จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 819 อาจารย์มุรามาสะผู้บ้าคลั่ง
ในกลุ่มชาวจีน ได้แพร่สะพัดข่าวลือที่ว่าปรมาจารย์หลินเป็นเพียงคนไม่ได้เรื่องคนหนึ่งกันอย่างรวดเร็ว
ชาวจีนที่ได้รู้ข่าวนี้ ต่างพากันนิ่งอึ้งไป
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!”
“ไอ้ญี่ปุ่นพวกนี้คงไม่ได้จงใจหลอกพวกเราหรอกนะ? ปรมาจารย์หลินจะเป็นหนุ่มที่เพิ่งอายุยี่สิบต้น ๆ ได้ยังไง?”
“พวกเขาไม่ได้โกหก เป็นพวกเราที่อยู่บนยอดเขาเห็นด้วยตาตัวเอง ได้ยินว่า มีเพื่อนสมัยมัธยมปลายของเขาสองคน จำได้ว่าเป็นเขา!”
“นี่ นี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้! ปรมาจารย์หลินบ้าอะไรกัน ฉันว่าน่าจะแอบอ้างหลอกลวงต้มตุ๋นคนอื่นมากกว่า!”
“ตอนนี้ เขาทำร้ายพวกเราจนยับเยินเลย!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนร่วมชาติที่ต่างข้ามน้ำข้ามทะเลมาครั้งนี้ เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของจีน กลับกลายเป็นข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่ออับอายขายหน้า!”
“เฮ้อ คราวนี้ไม่ใช่แค่พวกเราที่ขายหน้า แต่ประเทศจีนจะถูกทั่วโลกล้อเลียนตลกขบขัน!”
ชาวจีนส่วนใหญ่ ต่างพากันทอดถอนใจ แล้วรุมด่าปรมาจารย์หลิน
แต่ว่า จางซือจู่และคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินข่าวนี้ กลับตกตะลึงกันไปหมด
“ไม่ใช่มั้ง หรือปรมาจารย์หลินจะเป็นหลินหยุนจริง ๆ! ทำไมเขาถึงได้มาท้าทายอิจิโร่ มุรามาสะถึงญี่ปุ่นล่ะ?”
บนหน้าของจางซือจู่ เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ในดวงตาเต็มไปด้วยเครื่องหมายตกใจ
“ปัญหาคือ หลินหยุนจะสามารถสู้ชนะอิจิโร่ มุรามาสะได้ไหม? ฉันบอกเลยว่า อิจิโร่ มุรามาสะเป็นเบอร์หนึ่งในโลกบู๊ของญี่ปุ่น!” หยางเทียนโย่วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ฉินโส่วและเทพฟ้าผ่าก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นเดียวกัน ได้แต่แอบเป็นห่วงหลินหยุน
มีเพียงไอ้หิน ที่พูดออกมากะทันหันด้วยสีหน้าแน่วแน่ : “ฉันเชื่อว่าหลินหยุนจะสามารถเอาชนะได้”
“หืม? ไอ้หิน นายไปเอาความมั่นใจนี้มากจากไหน?” จางซือจู่มองไปที่ไอ้หินด้วยความสงสัย
ไอ้หินที่ไม่ค่อยชอบแสดงออก หน้าแดงขึ้นมา แล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า : “พวกนายคิดดูสิ สิ่งที่หลินหยุนเคยพูดไว้ มีครั้งไหนบ้างที่ไม่เกิดขึ้นจริง!”
“คนพวกนั้นที่คิดจะจัดการหลินหยุน สุดท้ายผลลัพธ์เป็นยังไงล่ะ?”
“ศัตรูที่หลินหยุนจะเผชิญหน้าทุกครั้ง ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน สุดท้ายก็ถูกหลินหยุนจัดการจนพ่ายแพ้ไป!”
“ฉะนั้น ครั้งนี้ฉันยังคงเชื่อมั่นว่า หลินหยุนต้องเอาชนะได้แน่นอน”
คำพูดของไอ้หิน เหมือนเป็นพลังที่ติดต่อกันได้ ทำให้จางซือจู่และคนอื่น ๆ รู้สึกเชื่อมั่นในตัวหลินหยุนไปด้วย
“ไอ้หินพูดถูก พวกเราทุกคน ในฐานะที่เป็นเพื่อนหลินหยุน ต่อให้คนทั้งโลกไม่เชื่อในตัวเขา พวกเราก็ต้องเชื่อเขาอย่างไม้มีข้อแม้!” จางซือจู่พูดอย่างหนักแน่น
“ถูกต้อง พวกเราเชื่อมั่นในตัวปรมาจารย์หลิน! ปรมาจารย์หลินต้องสู้ชนะอิจิโร่ มุรามาสะได้แน่นอน!” หยางเทียนโย่วจู่ ๆ ได้ตะโกนเสียงดังขึ้นมา
จางซือจู่ตกใจจนต้องรีบเอามือปิดปากเขาเอาไว้ : “แกพูดเสียงดังขนาดนี้ทำไม? กลัวคนอื่นไม่ได้ยินหรือไงห๊ะ!”
