จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 854 ช็อกกันหมด
เฉินซีเยว่แสยะยิ้มดีใจเมื่อคิดว่าหลินหยุนจะแพ้ : “เหอะ คิดจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม ก็มีราคาที่ต้องจ่าย!”
บรรดานักบู๊ที่เหลือ ต่างก็ดูถูกหลินหยุนกันทั้งนั้น
ถึงแม้เมื่อครู่นี้ที่หลินหยุนสู้กับตี๋ซานถิงเป็นฝ่ายเหนือกว่า แต่พวกเขาต่างคิดว่าหลินหยุนชนะได้เพราะโชคช่วย เพราะตี๋ซานถิงประมาทเกินไป
ตอนนี้ เมื่อตี๋ซานถิงจริงจังขึ้นมา หลินหยุนกลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักนิด
การต่อสู้ของทั้งสองคน กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า
ตี๋ซานถิงที่มีประกายไฟวูบวาบอยู่ทั่วตัว หมัดที่เหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กนั่น ได้ปะทะเข้ากับหมัดที่ไม่มีพลังใด ๆ ของหลินหยุน
โครม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เหมือนกับระเบิดที่มีอานุภาพมากมายระเบิดขึ้น จนทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน
นักบู๊ทุกคนต่างปิดตาลงอย่างอดไม่ได้ แสงที่ระเบิดออกมานั่นรุนแรงเกินไป จนทำให้ทุกคนแสบตา
แม้แต่งูหลามยักษ์ตัวนั้น ก็ตกใจจนหดคอไปเลยทีเดียว แล้วหมอบอยู่บนยอดเขาหัวโล้น ไม่กล้าชูคอขึ้นมา
“คราวนี้ ไอ้หนุ่มนั่นน่าจะตายแน่ ๆ!”
จางเทียนเยว่แอบมองลอดช่องว่างระหว่างนิ้ว เพื่อดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่เขากลับพบว่า หลินหยุนยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ท่าทางเหมือนไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ส่วนตี๋ซานถิงที่อยู่ตรงข้ามกับหลินหยุน กลับลอยกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร นั่งกองอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ
“เป็นไปได้ยังไง!” จางเทียนเยว่ร้องออกมาอย่างตกใจทันที ไม่สนภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว
เฉินซีเยว่ก็อ้าปากเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะตกใจกลัว : “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! หรือว่าเขาปกปิดพลังของตัวเองมาโดยตลอด?”
เว่ยซิวหมิงและชิ่งกั๋วถัยก็มีสีหน้าตกใจกลัวเช่นกัน
“หมัดฟ้าคำราม ก็ยัง……พ่ายแพ้!”
“เป็นไปได้ยังไง!”
ชิ่งกั๋วถัยมองไปยังหลินหยุนที่มีรูปร่างค่อนข้างผอมอย่างเซื่องซึม คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเด็กหนุ่มที่หน้าตาไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง จะเอาชนะท่าไม้ตายของท่านเฒ่าทิงเหลยเมื่อสองร้อยปีก่อนได้
หานหลิงเอ๋อหน้าตาดีอกดีใจ ใบหน้าเรียวเล็กที่งดงามนั่นเปล่งประกายขึ้นมา : “ดีจังเลย! หลินหยุนชนะแล้ว!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจที่ทุกคนต่างพากันช็อก น้ำเสียงเรียบเฉยของเขาดังขึ้นอีกครั้ง : “ท่าแยกน้ำ!”
อีกหนึ่งหมัด ที่ดูไม่มีพลังใด ๆ ถูกปล่อยออกไปด้วยท่าทีสบาย ๆ เหมือนคนแก่ที่รำไทเก๊กในสวนสาธารณะตอนเช้า
แต่ว่า ตี๋ซานถิงที่อยู่ห่างออกไปเกินกว่าสิบเมตร กลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
“เป็นไปได้ยังไง! อยู่ห่างกันมากขนาดนี้ เขากลับควบคุมจุดขับเคลื่อนลมปราณของฉันไว้ได้!”
“นี่ นี่มันทักษะอะไรกันเนี่ย!”
“เขา……ตกลงเป็นใครกันแน่!”
ตี๋ซานถิงสงสัยเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาครุ่นคิด เขาสัมผัสได้ว่าหมัดเมื่อครู่นี้ของหลินหยุนมีพลังมากกว่าหมัดก่อนหน้านั้น
“ไอ้เวรเอ้ย ข้าจะสู้กับแกให้ได้เลย!”
ตี๋ซานถิงตะโกนเสียงดัง แล้วรวบรวมพลังที่เหลือ ปล่อยหมัดฟ้าคำรามออกไปสู้กับท่าแยกน้ำของหลินหยุน
โครม!
คราวนี้ จบสิ้นอย่างรวดเร็ว
เสียงกระดูกหักดังสะท้อนอยู่กลางอากาศ ตี๋ซานถิงที่ยโสโอหังต่อหน้าทุกคนเมื่อครู่นี้ เป็นเหมือนว่าวที่หักท่อน แล้วถูกหลินหยุนซัดจนกระเด็นออกไป
จากนั้น ร่วงหล่นลงบนพื้นแข็ง ๆ อย่างแรง จนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ท่าแยกน้ำ ไม่ใช่เป็นการแยกน้ำ แต่เป็นการแยกพลัง
ทำลายสิ่งรอบข้าง โจมตีแกนกลางโดยตรง นี่เป็นความแข็งแกร่งของท่าแยกน้ำ
แม้ว่าพลังของตี๋ซานถิงแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเทียบกับหลินหยุนแล้ว ยังห่างชั้นกันอีกมาก
โดยเฉพาะหลินหยุนที่ได้เข้าสู่แดนรวมยาแล้ว ตี๋ซานถิงก็แค่ระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุด สามารถต่อสู้กับหลินหยุนได้สามกระบวนท่า ถือว่าไม่เลวแล้ว
อีกอย่าง สามกระบวนท่านี้ หลินหยุนใช้พลังสิบส่วน เพื่อปล่อยพลังสิบแปดท่าต้าเต๋า
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิง คงไม่จำเป็นต้องใช้สิบแปดท่าต้าเต๋า ใช้แค่กระบวนท่าธรรมดาสักท่าก็สามารถฆ่าพวกเขาได้แล้ว
สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบสงบ!
มีเพียงเสียงหายใจที่ทุกคนพยายามอดกลั้นเอาไว้
สามหมัดจัดการตี๋ซานถิงได้ ช่างน่าตกตะลึงจริง ๆ
เมื่อครู่นี้ตี๋ซานถิงแข็งแกร่งขนาดนั้น ทุกคนต่างเห็นกันอย่างชัดเจน
แม้แต่ชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิง ยังพ่ายแพ้ให้กับเขาในกระบวนท่าเดียว
แต่หลินหยุนกลับใช้เพียงสามหมัดฆ่าตี๋ซานถิงได้!
พละกำลังของหลินหยุน แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันนะ?
หานหลิงเอ๋อมองไปที่หลินหยุน ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตื่นเต้น ดีใจ จากนั้นรู้สึกตกใจอยู่ลึก ๆ
“มิน่าล่ะ ฉันให้เขาเข้ามาอยู่ในกองกำลังของสำนักเฟยอวิ๋น เขากลับมองข้าม ที่แท้ เขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้นี่เอง!”
“ก่อนหน้านี้ฉันยังบอกให้เขาอย่าอวดดี อย่าทำเรื่องที่ไม่ประมาณกำลังตนเอง ตอนนี้คิดดูแล้ว น่าอายชะมัดเลย!”
สายตาของหานหลิงเอ๋อ เดี๋ยวก็ดูโกรธเคือง เดี๋ยวก็รู้สึกผิด เดี๋ยวก็ดูเป็นกังวล จนมองออกว่าตอนนี้ในใจของเธอสับสนมากแค่ไหน
จางเทียนเยว่และเฉินซีเยว่รู้สึกสับสนว้าวุ่นยิ่งกว่านี้เสียอีก
พวกเขาดูถูกหลินหยุนมาตลอด เหยียดหยามหลินหยุนทุกอย่าง เฉินซีเยว่ที่ท่าทางเย่อหยิ่งต่อหน้าหลินหยุนมาตลอด ตอนนี้ใบหน้าของเธอไม่มีความเย่อหยิ่งเหลืออยู่แม้แต่น้อย
มองไปยังร่างที่ผอมบางของหลินหยุนแล้ว เธอกลับรู้สึกว่าเหมือนกับภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน
“ก่อนหน้านี้ฉันดูถูกเขา เหยียดหยามเขา เขาไม่เคยโต้ตอบกลับเลยสักประโยค!”
“จากความสามารถของเขา แค่ลงมือเพียงนิดเดียวก็ฆ่าฉันตายได้เลย!”
“น่าขำสิ้นดี ฉันยังกล้าดูถูกเขามาโดยตลอด!”
