จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 774 การตัดสินใจของนายท่านหลิน
ประธานาธิบดีให้พวกหงซานเหอเข้าพบที่คฤหาสน์สภาประเทศ
ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกยิ่งตงไหลเจอประธานาธิบดี แต่ทุกครั้งที่ได้เจอประธานาธิบดี ทั้งหมดอดตื้นตันไม่ได้
“ประธานาธิบดี!”
พวกเฉินโก๋ซ่งทำความเคารพตามฉบับทหารทันที
หงซาเหอทำความเคารพฉบับทหารตาม และเอ่ยเสียงขึงขัง “ประธานาธิบดี!”
ประธานาธิบดียิ้ม “ท่านหงไม่ต้องเกรงใจ”
“ทุกท่านก็ไม่ต้องเกรงใจไป พวกท่านเป็นวีรบุรุษของชาวจีน ครั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณพวกท่าน”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราชาวจีนได้อันดับหนึ่งในสนามล่าเจ็ดเผ่า พวกท่านรู้มั้ยว่าสิ่งนี้จะนำผลประโยชน์เข้าพวกเราชาวจีนมากขาดไหน”
พวกเฉินโก๋ซ่งส่ายหัว
ประธานาธิบดียิ้ม “ประเมินค่าไม่ได้”
พวกเฉินโก๋ซ่งดีใจใหญ่ ประธานาธิบดีบอกว่าประเมินค่าไม่ได้หมายความว่าชัยชนะที่สนามล่าเจ็ดผ่าในคราวนี้นำผลประโยชน์สู่ชาวจีนได้มหาศาล
แต่ทั้งหมดเสียใจอยู่นิดหน่อย เพราะครั้งนี้คนที่สร้างคุณงามความดีให้ประเทศไม่ใช่พวกเขา
“ประธานาธิบดีครับ พวกผมไม่คู่ควรกับการถูกเรียกว่าวีรบุรุษหรอกครับ ที่ครั้งนี้ได้อันดับหนึ่งที่สนามล่าเจ็ดเผ่าได้ เป็นความดีความชอบของหลินหยุนแต่เพียงผู้เดียวครับ”
“เขาต่างหาก คือวีรุบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจีน” เฉินโก๋ซ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
พอเจียงเจิ้งฉีได้ยินเฉินโก๋ซ่งยกความดีความชอบให้เป็นของหลินหยุนคนเดียวก็มีสีหน้าอึมครึมลง
ทว่าในเวลานั้น ยิ่งตงไหลและห้าวจ้านก็พากันเอ่ยขึ้น “พี่เฉินพูดถูกครับ ภารกิจครั้งนี้เป็นความดีความชอบของหลินหยุนแต่เพียงผู้เดียว”
“พวกเราทั้งหมดนอกจากจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์แล้ว ยังเกือบจะเป็นตัวถ่วงของหลินหยุนอีกด้วยครับ”
“เพราะฉะนั้น นามวีรบุรุษนี้ให้หลินหยุนคนเดียวก็พอครับ พวกเราไม่สามารถรับไว้ได้จริงๆ”
ประธานาธิบดีหัวเราะเบาๆ “ทุกท่านไม่ต้องถ่อมตน ผมไม่ลืมความดีความชอบของหลินหยุนแน่นอน แต่พวกท่านก็ทุ่มเทเพื่อประเทศเช่นกัน แม้จะไม่ได้สร้างวีรกรรมยิ่งใหญ่เท่ากับหลินหยุน แต่ก็ถือว่าเป็นวีรบุรุษของเราชาวจีนเช่นกัน”
“ท่านหง งานเลี้ยงฉลองถูกเตรียมไว้แล้ว ครั้งนี้ให้คุณเป็นผู้ดำเนินงานเองเลย คุณห้ามบ่ายเบี่ยงนะครับ”
หงซานเหอเอ่ยเสียงเข้ม “ครับ!”
