จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 775 ฝากฝังตระกูลหลิน
หลินหยุนเอ่ยเรียบๆ “คุณปู่ครับ เราเป็นคนตระกูลหลินเหมือนกัน ขอเพียงพวกเขาไม่ทำเรื่องชั่วช้าต่ำทราม ให้พวกเขาอยู่ต่อเถอะครับ”
บอกตรงๆ คนอย่างพวกหลินตงเย่ว หลินหยุนไม่เก็บมาใส่ใจหรอก
พวกเขาจะอยู่หรือไป ไม่มีผลอะไรกับหลินหยุน
อีกอย่าง มีแต่เก็บพวกเขาไว้พวกเขาถึงจะยอมอยู่เฉยๆ
ถ้าไล่พวกเขาออกจากตระกูลหลินจริงๆ มีแต่จะทำให้พวกเขาเคียดแค้นตระกูลหลิน กลับจะสร้างปัญหาให้ตระกูลหลินเปล่าๆ
นายท่านหลินได้ยินการตัดสินใจของหลินหยุนแล้ว ยิ้มอย่างปลื้มปริ่ม
“ดี เป็นเด็กมีเมตตาจริงๆ พวกเขาทำแบบนี้กับแก แต่แกยังยอมให้พวกเขาอยู่ต่อ”
“ดี ถ้าแบบนี้ ฉันก็สบายใจได้แล้ว”
นายท่านทำท่าทางเหมือนฝากฝังก่อนตาย
“พวกแกยังไม่ขอบคุณยังไม่รีบขอบคุณเสี่ยวหยุนอีก” นายท่านหลินกวาดตามองพวกหลินตงเย่วเย็นๆ และตะคอกเสียงต่ำ
หานเจียวเจียวโล่งอก ถ้าโดนไล่ออกจากตระกูลหลิน เธอไม่รู้จริงๆว่าหลังจากนี้จะมีชีวิตรอดได้ยังไง
“หลินหยุน ขอบคุณนายมากนะ ขอบคุณที่ไม่ถือสา ขอบคุณนะ!” หานเจียวเจียวมีสีหน้าซาบซึ้ง
หลินตงเย่วก้มหน้าลงเช่นกัน เขาเอ่ยเสียงเข้ม “ขอบคุณแกนะหลินหยุน จากนี้ไปอาสามจะไม่ทำอะไรที่ผิดต่อแกเด็ดขาด”
หลินตงเย่วปล่อยวางแล้ว ในเมื่อนายท่านแสดงท่าทีชัดเจนว่าหลังจากนี้ เป็นไปได้สูงมากที่หลินหยุนจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลินในอนาคต
เขาจะกล้าไม่ยอมได้ยังไง
นายท่านหลินมองหลินหยุนอย่างปลื้มใจ เอ่ยเสียงนุ่มนวล “เสี่ยวหยุน แกตามฉันมา”
“ครับ” หลินหยุนตามนายท่านหลินออกจากห้องโถงไป
นายท่านหลินมาหลินหยุนมาที่ห้องตัวเอง
“นั่งลงสิ อย่ามัวยืนอยู่” นายท่านหลินรินชาสองถ้วยด้วยตัวเอง และบอกหลินหยุนยิ้มๆ
“ขอบคุณครับคุณปู่!” หลินหยุนยิ้มรับ
ความรู้สึกที่หลินหยุนมีต่อนายท่านหลินพิเศษมาก
ชาติก่อน สถานะของเขาในตระกูลหลินต่ำยิ่งกว่าหมาตัวหนึ่ง
แต่นายท่านหลินกลับไม่เคยดูหมิ่นเขา และปกป้องเขาทุกเรื่อง ออกจะเข้าข้างหลินหยุนมากไปด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ทำให้เด็กรุ่นหลังตระกูลหลินหลายๆคนไม่พอใจ แม้กระทั่งท่านผู้ใหญ่ตระกูลหลินทั้งสี่ที่เหลือก็เคยเตือนนายท่านหลิน ให้นายท่านหลินปฏิบัติด้วยความเท่าเทียม
แต่เพื่อหลินหยุนแล้ว นายท่านหลินยอมทะเลาะกับพี่น้องที่คบกันมาแล้วหลายสิบปี
ตั้งใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่าจะเข้าข้างหลินหยุน
มีครั้งหนึ่ง หลินหยุนเคยแอบถามนายท่านหลินว่าทำไมถึงลำเอียงเขาขนาดนี้
นายท่านหลินยิ้มและพูดบางอย่างกับหลินหยุนที่ตอนนี้หลินหยุนยังจำได้ดี
เขาบอกว่า “ฉันไม่มีปัญญาปกป้องพ่อแก ทำให้แกต้องไปลำบากอยู่นอกบ้านตั้งหลายปี ถ้าตอนนี้แม้แต่แกฉันยังปกป้องไม่ได้ ฉันจะมีหน้าอะไรมาอยู่บนโลกใบนี้”
พูดแบบตรงๆคือนายท่านหลินรู้สึกว่าตัวเองติดค้างหลินหยุน
ถ้าตอนนั้นเขาปกป้องหลินตงหัวและหวางซูเฟินไว้ได้ หลินหยุนก็คงไม่พลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งหลายปี
ถึงแม้สถานการณ์ในตอนนั้นจะโทษนายท่านหลินคงไม่ได้ แต่เขาถือว่าเรื่องนั้นเป็นเพราะความไร้น้ำยาของตัวเอง และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกผิดอันท่วมท้น
บัดนี้ได้เจอหลินหยุนแล้ว เขาอยากจะชดเชยความสำนึกเสียใจในตอนนั้นให้หลินหยุน
หลินหยุนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองนายท่านหลินที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ใบหน้าของนายท่านเมื่อชาติก่อนค่อยๆหลอมรวมเข้ากับในชาตินี้
หลินหยุนเผยรอยยิ้มอบอุ่น
“ที่เรียกแกมาเพราะมีเรื่องจะไหว้วานแก” นายท่านหลินกล่าวยิ้มๆ
หลินหยุนยิ้มและเอ่ย “ขอแค่ไม่ฝากตระกูลหลินไว้กับผม เรื่องอื่นปู่สั่งมาได้เลยครับ”
นายท่านหลินผงะ ก่อนจะมองหลินหยุนและหัวเราะออกมา “แกนี่ ท่าทางจะเดาความคิดฉันออกนะ
พูดเสร็จ สีหน้าของนายท่านหลินค่อยๆจริงจังขึ้น เขามองหลินหยุนและพูดอย่างตั้งใจ “ฉันคิดจะฝากตระกูลหลินไว้กับแก”
“ตอนนี้ มีแต่แกเท่านั้นที่จะทำให้ตระกูลหลินรุ่งเรืองได้”
หลินหยุนคิดจะปฏิเสธ แต่เขายังไม่ทันพูดอะไร นายท่านหลินก็ยกมือห้าม
“แกอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังฉันเล่าสถานการณ์ตระกูลหลินในตอนนี้ก่อน”
หลินหยุนพยักหน้า
นายท่านหลินถอนหายใจ “ตระกูลหลินของเราก้าวถอยหลังเรื่อยๆนับตั้งแต่เกิดเรื่องพ่อกับแม่แก”
“โดยเฉพาะช่วงหลายปีมานี้ กำลังของตระกูลหลินเราตกต่ำอย่างมาก”
“ที่สำคัญที่สุดคือ บุคลากรมีความสามารถในคนสอนรุ่นหลังของตระกูลหลินนั้นน้อยมาก”
“ใช้คำว่าไร้ผู้สืบทอดก็ไม่เกินไปนัก”
“นี่เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจฉันมาตลอด ฉันกลัวว่าหลังจากฉันตายไปแล้วจะฝากฝังตระกูลหลินไว้ผิดคน”
นายท่ายหลินมองหลินหยุนอย่างปลื้มปริ่ม “ยังดีที่สวรรค์ดีกับฉันมาก ในช่วงเวลาที่ฉันกำลังจะโรยรา แกก็กลับมาสู่ตระกูลหลิน”
“เพราะฉะนั้น ไม่ว่ายังไงแกก็ห้ามปฏิเสธ หลังจากนี้ตระกูลหลินฝากไว้กับแกแล้ว”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเหมือนจะสั่งเสียของนายท่านหลินแล้ว หลินหยุนใจสั่นนิดหน่อย
ชาติก่อน เขาจำได้ลางๆว่าคุณปู่ตายเพราะมะเร็ง
แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นห้าปีหลังจากนี้ หรือตอนนี้คุณปู่รู้แล้วว่าตัวเองเป็นมะเร็ง
ด้วยฝีมือของหลินหยุนในตอนนี้ มะเร็งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
ถึงแม้การแพทย์ไม่สามารถรักษามะเร็งได้ แต่หลินหยุนมีวิธีอื่นที่จะช่วยนายท่านได้
“คุณปู่ ผมยอมรับตรงๆเลยว่าผมเรื่อยเปื่อยจนชินแล้ว ไม่ใช่คนที่เป์นเจ้าบ้านได้หรอกครับ ถ้าฝากตระกูลหลินไว้กับผม อาจจะทำให้คุณปู่ผิดหวังได้”
“เอาอย่างนี้สิครับ คุณปู่ฝากตระกูลหลินไว้กับพ่อผม ผมช่วยดูแลตระกูลหลินด้วยอีกคน”
“อีกอย่าง ตอนนี้ร่างกายคุณปู่ยังแข็งแรงอยู่ จะรีบร้อนเลือกทายาทไว้ทำไมครับ บางทีรออีกไม่กี่ปี อาจจะมีอัจฉริยะปรากฏในหมู่คนรุ่นหลังของตระกูลหลินก็ได้นะครับ”
นายท่านหลินส่ายหัว “จะไปมีอัจฉริยะอะไรกัน ฉันตรวจสอบคนตระกูลหลินทั้งสามรุ่นมาไม่รู้กี่รอบ ยากจะทำการใหญ่ทั้งนั้น”
“หลินโร่เฉินดูเหมือนสุขุม แต่จริงๆแล้วเด็กคนนี้ดื้อรั้นและมักรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย เรื่องสมัยนั้นมีผลกระทบกระเทือนต่อเขามาก ทั้งชีวิตนี้ของเขาคงจะต้องอยู่ในบาดแผลของเรื่องนั้น คนแบบนี้จะทำการใหญ่ได้ยังไง”
“หลินเห้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง จิตใจคับแคบ ยอมรับใครไม่ได้เลย จะเป็นเจ้าบ้านได้ยังไง”
“อีกคนก็หลินโร่หลัน เธอเอาแต่อยากแต่งเข้าตระกูลชั้นยอดอย่างสี่สุดยอดตระกูลใหญ่ ไม่มีตระกูลหลินอยู่ในใจเลย ถ้าฝากตระกูลหลินไว้กับเธอ ท้ายที่สุดแล้วตระกูลหลินก็จะกลายเป็นสินสอดของเธอ”
“อีกอย่าง เธอเป็นสตรี”
นายท่านหลินปัดอัจฉริยะในคนตระกูลหลินสามรุ่นตกหมด
หลินหยุนกล่าว “ในคนตระกูลหลินรุ่นสองน่าจะมีคนมากมายรับตำแหน่งนี้ได้นะครับ อย่างลุงใหญ่ของผมหลินตงถิง ไหนจะอาสามสายคุณปู่ใหญ่ ตอนนี้รับตำแหน่งใหญ่กันหมด น่าจะรับช่วงตระกูลหลินต่อได้สบายๆนะครับ”
นายท่านหลินส่ายหัว “หลินตงถิงยังสู้ลูกชายเขาหลินโร่เฉินไม่ได้เลย ตำแหน่งของเขาได้มาด้วยการทุ่มกำลังทั้งหมดของตระกูลหลิน หากจะพึ่งตัวเขาเอง เหอะๆ…..”
“ส่วนคนจากสายคุณปู่ใหญ่ของแกได้ตำแหน่งมาด้วยการทุ่มกำลังของตระกูลหลินเหมือนกัน ความสามารถของพวกเขาไม่ไหวเลย”
“ที่จริงในคนรุ่นสองของตระกูลหลิน ฉันมองว่าพ่อแกเหมาะที่สุด แต่ฉันกลัวว่าเขายังข้ามแผลใจของตัวเองไม่ได้ เขาไม่ยอมรับสืบทอดตระกูลหลินหรอก”
“ส่วนเรื่องที่ฉันวางแผนเรื่องพวกนี้ไว้แต่เนิ่นๆเพราะฉันป่วยด้วยโรคร้ายแรง ฉันกลัวว่าถ้าอยู่ๆฉันตายจากไปและยังไม่ได้จัดแจงตระกูลหลินให้เรียบร้อย ฉันคงไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษของตระกูลหลินที่โลกหน้า”
หลินหยุนตกใจมาก “จริงๆด้วย คุณปู่รู้แล้วว่าเขาเป็นมะเร็ง”