จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 758 วาดรูปวงกลมล้อมรอบไว้
สมาชิกของแต่ละทีม ก็รีบเปิดทางให้หลินหยุน ยืนอยู่ข้างๆแล้วจ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาดุร้าย
หลินหยุนเดินอย่างสบายใจ มาถึงข้างกายของพวกยิ่งตงไหล แล้วถามอย่างเรียบๆว่า “พวกคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เฉินโก๋ซ่งพูดว่า “พวกเขายังไม่ได้เริ่มลงมือจู่โจม พวกเราตอนนี้ยังไม่เป็นอะไร”
เจียงเจิ้งฉีพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าหนู คุณกลับมาพอดีเลย ไหนบอกมาสิว่า ทำไมคุณถึงทรยศหักหลัง?”
ยิ่งตงไหลตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธว่า “เจียงเจิ้งฉี ก่อนที่เรื่องราวยังไม่กระจ่าง กรุณาระวังคำพูดของคุณด้วย!”
เจียงเจิ้งฉีพูดเยาะเย้ยว่า “ยังไงกัน ถ้าเขากล้าทำ ทำไมไม่กล้าพูดออกมาล่ะ? ถ้าอยากพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่ทรราช งั้นคุณก็อธิบายเรื่องหินทิพย์มาว่ามันเป็นยังไงกันแน่?”
เฉินโก๋ซ่งและห่าวจ้าน ต่างก็มองไปยังหลินหยุนด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะเป็นทรราชได้ อย่างน้อยหลินหยุนก็เป็นคนที่ประธานาธิบดีเลือกมาแล้ว เป็นความไว้วางใจของประธานาธิบดีเอง พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะทำเรื่องทรยศหักหลังประเทศจีนได้
แต่ว่า คนรัสเซียพูดอย่างชัดเจนแล้ว อีกทั้งคำพูดก็ดูน่าเชื่อถือด้วย ไม่น่าจะเป็นการใส่ร้ายหลินหยุนเลย
ดังนั้น หลินหยุนคิดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็มีแต่ต้องเอาหลักฐานออกมายืนยัน
ยิ่งตงไหลมองไปยังหลินหยุนอย่างรอคอยความหวัง “อาจารย์หลิน คุณพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นเลยสิ!”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ที่เขาพูดมาไม่ผิดเลย ฉันเอาแก้วหินสัตว์ประหลาดไปแลกกับหินทิพย์แล้วจริงๆ”
“แต่ว่า ฉันทำอะไรไป ก็ไม่จำเป็นที่ต้องอธิบายให้พวกคุณรู้”
เจียงเจิ้งฉีหัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่าๆๆ ยิ่งตงไหล พวกคุณได้ยินกันหมดแล้วสินะ! เขายอมรับด้วยปากของเขาเอง เขาถึงกับเอาแก้วหินไปแลกกับหินทิพย์ นี่ไม่ใช่ทรราชของประเทศจีนแล้วจะเป็นอะไรได้!”
เฉินโก๋ซ่งขมวดคิ้วหนักมากขึ้น มองดูหลินหยุน ไม่รู้จะทำยังไงดี
ห่าวจ้านพูดด้วยความโกรธว่า “หลินหยุน เสียแรงที่ประธานาธิบดีเชื่อใจคุณขนาดนี้ ยกตำแหน่งหัวหน้าทีมให้คุณ นี่คุณกำลังตอบแทนเขาด้วยวิธีนี้เหรอ?”
ยิ่งตงไหลถามด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจว่า “อาจารย์หลิน ทำไมคุณต้องทำอย่างนี้ด้วยล่ะ! คุณอธิบายให้พวกฉันเข้าใจหน่อยได้ไม่? ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน”
หลินหยุนย่อมไม่มีทางที่จะไปอธิบาย และไม่คิดที่จะอธิบายด้วย
“ฉันต้องการหินทิพย์ ดังนั้นจึงแลกเปลี่ยนกับพวกเขา ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย เรื่องมันก็มีแค่นี้เอง”
เจียงเจิ้งฉีหัวเราะเสียงดังด้วยสีหน้าสะใจ “ยิ่งตงไหล พวกคุณก็ได้ยินแล้วนะ ตอนนี้พวกคุณยังจะพูดเข้าข้างทรราชคนนี้อยู่อีกหรือเปล่า?”
