จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 816 ศึกใหญ่เริ่มขึ้นแล้ว
ฝ่ายจีนทุกคนยอมรับข้อตกลงนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นทุกคนก็เห็นด้วย
เพราะว่า ทั้งสองชาติไม่เชื่อว่า ตัวเองจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้
อีกอย่าง ต่อให้ไม่มีความมั่นใจ ตอนนี้เวลานี้ จะขี้ขลาดไม่ได้
ได้แต่ฝืนใจทำ ฝากความหวังไว้ที่ปรมาจารย์หลินและอิจิโร่ มุรามาสะ
ทางฝ่ายรัฐบาลญี่ปุ่น ได้จัดการศึกชุลมุนจนเกลี้ยง ถือว่าโล่งใจได้สักที
ตอนนี้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ศึกใหญ่หลินหยุนและอิจิโร่ มุรามาสะ
“เหอะ พวกแกรอคุกเข่าขอโทษให้กับชาวจีนเถอะ!”
หนุ่มชาวจีนคนหนึ่งได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ จากนั้นทุกคนได้แยกย้ายกันไป
นินจาหลายคนจากฝ่ายญี่ปุ่น ได้แสยะยิ้มพลางเอ่ยพูด : “เหอะ กลัวว่าถึงเวลานั้น จะเป็นพวกแกมากกว่าที่ต้องออกไปจากญี่ปุ่นด้วยความหดหู่เศร้าหมอง! อาจารย์มุรามาสะต้องชนะ!”
จากนั้น ฝ่ายญี่ปุ่นทุกคน ก็ได้แยกย้ายกันไปเช่นกัน
ทั้งสองฝ่าย เริ่มไปรวมตัวกันที่ภูเขาฟูจิ
หลินหยุนไม่รู้เลยสักนิดว่า ตอนที่เขากักตัวฝึกฝนอยู่คนเดียวนั้น เขาเกือบจะกลายเป็นจุดสนใจของจีนและญี่ปุ่นไปแล้ว
สามวันผ่านไปเร็วมาก เวลาที่เฝ้ารอมาแสนยาวนาน ในที่สุดได้มาถึงแล้ว
ตอนนี้ บนภูเขาฟูจิที่สูงสองพันเมตรในญี่ปุ่น ตั้งแต่ตีนเขาจนถึงยอดเขา ล้วนเต็มไปด้วยผู้คน
คนจำนวนมากต่างมารอกันอยู่ที่นี่ตั้งแต่หนึ่งวันก่อนแล้ว
เต็นท์เล็ก ๆ เก้าอี้ม้านั่ง อุปกรณ์ตั้งแคมป์กลางแจ้งต่าง ๆ ในตอนนี้ได้กลายเป็นสินค้าขายดี
ยังมีคนอีกมากมาย กำลังรีบมาโดยอยู่ระหว่างการเดินทาง
ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ญี่ปุ่น คุณชายเย้นเฉิงตงแห่งบริษัท ไห่หลาน จำกัดที่ถูกหลินหยุนลงมือจนขาหักสองข้าง จู่ ๆ ก็ได้รับวิดีโอคอลจากเพื่อนสนิทที่อยู่ในประเทศจีน
“อยู่ที่ไหนเนี่ยคุณชายเย้น ? นายไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ?” ในวิดีโอคอล มีหนุ่มแต่งตัวจัดจ้านคนหนึ่ง เห็นสภาพของโรงพยาบาลจากด้านหลังเย้นเฉินตง ก็ได้ยิ้มร้ายกาจพลางเอ่ยถาม
เย้นเฉิงตงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ : “อย่าพูดถึงเลย ครั้งนี้ถือว่าฉันดวงซวย นายมีธุระอะไร? ถ้าไม่มีจะวางสายแล้วนะ ฉันกำลังหงุดหงิดอยู่”
หนุ่มคนนั้นหัวเราะแหะ ๆ แล้วเอ่ย : “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย รับรองว่านายฟังจบจะหายหงุดหงิดแน่นอน”
“ปรมาจารย์หลินกับอิจิโร่ มุรามาสะ กำลังสู้กันอยู่ที่ภูเขาฟูจิ มีคนจีนไปกันมากมาย ตอนนี้ฉันไปไม่ทัน นายรีบไปเถอะ แล้วถ่ายทอดสดให้ฉันดูด้วย!”
เย้นเฉิงตงสบถออกมา : “ฉันแม่งก็อยากไป แต่ว่า นายดูสภาพฉันตอนนี้สิว่าไปได้หรือเปล่า?”
ขณะที่พูด เย้นเฉิงตงได้หันกล้องโทรศัพท์มาส่องที่ขาของตัวเองที่กำลังเข้าเฝือกอยู่
หนุ่มที่อยู่ในสาย หัวเราะฮ่าฮ่าแล้วเอ่ยพูด : “ นี่เป็นศึกใหญ่แห่งศตวรรษเลยนะคุณชายเย้น ถ้าหากพลาดไป ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้ดูอีก ถ้าฉันเป็นนาย ต่อให้ต้องนั่งวีลแชร์ หรือหาคนแบกหามไป ฉันก็จะต้องไปให้ได้!
