จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 667 จัดการตระกูลเจี่ยงได้สำเร็จ
เจี่ยงจงเชฺวตะโกนว่าอย่าตื่นตระหน แต่จริงๆแล้วในใจรู้สึกกลัวมาก
เขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ระหว่างหลินหยุนกับนักพรตจื่อหยาง และไม่เคยเห็น หลินหยุนฆ่าคน
เขาคิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับหลินหยุนนั้น เป็นแค่ข่าวลือ
เพื่อที่จะใช้โอกาสยืดครองตระกูลเจี่ยงไว้ในกำมือ เขาจึงวางแผนฆ่าเจี่ยงจิงเทียน จากนั้นเรียกญาติห่างๆของตระกูลเจี่ยงกลับมา เพื่อขับไล่เจี่ยงหลินหลินซึ่งเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจี่ยง และยึดครองอำนาจตระกูลเจี่ยง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เห็นหลินหยุนฆ่าผู้คนโดยไม่คำนึงถึงอะไร เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
แม้ว่าผลประโยชน์ของตระกูลเจี่ยงนี้มันน่าดึงดูดใจ แต่เมื่อมีชีวิตไขว่คว้ามา ก็ต้องมีชีวิตเพลิดเพลินกับมัน!
อย่างไรก็ตามเจี่ยงจงเชฺวไม่ใช่คนบ้าระห่ำ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะมีความเก่งกาจตามข่าวลือจริงๆ แต่ว่า เขายังคงเตรียมคนไว้
เขาใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อเชิญปรมาจารย์ชิงมา ปรมาจารย์ชิงท่านนี้เป็นถึงนักบู๊พรสวรรค์ขั้นสูงสุด อยู่ในโลกบู๊ท้องถิ่น เป็นบุคคลระดับปรมาจารย์ และผู้คนนับไม่ถ้วนนับถือเขา
เมื่อนึกถึงปรมาจารย์ชิง เจี่ยงจงเชฺวก็มองไปที่ปรมาจารย์ชิงและพูดอย่างกังวล “ปรมาจารย์ชิง เขาถึงกับฆ่าคนต่อหน้าฝูงชน คุณรีบฆ่าเขาซะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปรมาจารย์ชิงก็ไม่ขยับ แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมสายตาที่มองหลินหยุนนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
“ระเบิดกำลังหว้า คุณคือ ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด!”
ปรมาจารย์ชิงไม่เคยคาดฝัน ว่าชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆ จะกลายเป็นปรมาจารย์บู๊!
และความรู้สึกที่หลินหยุนมีต่อปรมาจารย์ชิงไม่มีอารมณ์ที่จะลงมือเลย นักบู๊พรสวรรค์สูงสุด สำหรับเขานั้น มันอ่อนเกินไป
หลินหยุนมองไปที่ปรมาจารย์ชิงและถามอย่างเฉยชา “คุณต้องการสู้กับฉันหรือไม่?”
ปรมาจารย์ชิงตกใจ และรีบโบกมือไปมา “ไม่ๆๆ รุ่นน้องจะกล้าสู้กับปรมาจารย์ได้อย่างไร! เมื่อครู่นี้รุ่นน้องมีตาแต่หามีแวว ล่วงเกินท่านอาวุโส และหวังว่าท่านอาวุโสจะยกโทษให้!”
หลังจากพูดจบ ปรมาจารย์ชิงก็คุกเข่าต่อหน้าหลินหยุนทันที
ปรมาจารย์ชิงคนนี้ช่างไร้ค่าจริงๆ เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ แม้แต่ศักดิ์ศรีของนักบู๊ก็ไม่เอาแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้ เจี่ยงจงเชฺวนิ่งอึ้งทันที
ในเวลานี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า ข่าวลือเกี่ยวกับหลินหยุนนั้น มันไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นข้อเท็จจริง
สมองของเจี่ยงจงเชฺวก็ไวเหมือนกัน หลังจากตั้งสติขึ้นมาได้ ก็รีบคุกเข่าตามปรมาจารย์ชิงทันที ก้มกราบและพูดว่า “ปรมาจารย์หลิน ฉันถูกคนพวกนี้สะกดจิต ทำให้ปรมาจารย์หลินขุ่นเคือง ขอให้ปรมาจารย์หลินยกโทษให้ด้วย!”
“ตอนนี้ฉันจะมอบตระกูลเจี่ยงให้กับปรมาจารย์หลิน ปรมาจารย์มั่นใจได้ว่า ฉันไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงแม้แต่นิดเดียว”
เจี่ยงหลินหลินยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า “แกอยากแตะต้อง แต่แกมีกุญแจไหม?”
