จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 70 นี่คือผู้ช่วยที่คุณหามา
บทที่ 70 นี่คือผู้ช่วยที่คุณหามา
“ชายที่มีหกนิ้วคนนั้น คือเทพพนันหลิงหนานอู๋กั๋วส้วงลูกน้องผู้มีอิทธิพลเส้เทียนหัวใช่ไหม?”
“เป็นเขา นอกจากเขาแล้ว จะมีใครที่สามารถทำให้เจ้านายเมืองศตวรรษต้าฮัวก้มหัวปรนนิบัติได้!”
“แต่ว่า ไอ้หนุ่มคนนั้นเป็นใคร? ทำไมอู๋กั๋วส้วงถึงเคารพเขาขนาดนี้?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? แต่คนที่สามารถทำให้เทพนันหกนิ้วเคารพนั้น ต้องเป็นแขกผู้มีเกียรติของท่านเส้แน่นอน!”
ทุกคนสนทนากัน แอบเดาตัวตนที่แท้จริงของหลินหยุน
หวางเสี่ยวซีและคนอื่นๆนิ่งอึ้งไปเลย
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”
“คนที่มีนิ้วมือหกนิ้ว ใช่คนที่พวกเราเคยพบที่หอเฟยชุ่ยหรือเปล่า? ขณะนั้นหลินหยุนได้ปฏิเสธเขาไปแล้ว!”
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ตอนนี้เขาออกหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาให้หลินหยุนด้วยตัวเอง!”
เมื่อเห็นการสมรู้ร่วมคิดที่กำลังจะประสบความสำเร็จ ทุกอย่างกลับพังทลายทันที หวางเสี่ยวซีจึงไม่พอใจ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังส่งผลทำให้คุณอาของเขาถูกไล่ออก
ใบหน้าที่เสียใจของหวางเสี่ยวซีเปลี่ยนเป็นซีดเซียว และเธอไม่รู้ว่าหลังจากออกไปแล้วจะเผชิญหน้ากับคุณอายังไง
หลี่เหยนกำหมัดไว้แน่น ด้วยท่าทางที่น่ากลัว จ้องมองไปที่ด้านหลังของหลินหยุน และบ่นพึมพำในใจ “ ทำไม สำหรับแมงดาเศษสวะอย่างเขามีสิทธิ์อะไร!”
“ผู้มีอิทธิพลอย่างเจี่ยงสงมองเขาด้วยความชื่นชมแล้ว ตอนนี้แม้แต่เส้เทียนหัวท่านเส้ก็อยากร่วมมือกับเขา เขามีสิทธิ์อะไร!”
จ้าวกางก็มีท่าทางงุนงง ใช้เวลานานก่อนที่จะบ่นพึมพำสี่คำ “ฉันไม่อยากเชื่อ!”
ใบหน้าของเว่ยเทียนหมิงเคร่งขรึม และก็ตกตะลึงเป็นเวลานาน “หลินหยุน ดูเหมือนว่านายจะมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นศัตรูของฉัน!”
อารมณ์ของเซี่ยหยู่เวยซับซ้อน เธออยากเห็นหลินหยุนอับอาย เพราะเธอทนไม่ไหวต่อท่าทางที่หยิ่งผยองของหลินหยุน
เธอต้องการที่จะทำลายหน้ากากที่หลินหยุนใช้ในการอำพรางตัว และต้องการให้ตัวเธอเองอยู่เหนือคนอื่น
แต่ว่า หลินหยุนเป็นสามีในนามของเธอ ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับหลินหยุนก็เป็นของเธอครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ลึกๆในใจของเธอแล้ว ก็หวังว่าหลินหยุนจะแข็งแกร่งขึ้น!
แต่จนถึงขณะนี้ ความหวังที่เซี่ยหยู่เวยอยากเห็นหลินหยุนอับอายยังครอบงำตัวเอง หากท่าทีที่หยิ่งผยองของหลินหยุนไม่ลดลง แม้ว่าหลินหยุนจะแข็งแกร่งเพียงใด เธอก็จะไม่อาจมีความสุขกับเกียรติยศในฐานะภรรยาของหลินหยุน
เพราะว่า เซี่ยหยู่เวยจะไม่มีทางก้มหัวให้หลินหยุนก่อนแน่นอน
“หลินหยุน ปล่อยให้นายรอดพ้นไปอีกครั้ง!” เซี่ยหยู่เวยกำหมัดแน่น ไม่ยอมรามือ
หลินหยุนพาอีหลิง และตามอู๋กั๋วส้วงไปที่ห้องรับรองสุดหรู
ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งในชุดสูทสีดำเปิดประตู อู๋กั๋วส้วงมองไปที่ชายวัยกลางคนที่นอนพิงอยู่บนโซฟา นั่งไขว่ห้าง และพูดด้วยความเคารพกับชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งหลับตา “ท่านเส้ คุณหลินมาถึงแล้ว!”