“จริงสิ หลินหยุนล่ะ?” ยิ่งตงไหลถามอย่างแปลกใจ
ประธานาธิบดีตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “เขามีธุระส่วนตัวจึงกลับไปก่อนแล้ว พวกท่านยังพบเขาไม่ได้ในตอนนี้”
“อะไรนะ ไปแล้วหรอครับ? ผมยังไม่ได้ขอบคุณเขาต่อหน้าเลย” ห้าวจ้านร้องอย่างเสียดาย
“รอให้มีโอกาสได้พบเขา คุณค่อยขอบคุณเขาต่อหน้าแล้วกัน” ประธานาธิบดีกล่าว
หงซานเหอมองประธานาธิบดีด้วยสายตาตั้งคำถาม
ประธานาธิบดีหาจังหวะที่ทุกคนไม่ทันสังเกตบอกกับหงซานเหอเงียบๆ “เทพกระบี่ตายแล้ว”
หงซานเหอโล่งอก ขณะเดียวกันก็ตะลึงในใจด้วย “ดูท่า ผมประเมินไอ้หนุ่มหลินหยุนต่ำไปนะครับ”
ใช้เวลาถึงสามวันเต็ม พวกนายท่านหลินถึงกลับมาถึงตระกูลหลิน
หลับจากกลับถึงบ้าน สมาชิกตระกูลหลินส่วนใหญ่ต่างถอนใจในความรอดตายมาได้
“กลับถึงบ้านดีกว่าเยอะเลย”
ท่านผู้ใหญ่ตระกูลหลินทั้งห้ามองบ้านเรือนอันคุ้นเคย รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างที่สุดในนาทีนี้
หลินตงถิงแอบบอกนายท่านหลิน “คุณพ่อ พวกหลินตงเย่วก็กลับมาด้วยครับ”
สีหน้านายท่านหลินอึมครึมลงทันใด และเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “เฮอะ พวกเขายังมีหน้ากลับมาอีกหรอ”
“ตงถิง แกไปพาตัวพวกเขามา!”
“ครับ” หลินตงถิงโค้งตัวรับคำ
ไม่นานนัก พวกหลินตงเย่วและหานเจียวเจียวถูกพาตัวมาที่ห้องโถง
ทั้งหมดเข้ามาในห้องโถงปุ๊บ ก็โดนผู้คนในตระกูลหลินสบถก่นด่า
นายท่านหลินตะคอกเสียงเย็น “พวกแกกลับมาทำไม เยนหนานเทียนเจ้านายพวกแกตายแล้ว พวกแกไม่ไปเฝ้าหลุมศพให้เขาหรือไง”
ประโยคของนายท่านหลินเล่นเอาพวกหลินตงเย่วอับอายจนหน้าแดง
หานเจียวเจียวคุกเข่าลงและพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจ “คุณพ่อเข้าใจพวกเราผิดนะคะ สถานการณ์ตอนนั้น ที่พวกเราทำแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับตระกูลหลินนะคะ”
“คุณพ่อคิดดูสิคะ ถ้าพวกเราไม่ไปเข้าพวกกับเยนหนานเทียน เขาต้องให้คนอื่นมาคุมตัวพวกท่านแน่นอน ถึงตอนนั้น พวกท่านต้องลำบากขนาดไหนใครจะรู้”
“ที่เราทำแบบนี้ก็เพราะแบกรับความอับอายไว้เพื่อจะได้ปกป้องพวกท่านให้ปลอดภัยนะคะ”
หลินตงเย่วเอ่ยตาม “คุณพ่อครัว พวกเราคิดแบบนี้จริงๆ สถานการณ์อย่างตอนนั้น ถ้าทำให้เยนหนานเทียนโมโหอาจจะเป็นผลให้เขาสังหารหมู่ก็ได้นะครับ”
“เพราะฉะนั้นพวกเราถึงได้ไปเข้าพวกกับเขา ที่จริงก็เพราะอยากปกป้องพวกท่านครับ”
“ตลอดทั้งทางนี้เยนหนานเทียนคิดจะทรมานพวกท่านอยู่หลายครั้ง ก็ได้พวกเราเฉไฉบ่ายเบี่ยงไปได้ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าไม่ทันที่พวกท่านจะรอจนหลินหยุนกลับมาก็ตายด้วยน้ำมือเขาไปแล้ว”
นายท่านหลินหัวเราะเย็นๆ “ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอบคุณพวกแกด้วยมั้ย”
พวกหลินตงเย่วก้มหน้า “ไม่กล้าครับ!”