“ทรราช!” ห่าวจ้านด่าทอเป็นการใหญ่
ยิ่งตงไหลก็ถอนหายใจเฮือกอย่างจนใจ “อ้าย เป็นอย่างนี้ได้ยังไง!”
เฉินโก๋ซ่งสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดว่า “หลินหยุน คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าผลที่เกิดจากการกระทำเช่นนี้แล้วใช่มั๊ย? เมื่อกลับถึงเมืองจีนแล้ว คุณจะอธิบายยังไงกับประธานาธิบดีและจอมพลหง!”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ฉันย่อมอธิบายกับพวกเขาอย่างแน่นอน พวกคุณไม่จำเป็นต้องถามมากเลย”
“ตอนนี้ ขอให้ฉันดูก่อนว่าเจ้าตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นพวกนี้คิดจะทำอะไรกันแน่”
ชาร์ลีส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่เสียดาย “ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆเลย พวกเขาถึงกับไม่ได้สู้รบกันเอง”
“แต่ว่าก็ไม่เป็นไร ยังไงพวกเขาก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว”
“เจ้าหนู เอาหินทิพย์ในตัวแกที่ได้จากพวกเราไปออกมาให้หมด พวกเราจะไว้ชีวิตแก!” ชาลีพูดด้วยสีหน้ามีเลศนัย
หลินหยุนสีหน้าไร้ความรู้สึก “ฉันรู้แต่แรกแล้วว่าพวกคุณไม่ได้มีความจริงใจในการแลกเปลี่ยนเลย ตอนนี้รวบรวมคนมาจนครบแล้ว ก็เริ่มจะปล้นกันซึ่งๆหน้าเลย”
“นี่ก็คือปล้นกันซึ่งๆหน้า แล้วแกจะทำอะไรได้? ที่นี่ก็เป็นสถานที่สำหรับคนแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ คนที่อ่อนแอกว่าย่อมไม่มีสิทธิ์จะขัดขืนได้” ชาร์ลีพูดอย่างเย้ยหยัน
หลินหยุนยิ้มอย่างทะเล้นแล้วย้อนถามว่า “งั้นเหรอ? งั้นพวกคุณก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดขืนด้วยใช่ไหมล่ะ?”
“บังอาจ!” ชาลีพูดเยาะเย้ยว่า “แกคนเดียวต่อหน้าพวกเราคนมากมายขนาดนี้ ถึงกับกล้าพูดจาสามหาวอีก ช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลยจริงๆ!”
“ฆ่าเขาเลย!”
ฮอลล์และสมาชิกชาวอเมริกาอีกคนหนึ่ง ก็รีบกดปุ่มเปิดปิดที่แขนของตัวเอง เสื้อเกราะก็ห่อหุ้มร่างกายของเขาจนมิดชิดทั้งตัว
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามกำลังจะลงมือแล้ว เฉินโก๋ซ่งก็รีบตะโกนด้วยเสียงเข้มว่า “ทุกคนเตรียมตัวพร้อมรบ!”
เจียงเจิ้งฉีพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เรื่องอะไรพวกเราจะต้องไปช่วยเขาด้วย! นี่เป็นสิ่งที่เขาก่อขึ้นมาเอง ก็ควรให้เขาแบกรับไปเองคนเดียวสิ!”
เฉินโก๋ซ่งพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่ว่าหลินหยุนจะทำอะไรไป นั่นก็เป็นเรื่องภายในของพวกเรากันเอง กลับไปก็จะต้องรับโทษตามกฎหมายอยู่แล้ว”
“แต่ตอนนี้พวกเราต่างก็เผชิญศึกใหญ่หลวงที่อยู่ตรงหน้า ก็ได้แต่ต้องผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวต่อสู้กับศัตรูภายนอกก่อน จะให้คนต่างชาติมาหัวเราะเยาะพวกเราว่าขาดความสามัคคีไม่ได้!”
