จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 805 สู้กับวาตานาเบะ
พลั่ก!
ทันใดนั้น เงาของใครคนหนึ่งที่อยู่กลางอากาศ ถูกต่อยออกมา
แววตาของนินจาพิเศษ ที่โผล่ออกมา ฉายแววตกใจและหวาดกลัว
หลินหยุนยังไม่หยุด เขาเหวี่ยงหมัดไปด้านหลัง
พลั่ก!
นินจาอีกคนถูกต่อยออกมา
ห้าหมัดติดต่อกัน สำเร็จกระบวน เพียงหนึ่งลมหายใจ นินจาทั้งห้า ปรากฏตัวออกมาทั้งหมด
หลินหยุนสีหน้าไร้อารมณ์ มองไปยังคนพวกนั้น แล้วพูดอย่างราบเรียบ “ในสนามล่าเจ็ดเผ่า ฉันเคยเห็นกลอุบายชั้นต่ำของพวกนายมาแล้ว”
“เก็บเอาไว้เถอะ อย่ามาทำขายหน้าต่อหน้าฉัน”
นินจ้าพิเศษทั้งห้าหน้าแดง
“บากะ!(งี่เง่า)”
มีคนอับอายจนโมโห
สวบ ดาบเล่มโค้งถูกดึงออกมาจากเอว คนนั้นจับด้ามด้วยสองมือ และพุ่งเข้าไปหาหลินหยุน
สี่คนที่เหลือ ก็ชักดาบออกจากฝักเช่นกัน จากนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาหลินหยุน จากทิศทางอื่น
เงาของพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สลับตำแหน่งไปมา ความเร็วนั่น ดูเหมือนจะไม่ช้าไปกว่าหลินหยุนสักเท่าไร
นี่น่าจะเป็นค่ายกลประเภทหนึ่ง เงาของคนพวกนั้น สามารถทำให้คู่ต่อสู้สับสนได้เป็นอย่างมาก
ถึงเป็นปรมาจารย์บู๊ ตอนนี้ก็ไม่สามารถระบุตำแหน่งการโจมตีของพวกเขาได้
โทโยะจะวะ ยามาโนะ แสยะยิ้มเย็นชา “ฝ่าสังหารลานตา เคยฆ่าปรมาจารย์สิบคนที่จีน! ขนาดเยนหนานเทียนในตอนนั้น เมื่ออยู่ภายใต้ฝ่าสังหารลานตา ก็ทำได้เพียงป้องกันตัวเองเท่านั้น”
“ปรมาจารย์หลิน ถึงคุณฆ่าเยนหนานเทียน แต่ใต้ฝ่าสังหารลานตาในตอนนี้ ไม่สามารถเทียบกับเมื่อก่อนได้อีกแล้ว”
ใต้ฝ่าสังหารลานตาแข็งแกร่งมาก แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาเจอหลินหยุน
มองเงาทั้งห้าคนเคลื่อนที่สลับไปมา อีกทั้งยังมีแสงของดาบ ที่ทำให้ตาลาย หลินหยุนเอามือไพล่หลัง สีหน้าเยือกเย็น และไม่ขยับไปไหน
เมื่อเงาของทั้งห้าคน เข้าใกล้เขาประมาณสามเมตร หลินหยุนตั้งมือทั้งสองอย่างมั่นคง
“ท่าที่ห้าของสิบแปดท่าต้าเต๋ากักขัง!”
หลังจากสร้างตัวอ่อนยาทองเสร็จเรียบร้อย ขอบเขตของท่าห้ามสิ่งวายชนม์ ก็กว้างขึ้นอีกหนึ่งเท่า
ยึดหลินหยุนเป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีวงกลมสิบเมตรรอบๆ ถูกปกคลุมด้วยท่าห้ามสิ่งวายชนม์
ร่างกายของห้านินจาพิเศษ หยุดชะงักในเวลาเดียวกัน
อีกทั้งดาบอันสว่างไสวที่พุ่งมายังหลินหยุน ก็โดนกักขังไว้กลางอากาศ
ทว่า ความสามารถของนินจาพิเศษทั้งห้า เท่ากับคนระดับปรมาจารย์บู๊ของจีน ถึงท่าห้ามสิ่งวายชนม์จะแข็งแกร่งมาก แต่กักขังพวกเขาได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
แต่ภายในเวลาไม่กี่วินาที ก็เพียงพอแล้ว
“พลิกฟ้าผ่าตะวัน!”