“คุณพ่อ ผมพูดจริงๆจากใจนะครับ พวกเราไม่ได้คิดจะทรยศตระกูลจริงๆ มันเป็นเพียงแผนยื้อเวลาครับ”
ท่าทางของหลินตงเย่วจริงจังกว่าหานเจียวเจียวมาก คำพูดของเขาทำเอาหลายๆคนเชื่ออยู่บ้าง
ดูเหมือนนายท่านหลินก็ใจอ่อนเหมือนกัน เขาเอ่ยเสียงเย็น “ต่อให้ที่พวกแกพูดมาเป็นความจริง แต่พวกแกนินทาว่าร้ายเสี่ยวหยุนลับหลัง ขายความลับของเสี่ยวหยุน เรื่องนี้ต้องคิดบัญชีกับพวกแกหน่อย”
ความผิดนี้ ทั้งหมดไม่อาจแก้ตัวได้
พวกหลินตงเย่วจึงอมก้มหน้ารับผิด “พวกเราปากไม่มีหูรูดเองครับ พวกเรายอมโดนลงโทษ”
“เจ้าบ้านลงโทษตามที่เห็นสมควรเลยครับ”
นายท่านหลินแค่นเสียง “ฉันไม่ลงโทษพวกแกหรอก พวกแกไปขอร้องหลินหยุนเถอะ ถ้าเขายอมให้อภัยพวกแก พวกแกก็อยู่ต่อ ถ้าเขาไม่ให้อภัยพวกแก พวกแกก็ไสหัวออกจากตระกูลหลินไปซะ”
“หา!” หลินเจียวเจียวร้องเสียงหลง กลัวจนหน้าซีดเผือด
“หลินหยุน เรื่องก่อนหน้านี้ฉันผิดเอง ฉันปากไม่มีหูรูดเอง พูดเหลวไหลไปเรื่อย นายอย่าถือโทษโกรธฉันเลยนะ อย่าถือสาฉันเลย”
“ขอร้องเถอะ ให้อภัยฉันสักครั้ง ฉันรับรองได้ว่าไม่มีครั้งหน้าแล้ว” หานเจียวเจียวเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว
หลินตงเย่วอายอยู่หน่อยๆ แต่ถ้าหลินหยุนไม่ให้อภัยก็ต้องถูกไล่ออกจากตระกูล
“หลินหยุน เรื่องก่อนหน้านี้อาสามไม่ดีเอง อาสามขอโทษนะ หวังว่าแกจะให้อภัยอาสักครั้ง”
คนที่เหลือก็พากันก้มหน้าขอโทษหลินหยุน
นายท่านหลินมองหลินหยุนและเอ่ยเสียงเข้ม “เสี่ยวหยุน แกตัดสินใจเลยว่าจะให้พวกเขาอยู่หรือไป”
ผู้คนในตระกูลหลินมองภาพนี้ด้วยความสงสัย
นายท่านคิดจะทำอะไรเนี่ย? เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะให้เด็กอย่างหลินหยุนตัดสินใจได้ยังไง
หลินตงหัวขมวดคิ้วเล็กน้อย มองนายท่านหลินด้วยสายตาข้องใจ
ท่านผู้ใหญ่ตระกูลหลินทั้งสี่ที่เหลือมองหลินซื่อเฉิงเงียบๆไม่พูดจา
ทว่าสีหน้าของทั้งสี่คนนั้นเคร่งขรึมสุดๆ ราวกับกำลังไตร่ตรองการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่
หลินตงเย่วและหานเจียวเจียวได้ยินว่านายท่านมอบอำนาจการตัดสินใจเรื่องความเป็นความตายให้หลินหยุนก็ผงะไปทั้งคู่
ทุกคนเหมือนจะรู้สึกตัว
หลินตงหัวและหวางซูเฟินผงะนิดหน่อย ทั้งสองสบตากันและเห็นความตะลึงจากสายตาของอีกฝ่าย
หลินตงหัวลุกขึ้น โค้งคำนับนายท่านหลิน “เจ้าบ้านครับ หลินหยุนยังเด็ก เรื่องแบบนี้ให้เขาตัดสินใจได้ยังไงกันครับ ท่านเป็นผู้ตัดสินดีกว่า”
นายท่านหลินถลึงตาใส่เขา ไม่สบอารมณ์นิดหน่อย “ตงหัว แกไปยืนข้างๆก่อน”
“สมัยก่อนบรรพบุรุษตระกูลหลินของเรารับการทหารตั้งแต่อายุสิบสอง สู้รบทั้งศึกเล็กศึกใหญ่เป็นสิบๆครั้ง ปีนี้หลินหยุนยี่สิบกว่าแล้ว สมัยบรรพบุรุษอายุเท่าเขาสามารถนำทัพของตัวเองและรับผิดชอบทั้งหมดด้วยตัวเองได้แล้ว”
“บุรุษตระกูลหลินของเรา ขอเพียงมีความสามารถ ไม่ว่าอายุมากหรือน้อยก็มอบหมายภารกิจใหญ่หลวงให้ได้”
ถ้าเมื่อกี้ทุกคนแค่สงสัย
บัดนี้ คำพูดที่นายท่านหลินเอื้อนเอ่ยออกมาทำให้ทุกคนพอจะมั่นใจในการคาดเดาเมื่อกี้แล้ว
นายท่านหลินกำลังทดสอบหลินหยุนอยู่ ความนัยเบื้องหลังนั้นไม่ต้องบอกก็รู้
หลินตงถิงที่ยืนอยู่ข้างๆใจกระตุกวูบ “นี่คุณพ่อคิดจะมอบตระกูลหลินให้หลินหยุนหรอ?”