ห่าวจ้านคำรามเสียงดังว่า “พูดถูกต้องแล้ว พวกเรามาจัดการกับพวกคนต่างชาติที่จิตใจคิดคดโกงพวกนี้ก่อน เรื่องของหลินหยุนรอให้กลับไปค่อยคิดบัญชีกับเขาทีหลังก็แล้วกัน!”
เคลลี่หัวหน้าทีมฝรั่งเศสใช้เสียงที่แหลมเล็กเสกมนต์คาถาของเธอพูดขึ้นว่า “เจ้าเด็กนี่โกหกหลอกลวงพวกเรา พวกเราต้องการตัวเขาเพียงคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกคุณเลย พวกคุณไม่จำเป็นที่จะต้องสู้ตายเพื่อคนทรราชคนนี้เลย!”
พวกเฉินโก๋ซ่งทั้งสามคน ก็เพียงแค่รู้สึกมึนงงไปชั่วคราว แต่ก็ได้สติคืนมา
มีแต่เจียงเจิ้งฉีเท่านั้น ที่จิตใจไม่แน่วแน่ ถึงกับถูกเคลลี่สะกดจิตแล้ว
“พูดถูกต้อง พวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสู้ตายเพื่อคนทรราชคนหนึ่ง!”
เสียงที่มีเวทมนตร์ของเคลลี่ก็พูดต่อไปอีกว่า “งั้นคุณจะรออะไรอยู่อีก ยังไม่รีบทำลายยันต์หยกเพื่อกลับไปล่ะ!”
เจียงเจิ้งฉีพูดด้วยท่าทางแข็งทื่อว่า “ใช่ ฉันจะต้องกลับไป!”
เฉินโก๋ซ่งตะคอกเสียงดังว่า “เจียงเจิ้งฉี ตื่นได้แล้ว!”
เจียงเจิ้งฉีที่กำลังจะทำลายยันต์หยก ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
“โอ้ย ฉันกำลังทำอะไรอยู่!” เจียงเจิ้งฉีรีบหยุดทันที เกือบจะทำลายยันต์หยกไปแล้ว
สายตาเคลลี่แสดงออกถึงความเสียดาย “น่าเสียดายจัง”
“เคลลี่ เก็บพวกมนต์คาถาผีบอกนั้นไปเถอะ พวกเรามีคนมากมายขนาดนี้ ลงมือจัดการพวกเขาได้ง่ายดายมากอยู่แล้ว ทำไมต้องพูดอะไรไร้สาระด้วย!” อาร์เธอร์พูดอย่างเย็นชา
“อาร์เธอร์พูดถูกแล้ว พวกเราลงมือพร้อมกันเลย!” ชาร์ลีกวาดสายตาไปยังสมาชิกทุกประเทศ แล้วตะโกนพูดเสียงดัง
ทันใดนั้น ก็ปรากฏแสงสีแดงพุงออกจากตัวหลินหยุนไป แล้วขีดเส้นรูปวงกลมวงหนึ่งขึ้นมาบนพื้น ล้อมรอบชาวจีนทุกคนอยู่ภายในวงกลมนั้น
“ใครข้ามเขตนี้มาตาย!”
เสียงที่เยือกเย็นไร้ความปรานี ค่อยๆดังขึ้นอย่างเรียบๆ ราวกับเทพแห่งความตามที่ผุดขึ้นมาจากนรก
สมาชิกทีมของแต่ละประเทศก็อดไม่ได้ที่จะหยุดเดินต่อไป แล้วมองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าหวาดผวา
ชาร์ลีหัวเราะเยาะด้วยเสียงดังอย่างเหยียดหยาม “เจ้าเด็กน้อย แกคิดจะข่มขู่ใครเหรอ? แกแค่ขีดเส้นวงกลมกระจอกแบบนี้มาล้อมรอบไว้ ก็คิดว่าจะขัดขวางพวกเราได้แล้วเหรอ ฝันไปเถอะ?”
“ทุกคนอย่าไปสนใจเขา บุกไปด้วยกันเลย!”
ชาร์ลียกแขนที่กลายเป็นปืนกลขึ้นมา เล็งไปข้างหน้า แล้วกราดยิงไปยังหลินหยุนด้วยพลังแรงระเบิดราวกับฝนห่าใหญ่
ลูกกระสุนที่สั่งทำพิเศษชนิดนี้สามารถที่จะยิงปรมาจารย์นักบู๊ทะลุจนเป็นรูพรุนได้นั้น เมื่อกระทบกับวงแหวนรัศมีคุ้มกายของหลินหยุนแล้ว ก็ถูกสะท้อนกลับไปจนหมด
ลูกกระสุนที่สะท้อนกลับอย่างบ้าคลั่งพวกนั้น เกิดพลังที่รุนแรงร้ายกาจมาก ทำให้สมาชิกทีมของแต่ละประเทศต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างไม่รู้สึกตัว
“ลุยสิ! หรือว่าพวกคุณถูกเจ้าเด็กนี่ขู่จนตกใจกลัวไปหมดแล้ว!” ชาร์ลีตะคอกใส่อาร์เธอร์และเคลลี่
อัศวินโต๊ะกลมทั้งสองมองไปยังออาร์เธอร์ เพื่อขอความเห็นจากอาร์เธอร์
“ลุย!” อาร์เธอร์พยักหน้า จ้องมองหลินหยุนด้วยสีหน้าเยือกเย็น
อัศวินโต๊ะกลมทั้งสอง ต่างก็ทยอยเปิดกล่องไม้ที่อยู่ข้างหลัง คนที่ไว้หนวดยาวคนนั้น ภายในกล่องไม้มีหอกยาวเล่มหนึ่ง
กล่องไม้ของผู้ชายที่ไว้ผมลอนอีกคนหนึ่ง เป็นดาบกางเขนที่ใหญ่โตด้ามหนึ่ง
อาวุธของพวกเขานั้น ต่างก็สะท้อนแสงสีขาวออกมา แสงสว่างนั้นเติมไปด้วยกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่เกิดความรู้สึกอยากจะคุกเข่าลงกราบไหว้
“พรของพระเจ้าจากเผ่าสว่าง!”
เมื่อหลินหยุนเห็นแสงสีขาวบนอาวุธของพวกเขาแล้ว ก็นึกถึงประวัติความเป็นมาขึ้นมาได้ทันที
“ดูไปแล้ว ในโลกตะวันตกนั้น ยังมีทายาทของเผ่าสว่างเหลืออยู่อีก อาจไม่แน่นี่ก็คือสาเหตุที่ผู้บำเพ็ญเซียนของโลกตะวันออก ไม่สามารถเหยียบเข้าไปในแดนตะวันตกเพื่อแสวงหาหินทิพย์ก็ได้
เผ่าสว่างเป็นสมาชิกหนึ่งในบรรดาเหล่าบำเพ็ญเซียนนับหมื่นทั้งหลาย ในตัวมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมาก ต่างก็มีทายาทรุ่นหลังกระจายไปทั่วดาวเคราะห์อื่นๆอีกมากมายในจักรวาลนี้
อีกทั้ง เผ่าสว่างนั้นมีแนวระนาบการทะลุทะลวงได้อย่างแข็งแกร่งมาก จึงทำให้พวกเขาใช้รีโมตคอนโทรลในการควบคุมระยะไกลได้ จนสามารถปกครองดาวเคราะห์ที่เป็นอาณานิคมจำนวนมากมาย
เคลลี่หมอผีฝรั่ง รวมทั้งพวกมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดผีดูดเลือดทั้งสองนั้น เมื่อเห็นลูกน้องของอาร์เธอร์ อัศวินโต๊ะกลมทั้งสองคนนั้นเอาอาวุธประจำกายของตัวเองออกมา ต่างก็รีบใช้มือปิดตาทั้งสองข้างไว้ทันที แล้วด่าสาปแช่งว่า “เทพแสงสว่างที่สมควรตาย นี่ถึงกับเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เชียว!”