หมัดของหลินหยุน มีแสงสีขาวแผ่ออกมาบางๆ หมัดถูกกระแทกออกไป
พละกำลังมหาศาล ราวกับกระสุนพุ่งออกมาจากปากอาวุธขนาดใหญ่ กระแทกลงไปบนตัวทั้งห้าคน ที่ถูกกักขังเอาไว้
พลั่ก!
แสงของดาบ และร่างของคนทั้งห้า ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป
มีเสียงกระดูกหัก ดังขึ้นกลางอากาศ
นินจาพิเศษทั้งห้า บาดเจ็บสาหัส จนไม่มีแรงต่อสู้
โทโยะจะวะ ยามาโนะ สีหน้าเคร่งขรึม “ปรมาจารย์หลิน คิดไม่ถึงว่าผมจะประมาทคุณเกินไป”
“ดูเหมือนว่าคงต้องพึ่งวาตานาเบะเซนเซแล้วล่ะ!”
โทโยะจะวะ ยามาโนะ หันหลังเดินออกไป
หลินหยุนมองเขาแวบหนึ่ง แม้เขาจะตามไปจัดการโทโยะจะวะ ยามาโนะได้ แต่เขาก็ไม่ได้ตามไป
หลินหยุนไม่ได้ฆ่าห้านินจาพิเศษ เขาเดินต่อไปข้างหน้า มาถึงจุดที่โทโยะจะวะ ยามาโนะ ยืนเมื่อครู่
ทันใดนั้น มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง
นินจาพิเศษทั้งห้า ฆ่าตัวตายหมดทุกคน
หลินหยุนชะงักฝีเท้าลงช้าๆ เขาสัมผัสได้ถึงความอันตรายของเผ่าพันธุ์ จากตัวนินจาญี่ปุ่นพวกนี้
นี่เป็นเผ่าพันธุ์สุดโต่ง มองผิวเผินดูถ่อมตัว แต่กลับเป็นเผ่าพันธุ์น่ากลัว ที่แอบซ่อนสัตว์ร้ายอยู่ในใจ
แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล จีนไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงญี่ปุ่นอยากทำอะไร ก็ต้องคำนึงถึงความสามารถของตัวเอง
หลินหยุนเดินไปตามทางที่โทโยะจะวะ ยามาโนะ เดินออกไป เขาเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ
เมื่อเข้ามาในทางเดิน มีห้องเรียงรายเป็นแถว นอกจากนั้น ก็ไม่มีทางเดินอีก
ประตูครึ่งวงกลมทรงพัด ที่อยู่ตรงกลาง กำลังเปิดอยู่ เห็นชายชราสวมชุดดำ ผมขาวทั้งหัว นั่งอยู่ข้างใน
ชายชรานั่งหันหลังให้ประตู ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด
โทโยะจะวะ ยามาโนะ ยืนข้างชายชราอย่างนอบน้อม ก้มหน้าเล็กน้อย ท่าทางของเขาเหมือนทำผิด แล้วยืนต่อหน้าครู เป็นนักเรียนที่รอรับโทษ
ถึงชายชราคนนี้ ดูเหมือนจะตายได้ทุกเมื่อ แต่หลินหยุนกลับสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งจากตัวเขา
ความสามารถของคนนี้ ไม่ด้อยไปกว่าเยนหนานเทียน
แน่นอนว่าถ้าให้เวลาเยนหนานเทียนสักปี เพื่อทำความเข้าใจและสร้างความมั่นคงให้การฝึกแดนเทพ คนนี้ไม่มีทางเทียบเยนหนานเทียนได้
ชายชรายืนขึ้น ท่าทางของเขาคล่องแคล่ว เขาหันมามองหลินหยุน
“มีปราชญ์จีนท่านหนึ่งเคยพูดว่า มีเพื่อนมาจากแดนไกล มิใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอกหรือ!”
“โคจิโร วาตานาเบะ ขอต้อนรับท่านที่นี่!”
พูดพลาง วาตานาเบะโค้งตัว ทำความเคารพหลินหยุน
หลินหยุนสีหน้าไร้อารมณ์ และไม่ได้ตอบอะไร
เขาเชื่อว่าโคจิโร วาตานาเบะ ต้องพูดอะไรต่อแน่นอน
เป็นไปตามคาด วาตานาเบะยืดตัวตรง มองหลินหยุน น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึม “งั้น ปรมาจารย์หลินข้ามน้ำข้ามทะเลจากจีน มาถึงญี่ปุ่น เพื่อมาฆ่าถึงขนาดนี้ ดูจะขัดกับคำพูดของนักปราชญ์ชาวจีนไม่ใช่หรือไง”
หลินหยุนคาดคะเนได้แม่นยำมาก วาตานาเบะคงไม่ทำความเคารพเขาอย่างไร้เหตุผล เห็นได้ชัดว่าแอบจำการกระทำของชาวจีน ที่คุยกันด้วยเหตุผลก่อน
หลินหยุนสีหน้าไร้อารมณ์ มองโคจิโร วาตานาเบะ แล้วพูดอย่างราบเรียบ “ชาวจีนอย่างเรายังมีคำกล่าวที่ว่า คนที่ทำผิดต่อจีน ถึงอยู่แสนไกล ก็ต้องปลิดชีพให้ได้!”