“นี่สินะถึงเป็นผู้สูงส่งที่แท้จริง! ฉันในสายตาของเขา คงไม่ต่างอะไรกับอากาศ”
ใบหน้าที่สวยงามของเฉินซีเยว่ มีรอยยิ้มขมขื่นเผยออกมา
ปกติทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถต่างโดดเด่น จนเย่อหยิ่งมาโดยตลอด ตอนนี้ ในที่สุดก็ถูกกระทบอย่างจัง
ในใจของจางเทียนเยว่ นอกจากรู้สึกช็อกแล้ว ยังเต็มไปด้วยความโมโห
“แม่งเอ้ย มันแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลย!”
“ก่อนหน้านี้ที่มันนิ่งเงียบไม่พูดไม่จามาตลอด ต้องเป็นเพราะจงใจแน่นอน!”
“ก่อนหน้านี้ฉันปฏิบัติแบบนั้นกับมัน ในสายตาของมัน ฉันคงเหมือนลิงตัวหนึ่ง ที่กระโดดขึ้นลงไปมา ส่วนมันก็คอยดูฉากสนุกอยู่ด้านข้าง รอที่จะตบหน้าฉัน!”
“เหอะ ไอ้เวรเอ้ย ต่อให้แกเอาชนะตี๋ซานถิงได้แล้วยังไงล่ะ อย่าลืมนะว่า ตรงหน้ายังมีงูหลามยักษ์ที่แม้แต่ตี๋ซานถิงก็ยังไม่มีปัญญาจัดการ!”
“ขอให้แกถูกงูหลามยักษ์นั่นจับกินซะ จะได้คลายความโกรธแค้นในใจฉันไปได้!”
จางเทียนเยว่แอบสังเกตท่าทีของหานหลิงเอ๋อ เขาพบว่าสายตาของหานหลิงเอ๋อ จับจ้องอยู่ที่หลินหยุนตลอด
สายตาแบบนั้น นอกจากรู้สึกขอบคุณ ยังมีความชื่นชมยกย่องและเลื่อมใสศรัทธาอีกด้วย
นั่นเป็นสายตาที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อนเลย แม้ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนต่อหน้าหานหลิงเอ๋อ แต่ก็ไม่เคยได้รับสายตาแบบนั้นจากเธอเลย
จางเทียนเยว่ยิ่งอิจฉาริษยาหลินหยุนมากขึ้นไปอีก
แต่ว่า หลินหยุนแข็งแกร่งมาก เขาจึงได้แต่สาปแช่งหลินหยุนอยู่ในใจ ต่อหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับหลินหยุน
เว่ยซิวหมิงถอนหายใจออกมา ย้อนนึกถึงคำพูดของหลินหยุน ตอนที่หานหลิงเอ๋อชวนให้หลินหยุนเข้ามาเป็นกองกำลังของสำนักเฟยอวิ๋น
“มิน่าล่ะตอนนั้นเขาถึงได้พูดจาอวดดีขนาดนั้น ว่าสำหรับเขาปรมาจารย์ก็เป็นเหมือนกับมดเท่านั้น”
“เดิมทีคิดว่าเขาเป็นพวกคุยโวโอ้อวด คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องจริง”
“อย่าว่าแต่ปรมาจารย์เลย ต่อให้เป็นปรมาจารย์แดนพรแสวง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็เป็นเพียงแค่มดเท่านั้น!”
ตี๋ซานถิงแน่นิ่งไม่ขยับตัวอยู่นาน เห็นได้ชัดว่าตายไปแล้ว
หลินหยุนมั่นใจในหมัดนั้นของตัวเองมาก
หลินหยุนมองไปที่หานหลิงเอ๋อ หานหลิงเอ๋อก้มหน้าลงทันที ไม่กล้าสบตาหลินหยุน
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพราะยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน ที่ช่วยเธอ เพราะเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว
หลินหยุนหันไปมองที่งูหลามยักษ์
ทันใดนั้น เหล่านักบู๊พวกนั้นก็ใจสั่นขึ้นมา รีบถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อรักษาระยะห่างกับหลินหยุน
นี่เป็นการแสดงความเคารพผู้แข็งแกร่งของผู้ที่อ่อนแอ
หานหลิงเอ๋อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย : “เขาไม่พูดอะไรกับฉันสักคำเลยเหรอ?”
หลินหยุนเดินไปข้างหน้า บรรดานักบู๊เหล่านั้นก็ค่อย ๆ ถอยหลังออกไป เพื่อหลีกทางให้กับหลินหยุน
“เขาจะหาเรื่องพวกเราหรือเปล่า? เมื่อครู่นี้พวกเราต่างหัวเราะเยาะเขา”
นักบู๊คนหนึ่งเอ่ยพูดกับคนข้าง ๆ ด้วยเสียงที่เบาและสั่นเครือ