ตอนนี้ คนที่อยู่ฝ่ายจีนทั้งหมด ต่างพากันกร่นด่าปรมาจารย์หลิน ถ้าหากพวกเขาไม่กี่คนขัดคอกับทุกคนขึ้นมาตอนนี้ จะยิ่งสร้างความโกรธแค้นได้ง่าย
หยางเทียนโย่วหัวเราะแหะแหะ : “ฉันต้องการให้คนอื่นได้ยิน”
“ขอแค่พวกเรายัดหยัดเชื่อมั่นในตัวหลินหยุน ฉันเชื่อว่า คนอื่น ๆ ก็จะเชื่อมั่นในตัวหลินหยุนตามพวกเรา”
จางซือจู่นึกได้ขึ้นมา : “สิบแปดมงกุฎ ฉันพบว่าสมองแกนี่ใช้ได้เหมือนกันนะ!”
“ถูกต้อง ฉันก็เชื่อว่าปรมาจารย์หลินต้องชนะได้แน่นอน! คนญี่ปุ่นพวกนั้น ต้องการทำลายขวัญกำลังใจของพวกเรา ฉันไม่เชื่อคำพูดบ้าบอของพวกมันหรอก!”
“ต่อให้ปรมาจารย์หลินเพิ่งอายุยี่สิบกว่า แล้วจะทำไมล่ะ? ในเมื่อปรมาจารย์หลินกล้ามาถึงญี่ปุ่นตัวคนเดียวเพื่อท้าทายเบอร์หนึ่งแห่งโลกบู๊ของญี่ปุ่น เพียงแค่ความกล้าหาญเรื่องนี้ จะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้!”
“ใครกำลังกล่าวหาว่าปรมาจารย์หลินเป็นคนต้มตุ๋นหลอกลวง แสดงว่าคนนั้นเป็นคนทรยศ ขายชาติ!” จางซือจู่เปิดปากพูด ได้ผลดีจริง ๆ ด้วย เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ต่อให้คนพวกนั้นยังไม่เชื่อมั่นในตัวหลินหยุน แต่ก็ไม่มีใครกล้าด่าหลินหยุนอีกแล้ว
“จริงด้วย พวกเราควรจะเชื่อมั่นในตัวปรมาจารย์หลิน! ปรมาจารย์หลินต้องชนะ!”
“ปรมาจารย์หลินต้องชนะ!”
จากนั้น ขวัญกำลังใจของชาวจีนทุกคน ได้ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง
จางเหมิงกับเถียนชุ่ยชุ่ยและคนอื่น ๆ เมื่อได้ยินข่าวว่าปรมาจารย์หลินคือหลินหยุน แต่ละคนต่างตะลึงงันกันไปหมด
หลังจากที่เหยียนเสวเหวินถูกหลินหยุนกดขี่ไปเมื่อคราวก่อน ตอนนี้แค่ได้ยินชื่อของหลินหยุน ก็รู้สึกอยากถอยหนีไปทันที
“ทำไมไปที่ไหนก็มีแต่หลินหยุน! พระเจ้า จะให้มีชีวิตอยู่ต่อไปไหมเนี่ย!” เหยียนเสวเหวินเอามือสองข้างกุมหัว ทำสีหน้าท่าทางทุกข์ทรมาน
จางเหมิงและคนอื่น ๆ ต่างมีสีหน้ากระอักกระอ่วน พวกเขารู้สึกไม่ต่างอะไรกับเหยียนเสวเหวินเลย ชื่อหลินหยุนนี้ เป็นความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในใจของพวกเขา
คนบนยอดเขา ได้ยินเสียงตะโกนมาจากชาวจีน
อิจิโร่ มุรามาสะก็ได้ยิ้มพลางเอ่ยพูด : “ดูท่าทาง ขวัญกำลังของชาวจีนดีใช้ได้เลยนี่ แบบนี้แล้วยังเชื่อมั่นในตัวแกได้อีก!”
หลินหยุนเอ่ยพูดอย่างราบเรียบ : “จากการฝึกตนของคุณ ยังเล่นลูกไม้แบบนี้อีก ระวังจะเสื่อมเสียถึงฐานะตัวตัน”
อิจิโร่ มุรามาสะหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วเอ่ยพูด : “เทคนิคการต่อสู้ของยอดฝีมือ ไม่ว่าเงื่อนไขเล็กน้อยอะไร ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะได้ทั้งนั้น”
“ก่อนศึกใหญ่ ถ้าหากสามารถทำลายขวัญกำลังใจชาวจีนอย่างพวกแกได้ การสู้กันครั้งนี้อย่างน้อยถือว่าฉันชนะไปแล้วสองส่วน”
หลินหยุนเอ่ยอย่างเรียบ ๆ : “คุณประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว”
อิจิโร่ มุรามาสะหุบยิ้ม แล้วโค้งคำนับให้กับหลินหยุน : “ฉันเป็นเจ้าบ้าน แกเป็นแขก เชิญลงมือเถอะ!”
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอก โชว์ฝีมือคุณออกมาได้เลย!” หลินหยุนไม่ได้พุ่งตัวไปข้างหน้า แต่กระโดดสูงขึ้น แล้วฟาดหมัดตรงไปที่อิจิโร่ มุรามาสะ
อิจิโร่ มุรามาสะหรี่ตาทั้งสองข้างลง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้แผ่ซ่านออกมาทั่วตัว : “หลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอกับคู่ต่อสู้จริง ๆ สักที จนฉันเกือบลืมความรู้สึกแบบนี้ไปแล้ว”
“ตอนนี้ ความปรารถนาที่จะต่อสู้ที่หายไปนาน ได้กลับมาแล้ว!”
อิจิโร่ มุรามาสะเหมือนได้เติมเต็มความรู้สึกนี้อย่างเต็มที่ จากนั้นมือทั้งสองข้างได้กางออก ตาคู่นั้นได้ปิดลง ท่าทางเหมือนกำลังเคลิบเคลิ้ม
ปัง!
หมัดของหลินหยุนได้กระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา เขาไม่หลบเลยสักนิด ทั้งตัวกระเด็นออกไปเหมือนกับลูกปืนใหญ่ ลอยปลิวไปด้านหลัง
ตึง!
ร่างของอิจิโร่ มุรามาสะ ได้กระแทกเข้ากับต้นไม้เล็ก ๆ สองต้นที่อยู่ด้านหลังจนหัก แล้วร่วงหล่นลงพื้นอย่างรุนแรง
ผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่โดยรอบ ต่างมองหน้ากันไปมา
ชาวญี่ปุ่นพูดขึ้นมาด้วยความสงสัยเต็มประดา : “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอาจารย์มุรามาสะไม่หลบล่ะ?”
“อาจารย์มุรามาสะกำลังทำอะไรน่ะ? เขากำลังอ่อนข้อให้งั้นเหรอ?”
ชาวญี่ปุ่นเริ่มกล่าวประณามขึ้นมา : “อาจารย์มุรามาสะ ศึกครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเกียรติยศของพวกเราชาวญี่ปุ่นนะ คุณช่วยจริงจังรับมือหน่อยสิ!”
ส่วนพวกชาวจีน กลับมีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
“เบอร์หนึ่งในโลกบู๊ของญี่ปุ่นอะไรกัน ก็ได้แค่เท่านี้เอง!”
“ฮ่าฮ่า ปรมาจารย์หลินไม่เลวเลยนี่! เมื่อครู่ใครพูดว่าปรมาจารย์หลินไม่ได้เรื่อง อายุน้อยแล้วมันทำไมเหรอ? มีความสามารถก็พอแล้ว!”
ชาวจีนจำนวนหนึ่งที่ตอนแรกไม่เชื่อมั่นใจตัวหลินหยุน เมื่อเห็นหลินหยุนซัดอิจิโร่ มุรามาสะจนกระเด็นได้ในหมัดเดียว ตอนนี้ก็ได้มั่นใจในตัวหลินหยุนขึ้นมาทันที
หลินหยุนยืนอยู่บนหินก้อนที่อิจิโร่ มุรามาสะยืนอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วมองไปยังอิจิโร่ มุรามาสะที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“คุณเป็นคนแรกเลยนะ ที่สามารถรับหมัดของฉันได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เบอร์หนึ่งในโลกบู๊ของญี่ปุ่น ถือว่ามีฝีมือไม่น้อยจริง ๆ ด้วย”
อิจิโร่ มุรามาสะกระโดดพรวดขึ้นมาจากพื้น มีไอพลังแรงกล้าแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งตัว เหมือนสัตว์ประหลาดที่มีเปลวไฟลุกโชนทั่วตัว แล้วหัวเราะฮ่าฮ่าใส่หลินหยุน
“ปรมาจารย์หลิน แกได้ปลุกจิตวิญญาณสู้รบอันแรงกล้าของฉันขึ้นมาแล้ว ฉันจะทำให้พวกแกได้สู้อย่างถึงใจไปเลย!
“เหอะ!”
อิจิโร่ มุรามาสะตะคอกออกมาเสียงดัง ชุดคลุมที่อยู่บนตัวเขาสะบัดขาดออกจากกันเป็นชิ้น ๆ เขาเปลือยท่อนบนยกหมัดโพ่งตรงมาที่หลินหยุน
ไม่ว่าคนญี่ปุ่น หรือว่าคนจีน ต่างเพิ่งเคยเห็นการต่อสู้ของอิจิโร่ มุรามาสะเป็นครั้งแรก
จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจกลัวขึ้นมาบ้าง
“อาจารย์มุรามาสะสู้ขึ้นมา บ้าคลั่งขนาดนี้เชียวเหรอ!”
“จริงด้วย เหมือนคนบ้าเลย! ตอนแรกเห็นเขาเป็นไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่ง ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนชายหนุ่มไม่มีผิด!”
“เมื่อครู่นี้ปรมาจารย์หลินซัดเขาไปหนึ่งหมัด เขากลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด พละกำลังของอิจิโร่ มุรามาสะคนนี้ ดูท่าทางยากแท้หยั่งถึง!”