“อีกอย่าง ฉันไม่คิดว่าเราคือเพื่อนกัน”
วาตานาเบะหัวเราะออกมา “ภาษาจีน เป็นภาษาที่ลึกซึ้งสลับซับซ้อนที่สุดบนโลกนี้ แค่อักษรตัวเดียว สามารถตีความได้หลายความหมาย”
“ผมชอบภาษาจีนมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้อย่างเต็มที่”
“ในเมื่อปรมาจารย์หลินบอกว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน งั้นระหว่างเรา น่าจะเรียกว่าคุยไม่ถูกคอ ครึ่งคำก็มากเกิน”
สีหน้าของโคจิโร วาตานาเบะ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เมื่อกี้ปรมาจารย์หลิน ฆ่าศิษย์ของผมไปมากมาย ผมคงต้องคิดบัญชีกับปรมาจารย์หลิน”
ระหว่างที่พูด หลินหยุนเดินเข้ามาในห้อง และมายืนตรงหน้าโคจิโร วาตานาเบะ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะมาพูดไร้สาระทำไม”
พูดจบ สายตาของหลินหยุน หันไปมองโทโยะจะวะ ยามาโนะ ที่อยู่ข้างๆ
“นี่คงเป็นแผนป้องกันสุดท้ายของพวกนายใช่ไหม ถ้าฉันฆ่าเขา ฉันหวังว่าจะเจอเพื่อนฉันตรงหน้า ในสภาพครบถ้วนสมบูรณ์”
“ไม่งั้น ฉันจะทำให้ ตระกูลยามาโนของนายตกอยู่ในความย่อยยับ”
น้ำเสียงของหลินหยุนราบเรียบมาก แต่โทโยะจะวะ ยามาโนะกับโคจิโร วาตานาเบะ ไม่กล้าสงสัยถึงความเป็นจริง ในคำพูดของหลินหยุน
ถ้าโทโยะจะวะ ยามาโนะ แตะต้องฉินหลันจริงๆ พวกเขาไม่สงสัยเลยว่า หลินหยุนจะทำลายตระกูลยามาโนให้ย่อยยับ คือเรื่องจริง
โทโยะจะวะ ยามาโนะพูดอย่างเยือกเย็น “อยากให้เพื่อนออกมาอยู่ตรงหน้า ผ่านด่านของวาตานาเบะเซนเซให้ได้ แล้วค่อยว่ากัน”
โคจิโร วาตานาเบะผายมือ แล้วพูดว่า “ปรมาจารย์หลิน ผู้มาจากแดนไกลคือแขก เชิญคุณก่อน!”
หลินหยุนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ต้องหรอก รีบสู้รีบจบ”
พูดพลาง หลินหยุนเหวี่ยงหมัดออกไป
แต่ทว่าหมัดนี้ หลินหยุนใช้ความสามารถเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าแค่ลองเชิง
ถึงพูดว่าความสามารถแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ โคจิโร วาตานาเบะ ก็ไม่กล้าชะล่าใจ
ชี่แท้แข็งแกร่งพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย เขาเหวี่ยงหมัดออกไปปะทะ
ปัง!
หมัดทั้งสองปะทะกัน แต่ทั้งสองต่างยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่ได้บาดเจ็บอะไร ดูไม่ออกว่าใครแพ้ชนะ
แต่ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน โต๊ะที่โคจิโร วาตานาเบะ เพิ่งดื่มชาเมื่อครู่ เกิดเสียงปังดังขึ้น มันแตกโดยไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ขี้เลื่อยกระจายเต็มพื้น
“ปรมาจารย์หลิน สมคำร่ำลือตามคาด!”
โคจิโร วาตานาเบะพูดอย่างจริงจัง
“คุณก็ลองรับหมัดผมหน่อยละกัน”
พูดจบ โคจิโร วาตานาเบะก้าวออกมา และเหวี่ยงหมัดพุ่งไปหาหลินหยุน