จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 719 ตระกูลเซี่ยประสบปัญญา
หลิ่วหยวนเดินมายังด้านหน้าของหลินหยุน แล้วก็โค้งคำนับแสดงความเคารพ
“หมอเทพหลิน วิชาการแพทย์เก่งกาจยอดเยี่ยม ฉันยอมรับนับถือ! ”
“ก่อนหน้านี้ เป็นฉันเองที่มีตาแต่หามีแววไม่ หวังว่าหมอเทพหลินจะให้อภัย! ”
จากหลิ่วหยวนที่หยิ่งยโส ก็ยังก้มศีรษะลงต่อหลินหยุน
แสดงว่า วิชาการแพทย์ของหลินหยุนนั้น ทำให้เขายอมรับอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดขึ้น
หลิ่วหยวนเบาใจลงได้อย่างชัดเจน ลุกยืนขึ้น โค้งตัวลงไปข้างหน้าเล็กน้อย ราวกับผู้น้อยแสดงท่าทางเคารพต่อผู้อาวุโส
“หมอเทพหลิน ตระกูลหลิ่วของเราคือหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ซึ่งกำลังค้นหาและหวงแหนผู้ที่มีความสามารถอย่างมาก ถ้าหากหมอเทพหลินสนใจที่จะเข้าร่วมกลุ่ม ก็สามารถมาหาตระกูลหลิ่วของพวกเราได้ทันทีเลย!
“ฉันรับรองว่า ตระกูลหลิ่วจะปฏิบัติต่อหมอเทพหลินในฐานะแขกผู้มีเกียรติอย่างแน่นอน! ”
มิน่าล่ะที่หลิ่วหยวนถึงเคารพนอบน้อมขนาดนี้ ที่จริงแล้วก็คิดที่จะตีสนิทกับตัวเอง
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “ตอนนี้ฉันไม่สนใจ”
“อย่างนั้นก็น่าเสียใจจริง ๆ” หลิ่วหยวนมีสีหน้าท่าทางที่ผิดหวัง จึงได้ขอตัวลากลับ แล้วก็หันหลังเดินจากไป
จากนั้น หลินหยุนก็เดินทางออกจากตระกูลนิ่ง
นิ่งโหย่วฉายเสนอตัวที่จะไปส่งหลินหยุน แต่ว่า กลับถูกนิ่งเฟิ่งเซียนขัดขวางเอาไว้
นิ่งเฟิ่งเซียนแสดงท่าทีว่า ให้นิ่งโหย่วหรงไปส่งหลินหยุนตามลำพัง
หลินหยุนปฏิเสธไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องยอมตกลง
รถยนต์ของนิ่งโหย่วหรง คือรถยนต์ออดี้ A4 สีขาว เป็นรถรุ่นธรรมดา ซึ่งก็สอดคล้องกับท่าทางที่ไม่แยแส ไม่ใส่ใจกับโลกภายนอกของเธอ
หลินหยุนนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ส่วนนิ่งโหย่วหรงเป็นคนขับรถ
ภายในรถสะอาดและเป็นระเบียบ มีกลิ่นหอมที่เบาบาง โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นหอมจากร่างกายของ นิ่งโหย่วหรง หรือว่ากลิ่นน้ำหอมภายในรถ
“คุณพักอยู่ที่ไหน? ” นิ่งโหย่วหรงถามขึ้น โดยมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาที่สดใส
หลินหยุนไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่งในเมืองหลวง ตอนนี้ยังเหลือเวลาอยู่อีกมากก่อนที่จะถึงเวลานัดกับหงซานเหอ ซึ่งหลินหยุนเองก็ยังไม่รีบร้อนที่จะแจ้งหงซานเหอ
“ไปส่งฉันที่โรงแรมที่เงียบสงบที่ไหนที่หนึ่งก็ได้! ” หลินหยุนพูดขึ้น
นิ่งโหย่วหรงหันหลับมา แล้วก็รัดเข็มขัดนิรภัย และสตาร์ทรถขึ้น
“อันที่จริง ถ้าหากคุณไม่มีที่พัก ไม่อย่างนั้นก็พักอยู่ที่บ้านของฉันก่อนก็ได้”
“ไม่ต้องหรอก ฉันกลัวว่าจะยุ่งยาก” หลินหยุนไม่ต้องการที่จะสนิทสนมกับตระกูลนิ่งมากเกินไป เพราะตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับนิ่งโหย่วหรงอย่างไร
แม้ว่าเขาจะปฏิเสธคู่ครองที่นิ่งเฟิ่งเซียนเสนอให้ต่อหน้าทุกคน แต่ว่า เมื่อดูจากการกระทำของนิ่งเฟิ่งเซียนแล้ว ชัดเจนว่าเขายังคงไม่ละทิ้งความคิดนี้
ครั้งนี้จงใจที่จะให้นิ่งโหย่วหรงมาส่งเขา เกรงว่าจะหมายให้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง
ส่วนนิ่งโหย่วหรงจะคิดอย่างไรนั้น แม้แต่หลินหยุนเองก็ยังมองไม่ออก
ผู้หญิงอย่างนิ่งโหย่วหรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้ว หรือในชาตินี้ ในตัวของเธอ มีความลับตลอดจนมองไม่ออก
ต่อให้เป็นหลินหยุน ก็ยังไม่สามารถมองออกถึงความคิดในใจของเธอได้
ในชาติที่แล้ว หลินหยุนเองก็รังเกียจเธอที่ดูถูกตนเอง แต่ว่า ตอนที่หลินหยุนประสบกับอันตราย เธอกลับช่วยเหลือหลินหยุนอยู่หลายครั้ง และช่วยหลินหยุนจัดการในหลากหลายเรื่อง
ทำให้ในตอนนี้ความรู้สึกของหลินหยุนที่มีต่อเธอนั้น มันช่างย้อนแย้งกันไปหมด
ถึงขนาดที่ว่า แม้แต่นิ่งโหย่วหรงตกลงว่าเป็นผู้หญิงลักษณะอย่างไร หลินเองก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน
ซึ่งแตกต่างกับผู้หญิงคนอื่นที่หลินหยุนเคยพบเจอมาตลอดชีวิต
เซี่ยหยู่เวยที่หยิ่งยโสจองหอง เถียนชุ่ยชุ่ยที่รักในชื่อเสียงเกียรติยศและเงินทอง อีหลิงที่ภายนอกเย็นชาแต่ภายในร้อนรุ่ม อันซินที่ไร้เดียงสาและจิตใจดี ฉินหลันที่มีความเป็นผู้ใหญ่และหนักแน่น……
ลักษณะนิสัยของคนเหล่านี้มีทั้งดีและร้าย ต่างก็แสดงออกจากชัดเจน เพียงแค่มองก็สามารถแยกแยะได้
มีเพียงนิ่งโหย่วหรง ที่ยากจะแยกแยะว่าดีหรือร้าย โดยมีลักษณะนิสัยคลุมเครือ
หลินหยุนปฏิเสธข้อเสนอของเธอ นิ่งโหย่วหรงเองก็ไม่ได้รั้งตัวเอาไว้ โดยได้ขับรถไปยังโรงแรม หวางฝู่ที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง
“ที่นี่น่าจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองหลวง หวังว่าจะสามารถทำให้คุณพึงพอใจ”
นิ่งโหย่วหรงหันหน้ามองไปที่หลินหยุน โดยท่าทางยังคงเฉยชาเหินห่างเหมือนเคย เหมือนกับว่าไม่สนใจอะไร ในสิ่งต่าง ๆ เลย
“ขอบคุณ” หลินหยุนกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ลงจากรถ
นิ่งโหย่วหรงมองผ่านกระจก ไปยังหลินหยุน ด้วยใบหน้าอันสวยงาม ที่ยังคงไม่ได้แสดงท่าทางอะไร: “ ลาก่อน แล้วค่อยพบกัน! ”
“ลาก่อน แล้วค่อยพบกัน! ”
หลินหยุนมองไปที่รถยนต์ออดี้สีขาวของนิ่งโหย่วหรง ค่อย ๆ วิ่งหายไปท่ามกลางถนนที่มีแสงไฟจากรถยนต์จำนวนมาก ลังเลเล็กน้อย หันหลัง แล้วก็เดินเข้าไปในโรงแรม
โรงแรมหรูหราโอ่อ่าเป็นอย่างมาก แต่ว่า สำหรับหลินหยุนแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไร
หลินหยุนบำเพ็ญฝึกฝนหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้น ใช้พลังทิพย์ปัดเป่าทั่วร่างกาย สะอาดสะอ้านและสดชื่นแจ่มใสอย่างที่สุด
ช่วงเช้าเวลาเก้าโมงกว่า โทรศัพท์ของหลินหยุนมีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น คือโจวเฟินที่เป็นคนโทรมาหา
“น้าเฟิน! ” หลินหยุนรับสายโทรศัพท์ และเรียกขานด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน
“เสี่ยวหยุน ตอนนี้นายสามารถมาที่เมืองหลวงได้ไหม? พวกเราประสบกับปัญหาแล้ว ฉันคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะหาใครมาช่วยได้ ก็เลยโทรศัพท์มาหานายเพื่อขอความช่วยเหลือ” น้ำเสียงของ โจวเฟินเต็มไปด้วยความร้อนรน แสดงว่า น่าจะถึงขั้นที่สุดหนทางจนปัญญาแล้วจริง ๆ
“ฉันอยู่ที่เมืองหลวง คุณอยู่ที่ไหนเหรอ? ” หลินหยุนถามขึ้น
หลินหยุนนับถือโจวเฟินในฐานะญาติมาโดยตลอด สถานะในใจของหลินหยุนนั้น ก็เหมือนกับหวางซูเฟิน หากโจวเฟินประสบปัญหา หลินหยุนจะไม่ชักช้ารีรอเลย
“นายอยู่ที่เมืองหลวง ดีมากเลย! นายรอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะส่งที่อยู่ไปให้” โจวเฟินพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีอกดีใจ
ชั่วครู่ โจวเฟินก็ได้นำที่อยู่ ส่งเข้าไปในโทรศัพท์ของหลินหยุน
หลินหยุนรีบเรียกรถแท็กซี่ทันที
“พี่คนขับ ไปที่อาคารนานาชาติฉีหวง! ”
คนขับเป็นคนเก่าแก่ดั้งเดิมในเมืองหลวง ขับรถไปพลาง และก็ถามขึ้นด้วยสำเนียงเมืองหลวงไปพลางว่า: “ที่นั่นคือตลาดสินค้าแพทย์แผนจีนที่ใหญ่ที่สุด เจ้าหนุ่มจะไปซื้อยาใช่ไหม? ”
“ฉันจะไปหาคน รีบขับเร็วขึ้นอีก ค่าเดินทางเพิ่มขึ้นสองเท่า” หลินหยุนพูดขึ้น
“นั่งดี ๆ นะ”
ขับมาอย่างรวดเร็วตลอดเส้นทาง หากว่าเป็นคนธรรมดา เกรงว่าคงจะอาเจียนอย่างหนักไปแล้ว
แต่ว่า หลินหยุนไม่เป็นอะไร
หลังจากที่ลงจากรถ หลินหยุนก็ได้จ่ายค่าเดินทางสองเท่า: “ไม่ต้องทอนแล้ว”
คนขับมองไปที่หลินหยุนอย่างตกตะลึง: “เจ้าหนุ่ม นายให้ฉันขับอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นคนแรกเลยที่นั่งอยู่ในรถแล้วไม่อาเจียนออกมา! ”
หลินหยุนรีบเสาะหาตามตำแหน่งทันที และก็พบสถานที่อย่างรวดเร็ว
ครอบครัวของโจวเฟินทั้งหมด ต่างก็อยู่กันที่นี่ แต่ว่า ถูกวัยรุ่นเจ็ดแปดคนล้อมเอาไว้หมดแล้ว
ที่นี่คือร้านค้าที่ชื่อว่าหอหลิ่วมู่ จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท มีทั้งวัตถุดิบยาสมุนไพร หนังสือการแพทย์ รวมถึงตำราสืบทอดที่มีเพียงเล่มเดียว
“น้าเฟิน เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ”
หลินหยุนตะโกนขึ้น แล้วก็เดินตรงเข้ามา
วัยรุ่นที่ยืนขวางอยู่ด้านหน้าของหลินหยุน เหมือนกับโดนพลังที่ไม่มีตัวตนจนต้องหลบหลีกให้
หลินหยุนเดินเข้ามาโดยไม่มีสิ่งกีดขวางจนมาถึงด้านหน้าของโจวเฟิน
โจวเฟินพูดขึ้นอย่างดีใจว่า: “เสี่ยวหยุน นายมาได้เร็วมากเลย! ”
เห็นหลินหยุนมาถึง สายตาของเซี่ยหยู่เวย เปล่งประกายท่าทีที่ซับซ้อน
“โอ้โห หาคนมาช่วยแล้วเหรอ? แต่ว่าวันนี้พวกคุณหาใครมาช่วยก็ไม่มีประโยชน์ วิชาฝังเข็มเล่มนี้ เป็นของฉัน! ”
วัยรุ่นที่หน้าตาหล่อเหลา แต่ว่า มีเล่ห์เหลี่ยมอย่างมากคนหนึ่ง พูดตะโกนขึ้นอย่างกำเริบเสิบสาน
เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “พูดสุ่มสี่สุ่มห้า เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเราพบเจอก่อน แล้วจะให้นายได้อย่างไร! ”
วัยรุ่นยิ้มเยาะและพูดว่า: “ฉันเป็นคนจ่ายเงินก่อน พวกคุณเห็นแล้วแต่ก็เปล่าประโยชน์ คนไหนจ่ายเงินก็ต้องเป็นของคนนั้น”
หลินหยุนสงสัยขึ้นเล็กน้อย มองไปที่โจวเฟิน: “หนังสือวิชาฝังเข็มเล่มหนึ่งเท่านั้น จะต้องไปช่วงชิงเพื่ออะไรกัน”
เซี่ยเจี้ยนโก๋รีบอธิบายขึ้นว่า: “หนังสือวิชาฝังเข็มเล่มนี้ ไม่ใช่หนังสือวิชาฝังเข็มธรรมดา แต่คือวิชาฝังเข็มสามที่คิดค้นวิจัยขึ้นใหม่ล่าสุดของหมอเทพเย่ราชันย์ฝังเข็ม โดยมีเพียงเล่มเดียวเท่านั้น มันไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะหาพบ ซึ่งจะนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้กับนายท่าน”
“แต่ว่า ไอ้หนุ่มนี้กลับเข้ามาสร้างความยุ่งยาก คิดจะช่วงชิงแย่งหนังสือเล่มเดียวนี้ไป! ”
“กลางวันแสก ๆ แบบนี้ และยังอยู่ในเมืองหลวงอีก คิดไม่ถึงเลยว่ายังจะมีการโจรกรรมแบบนี้เกิดขึ้น! ” เซี่ยเจี้ยนโก๋ท่าทางเหมือนจะโมโห
หลินหยุนเข้าใจถึงจิตใจของเซี่ยเจี้ยนโก๋ โดยจากกำลังทรัพย์ของเซี่ยเจี้ยนโก๋แล้ว คิดที่จะสรรหาของขวัญที่ดีสักชิ้นให้กับนายท่านเซี่ยนั้น เกรงว่าจะค่อนข้างยากลำบาก
ดังนั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะพบหนังสือฉบับที่มีเพียงเล่มเดียวนี้ เซี่ยเจี้ยนโก๋จึงไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ แน่นอน
“หนังสือของหมอเทพเย่? ” หลินหยุนค่อนข้างไม่เห็นด้วย
ความสามารถของหมอเทพเย่ เขาชัดเจนเป็นอย่างมาก ความสามารถในการฝังเข็มน่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน ซึ่งไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไร
เซี่ยเจี้ยนโก๋คงไม่ถึงกับเพียงเพื่อหนังสือวิชาฝังเข็มเล่มเดียวนี้ แล้วต้องไปทะเลาะกับคนอื่น
“หนังสือวิชาฝังเข็มนั้น ฉันขอดูหน่อยได้ไหม? ” หลินหยุนแปลกใจเล็กน้อย หรือว่าผลงานหนังสือเล่มนี้ของหมอเทพเย่ จะมีความยอดเยี่ยมกว่าเล่มอื่นทั่วไป โดยได้คิดค้นวิจัยวิชาการฝังเข็มที่สุดยอดขึ้นมาใหม่หนึ่งชุด?