“ฉันคาดการณ์ว่า ที่ภูเขาฟูจิตอนนี้ อย่างน้อยมีคนมารวมตัวกันไม่ต่ำกว่าสิบล้านคน นายนึกฉากแบบนั้นดูสิ ชีวิตนี้นายเคยเห็นเหรอ?” หนุ่มคนนั้นกำลังพูดกล่อม
เย้นเฉิงตงรู้สึกตกใจ : “ไม่ต่ำกว่าสิบล้านคน!”
“เป็นเหตุการณ์ใหญ่จริง ๆ ด้วย!”
“แม่งเอ้ย ฉันจะไป ต่อให้ต้องคลาน ฉันก็จะคลานไป!”
หนุ่มที่อยู่ในสายเอ่ยชม : “ต้องให้ได้แบบนี้สิ ฉันรับรองว่าหลังจากนายไปถึง จะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน!”
เย้นเฉิงคงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ : “เอาล่ะ ฉันวางสายก่อน ไว้รอฉันถึงที่นั่น จะวิดีโอคอลหานาย!”
จากนั้น เย้นเฉิงตงได้เรียกลูกน้องของตัวเองมา
จะให้คนแบกเขาไปที่ภูเขาฟูจิจริง ๆ ด้วย
แต่ว่า เจ้าหนุ่มคนนี้มีเงินจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ เย้นเฉิงคงไม่ใช่คนขาดแคลนกำลังทรัพย์ จึงหาคนได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นได้พาเขาไปที่ภูเขาฟูจิ
ภูเขาฟูจิในตอนนี้ คนยั้วเยี้ยมากมายเหมือนมด
แต่ กลับแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นได้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ด้านซ้ายและด้านขวา ทุกคนต่างเฝ้ารอการปรากฏตัวของปรมาจารย์หลินกับอิจิโร่ มุรามาสะ
ในกลุ่มคนเหล่านี้ มีหลายคนที่หลินหยุนคุ้นหน้าคุ้นตา
ที่มุมหนึ่ง มีเถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิงและคนอื่น ๆ กำลังแหงนหน้ามองไปที่ภูเขาฟูจิลูกสูงใหญ่ด้วยใบหน้าสงสัย
จางเหมิงเอ่ยถาม : “พวกแกว่า ปรมาจารย์หลินนั้น จะใช่หลินหยุนหรือเปล่า?”
เหยียนเสวเหวินส่ายหน้า : “ฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ถึงแม้หลินหยุนจะถูกเรียกว่าปรมาจารย์หลินเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับอาจารย์มุรามาสะของญี่ปุ่นแล้ว เขายังไม่มีคุณสมบัติมากพอ!”
“อีกอย่าง หลินหยุนอยู่ดี ๆ จะมาที่ญี่ปุ่นทำไม?”
เถียนชุ่ยชุ่ยพูดเสียงหวาน : “เหยียนเสวเหวินพูดถูก ฉันก็คิดว่าไม่มีทางเป็นหลินหยุนแน่นอน ปรมาจารย์หลินคนนั้น เขาอาจจะแซ่หลินเหมือนกันเท่านั้นเอง!”
“อีกอย่าง แม้ว่าหลินหยุนจะมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่ฉันได้ยินมาว่า อาจารย์มุรามาสะคนนี้ เป็นอันดับหนึ่งในโลกบู๊ของญี่ปุ่น!”
“หลินหยุนกับเขาไม่ใช่คนที่อยู่ระดับเดียวกันเลยสักนิด!”
หลี่หงถูเอ่ยว่า : “ตอนนี้พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกเดี๋ยวรอดูก็รู้เองแหละ”
กลุ่มคนที่อยู่อีกฝั่ง ซึ่งเป็นรูมเมทของหลินหยุนมาถึงที่นี่แล้วเช่นกัน
จางซือจู่เอ่ยพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น : “ไอ้สิบแปดมงกุฎ แกเดาดูซิปรมาจารย์หลินคนนี้ จะใช่หลินหยุนไหม?”
หยางเทียนโย่วแสร้งทำท่าหลับตา แล้วเอ่ย : “ฉันจะลองคิดดูนะ!”
