จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 824 สถานการณ์จำเป็นต้องฆ่า
เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง สีหน้าของหลินหยุน กลับมาเป็นปกติ แต่ทว่าสีหน้าซีดเล็กน้อย เพราะสูญเสียพลังไปเยอะ
อิจิโร่ มุรามาสะกับดาบปีศาจมุรามาสะ กลายเป็นผุยผงโดยสมบูรณ์
พืชพรรณที่อยู่บนส่วนยอดภูเขาฟูจิ ล้วนแห้งตายหมด
ความรู้สึกอาฆาต ปกคลุมไปทั่วยอดเขา อย่างไม่สลายหายไป
ร่วงสังหาร ทำให้ตายไปเกือบครึ่งเขา!
บนยอดเขา ทุกคนพากันเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมพัดเท่านั้น
เมื่อเย้นเฉิงตงถูกลูกน้องแบกจากถนนเส้นเล็กๆ มาจนถึงยอดเขา อย่างเหนื่อยหอบ เห็นภาพที่ร่างของอิจิโร่ มุรามาสะ หักเป็นท่อนๆ พอดี
“ปรมาจารย์หลินชนะแล้ว!”
จากนั้น แววตาของเย้นเฉิงตง มองไปยังหลินหยุน ที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนหิน โดดเด่นราวกับเซียน
“นี่คือปรมาจารย์หลิน! คิดไม่ถึงว่าจะหนุ่มขนาดนี้!”
เมื่อเย้นเฉิงตงเห็นหน้าหลินหยุน เขาอ้าปากจนแทบจะยัดไข่ไก่เข้าไปได้ทั้งฟอง
“เขา เขาคือปรมาจารย์หลินจริงๆ!”
ภาพตรงหน้าเย้นเฉิงตงกลายเป็นสีดำ แทบจะเป็นลมล้มพับ
เขายังคิดว่าหลังกลับประเทศ สืบที่มาที่ไปของหลินหยุนจนแน่ชัด แล้วค่อยแก้แค้นหลินหยุน
ตอนนี้ เย้นเฉิงตงเกือบตกใจตายกับความคิดของตัวเอง
ตอนนี้ ผู้คนบริเวณยอดเขา ตั้งสติขึ้นมาได้
ต่อมา ในค่ายชาวจีน มีเสียงอันน่าตกตะลึงดังขึ้น
“ปรมาจารย์หลินชนะแล้ว!”
“ปรมาจารย์หลินชนะแล้ว!”
ข่าวนี้ เหมือนสายลมวูบหนึ่ง แพร่กระจายไปทั่วค่ายชาวจีนอย่างรวดเร็ว
“หลินหยุนชนะแล้ว! ดีมากเลย! ฉันว่าแล้ว หลินหยุนไม่เคยทำให้เราผิดหวัง!” ไอ้หินยิ้มด้วยความตื้นตันใจ
จางซือจู่ตบบ่าไอ้หินอย่างแรง แล้วพูดว่า “ไอ้หิน ครั้งนี้ต้องชมนายแล้ว!”
ฉินโส่วก็ตบไหล่ไอ้หินแรงๆ เช่นกัน “ไอ้หิน เยี่ยมมาก!”
เทพฟ้าผ่าก็ยกนิ้วโป้งให้ไอ้หิน
ไอ้หินก้มหน้าอย่างเขินอาย หน้าแดงไปหมด ไม่เคยโดนใครชมมาก่อนนี่นา!
ล่างตีนเขา จิตใจเป็นกังวลของฉินหลัน ในที่สุดก็โล่งใจสักที
ข้างฉินหลัน หลี่หมิ่นจูมองลำคอขาวของฉินหลันเหมือนมีอะไรบางอย่าง
ตรงนั้น มีจี้รูปดาวที่ทำจากหยกขาว
“คุณฉินหลัน ขอถามหน่อยนะคะ จี้ตรงอกของคุณ ซื้อมาจากไหนเหรอคะ สวยมากเลย!” หลี่หมิ่นจูยิ้มและถามขึ้น แต่ในแววตาลึกๆ กลับเป็นประกาย
ฉินหลันไม่ได้สงสัยว่ามีอะไร เธอยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่ได้ซื้อมาหรอก นี่คงเป็นของที่คนสนิททิ้งไว้ให้ฉัน ตั้งแต่ฉันจำความได้ ก็พกมันมาตลอด”
“ไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือสิ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้หรือเปล่า”
หลี่หมิ่นจูถามอย่างสงสัย “คุณฉินหลันเป็นลูกกำพร้าเหรอคะ”
“ใช่” สีหน้าของฉินหลันนิ่งสงบ ราวกับเธอชินกับการเป็นลูกกำพร้าไปแล้ว “ฉันโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก ประธานคณะกรรมการหวางเป็นคนรับเลี้ยงฉัน”
หลี่หมิ่นจูไม่ได้ถามต่อ แต่ประกายในแววตาลึก ยิ่งชัดเจนขึ้น
คนหนุ่มชาวจีนสองคนที่โดนต่อย รีบไปหานินจาญี่ปุ่นพวกนั้น แล้วบอกให้พวกเขา คุกเข่าขอโทษต่อหน้าชาวจีนทุกคน
ชาวญี่ปุ่น ตกตะลึงกับพละกำลังอันแข็งแกร่ง ที่หลินหยุนแสดงออกมา
บวกกับกำลังของชาวจีน อีกทั้งยังมีคำสัญญากับทางการญี่ปุ่นในตอนแรก
แม้แต่จะขัดขืนไม่ยอมรับ ยังไม่กล้าทำเลย
พวกนินจา คุกเข่าต่อหน้าชาวจีนด้วยสีหน้าอัปยศอดสู และก้มหน้าลง
“เราไม่ควรดูถูกชาวจีน เราขอโทษชาวจีน!”
“ดี!” สองหนุ่มที่โดนต่อย ตะโกนออกมาเสียงดัง
ความจริงเป็นสิ่งพิสูจน์ เผ่าพันธุ์ที่เอาแต่ประจบสอพลอ ไม่มีวันได้รับความเคารพจากผู้อื่น มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะได้รับความเคารพจากผู้อื่น
ชาวจีนนับพันนับหมื่น ต่างโห่ร้องคำว่าดีออกมา
โห่ร้องความอัปยศอดสูหลายร้อยปี โห่ร้องความซวยหลายปีออกมา
โห่ร้องถึงอนาคตอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานของชาวจีน
ขณะเดียวกัน อีกฟากฝั่งทะเล ในประเทศจีน
ชาวบู๊ที่เห็นหลินหยุนฆ่าอิจิโร่ มุรามาสะ ผ่านวิดีโอถ่ายทอดสด พากันเดือดพล่าน
“ดีมาก! ความอัปยศในโลกบู๊ของชาวจีนที่มีมาหลายปี ในที่สุดก็ได้รับการชำระล้าง”
“ใช่ ความอัปยศร้อยปี ครั้งนี้ไร้มลทินแล้ว!”
“ทั้งดีใจและยินดี!”
“ปรมาจารย์หลิน เป็นวีรบุรุษของประเทศ!”
“วีรบุรุษผู้ไม่เป็นสองรองใคร!”
ในห้องพักที่ประเทศจีนของประธานาธิบดีจีน
ประธานาธิบดีจีนกำลังเซ็นเอกสารอะไรบางอย่าง
เลขาวิ่งกุลีกุจอเข้ามา รายงานด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ปรมาจารย์หลินชนะแล้วครับ!”
“อิจิโร่ มุรามาสะต่อสู้จนตาย!”
ประธานาธิบดีจีนกลับไม่เงยหน้าขึ้น เซ็นเอกสารต่อไป
เลขาคิดว่าประธานาธิบดีจีนไม่ได้ยิน จึงพูดใหม่อีกรอบ “ประธานาธิบดีจีน ปรมาจารย์หลินชนะแล้วครับ!”
ประธานาธิบดีจีนยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด หลังเซ็นเอกสารเสร็จ จึงเงยหน้าพูดว่า “ฉันรู้แล้ว”
“นายรีบเอาเอกสารคำสั่งนี้ ส่งไปที่กองบัญชาการนาวิกโยธิน!”
“ให้พวกเขารีบดำเนินการฝึกทหารด้วยกระสุนจริง ที่น่านน้ำตงไห่!”
เลขามีสีหน้าไม่เข้าใจ “ประธานาธิบดีครับ เพิ่งทำการฝึกไปไม่ใช่เหรอครับ ระยะห่างมันสั้นไปนะครับ!”
ประธานาธิบดียิ้มบางๆ “ฉันไม่อยากสิ้นเปลืองทั้งทรัพยากรและกำลังคน แต่ถ้าไม่สั่นคลอนญี่ปุ่น กลัวว่าหลินหยุนจะกลับจีนได้อย่างไม่สงบสุข!”
เลขาอึ้งไป “ผมเข้าใจแล้ว คุณกลัวทางการญี่ปุ่น จัดการหลินหยุน!”
“แต่ว่า คงไม่หรอกครับ! นี่เป็นสงครามระหว่างนักบู๊ ทางการญี่ปุ่นไม่ควรเข้ามาแทรกแซง!”
แววตาของประธานาธิบดีลึกลงไป เขาพูดอย่างหดหู่ “ถ้านายเป็นญี่ปุ่น นายจะปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยภัยใหญ่ขนาดนี้หรือเปล่า”
เลขาส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ไม่ครับ!”
“งั้นยังไม่รีบไปอีก! ขืนช้า จะไม่ทันการ!” ประธานาธิบดีจีนสีหน้าเคร่งขรึม
“ครับ!”
เลขารีบวิ่งออกไป
“หลินหยุน ฉันทำให้นายได้ ก็มีเพียงเรื่องพวกนี้ จะกลับมาได้หรือเปล่า ต้องดูที่ตัวนายเองแล้วล่ะ” สีหน้าของประธานาธิบดีจีนเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น
จากนั้น เขาหยิบมือถือขึ้นมา โทรหาหงซานเหอ
“จัดการหน่อย ถ้าหลินหยุนรอดกลับมา หวางจิงหลงไม่มีทางพลาดโอกาสนี้!”
หงซานเหอหัวเราะหึ “ฉันก็ไม่ให้โอกาสหวางจิงหลงเหมือนกัน!”
พูดคุยง่ายๆ เพียงไม่กี่ประโยค ทั้งสองก็จบการสนทนา
ประธานาธิบดีจีนนวดหน้าผาก แล้วยิ้มอย่างขื่นขม “หลินหยุนสร้างเรื่องวุ่นวายเก่งจริงๆ ทั้งจีนกำลังหมุนรอบนาย!”
จากนั้นประธานาธิบดีหัวเราะยืดยาว “ถ้าครั้งนี้นายรอดกลับมาได้ บางทีอีกไม่นาน ทั้งโลกต้องปวดหัวเพราะนาย!”
“เมื่อคิดแบบนี้ ในใจฉันก็รู้สึกสมดุลขึ้นหน่อย”
ในห้องทำงานประธานาธิบดีที่ญี่ปุ่น
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นรูปร่างเตี้ย สีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว
เขาได้ข่าวอิจิโร่ มุรามาสะ สู้จนตายแล้ว
ขณะเดียวกัน เขาก็ได้ข่าวกองกำลังของจีนกำลังทำการฝึกทหารที่ทะเลตงไห่
รัฐมนตรีว่าการกลาโหมส่งเสียงหึ อย่างเย็นชา “นี่จีนกำลังเตือนเราอยู่!”
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นถอนหายใจยาว “มีพละกำลัง ถึงกล้าเตือน! พิสูจน์ได้ว่าตอนนี้จีนมีความกล้า ไม่ใช่ประเทศที่สามารถกดขี่ ดูหมิ่นได้ตามอำเภอใจ เหมือนร้อยปีก่อนแล้ว”
รัฐมนตรีว่าการกลาโหมขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “งั้นเรายังต้องดำเนินการตามแผนไหม”
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นกัดฟัน “ต้องทำ แม้อันตรายถึงขั้นเปิดศึก ต้องขัดขวางภัยอันตรายอย่างปรมาจารย์หลินเอาไว้!”
“อีกทั้งมีกองทหารรักษาการณ์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ จีนไม่น่าจะกล้าเปิดศึกกับเรา!”
“แต่นายต้องส่งคนไปเฝ้าระวังกองนาวิกโยธินของจีน!”
“ขืนพวกเขาลงมือขึ้นมา เราจำเป็นต้องมีความสามารถในการโจมตีกลับ!”
รัฐมนตรีว่าการกลาโหมพูดว่า “งั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ กำลังทหารที่ใช้จัดการปรมาจารย์หลิน ก็ต้องลดลงไปครึ่งหนึ่ง”
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นคิดไปคิดมา แล้วพูดว่า “ลดลงสิ! จัดการคนแบบนี้ คนเยอะไปก็ไร้ประโยชน์ ต้องใช้อาวุธที่แข็งแกร่งเท่านั้น!”
“ดำเนินการตามแผนแล้วกัน!”
“ครับ!” รัฐมนตรีว่าการกลาโหมหันหลัง แต่ก็ชะงักไป “แต่ว่า ผมคิดว่าใช้อาวุธเล่นงานคนๆ เดียว เหมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตนหรือเปล่า”
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นพูดเสียงต่ำ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียดายเงิน แค่ทำลายเขาได้ก็พอ”
“ไปซะ!”