ชายวัยกลางคนดูแล้วก็เหมือนคนธรรมดา ถ้าเข้าไปปะปนในฝูงชนก็เหมือนกันหมด แต่ว่า ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมา เหมือนสิงโตเหลียวหลังช่างน่ากลัวและน่าเกรงขาม ชั่วขณะก็แตกต่างไปจากคนธรรมดาในทันที
เส้เทียนหัวยังไม่ทันพูดอะไร คนตรงข้ามเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวหรูหรา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ชายหนุ่มที่กำลังดื่มน้ำชา ก็พ่นน้ำชาออกจากปาก
ชายหนุ่มวางถ้วยน้ำชาในมือลง และหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “เส้เทียนหัว นี่เป็นผู้ช่วยที่คุณเชิญมาหรือ? ถ้าไม่มีคนฉันสามารถให้คุณยืมได้ และไม่จำเป็นต้องหาเด็กอ่อนหัดแบบนี้เข้ามา!”
คนอื่นๆในห้องก็พากันหัวเราะเยาะเย้ย คนที่กล้าหัวเราะเยาะเส้เทียนหัว สามารถจินตนาการถึงตัวตนของพวกเขาได้
เส้เทียนหัวกำลังมองไปที่หลินหยุนอย่างครุ่นคิด และสงสัยว่าหลินหยุนที่อายุน้อยขนาดนี้ มีความสามารถอะไรได้บ้าง?
ถ้าไม่ใช่คำแนะนำจริงจังของอู๋กั๋วส้วง เส้เทียนหัวก็ไม่เห็นด้วยแน่นอน
ตอนนี้ฉินอู๋ซวงก็ใช้โอกาสที่จะเยาะเย้ย ชั่วขณะเส้เทียนหัวรู้สึกขายหน้า
“นี่คือเทพพนันที่เก่งกว่านายสิบเท่า? อู๋กั๋วส้วง นายคิดว่าฉันยังอับอายไม่พอหรือ!” เส้เทียนหัวบ่นพึมพำ
อู๋กั๋วส้วงอายจนหน้าแดง เขารีบอธิบาย “ท่านเส้ อายุไม่ใช่ตัวชี้วัดความสามารถ คุณอย่าดูถูกคุณหลินเด็ดขาด!”
เส้เทียนหัวเหลือบมองหลินหยุนอย่างเบื่อหน่าย โบกมือและพูดว่า “เอาล่ะๆ นายพาเขาไปนั่งด้านหลัง!”
ไม่ว่าอู๋กั๋วส้วงจะพูดยังไง เส้เทียนหัวก็รู้สึกว่าหลินหยุนอายุน้อยเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสามารถอย่างแท้จริง
อู๋กั๋วส้วงเดินไปหาหลินหยุนด้วยความลำบากใจเล็กน้อย และพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหลิน ท่านเส้บอกให้พวกเราไปพักผ่อนด้านหลังก่อน!”
แม้ว่าเส้เทียนหัวกับอู๋กั๋วส้วงจะสนทนากันเสียงเบา แต่ถ้าหลินหยุนต้องการฟัง ไม่มีคำพูดใดสามารถเล็ดลอดออกจากหูของเขาได้
เขารู้ว่าผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ รวมทั้งเส้เทียนหัว เห็นว่าเขายังเด็ก และดูหมิ่นเขา
แม้ว่าอู๋กั๋วส้วงจะพยายามอธิบายเต็มที่ แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง อู๋กั๋วส้วงไม่ยอมบอกความจริง อาจเป็นเพราะกลัวเขาจะรับไม่ได้ และอาจไปจากที่นี่ด้วยความโกรธ
หลินหยุนไม่ได้เปิดเผยความจริงออกมา แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร และพาอีหลิง เดินตามอู๋กั๋วส้วงไปพักผ่อนด้านหลัง
หลินหยุนนั่งอยู่ข้างหลัง ฟังคนเหล่านี้พูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของการเดิมพัน จากการสนทนาของพวกเขาหลินหยุนเรียนรู้ว่า ช่วงเวลาในการเดิมพัน ยังเป็นเวลามงคลที่ปรมาจารย์เป็นคนเลือกไว้
ทันใดนั้นหลินหยุนก็เดาได้ว่า ปรมาจารย์คนนี้อาจเป็นซูจื่อเหลียง
หลินหยุนฟังกลุ่มคนมีอิทธิพลเหล่านี้พูดข่มเหงกัน ชมเชยกัน ฟังจนหูชาไปหมด
หลินหยุนไม่พูดอะไร และอีหลิงที่อยู่ข้างๆก็ไม่พูดอะไร โดยใช้ดวงตาโตที่งดงามมองไปที่ทุกคนอย่างครุ่นคิด เธอรู้สึกว่านิสัยชอบดูหมิ่นดูแคลนของผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ไม่ต่างจากเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้นของเธอ
ความเคารพและความกลัวที่อีหลิงมีต่อผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ
ช่วงเช้าเวลา 10:08 น. ถึงเวลามงคลที่ปรมาจารย์เป็นคนเลือกมา การเดิมพันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เมื่อหลินหยุนตามอู๋กั๋วส้วง ติดตามเส้เทียนหัวและคนอื่นๆก้าวเข้าไปในหอเฟยชุ่ย ก็มีเสียงทำความเคารพดังขึ้นกะทันหัน
“ขอคารวะท่านเส้!”