“อืม ฉันคิดว่าปรมาจารย์หลินท่านนี้……”
หยางเทียนโย่วจงใจอุบเอาไว้ก่อน ไม่ยอมพูดออกมาง่าย ๆ
“ใช่หรือไม่ใช่กันแน่?” ไอ้หินก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยเช่นกัน
“จะเป็นหลินหยุนไปได้ยังไงล่ะ? อยู่ดี ๆ หลินหยุนจะมาที่ญี่ปุ่นทำไม!” หยางเทียนโย่วเอ่ยพลางหัวเราะเสียงดัง
จางซือจู่และคนอื่น ๆ เข้าใจได้ทันที ว่าตัวเองถูกหยางเทียนโย่วแกล้งเข้าให้แล้ว
“สิบแปดมงกุฎ แกอยากถูกอัดใช่ไหม?” เทพฟ้าผ่าที่ถูกแกล้ง จ้องเขม็งและพูดจาข่มขู่
หยางเทียนโย่วไม่กล้าล้อเล่นกับเทพฟ้าผ่า จึงได้แต่หัวเราะฮ่าฮ่า : “ล้อเล่นเท่านั้นเอง เพื่อให้บรรยากาศมีสีสันขึ้นมาหน่อย อย่าโกรธเลยนะ อย่าโกรธเลย!”
“ปรมาจารย์หลินคนนั้นจะใช่หลินหยุนหรือไม่ อีกเดี๋ยวพวกเราก็ได้รู้เองแหละ ตอนนี้คาดเดากันไปมา ก็ไม่มีประโยชน์”
ทันใดนั้น จู่ ๆ ได้มีเฮลิคอปเตอร์สามลำโผล่อยู่บนท้องฟ้า
มีสองลำ สกรีนภาพสำนักข่าวของทางการญี่ปุ่น
ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งลำ บินวนอยู่บนยอดภูเขาฟูจิช้า ๆ
จากนั้น ลดระดับความสูงลงมาอยู่ที่ไม่กี่สิบเมตร
เงาดำร่างหนึ่ง ได้กระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์อย่างดุเดือด
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันตกตะลึงไปทันที
“พระเจ้า!”
“เขากระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เลยเหรอ!”
“นี่ใครกัน?”
ตอนนี้ ไม่ว่าฝ่ายญี่ปุ่น หรือว่าฝ่ายจีน ต่างมีสีหน้าช็อกกันหมด!
อิจิโร่ มุรามาสะ ยืนบนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ยอดภูเขาฟูจิ ซึ่งสูงสองพันเมตร มีเพียงผู้ชมที่อยู่บนยอดเขาเท่านั้นสามารถมองเห็นได้ชัด
คนที่อยู่กลางเขาและตีนเขา ไม่สามารถมองเห็นได้ อย่างมากก็เห็นแค่จุดดำเล็ก ๆ จุดหนึ่งเท่านั้น
ส่วนพวกที่ใช้กล้องส่องทางไกลเหล่านั้น พอจะมองเห็นเป็นร่างคนชัดเจนขึ้นมาหน่อย
“นั่นคืออาจารย์มุรามาสะ!”
ผู้ชมที่อยู่บริเวณยอดเขา ส่งข่าวต่อกันมา
ไม่นาน ข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วราวกับลมพัดยังไงยังงั้น
ทุกคนได้รู้กันหมดแล้ว ว่าคนที่กระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์นั้น คืออิจิโร่ มุรามาสะ
ทันใดนั้น คนที่อยู่ฝ่ายญี่ปุ่น ก็ส่งเสียงต้อนรับกันอย่างสนั่นหวั่นไหวทันที
ผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนส่งเสียงต้อนรับกันอย่างกระหึ่ม ความคึกคักนั้นเป็นเหมือนดั่งคลื่นที่โหมกระหน่ำเข้ามา ดูทรงพลังมาก!
คนญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับฝ่ายจีน แสยะยิ้มให้กับคนจีนด้วยสีหน้าได้ใจ : “เห็นหรือยัง? นั่นคืออาจารย์มุรามาสะของพวกเราชาวญี่ปุ่น!”
“อาจารย์มุรามาสะของพวกเรา เป็นเหมือนเทพที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์!”
“ปรมาจารย์หลินของพวกแก ต้องแพ้ราบคาบแน่นอน!”
“จริงสิ ปรมาจารย์หลินของพวกแกทำไมถึงยังไม่มาล่ะ ไม่ใช่ว่ากลัวจนไม่กล้ามาแล้วนะ?”
“ฮ่าฮ่า……”
คนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง ได้หัวเราะเยาะเสียงดัง
พวกเขาเผชิญหน้ากับคนจีนเหล่านั้น ด้วยใบหน้าที่โกรธแค้น
“เหอะ ปรมาจารย์หลินจะกลัวพวกแกเนี่ยนะ? ถ้าหากปรมาจารย์หลินกลัวจริง ๆ ก็คงไม่ถ่อมาไกลนับพันไมล์ถึงญี่ปุ่น เพื่อท้าทายอาจารย์มุรามาสะของพวกแกหรอก!”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ปรมาจารย์หลินอาจจะอยู่ระหว่างทางแล้วก็ได้!”
“ปรมาจารย์หลินต้องชนะ!”
“ปรมาจารย์หลินต้องชนะแน่นอน!”
คนจีนจำนวนหนึ่งที่แทบไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ก็ได้ตะโกนออกไปด้วยเช่นกัน
ด้วยพลังของคนจีนกว่าสิบล้านคน ทำให้สามารถข่มขวัญฝ่ายญี่ปุ่นได้ในทันที