ในดวงตาของเจี่ยงจงเชฺวมีแววความชั่วร้ายแวบเข้ามา แต่ต่อหน้าหลินหยุน เขาไม่กล้าโจมตี
พฤติกรรมของเจี่ยงจงเชฺว ทำให้คนของตระกูลเจี่ยงทุกคนตกตะลึง
ปรมาจารย์ชิงแค่ขอโทษและยอมรับผิด แต่เจี่ยงจงเชฺวนี่ตัวดี โยนความรับผิดชอบให้พวกเขาโดยตรง
นี่ต้องการให้ปรมาจารย์หลินฆ่าพวกเขาเหรอ!
ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเจี่ยงไม่ยอมแล้ว
“เจี่ยงจงเชฺวแกหมายความว่าอย่างไร? ใครไปสะกดจิตแก!”
“ใช่แล้ว เห็นได้ชัดว่าแกสะกดให้พวกเราช่วยกันแบ่งแย่งทรัพย์สินตระกูลเจี่ยง แต่ตอนนี้กลับโยนความผิดให้ แกมันเป็นคนที่ต่ำช้าน่ารังเกียจ!”
ทุกคนต่างพูดตำหนิเจี่ยงจงเชฺว
หลินยุนเหลือบมองเจี่ยงจงเชฺวอย่างย็นชา “แกคิดว่าจะสามารถหลอกฉันได้หรือ?”
“แกมันสมควรตาย”
หลังจากพูด หลินหยุนยื่นมือออกและชี้ พลังทิพย์ก็แทงทะลุระหว่างคิ้วของเจี่ยงจงเชฺว เจี่ยงจงเชฺวเสียชีวิต
“อ๊ะ!”
คนตระกูลเจี่ยงที่เหลือ ตกใจจนหน้าซีดเซียว
วิธีการฆ่าของหลินหยุนนั้นเด็ดขาด ทำให้คนของตระกูลเจี่ยงทุกคนตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ฆ่ามั่วๆ หันกลับมามองเจี่ยงหลินหลินแล้วถามว่า “ใครเป็นคนย่ำยีเธอ?”
เจี่ยงหลินหลินผงะ สายตาที่มองหลินหยุน เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
จากนั้น เจี่ยงหลินหลินมองไปที่ฝูงชน ก็ชี้ไปที่คนสองสามคน
“เขา ยังมีเขา… คนพวกนี้ ผลัดกันย่ำยีฉัน!”
หลินหยุนเหลือบมองคนสองสามคนอย่างนิ่งเฉย “แม้แต่ญาติของตัวเองก็ไม่ละเว้น พวกแกสมควรตาย”
หลินหยุนยื่นมือออกแล้วชี้ไปสองสามครั้ง และทุกคนที่เจี่ยงหลินหลินชี้ให้ดู ก็ถูกฆ่าจนหมด
ต่อหน้าพลังที่แข็งแกร่งของหลินหยุน แม้แต่จะหลบหนีพวกเขาก็ไม่สามารถทำได้
คนตระกูลเจี่ยงที่เหลือ รีบคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตกใจ ขอร้องอ้อนวอนเสียงดัง “ปรมาจารย์หลิน พวกเราไม่เคยคิดที่จะยักยอกทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยง! และพวกเราไม่เคยย่ำยีคุณหนูใหญ่ ขอความเมตตาจากปรมาจารย์หลินด้วย!”
หลินหยุนเหลือบมองเจี่ยงหลินหลิน และถามว่า “ยังจะฆ่าใครอีก?”
เจี่ยงหลินหลินส่ายหัว แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ช่วยคนร้ายทำชั่ว แต่ได้มองดูเธอถูกคนเดรัจฉานที่เจี่ยงจงเชฺวพามาย่ำยี และไม่ยอมช่วยเหลือ
แต่ว่า ความผิดนี้ไม่ถึงตาย
นอกจากนี้ หากฆ่าคนเหล่านี้จนหมด ถ้างั้นชี่ทิพย์ของตระกูลเจี่ยงคงได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างหนัก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่พ่อและท่านปู่ของเจี่ยงหลินหลินอยากเห็น
“พอแล้ว หลินหยุน ขอบคุณมาก!”
เจี่ยงหลินหลินหลั่งน้ำตาอย่างซาบซึ้ง
เธอไม่เคยไม่เคยฝันว่า ญาติของตัวเองจะกลายเป็นศัตรูที่ทำร้ายเธอมากที่สุด และศัตรูที่ฉกาจที่สุด กลับกลายเป็นผู้มีพระคุณของเธอ
โชคชะตาสร้างเรื่องตลกที่สุดให้กับเธอ!