คนเหล่านี้เป็นคนดังและคนรวยจากเว่ยเหอ
“สวัสดีคุณชายอู๋ซวง!”
คนเหล่านี้เป็นคนรวยและคนดังจากฉินโจว
ผู้มีอิทธิพลสองคนสุดท้ายที่ปรากฏตัว อาจเป็นเพียงตัวสำรอง ไม่มีใครแสดงความเคารพต่อพวกเขา
หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย การทำความเคารพแบบนี้แทบไม่มีในสังคมสมัยใหม่ ความรู้สึกกับอำนาจของผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ เริ่มมีความเข้าใจใหม่ๆเกิดขึ้น
เมื่อสักครู่อีหลิงยังรู้สึกว่าผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ก็งั้นๆแหละ แต่ตอนนี้รู้สึกตกใจกับบรรยากาศที่มีพลังอำนาจนี้มาก และไม่กล้าที่จะดูถูกผู้มีอิทธิพลเหล่านี้อีกต่อไป
เส้เทียนหัวแค่โบกมือให้คนรอบข้าง และพูดเสียงดังว่า ทุกท่านในเว่ยเหอ ลำบากทุกท่านจริงๆ!”
ฉินอู๋ซวงยิ่งเป็นคนตรงไปตรงมา เพียงแค่โบกมือให้ทุกคน ไม่พูดอะไร แล้วเดินไปที่โต๊ะโป๊กเกอร์โดยตรง
เส้เทียนหัวให้ผู้มีอิทธิพลทั้งสี่คนนั่งลง และผู้ช่วยที่พวกเขาพามา นั่งข้างหลังที่ห่างออกไปคนละสองเมตร
หลินหยุนกับอีหลิงและอู๋กั๋วส้วงนั่งอยู่ด้วยกัน
ในบรรดาสี่คน ยกเว้นฉินอู๋ซวง ด้านหลังเส้เทียนหัวและผู้มีอิทธิพลอีกสองคน ต่างมีชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่ายืนอยู่
อู๋กั๋วส้วงแนะนำให้หลินหยุนฟังอย่างเงียบๆ “คุณหลิน ชายที่มีหูสามข้างที่อยู่ข้างๆท่านเส้ คือเทพพนันในมณฑลเป่ยซินชื่อหวางสุ้น”
หลินหยุนสังเกตเห็นคนนี้ตั้งนานแล้ว เป็นเพราะหูของเขาแปลกมาก เพราะหูข้างหนึ่งมีติ่งหูมากกว่าคนปกติข้างหนึ่ง
“ผู้ชายอ้วนคนนั้นคือผู้มีอิทธิพลในชิงหยางชื่อฟางเยว่ และคนข้างๆเขาคือเทพพนันชิงหยางชื่อเว่ยเต๋อลี่ ชายร่างผอมและสูงที่มีจมูกงุ้มลงคือผู้มีอิทธิพลในหลอซานชื่อฉีว่างหมิง และข้างหลังเขาคือเทพพนันหลอซานชื่อกู่ไหลเฟิง”
“วันนี้พวกเขาสองคนมา ทำหน้าที่เป็นตัวสำรอง และเพื่อเป็นพยาน ดังนั้น ปรมาจารย์ทั้งสองที่พวกเขาเชิญมา จึงไม่ค่อยน่ากลัวนัก”
“ขอเพียงพวกเราจับตาดูฉินอู๋ซวงก็พอ”
ทันทีที่อู๋กั๋วส้วงพูดจบ ฉินอู๋ซวงก็ยิ้มร่า แล้วพูดว่า “ท่านเส้ เริ่มกันได้หรือยัง?”
เส้เทียนหัวตอบรับอย่างเย็นชา “พร้อมอำนวยการทุกเวลา!”