กน้อย และพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉินหลัน ปิดประตู!”
“ค่ะ!” ฉินหลันเดินไปอย่างสงสัย และปิดประตู