“ฉันไม่ใช่ทำเพื่อเธอ เพียงแค่ทนดูไม่ได้กับผู้ชายที่รังแกผู้หญิง”
หลินหยุนพูดอย่างไม่แยแส
“ตอนนี้สามารถมอบตระกูลเจี่ยงให้ฉันได้แล้ว”
เจี่ยงหลินหลินพยักหน้า “ได้!”
เจี่ยงหลินหลินหยิบกุญแจออก และพูดกับหลินหยุนด้วยความเคารพ “เชิญตามฉันมา!”
เจี่ยงหลินหลินพาหลินหยุน ไปที่ประตูเหล็กขนาดใหญ่ในห้องใต้ดิน
ประตูเหล็กนี้ทำมาจากเหล็กละเอียดสีดำ ซึ่งหนามาก คาดว่าแม้จะใช้ระเบิดก็ไม่สามารถระเบิดให้พังได้
ที่ประตู มีตัวล็อคทองเหลืองเรียบง่ายและโบราณ
ขนาดของตัวล็อคนี้ มีขนาดเท่าลูกฟุตบอล
ไม่น่าแปลกใจที่เจี่ยงจงเชฺวจะใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้เพื่อทรมานเจี่ยงหลินหลิน บังคับให้เจี่ยงหลินหลินมอบกุญแจให้
ที่แท้ ห้องลับของตระกูลเจี่ยง ถ้าไม่มีกุญแจ คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้เลย
แม้ว่าจะเป็นนักบู๊ระดับปรมาจารย์ คาดว่าเมื่อเห็นประตูและตัวล็อคนี้ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เจี่ยงหลินหลินเปิดประตูห้องลับ และภายในก็มีแสงส่องประกาย
ตระกูลเจี่ยงเก็บทองคำไว้มากมายเช่นนี้
แน่นอนว่า ยังมีของล้ำค่ามากมาย รวมทั้งข้อมูลลับสุดยอดของตระกูลเจี่ยง
ตระกูลเจี่ยงเคยเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน และมีความมั่งคั่งที่สะสมไว้จนน่าตกใจ
แม้กระทั่ง ตระกูลเจี่ยงก็ยังได้ฝึกฝนผู้มีพลังอำนาจมากมาย ซึ่งทั้งหมดได้รับการบันทึกไว้ในเอกสารเหล่านี้
แต่น่าเสียดายที่ หลินหยุนไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เลย
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจี่ยงเฉิงไปรังแกหยางเทียนโย่ว เขาอาจจะลืมไปว่าเจี่ยงหลินหลินยังเป็นหนี้เขาอยู่
“เธอลองพูดคร่าวๆให้ฉันฟัง ทรัพย์สินหลักของตระกูลเจี่ยงมีอะไรบ้าง” หลินหยุนพูดเบาๆ
เจี่ยงหลินหลินเปิดกองเอกสารข้อมูล และเริ่มอ่านให้หลินหยุนฟัง
ทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงนั้นมีมากมายจริงๆ และนอกเหนือจากรายที่ได้เปิดเผยออกมา ยังมีรายได้อีกมากที่ไม่ถูกกฎหมาย
เจี่ยงหลินหลินรายงานให้หลินหยุนจนหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยทรัพย์สินมากมาย ตอนที่เจี่ยงหลินหลินอ่าน ได้แยกแยะเป็นหมวดหมู่อย่างอัตโนมัติ ซึ่งทำให้หลินหยุนเข้าใจง่าย
ซึ่งทำให้หลินหยุนชื่นชมเธอมาก
หลังจากอ่านหมดแล้ว เจี่ยงหลินหลินพูดว่า “นี่เป็นทรัพย์สินหลักของตระกูลเจี่ยง และมีทรัพย์สินขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ30% ของทรัพย์สินตระกูลเจี่ยง หากนายอยากรู้ ตอนนี้ฉันสามารถรายงานทีละเรื่อง”
หลินหยุนพูดเบาๆ “ไม่จำเป็น”
รู้จักทรัพย์สินหลักของตระกูลเจี่ยง ก็เพียงพอแล้ว
นอกเหนือจากนี้ หลินหยุนไม่สนใจ
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้หลินหยุนจะประสบปัญหาหนึ่ง
ใครจะมาดูแลตระกูลเจี่ยงต่อ?”
บุคคลนี้ ก่อนอื่นต้องซื่อสัตย์ และควรคุ้นเคยกับตระกูลเจี่ยงที่สุด มิฉะนั้น ถ้าคนที่ไม่คุ้นเคยกับตระกูลเจี่ยงเข้ามา ทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงจะต้องสูญหายอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะที่หลินหยุนมองไปที่เจี่ยงหลินหลิน หัวใจก็คล้อยตาม
ตรงหน้า ก็มีคนที่เหมาะสมที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ?