จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 795 ต่อสู้กับยอดฝีมือตะวันตก
ทั้งสองคนพยายามอย่างมากจนหลุดพ้นจากการควบคุมของหลินหยุน แต่ว่า สิ่งที่กำลังรอทั้งสองคนอยู่ ก็คือพลังหมัดอันน่าสะพรึงกลัวของหลินหยุน
ตุบ!
พลังที่แข็งแกร่ง เหมือนกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็กที่ระเบิดขึ้น พุ่งโจมตีเข้าใส่ทั้งสองคนในพริบตา
“อ่า! ”
เจสเตอร์กับคริสติน ถูกพลังหมัดชกเข้าใส่จนกระอักเลือดและกระเด็นไปไกล
“ไอ้สารเลวที่สมควรตาย นี่มันไม่ยุติธรรม! เขาสามารถที่จะปล่อยพลังโจมตีสองครั้งได้ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็เหมือนกับกำลังต่อสู้อยู่กับคนสองคน! ” เจสเตอร์พูดบ่นเสียงดัง
คริสตินกลับค่อย ๆ เช็ดรอยเลือดที่มุมปากจนสะอาด แล้วก็มองไปที่หลินหยุนอย่างเคร่งขรึม
ครั้งนี้ หลินหยุนไม่ได้โจมตีต่อเนื่องใส่ทั้งสองคน โดยได้หยุดการลงมือ และจ้องมองไปที่สองคนนั้นอย่างเย็นชา
“ยังไม่เตรียมที่จะใช้พลังความสามารถทั้งหมดที่แอบแฝงอยู่ในตัวของพวกนายออกมากันอีกใช่ไหม? ”
“ไม่ต้องปิดบังกันแล้ว ฉันรับรู้ได้ตั้งนานแล้วว่าในร่างกายของพวกนายมีพลังความสามารถที่ไม่ใช่ของพวกนายเองแอบแฝงอยู่”
“ถ้าหากฉันทายไม่ผิด คงจะเป็นการผนึกกำลังกันของยอดฝีมือทั้งหลายล่ะสิ! ”
จากการวิเคราะห์ของหลินหยุน เจสเตอร์กับคริสตินก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยตื่นตกใจอย่างที่สุด
“นายสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงพลังที่แอบแฝงอยู่ในร่างกายของพวกเราได้! ”
“พระเจ้า นี่มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ! ” ใบหน้าอันหล่อเหลาของเจสเตอร์ แสดงอาการเหมือนกับถูกผีหลอก
ใบหน้าที่เด็ดเดี่ยวของคริสติน ก็แอบเผยอาการตื่นตกใจออกมาเล็กน้อย
“ตกลงว่านายเป็นใครกันแน่? พวกเราได้สังหารนักบู๊ของจีนมาหลายคน แม้แต่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด พวกเราก็เคยสังหารมาแล้ว ”
“แต่ว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ถึงพลังที่แอบแฝงอยู่ในร่างกายของพวกเราได้” คริสตินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “สถานะของฉัน พวกนายไม่คู่ควรที่จะต้องรู้”
“ฉันรีบ ถ้าหากพวกนายยังไม่ยอมแสดงพลังที่แอบแฝงออกมา อย่างนั้นพวกนายก็คงจะไม่มีโอกาสที่จะแสดงมันออกมาอีกแล้ว”
คริสตินยื่นมือสองข้างออกมาทันที และยกสูงขึ้น: “ในเมื่อนายรู้แล้ว จะต้องปิดบังอยู่อีกทำไมล่ะ! ”
พลังแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวนวลที่ทรงพลังมากกว่าเมื่อครู่นั้นสิบเท่า ได้ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
ก็เหมือนกับดวงอาทิตย์ ที่สาดส่องแสงจนทำให้คนลืมตาขึ้นไม่ได้
เงาแสงค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นจากดวงอาทิตย์ขนาดเล็กนั้น นั่นคือเด็กหนุ่มที่สวมใส่ชุดเกราะสีเงิน และด้านหลังมีปีกสองข้าง
รูปร่างหน้าตาของเขา คล้ายกันกับคริสติน แต่ว่า ลักษณะท่าทางแตกต่างกันกับคริสตินเป็นอย่างมาก แต่กลับคล้ายคลึงกับเจสเตอร์ที่อยู่ด้านข้าง
เด็กหนุ่มคนนั้นปิดตาทั้งสองข้างโดยตลอด เมื่อเขาลืมตาขึ้นนั้น ก็มีสองลำแสงสีทองอันทรงพลังสาดส่องออกมา
แสงสีทองนั้น สาดส่องไปยังพื้นถนนปูนซีเมนต์ที่แข็ง แล้วพื้นถนนปูนซีเมนต์ก็พลิกหงายแตกละเอียดขึ้นทันที
“ไอ้พวกคนชั้นต่ำ แกรบกวนเวลาพักผ่อนของข้าแล้ว”
เสียงของเขาฟังแล้วเหมือนกับคริสติน แต่ว่า ท่าทาง และน้ำเสียงนั้น กลับเย็นชาอย่างที่สุด คล้ายกับเสียงโลหะที่สังเคราะห์ขึ้นด้วยเครื่องจักรกล ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
เจสเตอร์ที่อยู่ด้านข้าง อ้าปากค้าง สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“ไอ้คริสตินที่สมควรตาย นาน นาย นึกไม่ถึงว่านายจะผนึกกำลังของทูตสว่างสองปีก! ”
“ยังดีที่ฉันไม่ได้ทำให้นายโมโห ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเสียเปรียบแน่! ” เจสเตอร์เกิดความหวาดกลัวขึ้น ซึ่งเขานั้นรังเกียจพลังของโรมันคาทอลิกอย่างที่สุด
แสงศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เหมือนว่ามีขึ้นเพื่อหยุดยั้งพวกเขาเผ่าโลหิต
เหมือนกับว่าพบเห็นเจสเตอร์ คริสตินที่มีปีก จึงได้จ้องมองไปที่เจสเตอร์อย่างเย็นชาในทันที
“ไอ้พวกสวะเผ่าโลหิต ที่อ่อนแอ สิ่งมีชีวิตในความมืดชั้นต่ำ รอให้จัดการไอ้หนุ่มนี้ก่อน แล้วฉันจะมาจัดการปรับสภาพของนาย”
ชัดเจนว่า คนที่อยู่เบื้องหน้านี้ ไม่ใช่คริสตินอีกแล้ว
เจสเตอร์สั่นเทาไปทั้งตัว และก็แวบหายไปในทันที
“ไอ้คริสตินที่สมควรตาย นายกล้าที่จะมอบร่างกายให้กับเขา นายจะบ้าไปแล้วเหรอ? ”
“ช่างเถอะ ตอนนี้เขาไม่ใช่คริสตินแล้ว ฉันเองควรที่จะหลบหลีกไปให้ไกลจากเขาจะดีกว่า! ”
“ทูตสว่างสองปีกเพียงคนเดียว ก็ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จอยู่แล้ว”
เจสเตอร์วิ่งพรวดเดียวไกลออกไปกว่าหนึ่งร้อยเมตร จึงหยุดลงและหันมามองสังเกตการณ์
หลินหยุนเดิมทีได้เตรียมพร้อมที่จะลงมือจัดการกับสองคนในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ดูเหมือนว่า เพียงแค่จัดการมนุษย์นกคนนี้ก็เพียงพอแล้ว
“เพียงแค่เงาร่างของทูตสว่างสองปีกธรรมดา ๆ ยังกล้าที่จะกำเริบเสิบสานต่อหน้าฉันอีก”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการนายให้ราบคาบ”
เงาร่างของหลินหยุนหายวับไปอย่างรวดเร็ว โดยเงาร่างยักษ์ตนหนึ่ง ได้ปรากฏขึ้นอยู่ท่ามกลางสถานที่แห่งนั้น
ดาบเฮ่าเทียนขยายขนาดใหญ่ขึ้น แผ่กระจายลำแสงสีแดงที่ทรงพลัง แล้วลอยมาอยู่ในมือของยักษ์ตนนั้น
หนึ่งคน หนึ่งดาบ ยืนตระหง่านอยู่ระหว่างชั้นฟ้าและชั้นดิน
ยักษ์ตนนั้น ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น หมางเมินต่อทุกสิ่งมีชีวิต
ไม่เห็นว่าเขาจะเปิดปาก แต่ก็มีเสียงดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
“เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์……เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์……”
เจสเตอร์ที่อยู่ไกลออกไปนั้นสีหน้าท่าทางตะลึงงัน: “นี่คือทักษะวิชาบู๊อะไรกัน! ”
“หรือว่าเขาก็ผนึกกำลังของเทพแห่งสว่างด้วย? ”
ส่วนคริสติน เดิมทีที่หน้าตาเฉยชา ก็แสดงอาการตกตะลึงขึ้นอย่างกะทันหัน
“ไม่ใช่ นายไม่ใช่คนบนดาวเคราะห์นี้ นายคือผู้บำเพ็ญเซียน! ”
โรมันคาทอลิก หรือเรียกอีกอย่างว่าเผ่าสัตว์ปีก คือเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าผู้บำเพ็ญเซียน
ชาติที่แล้ว หลินหยุนเคยได้สังหารทูตสว่างสองปีกคนหนึ่งของโรมันคาทอลิก
โดยทูตสว่างสองปีกที่คริสตินปล่อยออกมานี้ ภายในโรมันคาทอลิกแล้ว ก็ถือว่ามีสถานะบทบาทเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากที่ได้เห็นสถานะของหลินหยุนแล้ว คริสตินก็ตะโกนดังขึ้นว่า: “ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งสว่าง! โล่แห่งความสว่าง! ”
ร่างกายของคริสตินได้เปล่งลำแสงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอย่างน่าตกใจ ประกอบรวมกันเป็นดาบยักษ์ที่ยาวหลายฟุต เพื่อฟันปะทะกับดาบเฮ่าเทียนของหลินหยุน
ส่วนเบื้องหน้าร่างกายของเขา โล่ขนาดยักษ์ที่เกิดจากลำแสงรวมกันขึ้น เหมือนกับฝาหม้อรูปทรงวงรี คอยปกป้องคุ้มกันตัวเขาอย่างแน่นหนา
ฉับฉับฉับฉับ!
ดาบเฮ่าเทียนตะลุยฟัน จนดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งสว่างสลายหายไป จากนั้นก็ฟันฉับลงไปบนโล่อย่างรุนแรง
ตูม!
โล่ป้องกันถูกทำลายลง ร่างกายของคริสตินราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ กระเด็นลอยออกไปไกล
ลำแสงศักดิ์สิทธิ์บนร่างของเขา มืดดับลงไปไม่น้อย
“โชคดีที่พลังความสามารถของนายต่ำต้อย ถ้าหากนายคือผู้บำเพ็ญเซียนระดับขั้นแดนยาทองขึ้นไป อย่างนั้นฉันเองคงจะต้องจบชีวิตลงที่ตรงนี้”
คริสตินยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “น่าเสียดาย นายยังไม่ถึงระดับขั้นแดนยาทอง ต่อให้พลังความสามารถของนายจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถสังหารฉันได้”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร ที่ตอบกลับเขาก็คือเสียงของดาบเฮ่าเทียนอันดังลั่น
“ยังจะสู้อีกเหรอ? ฮึ ครั้งนี้คงจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว”
คริสตินหัวเราะอย่างน่าประหลาด กระพือปีกด้านหลังขึ้น และพุ่งขึ้นไปอยู่กลางอากาศที่ระดับหนึ่งร้อยเมตรในพริบตา
หลินหยุนที่กำลังจะใช้พลังดาบ จึงต้องหยุดลงทันที
ระยะห่างความสูงนับร้อยเมตร ต่อให้เป็นดาบเฮ่าเทียนก็โจมตีไปไม่ถึง
เห็นว่าหลินหยุนได้หยุดลง คริสตินก็หัวเราะดังอย่างภาคภูมิใจ: “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าพูดเอาไว้แล้ว นายยังไม่ถึงระดับขั้นแดนยาทอง ไม่สามารถทำอะไรฉันได้หรอก”
“วันนี้ ดูแล้วกันว่าฉันจะจัดการนายอย่างไร”
หลินหยุนมองไปที่เขาอย่างเห็นอกเห็นใจ และพูดขึ้นว่า: “นายคิดว่าตัวเองเหาะได้ แล้วจะไม่มีทางพบกับความพ่ายแพ้อย่างนั้นเหรอ? ”
“มนุษย์นกยังไงก็คือมนุษย์นก คิดว่าตนเองแน่เกินไปแล้ว”
คริสตินยิ้มเยาะและพูดว่า: “ไอ้หนุ่ม อย่าพูดโอ้อวดไปหน่อยเลย จากนี้ต่อไป ถึงเวลาที่ฉันแสดงความสามารถบ้างแล้ว”
“ฝนธนูกำราบฤทธิ์! ”
คริสตินขยับตัวขึ้นบนและลงล่าง แล้วก็พุ่งดำดิ่งลงมา ปีกขนาดยักษ์คู่นั้นที่อยู่ด้านหลัง เต็มไปด้วยมีด
ฟับฟับฟับฟับ!
ปีกคู่นั้นของเขา ได้ยิงขนนกเข้าใส่หลินหยุนอย่างนับไม่ถ้วน โดยขนนกทุกเส้น ก็เปรียบได้กับหนึ่งลูกธนู
หลินหยุนยืนอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว มีแสงทองเป็นวงกลมคุ้มกันกาย
ขนนกเหล่านั้น ถูกสกัดกั้นไว้อยู่ด้านนอก
พลังความสามารถของทูตสว่างสองปีก เทียบเท่าได้กับผู้บำเพ็ญเซียนระดับยาทองขึ้นไป
แต่ว่า ทูตสว่างสองปีกที่อยู่เบื้องหน้านี้ เป็นเพียงแค่เศษเงาที่หลงเหลืออยู่บนโลกนี้เท่านั้น โดยพลังความสามารถที่หลงเหลืออยู่มีเพียงแค่สองส่วนของร่างจริง
ซึ่งเปรียบได้กับนักบู๊ที่เพิ่งเข้าสู่ระดับแดนดั่งเทพ แต่แข็งแกร่งกว่าเยนหนานเทียนเล็กน้อย
เห็นว่าการโจมตีของตนเองไม่สำเร็จผล คริสตินก็ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร เหมือนว่าได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ฮึ ฉันจะดูว่านายมีพลังทิพย์ให้ฉันสิ้นเปลืองได้มากแค่ไหนกัน! ”
“เมียงมองจากเทพ !”